พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้า มหิดล ประจำปี 2556 ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหา ราชวัง ในปีนี้มีผู้ได้รับพระราชทานรางวัลจำนวน 4 ราย จากผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อทั้งสิ้น 64 ราย จาก 28 ประเทศ

สาขาการแพทย์ ได้แก่

ศ.นพ.เดวิด ดี โฮ และ

นพ.แอนโทนี ฟอซี

สาขาการสาธารณสุข

บารอน ปีเตอร์ ปิอ็อต และ

นพ.จิม ยอง คิม

ในการนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า "การดำเนินงานด้านการแพทย์และการสาธารณสุขกับโรคใดโรคหนึ่งโดยเฉพาะ หากจะให้สำเร็จผลเป็นประโยชน์สูงสุดจะต้องอาศัยปัจจัยประกอบพร้อมกัน 2 ส่วน คือการศึกษาวิจัยเพื่อค้นคว้าหาวิธีการบำบัดรักษาโรคอย่างมีประสิทธิภาพ กับการบริหารจัดการให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการบำบัดรักษาได้อย่างเท่าเทียมกัน

ข้อนี้เห็นได้ชัดเจนจากผลงานของผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลประจำปีนี้ทั้ง 4 ท่าน ซึ่งอำนวยประโยชน์อย่างยิ่งแก่การรักษาโรคเอดส์ โรคร้ายแรงที่แพร่ระบาดทั่วโลกมานานหลายทศวรรษ กล่าวคือผลงานของ ศ.นพ.เดวิด ดี โฮ และ นพ.แอนโทนี ฟอซี ทำให้เป็นโรคที่สามารถบำบัดและควบคุมได้ โดยใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีชนิดผสมหลายตัว ซึ่งถือเป็นมาตรฐานในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ดีในปัจจุบัน

ส่วนผลงานของ บารอน ปีเตอร์ ปิอ็อต และ นพ.จิม ยอง คิม ทำให้ประชาคมโลกตื่นตัวที่จะพัฒนาความสามารถในการป้องกันรักษาโรคเอดส์ รวมทั้งดำเนินการอย่างจริงจังที่จะให้ผู้ป่วยในประเทศต่างๆ มีโอกาสได้รับยาต้านไวรัสอย่างทั่วถึง

ข้าพเจ้าจึงขอแสดงความนิยมชื่นชมกับทุกท่านอย่างจริงใจ และเต็มใจยินดี ที่จะกล่าวด้วยว่าผลงานของท่านทั้งสี่เป็นการสร้างเสริมความเจริญทางการแพทย์อย่างยิ่งใหญ่ ทั้งเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติโดยแท้"

รางวัลเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2556 สาขาการแพทย์ ศ.นพ.เดวิด ดี โฮ ผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหารศูนย์วิจัยโรคเอดส์ เอรอนไดมอน นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นบุคคลแรกที่ผลักดันให้ใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีชนิดผสมหลายตัวในการรักษาผู้ได้รับเชื้อ เอชไอวี หรือเรียกว่า ฮาร์ต (HAART : Highly Active Antiretroviral Therapy)

โดยอาศัยผลการศึกษาวิจัยที่พบว่าเชื้อไวรัสเอชไอวีมีการแบ่งตัวอยู่ตลอดเวลาทั้งๆ ที่ไม่มีอาการ ทำให้เข้าใจกลไกการเกิดโรคในผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อ นำไปสู่แนวคิดการให้ยาต้านไวรัสเอชไอวีผสมหลายตัวตั้งแต่ระยะแรกที่ตรวจพบ เพื่อควบคุมไวรัสไม่ให้แบ่งตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นพ.แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ รัฐแมรี่แลนด์ ผู้มีผลวิจัยที่โดดเด่นในการเข้าใจกลไกการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี โดยแสดงให้เห็นว่าเชื้อไวรัสเอชไอวีมีการแบ่งตัวในน้ำเหลืองของผู้ได้รับเชื้ออย่างต่อเนื่อง

