|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
นายประกอบไปสอบ IELTS Episode 3
แล้วก็ถึงเวลาสอบ
เริ่มต้นด้วย Listening ก่อน คราวนี้ผมพยายามตั้งสมาธิมาก ๆ หน่อย อาศัยว่าฝึกมาดี ช่วงต้นๆ เลยฟังทันและตอบได้ดีพอสมควร
มาเจอข้อสอบส่วนที่ 4 ที่เป็นการฟังบทความยาวๆ เกี่ยวกับลิงอะไรซักอย่าง
ไอ้หยา ฟังแทบไม่ทัน จับได้เป็นคำๆ
แต่ดูจากคำถามแล้ว พอจะเดาคำตอบได้ 2-3 ข้อ ทำได้เองอีก 2-3 ข้อ
จริงๆ แล้วฟังไม่ทัน แต่เดาคำตอบไปเลย เช่นเดาว่าลิงสองกลุ่ม มันอยู่กันคนละฝั่งแม่น้ำ มันใช้เครื่องมือไม่เหมือนกัน ก็เดาคำตอบว่า bank ที่แปลว่าฝั่ง tools มั่ง ถูกหรือเปล่าก็ไม่ทราบ
สอบเสร็จ คิดประเมินในใจตัวเอง ว่าน่าจะได้อย่างน้อย 6.0
เสร็จจาก Listening ต่อด้วย Reading เลย
แต่พอเริ่มสอบ Reading ผมดันเกินอาการสมาธิแตก หรือ Panic คืองงครับ
มันคิดไม่ออกว่าจะเริ่มอ่านตรงไหน ทำอะไร เจอแต่ภาษาอังกฤษมาให้อ่าน แต่รู้สึกว่ามันอ่านไม่ออก ไม่เข้าใจเลย ทั้งเรื่องที่อ่าน ทั้งคำถาม
ต้องนั่งตั้งสติใหม่ เสียเวลาอันมีค่าไปเกือบ 10 นาที ปลอบใจตัวเองว่าทำไปให้ดีที่สุด แล้วก็ค่อยๆ ทำข้อสอบไป คราวนี้เริ่มดีขึ้น และทำข้อสอบได้จนเสร็จทันเวลา มั่วไปไม่กี่ข้อ
สอบเสร็จประเมินตัวเอง น่าจะได้ 6-6.5
ปิดท้ายช่วงเช้าด้วย Writing อันนี้มั่นใจหน่อย ฝึกมาเยอะ ทั้งที่เป็นยาขมที่สุดตอนแรก แต่พอเจอข้อสอบ Writing Task1 ให้วิเคราะห์กราฟแท่ง เกิดอาการอึ้งอีกแล้ว เป็นกราฟเกี่ยวกับอัตราส่วนชายแหละหญิงที่มีการศึกษาสูงใน 5 ประเทศ ก็กราฟมันไม่มีอะไรโดดเด่น เรียบๆ มาก ไม่รู้จะเอาอะไรมาบรรยาย นอกจากเล่าๆ ตามกราฟไป
จริงๆ แล้ว IELTS Writing Task1 นั้น ถ้ากราฟหรือตารางมีข้อมูลมาก ๆ จะเขียนง่าย เพราะเราแค่ดึงจุดเด่นๆ มาบรรยาย ก็จะเขียนได้แล้ว 150 คำ แต่นี่มันเรียบๆ ไม่มีอะไรเด่นเลย แบบนี้เขียนยากมาก
Task2 ถามเรื่องพลังงานทางเลือก คุณคิดยังไงประมาณนี้ อันนี้สบายมาก เขียนตาม Pattern ที่ฝึกมา (ใครสนใจหาอ่านเอาจาก blog ก่อนหน้านี้นะครับ) เปลี่ยนจากข้อเสียของพลังงานทางเลือก เป็นข้อจำกัดแทน เขียนสบายๆ เหลือเวลาอีก 3 นาทีไว้ตรวจหาข้อผิดพลาดอีก
แต่เนื่องจาก Task1 เขียนได้ห่วยมาก ๆ ๆ เลยประเมินว่า อาจจะได้แค่ 5.5 6.0 เท่านั้น สอบเสร็จแล้วเศร้า
เสร็จ 3 Parts นี้ ก็พักกินข้าว แล้วก็มารอสอบ Speaking ตอนบ่ายสองโมงครึ่ง คราวนี้สอบเจอกรรมการใจดี ดูแกสนอกสนใจคุยกับเรามาก ดูใจดี เลยไม่ค่อยเกร็ง
