"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
15 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
โอฟีเลีย (Ophelia)






“โอฟีเลีย” Ophelia
จอห์น เอเวอเรทท์ มิเลส์
ค.ศ. 1851 - ค.ศ. 1852
จิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบ 76.2 × 111.8 cm
หอศิลป์เกรทบริเตน ลอนดอน





โอฟีเลีย (Ophelia) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยจอห์น เอเวอเรทท์ มิเลส์ จิตรกรสมัยพรีราฟาเอลไลท์ชาวอังกฤษ

ที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่หอศิลป์เกรทบริเตน ในกรุงลอนดอน อังกฤษ

จอห์น เอเวอเรทท์ มิเลส์เขียนภาพ “โอฟีเลีย” ระหว่างปี ค.ศ. 1851 ถึงปี ค.ศ. 1852 เป็นภาพของตัวละครโอฟีเลียในบทละคร “แฮมเลต” โดยวิลเลียม เช็คสเปียร์ ขณะที่ร้องเพลงก่อนที่จะจมน้ำตายในลำแม่น้ำในเดนมาร์ก

“โอฟีเลีย” เป็นภาพเขียนที่มีอิทธิพลต่อศิลปะแขนงต่างๆ นอกไปจากในสาขาจิตรกรรมเอง เช่นในศิลปะการถ่ายภาพ หรือการสร้างภาพยนตร์และอื่นๆ

เมื่อแสดงเป็นครั้งแรก ที่ราชสถาบันศิลปะภาพเขียนไม่ได้รับการต้อนรับเท่าใดนัก แต่ต่อมาได้รับการชื่นชมมากขึ้น ในความงามของภาพและรายละเอียดภูมิทัศน์ธรรมชาติของภาพ มูลค่าของภาพเขียนตีราคากันว่าประมาณ 30 ล้านปอนด์


หัวเรื่อง

ภาพเขียนเป็นภาพของตัวละครโอฟีเลียร้องเพลง ขณะที่ลอยละล่องมาตามสายน้ำก่อนที่จะจมน้ำตายในที่สุด

ภาพนี้เขียนจากคำบรรยายภาพพจน์ในองค์ที่ 4 ฉากที่ 7 ของบทละครของพระราชินีเกอทรูด:

There is a willow grows aslant a brook,
That shows his hoar leaves in the glassy stream;
There with fantastic garlands did she come,
Of crow-flowers, nettles, daisies, and long purples,
That liberal shepherds give a grosser name,
But our cold maids do dead men's fingers call them:
There, on the pendent boughs her coronet weeds
Clambering to hang, an envious sliver broke,
When down her weedy trophies and herself
Fell in the weeping brook. Her clothes spread wide,
And, mermaid-like, awhile they bore her up;
Which time she chanted snatches of old tunes,
As one incapable of her own distress,
Or like a creature native and indu'd
Unto that element; but long it could not be
Till that her garments, heavy with their drink,
Pull'd the poor wretch from her melodious lay
To muddy death.

ท่านอนของโอฟีเลีย—หงายแขนและมือที่กางออกไปเล็กน้อยและมองลอยขึ้นไป—เป็นท่าเดียวกับภาพลักษณ์ของธรรมเนียมการเขียนภาพนักบุญหรือผู้พลีชีพเพื่อศาสนา แต่ในขณะเดียวกันก็ตีความหมายได้ว่าเป็นภาพที่ทำให้ผู้ชมตื่นอารมณ์

ภาพเขียนมีชื่อในด้านการวาดรายละเอียด ของพืชพันธุ์ริมแม่น้ำและบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำ ที่เน้นวัฏจักรของการหมุนเวียนของชีวิต ที่เริ่มด้วยการเจริญเติบโตไปจนถึงการเสื่อมโทรม

แม้ว่าภาพตั้งใจจะให้เป็นเดนมาร์ก แต่ภูมิทัศน์ของภาพกลายมาเป็นภาพลักษณ์ของภูมิทัศน์แบบอังกฤษ

ภาพ “โอฟีเลีย” เขียนริมฝั่งแม่น้ำฮอกสมิลล์ ในเซอร์รีย์ไม่ไกลจากโทลเวิร์ธในบริเวณนครลอนดอนและปริมณฑล

บาร์บารา เวบบ์ผู้พำนักอยู่ที่โอลด์มาลเด็น ไม่ไกลจากที่เขียนภาพเท่าใดนัก พยายามเสาะหาจุดที่มิเลส์ใช้ในการวาดภาพ และจากการค้นคว้าเชื่อว่าจุดที่วาดอยู่ที่ซิกซ์เอเคอร์เม็ดโดว์ ริมถนนเชิร์ชในโอลด์มาลเด็น

ที่ไม่ไกลจากที่ที่วิลเลียม โฮลแมน ฮันท์เพื่อนร่วมงานที่สนิทสนมของมิเลส์ขณะนั้นกำลังทำงานเขียนภาพ “คนรับจ้างเลี้ยงแกะ” (The Hireling Shepherd)


