i love crochet
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2551
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
8 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
ฉันไม่ใช่คนดี

8 พ.ย. 51
ทำแล้วสบายใจ มีความสุข ไม่เดือดร้อนใคร ก็แค่นั้น แล้วทำมัยถึงได้มองว่าเป็นคนดี มันก็เกิดคำถามขึ้นในใจว่า ถ้าคุณสามารถช่วยเหลือคนๆ หนึ่ง ที่กำลังเดือดร้อนอยู่ แล้วมันก็ไม่ได้ทำให้คุณเดือดร้อนอะไร จะไม่ทำเหรอ ? มันก็อาจทำให้คุณเสียเวลานิดหน่อย(นินั่งหายใจทิ้งเฉยๆ ยังนานกว่านั้นเลย) ถ้าคุณแค่มองแล้วผ่านไป คุณสบายใจมั้ย? หรือแค่คิดว่าก็ไม่เกี่ยวกับฉัน นิทำก็เพื่อให้ตัวเองสบายใจก็เท่านั้นแหละ เพราะถ้าเวลาคุณเดือดร้อนแล้วมีใครสักคนเขามาช่วย มันก็รู้สึกดีไม่ใช่เหรอ(เห็นมั้ยนิก็แค่คิดว่านิอยากได้อะไรนิก็ทำแบบนั้น)
นิไม่เคยให้เงินขอทาน นิมองว่าถ้าสามารถที่จะทำอย่างอื่นได้ ทำมัยไม่ทำ วันหนึ่งเขาหาเงินได้เยอะกว่านิอีกแค่นั่งอยู่เฉยๆ ขนาดคนพิการหลายๆคน เขาต่อสู้ดิ้นรน เพื่อหาเลี้ยงชีวิตโดยไม่ต้องขอใคร นินับถือคนพวกนั้นนะ นิคิดว่าถ้าเราเป็นแบบนั้นขอตายดีกว่า
เคยเจอตาแก่ๆคนหนึ่ง มีถุงกระสอบอีกใบ รอรถประจำทางอยู่ ตอนนั้น 2 ทุ่มแล้ว เราไปตลาดนัดในวัดแล้วกำลังจะกลับ พอดีว่าแกยืนรอรถอยู่ข้างรถเรา (จำไม่ได้แล้วว่าคุยอะไรบ้างแต่มีเด็กคนหนึ่งอยู่ด้วย) ก็สรุปว่าแกรอรถจะไปชลบุรีแต่รถไม่จอดให้ (ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าไม่เห็นแกเพราะมันมืดมากหรือเพราะคิดว่าแกไม่มีตังจ่ายค่ารถ)แล้วรถคันนั้นคือคันสุดท้าย เราก็เลยถามว่าแล้วตาจะทำยังไง แกก็บอกว่าคงนอนอยู่ศาลาวัดนั้นแหละ เราก็เลยบอกว่ามันมีรถอีกฝั่งหนึ่งยังพอมีอยู่ แต่ค่ารถจะแพงกว่านะ ตาจะไปมั้ย จะไปส่ง เราก็ไปส่ง แล้วก็อยู่รอโบกรถให้แกด้วยกลัวว่ารถจะไม่จอดรับแกอีก แกก็หยิบถุงพลาสติกขึ้นมาซึ่งมันเป็นกระเป๋าเงินของแก เอาแบงค์ยี่สิบที่แกมีอยู่ส่งให้ 2 ใบ แล้วแกเหลือไว้แค่เงินเหรียญ เราก็ไม่อยากรับ ก็เลยบอกว่าตาเก็บไว้จ่ายค่ารถเถอะค่ารถแพงนะ แกก็ว่าเอาไปเถอะตามีเหลืออยู่ แล้วแกก็พูดว่า “ถ้าสงสารตาก็รับไปเถอะ” งั้นยี่สิบก็พอตา แล้วเราก็ต้องรับเงินมา ส่งแกขึ้นรถแล้วก็บอกคนรถว่าแกลงที่ไหน วันนั้นมันก็ทำให้เรามีความสุขนะ ถึงจะมีกังวลเล็กๆ ว่าแกไปถึงรึยัง จะกลับบ้านไงหว่า ลูกหลานไปไหนเนี้ย ทำไมปล่อยให้มาคนเดียว ถ้ามีรถก็คงจะไปส่งแกถึงบ้านแล้วหล่ะเพื่อความสบายใจของเราเอง เห็นมั้ยหล่ะขนาดตาแก่ๆ คนหนึ่ง แกยังไม่อยากเป็นฝ่ายได้รับอย่างเดียวถึงแกไม่ค่อยมีแกยังอยากตอบแทนที่เราช่วย
แล้วก็มาถึงเวลาที่เราลำบาก ขับรถมาทำงานระหว่างทางน้ำมันหมด กลางทางอีก แถวนี้ไม่มีปั๊มน้ำมันด้วยสิ เราก็เข็นรถมาเรื่อยๆ หาเอทีเอ็มเดียวค่อยขึ้นรถเมล์ไปซื้อน้ำมันมาเติม แล้วเราก็เจอคนใจดีคนหนึ่งมาช่วยยันรถให้ไปถึงปั๊ม(คนขับมอไซคงรู้ว่าทำไง) พอถึงหน้าปั๊มแกก็ไป เราก็ได้แต่ ขอบคุณมากๆค่ะ
