Group Blog
 
 
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
1 เมษายน 2549
 
All Blogs
 

ข้าเจ้าขอเป็นไกด์กะเค้ามั่ง ตอนที่ 1 รีอัลโต้บริดจ์ แหล่งช้อปปิ้งแวดล้อม ตลาดปลา และเรื่องผีๆ

มาแล้วค้่าทุกท่าน ..... Ciao tutti..
เช้า หรือ Ciao เป็นคำทักทายภาษาอิตาเลี่ยนที่เราๆท่านๆมักได้ยินเสมอ

นอกเหนือจาก บองโจโน่ะ (ก็แปลว่าสวัสดีเหมือนกัน)

จริงๆตามบุีคส์ทั้งหลายเค้าว่าก็เหมือนใช้ Hi กะ Helloooo นั่นแหล่ะ ถ้าไม่สนิทกัน ใช้เป็น ฮัลโล/บองโจโน่ะ จะดีกว่า ไฮ/เช้า นะ

..แต่สำหรับคนเวนิสเชี่ยนแล้วนะ เค้าไม่เกี่ยงร้อก เราเช้าไป เค้าก็เช้ามา ยิ่งกะนักท่องเที่ยวนะ หืมมมม เช้ากันได้ทั้งวี่ทั้งวันสิน่า......


วันนี้อยู่บ้านว่างๆ นั่งนึกๆดูว่าเออ ข้าเจ้านี่ก็มีประโยชน์ดีนะเพราะที่ผ่านมาเห็นคนนู้นคนนี้เมล์มา หลังไมค์มา บางทีข้าเจ้าเองก็ตามไปตอบกระทู้บ้านนู้น บ้านนี้ เว็บไทย เว็บเทศ มามากมายนับบ่อท้วน

เรื่องข้อมูลที่พักที่เวนิสมั่ง ที่เที่่ยวมั่ง ที่กินมั่ง ข้าเจ้าก็ตอบเท่าที่รู้ ที่พอมีข้อมูลอยู่ ส่วนใหญ่ก็ได้รับคำขอบอก ขอบใจ กลับมาเป็นหลายกระบุงประจำ แถมได้เพื่อนเพิ่มอีกเป็นหลายสิบ จริงๆนะ หลายสิบเลย แต่ยังไม่ถึงหลักร้อย

ส่วนน้อยที่หายเงียบไป

แต่โชคดีที่ยังไม่มีสักส่วนตามมาด่า หุหุ

พอคิดเข้าข้างตัวเองได้อย่างนี้ เลยชักคันมือ เลือกเอารูปที่ถ่ายเก็บๆไว้ตอนมาใหม่ๆมั่ง ตอนพาพ่อ แม่ พี่(s)เพื่อน(s)เที่ยวมั่ง

รวมไปถึงกริ้งกร้างไปหา"ลูก้า-LUCA" ที่เบอร์ +39 329 xxxx ลูก้าคือเพื่อนสนิทของสเต้ฟ handsome tall goodlooking friendly and FREE for u (โทรด่วนหาข้าเจ้า 20 สายแรกรับไปเลย Luca's T-Shirt hahahah)

เพื่อยืมรูปมาลงมั่ง แต่พอเอาเข้าจริงๆดห ฉวยๆทั้งนั้นเลย ฝีมือเราใช่ย่อย ฝีมือสเต้ฟก็โอ ของลูก้าก็เข้าท่า เลย ..ว้า..เอางัยดีหว่า


ไปตั้งสติมา 1 คืนเต็มๆตอนนี้คัดมาแล้ว สเต้ฟบอกเนี่ยอ่ะนะสวยสุด 5555 คือนึกออกมั้ยคะ ว่ารักพี่ๆเสียดายน้องๆ เลือกจนตาลาย ท้ายสุด สรุปมาเลย เอาวะ เอาลงๆไปก่อน

เดี๋ยวค่อยมาทำเวอร์ชั่น 2 -3-4 ตามมา อิอิ


ไม่ให้เสียเวลา ไปดูกันดีฝ่า.....


