ขับรถล่องใต้ Day#3 : ไหว้พระวัดฉลอง,หลวงปู่สุภา,Butterfly Garden
อิ่มท้องแล้วเที่ยวกันต่อ คุณย่าไปคุยกับที่ล๊อบบี้โรงแรมแล้วเค้าแนะนำให้มาไหว้หลวงปู่สุภา หลวงปูสุภา กันตสีโล ท่านมีอายุ 116 ปีแล้ว เป็นอริยสงฆ์ที่ชาวภูเก็ตและพุทธศาสนิกชนต่างนับถือและศรัทธามาช้านาน
วัดต่อไปที่เราจะไปกันไม่ไกลจากวัดหลวงปู่สุภา คือ "วัดไชยธาราราม" หรือ "วัดฉลอง" ที่เราเรียกกันติดปาก
เป็นที่ๆไม่ควรพลาดอีกที่เมื่อมาเยือนภูเก็ตหลังจากพลาดมาหลายทริปๆนี้ก็ไม่พลาดเด็ดขาดค่ะค่ะ
เราก็ได้มานมัสการหลวงพ่อแช่มสมความตั้งใจ...
“เล่ากันว่าในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่นั้น ถึงกับมีผู้ที่รอปิดทองตามแขนและขาของท่าน
จนแลดูเหลืองอร่ามไปทั่วราวกับปิดทองพระพุทธรูป
ประวัติตอนหนึ่งของหลวงพ่อแช่มนั้นเล่าว่าในปี พ.ศ.2419 ซึ่งตรงกับสมัยของรัชกาลที่ 5
หลวงพ่อแช่มได้ช่วยเหลือชาวภูเก็ตต่อสู้กับพวกอั้งยี่ ชาวกรรมกรเหมืองแร่ที่ได้ก่อเหตุจลาจล
ไล่ฆ่าฟันโจมตีชาวบ้านและจะยึดครองเมืองภูเก็ต
ในครั้งนั้นหลวงพ่อได้มอบผ้าประเจียดสีขาว ให้ชาวบ้านทุกคนโพกหัวเพื่อเป็นเครื่องรางป้องกันอันตราย
ซึ่งได้สร้างความเชื่อมั่นและขวัญกำลังใจให้กับชาวภูเก็ตเป็นอย่างมาก
และใช้วัดฉลองเป็นที่มั่นราวกับป้อมค่ายที่ใช้ในการต่อสู้ จนกระทั่งสามารถเอาชนะพวกอั้งยี่ได้
เมื่อรัชกาลที่ 5 ทรงทราบความจึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานสมณศักดิ์แก่หลวงพ่อแช่ม
เป็นพระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี ให้มีตำแหน่งเป็นสังฆปาโมกข์แห่งเมืองภูเก็ต
ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในสมัยนั้น และได้พระราชทานนามวัดฉลองเป็นวัดไชยธารารามแต่นั้นมา” <credit : moohin.com>
มา “วัดฉลอง” ต้องไปกินหมูกรอบ เอ๊ะ..ยังไง จะกินท่าเดียวเลย 55
แต่เมื่อก่อนมาวัดนี้ต้องกินหมูกรอบข้าวเหนียว อร่อยโฮก
แต่คราวนี้เด็กมัวแต่แตกตื่นกับประทัด ก็เลยเป็นอันว่าไม่ได้เดินหาซื้อกิน เหอๆ
ฟ้าเริ่มมืด ฝนเริ่มคืบคลานเข้ามา เรายังมีอีก 1 ที่ๆจะไปกันได้แก่ "Phuket Butterfly Garden"
เอาใจเด็กแทน Phuket Zoo ที่คาดว่าฝนจะตก..ก่อนจะไป Phuket Racing Kart เป็นที่สุดท้าย
ตอนแรกไม่ได้คาดหวังกับที่นี่ซักเท่าไหร่ ก็คิดว่าเป็นสวนๆมีผีเสื้อบินๆ มีโซนแสดงหม่อนไหม
เผื่อจะระลึกชาติเห็นเจ้านางมณีรินทร์อะไรเทือกๆนี้บ้าง 555
แต่เอาเข้าจริง...อยากจะบอกว่าคุ้มค่าราคา(คนไทย) 80 บาทมากมากกก จะเป็นยังไงลองตามไปดูกันค่า
บริเวณด้านหน้า โซนขายบัตร เจ้าหน้าที่ต้อนรับเราเป็นอย่างดี มีกล้วยบดใส่ในถ้วยพลาสติกใสใบเล็กๆ ตั้งคอยแจกนักท่องเที่ยว ให้สามารนถนำไปป้อนอาหารผีเสื้อด้านในได้