นำไปสู่แนวคิดการให้ยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีชนิดผสมหลายตัว (HARRT) ตั้งแต่ระยะแรกเพื่อควบคุมไวรัสไม่ให้แบ่งตัวอย่างมีประสิทธิภาพ

แนวคิดของ ศ.นพ.เดวิด ดี โฮ และ นพ.แอนโทนี ฟอซี เป็นที่ยอมรับแพร่หลายและเป็นมาตรฐาน การรักษาผู้ได้รับเชื้อเอชไอวีในปัจจุบัน เปลี่ยนสภาพจากโรครอวันตายมาเป็นโรคเรื้อรัง ช่วยชีวิตผู้ได้รับเชื้อเอชไอวีได้หลายสิบล้านคนทั่วโลก

รางวัลเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2556 สาขาการสาธารณสุข บารอน ปีเตอร์ ปิอ็อต ผู้อำนวยการวิทยาลัยสุขภาพและเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยลอนดอน สหราชอาณาจักร เริ่มมีบทบาทในการศึกษาระบาดวิทยาของโรคเอดส์

และรณรงค์ให้ประชาคมโลกตระหนักว่าโรคเอดส์ จะแพร่กระจายและเป็นภัยร้ายแรงในอนาคต และ นพ.จิม ยอง คิม ผู้นำในการผลักดันให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาต้าน ไวรัสเอชไอวีอย่างถ้วนหน้าในกลุ่มประเทศรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง

หากถามถึงแรงบันดาลใจในการสร้าง สรรค์ผลงาน นพ.แอนโทนี ฟอซี และ บารอน ปีเตอร์ ปิอ็อต กล่าวไปในแนว ทางเดียวกันว่ามีแรงผลักดันมาจากการ มุ่งสร้างสรรค์งาน วิจัยเพื่อประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ

ด้าน ศ.นพ.เดวิด ดี โฮ มีความเห็นเช่นเดียวกับทั้ง 2 คน ต่างเพียงแค่ประชาชนมีประสบการณ์ในช่วงเวลาที่โรคเอดส์เพิ่งเริ่มระบาดในสหรัฐ จึงสงสัยว่าโรคร้ายดังกล่าวรุนแรงขนาดไหน จึงทุ่มเทแรงกายแรงใจ ในการรักษาค้นคว้าเพื่อรักษาโรคร้ายนี้

รางวัลเจ้าฟ้ามหิดล เป็นรางวัลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชานุสรณ์แด่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

 เนื่องในโอกาสครบ 100 ปีการพระราชสมภพของสมเด็จพระมหิตลาธิ เบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน และพระบิดาแห่งการสาธารณสุขของไทยเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2535

ดำเนินการโดยมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธาน มอบรางวัล แก่บุคคลหรือองค์กรทั่วโลกที่มีผลงาน ดีเด่นเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติเป็นประทำทุกปี ในด้านการแพทย์และการสาธารณสุข รางวัลประกอบด้วยเหรียญ รางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล รางวัลละ 1 แสนเหรียญสหรัฐ

นักวิจัยผู้เข้ารับพระราชทานรางวัล ในครั้งนี้กล่าวถึงมุมมองที่มีต่อรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลว่า พระองค์ทรงพระวิริยอุตสาหะในการทุ่มเทเพื่อช่วย เหลือประชาชนในประเทศ แม้ว่าเดิมทีเดียวพระองค์เองจะมิได้สำเร็จการศึกษาด้านการแพทย์และการสาธารณสุขมาก็ตามที

แต่พระองค์ทรงมีวิสัยทัศน์ และเห็นความจำเป็นของประเทศสยาม ในขณะนั้น จึงทรงศึกษาด้านการแพทย์และการสาธารณสุขเพื่อกลับมาพัฒนาประเทศ

หน้า 25

ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์

สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ    

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2557 10:27:30 น.		0 comments
Counter : 816 Pageviews.
Share Tweet