ตอนที่ 1 นี้ ขอเริ่มจากบริเวณสะพานรีอัลโต้ ตลาดปลา และแหล่งช้อปปิ้งใกล้เคียง ก่อนเลยนะคะ เนื่องจาก ใกล้ตัวที่สุด อิอิ

สะพานรีอัลโต้เป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดา 3 สะพานที่เชื่อมระหว่าง 2 ฝั่งของแกรนด์คาแนล Grand Canel

เวนิสมีสะพานเป็นหลายหลักร้อย มีอยู่ 4 ร้อยกว่าๆ แต่กว่าเท่าไหร่จำบ่อได้ค่ะ 555 แต่เป็นสะพานเชื่อมคลองเล็กๆหากัน ถ้าสะพานใหญ่ๆ ยาวๆ ที่เชื่อม 2 ฝั่งของแกรนด์คาเนลมี แค่ 3 ที่ค่า

คือตรงนี้รีอัลโต้

ตรงหน้าสถานีรถไฟซึ่งอันนั้นค่อนข้างใหม่ และไม่มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์มากนัก

และอันสุดท้ายคือบริเวณหน้าแอคคาเดเมีย หรือ ที่รู้จักกันในนามมิวเซียมนานานชาติหน่ะค่ะ

สำหรับสะพานรีอัลโต้นี่นะคะ สร้างขึ้นในปี 1588 -1591 ตามข้อมูลเค้าว่ากันว่า

จริงๆแล้วมีสถาปนิกดังๆหลายท่านเช่น Michelangelo หรือ Palladion เสนอยื่อนแบบสะพานเข้าประกวด

แต่ผู้ที่ทางการเลือกนำแบบของเค้ามาใช้ก็คือ สถาปนิกที่ชื่อ Andrea Da Pronte ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน

ลักษณะเด่นของสะพานนี้คือส่วนโค้งของสะพานที่สูงพอที่จะให้เรือบบรทุกสินค้าในสมัยนั้นรอดผ่านได้

และบนสะพานตยังสามารถตั้งเป็นร้านขายของ เป็นทางสัญจรม้า และมีทางเท้าสำหรับผู้คน 2 ข้างทาง และตรงกลางสามารถเปิดเป็นช่องทำให้มองเห็นวิวทั้ง 2 ข้างได้







แถมรูปเรือกอนโดล่า และ คุณกอนโดเลีย(หนุ่มๆที่พายเรือ)ทั้งหลาย บริเวณรีอัลโต้บริดจ์ด้วยอ่ะ





ทางด้านการพานิชย์แล้วตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันสะพานรีอัลโต้ก็ยังคงเป็นแหล่งค้าขาย ตั้งร้านรวง ช้อปปิ้ง

รวมทั้งตลาดสด ที่กินบริเวณกว้างที่สุดแห่งหนึ่งของเวนิส




รูปข้างบนนี้ี้ยืมเค้ามาแปะค่า เป็นภาพวาด ขอบคุณผู้อุปถัมภ์อย่างยิ่งจ้า

วิวเมืองเวนิส มองจากสะพานลงมาค่า



ถ้ายืนอยู่บนสะพานและหันหน้าไปทางสถานีรถไฟ เอ้ ทิศอะไรหว่า...ก็จะเห็นว่าด้านซ้ายจะเป็นตลาดปลา

หรือถ้าใครนั่งเรือผ่านมาแล้วจะเห็นว่าบริเวณตลาดปลาจะอยู่ตรงบริเวณที่เค้าคลุมผ้าเต้นท์แดงๆนั่นแหล่ะ

มาอยู่ 3 ปีกว่าเข้าไปละ เคยเห็นเปลี่ยนผ้าเต้นท์อยู่ 2-3 ครั้งได้มั้ง เปลี่ยนกลับ กลับมาระหว่างสีแดง กะ เขียว เท่านั้นแหล่ะ คอยดูนะเลือกตั้ง สส.เวนิสคราวหน้าจะเลือกคนที่มีนโยบายที่จะเปลี่ยนผ้าเต้นท์เป็นสีชมพู อิอิ








นี่ก็นะยืมเค้าแปะอีกแล้วเจ้าค่า


ตลาดปลาที่ว่านี่ จริงๆแล้วไม่ได้ขายแต่ปลาหรอกนะ

จริงๆก็คือตลาดสดบ้านแบบบ้านเราแหล่ะ มีทั้งผัก ผลไม้ ดอกไม้(ดอกไม้มีแค่ 2 เจ้า ขายเฉพาะวันอังคารกับเสาร์)

เอ ของขายตั้งแยะอย่างนี้ไม่รู้เหมือนกันทำไมเค้าเรียกตลาดปลาอ่ะ

พูดถึงปลานะที่นี่ไม่สดทุกวันนะคะ ข้าเจ้ารู้มาจากวงใน อิอิ ว่าเฉพาะวันพุธ พฤหัส ศุกร์เท่านั้นที่ปลาสด