แกให้เราเล่าเรื่องสถานที่ติดกับน้ำ ผมก็เอา Speaking สำเร็จรูปที่เตรียมไว้เรื่องท่องเที่ยว เพราะมันติดกับน้ำมาเล่า เลยกลายเป็นพูดถึงที่นั่น มากกว่าเรื่องน้ำ แต่ก็ช่างมัน แล้วก็คุยกันต่อเรื่องเด็กควรจะหัดว่ายน้ำให้เป็นแต่เด็กไหม ระบบน้ำประปากินได้ไหม คราวนี้คุยไหลลื่นดีมาก
สอบเสร็จ เข้าของตัวเองว่าเอ วันนี้คุยลื่นไหลดีมาก อย่างเลวๆ น่าจะ 6.0 เป็นอย่างน้อย
แต่พอทบทวน ๆ ๆ ไป เริ่มเห็นว่าตอนพูดนี่ ผมพูดผิด grammar หมดเลย ออกเสียงก็ไม่ชัด ตอนนี้หัวใจหล่นมาอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว คิดไปคิดมา ตูได้ 5.0 เหมือนเดิมแหงๆ เฮ้อออ
สอบคราวนี้เสร็จ ก้มานั่งเศร้ารอ เพราะรู้สึกมากว่า Writing กับ Speaking ทำได้ไม่ดีเท่าที่หวัง เลยได้แต่แอบหวังลึกๆ ว่า อย่างน้อยให้ได้คะแนนเฉลี่ยซัก 6.0 น่า อย่างน้อยอาจจะต่อรองขอไปเรียนภาษาที่โน่นก่อน 8 สัปดาห์ได้ หรือไปสมัครที่ ม อื่นก็ได้(วะ)
ไปนอนตุ้มๆ ต่อม รอ 10 วัน จนวันประกาศผล ผมนั่งเช็คจากเว็บตั้งแต่ 10 โมง กว่าผลจะออกจริง 11 โมงครึ่งโน่น
แล้วผลก็ออกมา
Listening 7.5 Reading 7.0 Writing 6.5 Speaking 5.5 Overall 6.5 แบบปัดลงอีกแล้วครับท่าน
โอ้วววววววว มากเกินกว่าที่คาด ดีเกินกว่าที่คิด แม้ Speaking จะห่วยไปหน่อย แต่แบบนี้ไม่มีปัญหาละ ได้ไปเมืองนอกแน่ๆ เย้ ๆ ๆ ๆ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามก็อยู่ที่นั่นจริงๆ 5 5 5
ตอนบ่ายวันนั้น รีบไปสำนักงาน กพ ไปขอเอกสารเตรียมไปทำ Passport เลยครับ แบบว่ามันตื่นเต้นจัด
แล้วหลังจากนั้นก็ตามคาดครับ ม ไกลปืนเที่ยงบอกว่าผลภาษาตรง Speaking น้อยไป โดนเรียนภาษา 4 Weeks เพราะเค้าต้องการคะแนนรวม 6.5 และไม่มี Part ไหนต่ำกว่า 6.0 ผมได้ 5.5 ไป 1 Part ต้องไปเรียนภาษาก่อน ก็ไม่เป็นไร ดีด้วย จะได้ไปเตรียมตัวก่อน
แต่ที่แย่คือ ปีนี้ Department ที่ผมมาเรียน มันปรับเงื่อนไขภาษาใหม่ เอาแค่ Overall 6.5 เฉยๆ มี Part ไหนต่ำกว่า 6.0 ได้ไม่เป็นไร ไม่ต้องเรียนภาษาก็ได้ ดูซิ๊ดู แล้วทีตูหละไม่ให้ โลกนี้มันไม่ยุติธรรมจริงๆ
สอบเสร็จคราวนี้ คะแนนออกมาพอใช้ได้ ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเกินคาดครับ
ทุกวันนี้ ผมยังพยายามดู TV ที่เมืองนอก อ่านนิยายภาษาอังกฤษก่อนนอน วันละหน้าสองหน้าบ้าง ฝึกฝนต่อไป หวังให้มันดีขึ้น ภาษายังไม่ดีพอที่จะอ่านนิยายภาษาอังกฤษรู้เรื่องเข้าใจลึกซึ้ง แต่ก็พอจะเข้าใจได้ เปิดศัพท์ไปด้วย ค่อยๆ ให้มันซึมต่อไป