มีอาหารปลาขาย เราก็เอ๊..?? ทำไมมีปลาอะไรด้วย ก็ซื้อๆไป 20 บาทเพราะลูกชอบให้อาหารปลา
พอได้เดินผ่านประตูเข้าไปเท่านั้นแล..โอ้วววว Insect World อลังการณ์แบบไมได้ตั้งใจ
ลักษณะเป็น Museum เล็กๆแต่มี Details จัดแสดงและให้ความรู้เกี่ยวกับแมลงประเภทต่างๆ
ไม่ว่าจะด้วงกว่างหลากหลายพันธุ์ พอดีโทรฟี่เพิ่งอยากรู้เกี่ยวกับด่วงกว่างพอดีเด็กเลยชอบมาก
แมงมุม ตักแตนหน้าตาแปลกๆ เช่น ตักแตนกิ่งไม้ ตั๊กแตนใบไม้ ตัวจริงเสียงจริง Fossil แมลงปอ จัดแสดงภาพจำลองทางเดินและรังมดใต้ดิน บนฝาผนัง น่ารักดี แมลงสาปยักษ์ กิ้งกือยักษ์ ตัวเป็นๆให้ได้เห็นกัน ไม่ได้โชว์รูปเพราะสาวๆบางคนอาจจะกรี๊สสสได้ พิพิธภัณฑ์ผีเสื้อ จำลองชีวิตของมดและรังของมันบนฝาผนัง ฯลฯ แล้วแค่โซนนี้ก็ดูเค้าลงทุน และคุ้มค่ามากๆแล้ว
ถัดจากโซนนี้จะเป็นโซนผีเสื้อตัวจริง เป็นแบบ Open Air ในสวนดอกไม้
มีบ่อน้ำ น้ำตก และศาลากลางน้ำ และเต็มไปด้วยผีเสื้อบินกันเยอะดีทีเดียว เกาะตามใบไม้ ดอกไม้ พื้น สะพาน ...หรือแ้แต่โต๊ะสีสันสดสวยน่ารักที่ให้นั่งจิบกาแฟ ก็มีเจ้าฝูงผีเสื้อ บินมาเกาะอยู่ตามโต๊ะเต็มไปหมด น่ารักมากกก
นึกเสียดายเราติดเลนส์มาตัวเดียว ไม่ได้เอาเลนส์ซูมมา เลยไมได้ภาพผีเสื้อบนดอกไม้สวยๆมาใ้ห้ดูกันมากนัก บางตัวที่หน้าตาแปลกๆ สีสวยๆ เกาะอยู่ไกลโน้นนน ก็ไม่สามารถเก็บภาพมาได้ ก็มีเท่าที่มีนี้แล
เพราะพอเข้าไปใกล้ เด็กก็เรียก “ผีเสื้ออออออ” เอิ่ม...ไม่ทันได้ลั่นชัทเตอร์ผีเสื้อก็บินกระจายแล้ว
ไม่รู้จะมีปุ่มกดหรี่ volume กับปุ่ม mute มะไหร่นะฟี่นะ 5555
บอกโทรฟี่ว่าที่นี่ต้องเงียบๆนะลูก ห้ามใช้เสียงดัง ไม่งั้นผีเสื้อจะบินหนีเราไปหมดเลยนะ
เด็กก็ทำท่าจุ๊ๆ พูดแบบกระซิบ แต่พักเดียวแหละด้วยความตื่นเต้น ก็เปร่งเสียงมาตามปกติอีกแระ
แต่เวลาผีเสื้อบินมาใกล้ เธอไม่กล้าให้มันมาเกาะมาใกล้เลยนะ หลบตลอด 555
ให้อาหารปลา ปลาเยอะดีทีเดียว ฝนก็ปรอยลงมาแล้วค่ะ แต่ไม่ต้องกลัวที่ในนี้มีร่มบริการ
เราก็เลยกางร่มดูผีเสื้อกันจนฝนซา เอาอาหารไปวางไว้ตามจุดที่เค้าให้วางอาหาร
ผีเสื้อหลากหลายพันธุ์ก็บินมาเกาะเล็มกิน ทั้งกล้วย ทั้งมะละกอ ตัวใหญ่มากกกก Highlight ของที่นี่คงเป็นผีเสื้อพันธุ์ Golden Birdwing บางตัวกางปีกแล้วตัวเท่าฝ่ามือเลย
ถัดเข้าไปด้านในมีโซนดักแด้ จะมีดักแด้ของผีเสื้อหลากหลายพันธุ์ กำลังจะฟักตัวกลายเป็นผีเสื้อแสนสวย
พอเดินออกจากโซน Open Air จะมีที่จัดแสดงไข่หนอนผีเสื้อ ให้สามารถส่องผ่านกล้องจุลทรรศน์ดูได้ และห้อง Breeding สำหรับให้ผีเสื้อผสมพันธุ์
ที่นี่จะปริมาณผีเสื้อหนาแน่นมากก บางตัวจะมาเกาะตามตัว ตามไหล่เลยค่ะ