อ้อขอแถมหน่อยใครมาเดินตลาดประเทศนี้อย่ามาเผลอ หยิบ จับ หยิก ข่วน เวลาเลือกผัก ผลไม้เชียวหล่ะ เดี๋ยวโดนด่ากระจุย 555 มาใหม่ๆข้าเจ้าโดนแย้ว ที่นี่เค้าห้ามเลือกเอง อยากเลือกเองต้องไปซุปเปอร์มาเก็ตอ่ะ

ไม่รู้ยุโรปที่อื่นเป็นงัย เพื่อนที่เยอรมันก็ไม่เล่าให้ฟังซะที แต่เพื่อนที่ลอนดอนบอกไม่เป็นอ่ะ

เอารูปไปดู บรรยากาศ ตลาดปลาวันอาทิตย์ เหมือนตลาดร้างเลยเนาะ


มาถึงเรื่องช้อปปิ้งของสาวๆกันมั่ง เอ้ะไม่สิ ผู้ชายหลายๆท่านก็ช้อปเก่งไม่ใช่น้อย

ดูอย่างท่านที่บ้านสิ ช้อปเก่งกว่าข้าเจ้าเป็นหลายเท่าตัว

บริเวณตลอดทั้ง 2 ด้านของตีนสะพาน คงไม่มีใครว่าคำหยาบนะ เรียกว่าตีนสะพานถูกแล้วใช่ป่ะ

...จะเป็นแหล่งให้นักท่องเที่ยวต้องเสียกะตังค์ควักกระเป๋ามาช้อป มีทุกอย่างแหล่ะค่ะ ตั้งแต่เสื่อยืดเวนิส เนคไทบาดใจสาวๆ เรือกอนโดล่าจำลอง หน้ากากเวนิส ผ้าปูโต๊ะ เที่ยนหอม แก้วมูลาโน่(แต่เมดอินที่ไหนไม่รู้เน้อ....)

ปากกา ที่คั่นหนังสือ ตุ้กตาไม้พีน้อคคีโอ้ ก็มี

โปสการ์ด รองเท้าแตะใส่ในบ้่าน หมวกไหมพรม เสื้อกันหนาวเด็ก ถุงมือผู้ใหญ่ ....

แต่สินค้าที่ว่าเหล่านี้เค้าจะตั้งอยู่บนรถเข็ญนะคะ เช้าๆซัก 9 โมง เดินมาสูดอากาศ(ที่วังเวง)จะเห็นว่าพ่อค้า แม่ค้าขายของรถเข็ญจะเริ่มมาตั้งของกันละ

แต่นี่ ขอบอกว่าไม่ได้นะ ขายของรถเข็ญอย่าคิดว่าไม่ได้กำไรนะคุณ โอ้ยเงินดีกว่าดาบรูโนอีก อ้าวอย่าพาดพิงถึงเลย อิอิ




เย็นๆซักทุ่มนิดๆก็เริ่มเก็บ คนที่นี่ขายของไม่ง้อลูกค้าจริงๆนะ

ไม่รู้ใครเคยโดนบ้าง ข้าเจ้าคนนึงละโดนประจำไปซื้อของตอนเค้ากำลังจะปิดร้านถ้าไม่ด่ามาก็ทำหน้ายักษ์ใส่แหล่ะ เฮ้อ

แต่ก็เอาใจเค้ามาใส่ใจเรานะ ดูอย่างเราสิ ตอนดึกๆอยากปิดร้านลูกค้าบางคนอยากดื่มนู่นดื่มนี่ต่อ

ไอ้เจ้าของร้านบริการเป็นเลิศอย่างเราก็ได้แต่รีบๆหามาเสริฟแล้วค่อยไปบ่นกะตัวเองที่หลัง ว่าเฮ้อตูคืนนี้ถึงบ้านตี 2 อีกละ......

อ่ะกลับมาแหล่งช้อปปิ้งกันต่อบริเวณเกือบๆกลางสะพา็นก็จะเป็นร้านขายเครื่องประดับ และ น้ำหอม น่าสังเกตุอย่างนึงว่าร้านที่นี่บางร้านถ้าเห็นสร้อยสวยๆ แว้บ แวม บาดตา บาดใจเรา แต่เอ ทำไม้ ทำไม ไม่ติดราคานะ

อยู่มานานจนได้รู้ว่า ถ้าร้านไหนไม่ค่อยติดราคาแสดงว่าของแพงจ้าเลยไม่ติด เดี๋ยวลุกค้าวิ่งหนี 555 ล้อเล่นค่ะจริงๆแล้วคงเป็นเทคนิคอย่างนึงที่อยากให้ลูกค้าเข้าไปด้านในร้านอ่ะ