แล้วเรื่องนี้บอกอะไรได้บ้าง
ก่อนหน้านี้ ผมมักจะอิจฉาคนที่ภาษาดีๆ อยู่เสมอ อยากเก่ง อยากใช้ภาษาได้แบบคนเหล่านั้น
อยากจะอ่านนิยายภาษาอังกฤษได้ อยากดูหนังแบบไม่ต้องอ่าน Soundtrack คุยกับฝรั่งรู้เรื่อง เขียน mail ภาษาอังกฤษได้
แต่ก็ได้แต่ฝัน เอาแต่อยาก แต่ไม่เคยยอมเหนื่อยยากเพื่อพัฒนาตัวเอง ย่ำอยู่ที่เดิม หนีปัญหาไปเรื่อยๆ อยู่แต่โลกของความฝัน ขี้เกียจไปวันๆ
จนคราวนี้ สถานการณ์มันบังคับ แล้วถึงมาเสียดายว่าปล่อยเวลาทิ้งโอกาสมาตั้งนาน
การเตรียมภาษาเพื่อสอบ บางคนอาจบอกว่ามันไม่เหมือนชีวิตจริง ยังไม่พอ นั่นก็จริงครับ
แต่จากการฝึกฝน ทำให้เรามีพื้นฐานอย่างน้อยก็พอที่จะใช้งานได้ในระดับนึง ดีกว่าอยู่ไปวันๆ แน่ ทักษะภาษาป็นสิ่งที่สำคัญมากในโลกทุกวันนี้
ผมใช้เวลาฝึกภาษา อาจจะเรียกได้ว่าจากระดับ 0 หรือใช้การไม่ได้ จนมาถึงระดับที่พอสื่อสารได้ระดับนึง พอที่จะมาเมืองนอกได้ ในเวลาประมาณแค่ปีกว่าๆ เท่านั้น ซึ่งคนอื่นก็ทำได้
ภาษาเป็นเรื่องของทักษะ ไม่ใช่ความฉลาด อยากได้ต้องฝึกฝน ไม่มีโรงเรียนภาษาเทพที่ไหนจะสอนให้เก่งได้ ทุกอย่างอยู่ที่การฝึก ๆ ๆ ๆ เท่านั้น
ไม่มีอะไรยากเกินกว่าความพยายามครับ
Create Date : 05 พฤษภาคม 2553 |
|
8 comments |
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 20:40:52 น. |
Counter : 2727 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หนูภัทร IP: 125.25.130.235 6 พฤษภาคม 2553 0:04:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชายมิ้น IP: 124.121.7.159 6 พฤษภาคม 2553 0:49:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: คูณป้าขั้วโลกใต้ IP: 118.92.216.12 8 พฤษภาคม 2553 5:31:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องมือใหม่ IP: 58.64.82.234 31 พฤษภาคม 2553 19:48:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: อัอ IP: 92.15.164.167 17 มกราคม 2554 21:03:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: melody IP: 49.48.8.54 13 เมษายน 2556 20:25:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: nOi IP: 183.88.112.203 8 พฤษภาคม 2556 1:03:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เป็นกำลังใจให้คะ