รายละเอียดของภาพที่กล่าวกันว่า เป็นภาพหัวกระโหลกดอกไม้ที่ลอยในน้ำ เลือกจากดอกไม้ในคำบรรยายมาลัย ของโอฟิเลียในบทละคร แต่ในขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นภาษาดอกไม้ ที่แสดงความหมายที่ใช้กันในสมัยวิคตอเรีย

เช่นดอกฝิ่นที่เด่นแดงในภาพ มิได้กล่าวถึงในคำบรรยายในบทละคร เป็นสัญลักษณ์ของการนอนหลับและความตาย

สิ่งหนึ่งที่เชื่อกันว่ามีอยู่ในภาพ คือภาพหัวกระโหลกในพงไม้ทางฝั่งแม่น้ำทางด้านขวา แต่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่บ่งว่า มิเลส์ตั้งใจจะเขียนหัวกระโหลกในภาพ

แต่ลักษณะหัวกระโหลกที่เกิดจากการสร้างของธรรมชาติ ใช้โดยฮันท์ในภาพ “คนรับจ้างเลี้ยงแกะ” เมื่อคนเลี้ยงแกะที่มีตัวม็อธ (Death's-head Hawkmoth) ที่ตายแล้วอยู่ในอุ้งมือ

ในการเขียนขั้นแรก มิเลส์เขียนภาพตัวหนูน้ำ (Water Vole) ที่ผู้ช่วยไปจับมาจากแม่น้ำฮอกสมิลล์ มาให้พุ้ยน้ำข้างๆ โอฟีเลีย

ในเดือนธ้นวาคม ค.ศ. 1851 มิเลส์แสดงภาพเขียนที่ยังไม่เสร็จ ให้ญาติของฮันท์ดู และบันทึกในบันทึกประจำวันว่า

“ลุงและป้าของฮันท์มา ทั้งสองคนเข้าใจทุกอย่างในภาพเป็นอย่างดี ยกเว้นตัวหนูน้ำ ฝ่ายชายเมื่อให้ทายว่าเป็นตัวอะไร ก็รีบประกาศว่าเป็นกระต่าย แต่จากสีหน้าก็ทราบว่าเป็นคำตอบที่ไม่ถูก จากนั้นก็คิดว่าอาจจะได้ยินคำทายว่าเป็นหมาหรือแมว”

มิเลส์จึงลบตัวหนูน้ำออกจากภาพ แต่ภาพร่างตัวหนูน้ำยังคงอยู่ทางมุมบนของผ้าใบที่ซ่อนอยู่ในกรอบ

ขั้นตอนการเขียน

มิเลส์แบ่งการเขียนภาพ “โอฟีเลีย” เป็นสองขั้น
ขั้นแรกเขียนภูมิทัศน์และ
ขั้นที่สองเขียนตัวโอฟีเลีย

เมื่อพบฉากที่ต้องการแล้วมิเลส์ก็นั่งเขียนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำฮอกสมิลล์ ไม่ไกลจากที่พักของเพื่อนร่วมกลุ่มพรีราฟาเอลไลท์วิลเลียม โฮลแมน ฮันท์เพียงไม่เท่าไหร่ 11 ชั่วโมงต่อวัน หกวันต่อหนึ่งสัปดาห์ เป็นเวลากว่าห้าเดือนในปี ค.ศ. 1851

การใช้เวลามากเช่นนี้ทำให้สามารถเขียนธรรมชาติ ได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่ระหว่างการเขียนมิเลส์ก็ประสบปัญหาต่างๆ ที่มิเลส์บรรยายไปในจดหมายถึงเพื่อนว่า

“แมงวันที่เซอร์รีย์นี่ตัวอ้วนกว่าที่บ้าน และยิ่งกว่านั้นมันยังมีความสามารถในการเจาะทะลุผิวหนัง ตอนนี้ผมก็ยังถูกขู่ด้วยหมายเตือน ให้ไปปรากฏต่อหน้าผู้พิพากษา เพราะไปเดินบุกรุกทุ่งนาเหยียบย่ำข้าวที่ชาวนาเขาปลูกเอาไว้

...และแถมยังดูน่ากลัวว่าอาจจะถูกลมพัดหล่นลงไปในน้ำอีก และรับรองได้เลยว่าการเขียนภาพในบรรยากาศเช่นนั้น ร้ายพอกับเป็นการถูกลงโทษที่หนักกว่าการถูกแขวนคอของฆาตกร”

เมื่อย่างเข้าปลายฤดูใบไม้ผลิต้นฤดูหนาวในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1851 อากาศก็เริ่มแปรปรวนด้วยลมและหิมะ จนมิเลส์ต้องสร้างที่กำบังอากาศที่ทำจากแผงไม้สี่แผงที่นำมาต่อกัน และบุด้วยฟางด้านนอก คล้ายคอกทหารยาม