เรื่องเข้าไปในร้านก็ต้องระวังนะคะ ที่นี่เก็บค่าเข้าชมก็มีนะ มีจริงๆไม่ได้โกหก บางทีร้านซ้วย สวย เขียนติดไว้ว่า ฟรีเอ็นทรี

ข้าเจ้าถามสเต้ฟตอนที่มาอยู่ใหม่ๆ เลยได้ความว่าก็บางร้านหัวหมอ แต่งอย่างสวย ของก็ราคาสูง พอลุกค้าเข้ามาชม ก่อนออกมีการขอเรียกเก็บเงินค่าเข้ามาชมก็มีนะ แต่ไม่ถึงขนาดขู่เข็ญเอาหรอก

เอาอีกรูป ตอนมืดๆหน่อย


ปกติเค้าจะมีป้ายหน้าร้าน ประมาณว่า ร้านนี้สินค้าดีมีคุณภาพxxxxxxxxxxx เมื่อเข้าชมแล้วหากไม่ซื้อสินค้ากรุณาจ่ายมาซะดีๆๆ 555 (จริงๆเค้าใช้คำสุภาพกว่านี้ค่ะ อันนี้ข้าเจ้าแปลเป็นภาษาง่ายๆอ่ะ)


อ้อ แถวนี้ๆไม่มีร้านเสื้อผ้าแรนด์เนมค่ะ บอกแล้วเน้นของฝาก ใครอยากช้อปเสื้อผ้าแบรนด์ต้องเดินไปอีกฝั่งที่เชื่อมไปซานมาร์คโค

จากตรงนั้นยาวไปเลยจะเป็นแหล่งเสื้อผ้าค่ะ

เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องลึกลับๆของเวนิสเล่มหนึ่ง หรือ เรียก ง่ายๆว่า ผอ ผึ้ง สระ อี สตอ รี่ นั่นแหล่ะ(หนุกมากขอบอก ตีพิมพ์เป็น 4 ภาษา แต่ไม่ยักกะมีภาษไทยแฮะ)ชื่อ Venetian Legends And Ghost Stories เค้าเล่าไว้ว่าประวัติการสร้างก็น่ากลัวใช่ย่อยในตอนที่มีชื่อว่า The Devil and The Soul of the First.
รูปประกอบเอาผีน้อยน่ารักมาลงนะจะได้ไม่กลัวกัน(เหมือนที่ข้าเจ้ากลัว)

เรื่องย่อนะหลังจากที่สถาปนิกที่ชื่อ Andrea Da Pronte ออกแบบสะพานเสร็จ ทางการก็ได้สั่งให้มีการเริ่มก่อสร้างขึ้นทันทัโดยมีนาย Sebastino Bortoloni วิศวกรหนุ่มไฟแรง พึ่งจบใหม่ๆ เป็นผู้คุมงาน และงานนี้ก็เป็นงานแรกของท่านเลยแหล่ะ (ประัวัิตินะ...ซีบัสติโน่มาจากตระกูลที่ดี มีฐานะร่ำรวย แต่งงานกับสาวสวยคนนึงชื่อว่า Chiara) ทุกวั้น ทุกวัน ซีบัสติโน่ก็มาคุมงานปกตินั่นแหล่ะ จนเวลาผ่านไปหลายปีเหมือนกัน สะพานก็ใกล้จะเสร็จละ คืนนึงขณะที่เค้า้กำลังจะกลับบ้านก็เกิดอุบัตเหตุขึ้นบริเวณหัวสะพานพังลงมา (ภาพประกอบไม่ใช่วันที่เกิดเหตุนะ คืออยากให้ได้บรรยากาศกลางคืนหน่ะ เลยเอาภาพสะพานที่ถ่ายกลางคืนมาแปะ อิอิ)




ซีบัสติโน่ตกใจมาก และทันใดนั้นเอง Devil ก็มาปรากฎตัวต่อหน้าเค้า และรับปากว่าจะช่วยแก้ไข และ ช่วยให้สะพานเสร็จทันกำหนดแต่ต้องการข้อแลกเปลี่ยน นั่นคือลมหายใจของคนๆ คนแรกที่ข้ามสะพานนี้ ซีบัสติโน่ ด้วยความที่อยากให้งานสำเร็จก็เลยรับปากไป
(นี่ก็ไม่ใช่รูปเดวิลที่ไหนหรอกนะ รูปข้าเจ้าเอง หุ หุ หุ)

