*~*เดือนเพ็ญ*~* @~~~ ...เรไร ร้องดัง ฟังว่า เสียงที่เจ้าเฝ้าครวญหา ลมเอยช่วยพา กระซิบข้างกาย... เพียงแค่อ่านเนื้อร้อง ก็กินใจ ไพเราะยิ่งนัก นั่นเป็นเพราะว่า... เนื้อหา มันถูกจดจาร..เป็นบทกวี อันยิ่งใหญ่..เพราะผู้รจนา มิใช่นักกลอนธรรมดา ๆ หากมีอหังการ์ กล้านับตัวเองว่าเป็น หนึ่งใน " อันกวีศรีสยามมี 3 นาย " ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึง " นายผี " อัศนี พลจันทร์ หรือ " สหายไฟ " อดีตกรรมการกลาง พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ผู้เอาบทกวี เข้าต่อสู้ทางความคิด จนได้รับการกล่าวขาน จาก จิตร ภูมิศักดิ์ว่า --มหากวีของประชาชน-- ...ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา จะไปซบหน้ากับอกแม่..เอย ถึงแม้ว่า "นายผี" จะไม่มีโอกาส .... ...ไปซบหน้ากับอกแม่...แผ่นดินไทยอันแสนรัก... และเมื่อได้เสียชีวิตลงแล้ว ในแผ่นดินลาวก็ตาม ( ปี 2530 ) ถึงกระนั้น ก็ต้องใช้เวลาอีกถึง 10 ปี เดือนเพ็ญ..จึงได้กลับบ้าน เวลา 11.15 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2540 นายผี กลับถึงแผ่นดินแม่ ณ จุดกึ่งกลางสะพานมิตรภาพ จากสะพานมิตรภาพก็มุ่งสู่วัดศรีสุมังค์ มีแว่วเสียงเพลง ในท่วงทำนองคึกคัก เร่งเร้า ทว่าเนื้อหา ชวนสะเทือนใจ หลังพิธีเผาในวันที่ 11 มกราคม 2541 อัศนี พลจันทร์ ได้นอนอย่างสงบภายในอนุสรณ์สถาน ซึ่งสลัก คำว่า เดือนเพ็ญ ไว้บนพื้นหินอ่อน กลางไร่อ้อย ของคู่ชีวิต ณ จังหวัดกำแพงเพชร .. สงบลงในความเชื่อมั่นที่ว่า เพ็ญนั้นคงยังเด่นดวง ตราบใดที่สังคมยังเหลื่อมล้ำ และมีคนลุกขึ้นต่อกรกับความไม่เป็นธรรม... เดือนเพ็ญ ที่อัศนีเขียนขึ้นเพราะความรู้สึกคิดถึงบ้านของตัวเขาเอง ได้รับการยกย่องว่า หากนับเพลงนี้เป็นเพลงเพื่อชีวิต ก็สมควรจะเรียกได้ว่าเป็น... สุดยอดเพลงเพื่อชีวิต... ด้วยเป็นเพลงที่ถูกบันทึกเสียงและขับขานในวาระต่าง ๆ มากที่สุดเพลงหนึ่งในห้วงทศวรรษที่ผ่านมา และน้อยคนเหลือเกินที่ได้ฟังเพลงนี้แล้ว จะรู้สึกเฉย ๆ กับความหมายที่กินใจที่เพลงสื่อออกมา เพลงคิดถึงบ้านนี้ ทำให้ชื่อ นายผี - อัศนี พลจันทร เป็นที่รู้จักและจดจำในวงกว้าง ต่อ ๆ กันมา ~*~ เดือนเพ็ญ ~*~ **เดือนเพ็ญ แสงเย็นเห็นอร่าม นภาแจ่มนวลดูงาม เย็นชื่นหนอยามเมื่อลมพัดมา แสงจันทร์นวล ชวนใจข้า คิดถึงถิ่นที่จากมา คิดถึงท้องนา บ้านเรือนที่เคยเนาว์ ***..กองไฟ สุมควายตามคอก คงยังไม่มอดดับดอก จันทร์เอยช่วยบอก ให้ลมช่วยเป่า สุมไฟให้แรงเข้า พัดไล่ความเยือกเย็นหนาว ให้พี่น้องเรา นอนหลับอุ่นสบาย ***..เรไร ร้องดังฟังว่า เสียงเจ้าที่พร่ำครวญหา ลมเอยช่วยพา กระซิบข้างกาย ข้ายังคอย อยู่ไม่หน่าย ไม่เลือนห่างจากเคลื่อนคลาย คิดถึงไม่วาย เมื่อเราจากกัน ***..ลมเอย ช่วยเป็นสื่อให้ นำรักจากห้วงดวงใจ ของข้านี้ไป บอก..เขา-น้ำ-นา (ภูเขา-แม่น้ำ-ท้องนา) ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย..@   Create Date : 28 กันยายน 2554 3 comments Last Update : 28 กันยายน 2554 20:53:58 น. Counter : 757 Pageviews. Share Tweet

เป็นเพลง และบทกวี ที่เศร้ามาก....คิดถึงตอนยังเป็นละอ้อนน้อย   โดย: พยายามจะเพลิน (normalization ) 29 กันยายน 2554 12:27:41 น.

เพลงนี้เป็นเพลงโปรดเหมือนกันค่ะ   โดย: nidmom 30 กันยายน 2554 13:14:25 น.

เข้ามาเยี่ยมชมครับ   โดย: BoonsermLover 16 ตุลาคม 2554 6:09:22 น.