มิเลส์กล่าวว่ามีความรู้สึกเหมือนโรบินสัน ครูโซ (Robinson Crusoe) เมื่อนั่งเขียนอยู่ในคอก เมื่อฮันท์เห็นเข้าก็มีความประทับใจ จนสั่งให้สร้างอีกคอกหนึ่งสำหรับตนเอง

ผู้เป็นแบบโอฟีเลียคือจิตรกรเอลิซาเบธ ซิดดาล (Elizabeth Siddal) ผู้ขณะนั้นมีอายุ 19 ปี มิเลส์ให้เอลิซาเบธแต่งตัวเต็มยศนอนในอ่างอาบน้ำในห้องเขียนภาพในลอนดอน

โดยจุดตะเกียงน้ำมันใต้อ่างให้น้ำอุ่นขึ้น เพราะตอนนั้นเข้าหน้าหนาวแล้ว แต่มิเลส์มักจะตั้งอกตั้งใจเขียนจนลืมและปล่อยให้ตะเกียงดับเสมอ ซึ่งทำให้เอลิซาเบธหนาวจนเป็นหวัด มิเลส์ได้รับใบเสร็จค่ายา £50 จากซิดดาล

การตอบรับภาพ

เมื่อภาพ “โอฟีเลีย” ตั้งแสดงเป็นครั้งแรกที่ราชสถาบันศิลปะ ในกรุงลอนดอน ค.ศ. 1852 ก็ไม่ได้รับการต้อนรับอย่างดีเท่าใดนัก นักวิจารณ์ของ “The Times” กล่าวถึงภาพว่า

“คนที่เขียนต้องมีจินตนาการที่ออกจะแปลก ที่ให้โอฟีเลียนอนในคูหญ้า ที่ทำให้ความสวยงามของสตรีที่กำลังจะจมน้ำตายสลายไปจนหมด”

หนังสือพิมพ์อีกฉบับหนึ่งกล่าวว่า “โอฟีเลียของมิเลส์ในบ่อ...ทำให้เราคิดถึงหญิงรีดนมที่กำลังสนุก” แม้แต่นักวิจารณ์จอห์น รัสคินผู้ที่ตามปกติแล้วจะสนับสนุนงานเขียนของมิเลส์

ก็ยังมีความเห็นว่า แม้ว่าวิธีการเขียนจะเป็นเยี่ยม แต่มีความกังขาในเรื่องที่มิเลส์ใช้ภูมิทัศน์ของเซอร์รีย์และตั้งคำถามว่า

“Why the mischief should you not paint pure nature, and not that rascally wirefenced garden-rolled-nursery-maid's paradise?”

ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ซาลวาดอร์ ดาลีสรรเสริญภาพนี้ในบทความที่พิมพ์ในปี ค.ศ. 1936 ว่า “จะเป็นไปได้อย่างไรที่ซาลวาดอร์ ดาลีจะไม่ตื่นเต้นไปกับงานเหนือจริงที่หอมหวานของพรีราฟาเอลไลท์ ของอังกฤษ

จิตรกรพรีราฟาเอลไลท์เขียนผู้หญิงที่หยาดเยิ้ม แต่ขณะเดียวกันก็เป็นสตรีที่เป็นที่น่าต้องการที่สุดและน่ากลัวที่สุดที่มีอยู่”

ในปี ค.ศ. 1906 นักประพันธ์ชาวญี่ปุนนัทซุเมะ โซเซกิ (Natsume Sōseki) เรียกงานเขียนว่า “สิ่งที่พิจารณาว่าคือความสวยงาม” ในนวนิยายเรื่องหนึ่ง ตั้งแต่นั้นภาพนี้ก็เป็นที่นิยมในญี่ปุ่นและถูกนำไปตั้งแสดงในญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1998 และอีกครั้งหนึ่งในปี ค.ศ. 2008

ประวัติการเป็นเจ้าของและมูลค่า

“โอฟีเลีย” ซื้อจากมิเลส์โดยนักค้าศิลป์เฮนรี ฟาร์เรอร์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1851 เป็นจำนวน 300 กินนีส์

ฟาร์เรอร์ขายต่อให้ บี.เจ. วินดัสนักสะสมศิลป์พรีราฟาเอลไลท์ ผู้ขายในปี ค.ศ. 1862 เป็นจำนวน 748 กินนีส์

ปัจจุบันภาพเขียนเป็นของหอศิลป์เกรทบริเตน ในกรุงลอนดอน ตีราคาว่ามีมูลค่าอย่างต่ำประมาณ 30 ล้านปอนด์


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


อาทิตยวารสิริวิโรจน์ มานช่วงโชนโชติดุจดั่งดวงวิเชียรฉายนะคะ


Create Date : 15 พฤษภาคม 2553
Last Update : 16 พฤษภาคม 2553 22:13:55 น. 0 comments
Counter : 2487 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.