พ้นจากห้อง Breeding แล้ว จะเป็นโซน Silk Museum จัดแสดงตัวอย่างตั้งแต่เลี้ยงไหม, สาวไหม, สีธรรมชาติสำหรับย้อมไหม้ ผ้าทอประเภทต่างๆแล้วก็มีกี่ แสดงตัวอย่างการทอผ้า โทรฟี่สนใจการสาวไหมกับการทอผ้ามากๆ
แบบว่าคงแปลกตา ทำไมหนอนกลายเป็นผ้าได้ แล้วเค้าเคยเห็นแต่ในภาพแบบฝึกหัด วันนี้ได้เป็นตัวเป็นๆ เห็นของจริงๆ เลยนึกสนใจเป็นพิเศษ จนต้องขอให้กลับกันเลยทีเดียวด้านทางออกจะมีพื้นที่เป็น Gallery ภาพวาดเล็กๆ ให้มองกันเพลินๆก่อนออกไปด้านนอกค่ะ ที่นี่เป็นอีกที่ๆประทับใจมากกก แบบไม่ได้คาดมาก่อน สถานที่ไม่ใหญ่ แต่น่ารักทุกซอกทุกมุมของพื้นที่ ใช้สอยเป็นพื้นที่จัดแสดงได้คุ้มค่ามั่กๆ ไว้คราวหน้าจะยกเป๋ากล้องเข้ามาทั้งกระเป๋าเลย...ไม่พลาดขี้เกียจหิ้วแบบคราวนี้แน่นอน ^^ออกจากที่นี่ ก็ตรงไป "Phuket Racing Kart" ตรงฉลองกันเลยเพราะป่าป๊าจะพาโทรฟี่ไปขับ Go-kart แบบ 2 ที่นั่งกันเลยมีคนถามอยู่เหมือนกันว่าที่ Krabi Kart Speedway เอารถแบบ 2 ที่นั่งมาบริการเหมือนกันแล้วลูกเค้า (3 ขวบ) จะนั่งได้หรือเปล่า ??เอิ่มมมม...ไม่อยากบอกว่าโทรฟี่นั่งรถแบบ 2 ที่นั่งมาตั้งแต่เกือบ 2 ขวบอ่ะแฮร่..แต่เด็กเล็กๆ อย่างลืมหมวกกันน๊อค หรือพวก earplug ละกันเพื่อความปลอดภัยค่าโทรฟี่สนุกมากก ตอนแรกถ่ายรูปออกหมาเป็นปากเค้าจาเบะๆ ก็เอ้ยคราวนี้ร้องไห้ป่าวหว่าแต่ถามจากป่าป๊าตอนขึ้นมาแล้วบอกว่าไมไ่ด้ร้อง...แต่ถามไปตลอดทาง ฟังได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้างรู้แต่ว่าสัมภาษณ์จากปากเจ้าตัว เค้าบอกว่าจะมาขับอีกกกก
พอกลับถึงโรงแรม ก็ไม่พ้นภารกิจกระโดดลงน้ำกันตู้มมมมมเช่นเคย
จากที่เด็กน้อยบอกว่าไม่ไปภูเก็ต (เข้าใจว่าพัก Centara Villas คราวก่อนจะเข็ดเดินลงหาด) เป็นร๊ากกภูเก็ตจังเลย
ก่อนจะปิดท้ายทริปวันนี้ที่ภูเก็ตด้วยอาหารร้าน “โกอ่าง” เป็นร้านซีฟู๊ดที่กินกันมานานนนแล้วสำหรับร้านนี้
ร้านตั้งอยู่ในตัวเมืองภูเก็ต ตรงตลาดใหญ่ บนถนนภูเก็ต
หาไม่ยากพอเลย ร.พ. ภูเก็ตรวมแพทย์มา ร้านอยู่ตรงหัวมุมพอดีด้านซ้ายมือ (อันนี้ลืมรูป....เดี๋ยวกลับมาแปะใหม่ ^^)
ทริปนี้สิ่งที่เราหาทานไม่ได้คือ ปูไข่เผา กับ ยำไข่แมงดา.. ไม่มีของเลยจนจบทริปก็ไมได้กิน แต่ก็ยังดีที่มีอาหารทะเลอร่อยๆ ราคากันเอง ให้ได้กินทุกมื้อไป Blog หน้า เราจะอำลาภูเก็ต พากินสะเต๊ะชื่อดังที่พังงา กับทัศนียภาพเมืองพังงาที่เราเพิ่งเคยไปครั้งแรกแล้วอยกาจะบอกว่า ..สวยยยยยย มั่ก.. แล้วตรงดิ่งไปเที่ยวทะเลกระบี่กันต่อ ทริปนี้ตัวดำปี๋กลับมาทั้งครอบครัว ฮี่ๆ
Free TextEditor
Create Date : 31 ตุลาคม 2554 |
|
4 comments |
Last Update : 31 ตุลาคม 2554 9:50:15 น. |
Counter : 3791 Pageviews. |
|
|
|