เวลาผ่านไป....สะพานก็เสร็จในที่สุด
และคืนวันนั้นเองซีบัสติโน่ก็ได้นั่งฉลองความสำเร็จกับคนงานของเค้าอยู่ที่อีกฟากหนึ่งของสะพาน
ทันใดนั้นเอง เคียร่า ภรรยาสาวสวยที่กำลังตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนของเค้าก็วิ่งข้ามสะพานหน้าตาตื่นมา เค้าตกใจและถามว่าเกิดอะไรขึ้น เคี่ยร่าก็ตอบว่า อ้าวก็มีคนไปบอกที่บ้านว่าพี่ไม่สบาย ชั้นก็เลยรีบมาดู แต่ถ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว แล้วเธอก็ขอตัวกลับบ้าน ซีบัสติโน่กังวลขึ้นมาทันที และ ได้แต่ภาวนาให้ไม่มีเรื่องร้ายๆอันใดเกิดขึ้น จนมาถึงวันที่เคียร่าคลอดลูกชาย ... เด็กเสียชีวิตทันทีที่คลอด ส่วนเคียร่าเองก็เสียชีวิตหลังจากนั้นไม่กี่ ชม. ไม่ทันแม้แต่จะให้ี้ซีบัสติโน่มาล่ำลาเธอเป็นครั้งสุดท้าย ฟังแล้วเศร้าจัง น่ากลัวด้วยอ่ะ.........
วันนี้ขอพอแค่นี้ก่อนละกันนะคะ หวังว่าเพื่อนๆคงได้ไอเดียในการมาเที่ยว รีอัลโต้บริดจ์แอนด์ช้อปกระจายรอบๆแถวนี้ หรือจะตื่นเช้าๆมาเที่ยวตลาดปลาที่ไม่ได้มีแค่ปลา รวมทั้งร่วมไว้อาลัยแก่เด็กน้อยที่ลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่วิแล้วก็จากเราไปทิ้งไว้เพียงผลงานของคุณพ่อวิศวกรหนุ่มของเค้าให้พวกเราๆท่านๆได้ใช้ประโยชน์ และ มาเก็บภาพสวยๆไปค่ะ




 

Create Date : 01 เมษายน 2549
6 comments
Last Update : 7 พฤษภาคม 2549 18:04:39 น.
Counter : 2008 Pageviews.

 

จะรอร๊อรอ จ้า จะเหมือนคลองแสนแสบเปล่าน้อ

 

โดย: ต่อตระกูล 2 เมษายน 2549 13:17:47 น.  

 

ไว้จะแวะมาดูรูปนะคะ
น้องหมาทั้งสามน่ารักมากๆค่ะ

 

โดย: ตรีนุช3903 2 เมษายน 2549 18:31:08 น.  

 

อ๊า...สวัสดีค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จัก

กะลังจะไปอิตาลีพ.ค.นี้ค่ะ

อาจต้องมาขอความรู้บางเรื่องบ้างนะคะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 5 เมษายน 2549 14:54:09 น.  

 

มาเลยค่า
สาธุ มาบ่อยๆนะ
แวะมาอ่านได้เยย แต่จะได้ความรู้ที่เป็นประโยชน์มากน้อยแค่ไหนไม่รู้นะตัวเอง อิอิ

 

โดย: เจ้าของบ้านเองจ้า (miss Florence in Venice ) 8 เมษายน 2549 19:30:19 น.  

 

สวัสดีค่ะ...เรื่องเล่าน่ากลัว...แต่สะพานสวยคลาสสิกมากเลยจ้า
แต่เจ้าปีศาจนี่ขี้โกงจังไหนบอกเอาลมหายใจแรกไหงเอาไปตั้งสอง..

 

โดย: ชีพชีวิน 8 กันยายน 2549 1:06:23 น.  

 

ถึงเวนิสโดยรถไฟแล้วจะไปชอปปิ้งที่สะพานรีอัลโตต้องเดินทางอย่างไรคะช่วยบอกด้วยนะคะ

 

โดย: วิชญา IP: 124.121.29.173 22 มิถุนายน 2551 22:59:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


miss Florence in Venice
Location :
Venezia Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อยู่ปาโดว่า อยู่เวนิส อยู่อิตาลี่
อยู่ที่ร้าน อยู่กับบ้าน อยู่กับแฟน
อยู่กับบล๊อกเรื่องท่องเที่ยวแคว้นเวเนโต้ และ เรื่องหมา
Friends' blogs
[Add miss Florence in Venice's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.