นิแองก็ไม่ได้ช่วยทุกคนหรอก แต่เวลากลับไปแล้วเราก็จะคิดนะว่ามีใครช่วยรึยังนะ ก็เข้าใจคนสมัยนี้นะว่าทุกอ่างมันดูอันตรายไปหมดมีบางคนที่หาผลประโยชน์จากความช่วยเหลือของคนอื่น มีเพื่อนเคยเตือนว่าเวลามีใครมาคุยด้วยพยายามเลี่ยงไว้นะ เพราะพี่ชายของเพื่อนโดนมาแล้ว อยู่ดีๆก็จะไม่รู้สึกตัว รู้ตัวอีกทีอยู่ที่ต่างจังหวัดแล้ว น่ากลัวเนอะ แต่เราก็โชคดีที่ไม่เจอคนแบบนั้น
เคยเจอมันก็ไม่ร้ายแรงมากตั้งแต่ตอนยังเรียนอยู่ เราไปกรุงเทพฯจะไปหาเพื่อน แล้วรอรถเมล์อยู่นานมาก (คือไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำมัยต้องเปลี่ยนเส้นทางกันจัง แล้วจะจำได้มั้ยเนี้ย) เราก็เลยตัดสินใจขึ้นแทกซี่(ครั้งแรกในชีวิต) พอมาถึงแยก ม.เกษตร เราจำได้ว่ามันต้องเลี้ยวขวา แต่มาคราวนี้เขากั้นทางให้ไปยูเทินไกลมาก เราก็อะพอถึงนี้แล้วก็พอจะจำทางได้ก็เลยบอกไปว่าจอดตรงนี้หล่ะค่ะ เขาก็ไม่ยอมบอกว่าอีกนิดเดียวจะถึงแล้ว เราก็นึกในใจไม่นิดแล้ว มันไกลแล้ว ก็กลัวด้วยแหละว่าเขาจะต้องการอะไรมากกว่าค่ารถรึเปล่า เราก็เลยบอกว่าเราไม่มีเงินนะควักเงินออกมา แล้วก็บอกไปว่าทั้งตัวมีอยู่สองร้อยนี้แหละ เขาก็เลยจอดรถให้ ยังว่าเราด้วยนะ “คนอะไรแต่งตัวก็ดี” ลงรถแล้ว เราก็โล่งโอ้.....รอดพ้นแล้วตู เดียวนี้นิเลยไม่ค่อยอยากขึ้นแทกซี่อะถ้าไม่มีใครไปด้วย
ไม่งั้นก็ต้องถามทางเพื่อนให้ชัด ทำตัวเป็นคนกรุงเทพเข้าไว้ แล้วเวลาแทกซี่ถามว่าไปทางนี้ดีมั้ยครับ เราก็ “เส้นนี้ไม่ติดเหรอค่ะเห็นช่วงเย็นมันติดมากเลยหนิ” เนียนมั้ย เหอๆ(พอดีเส้นนี้มาบ่อย) เขาก็อธิบายขาเข้าขาออกอะไรของเขาแหละ(ไม่รู้เรื่องหรอกบ้านนอกอยู่ดีเนอะ) สรุปว่าไม่ติดไปได้ เราก็โทรหาเพื่อน อะไรที่มีคนบอกว่าควรทำเวลาขึ้นแทกซี่อะทำหมดแระ ไม่ถึง 10 นาทีอะถึงแล้ว ก็ทำให้ช่วยลดกังวลไปได้บ้างนะเรื่องไอ้แทกซี่คันแรกในชีวิตอะ
สรุปแล้วในสังคมเรามันก็มีทั้งคนดีแล้คนไม่ดี แล้วตัวเราเองเลือกได้หนิ ว่าจะทำอะไร เพราะอะไร
ก็อย่างที่บอกว่านิไม่ใช่คนดีหรอก ถ้ามีใครทำอะไรนิ ทำแบบที่นิไม่ชอบ นิก็จะทำอย่างที่เขาทำ โดยไม่คิดว่าเขาเป็นใคร มีอำนาจจะทำอะไรเราได้บ้าง นิรู้แค่ว่าถ้าเขาเองซึ่งบอกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ เป็นคนที่ควรเคารพ (แต่ก็ไม่ใช่ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายไหนของฉันหนิ) ทำตัวไม่เหมาะสม ค่อยมองแต่สิ่งที่คนอื่นทำ ไม่เคยหันกลับมามองตัวเองบ้างเลย (คนดีเขาก็คงจะปล่อยวางแล้วไม่ทำอะไร) ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันนะว่าทำมัยถึงเป็นคนแบบนี้ สิ่งที่ทำได้ดีสุดคือนิ่งไว้หลีกเลี่ยงไม่ปะทะ แต่จะให้ไปขอโทษ บอกได้คำเดียว “ไม่” ถ้าเขายังไม่เคยสำนึกถึงสิ่งที่เขาทำ ต่างคนต่างอยู่ ทำหน้าที่ของตัวเองไป มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้นิเดือดร้อนบ่อยๆ เพราะคนระดับนั้นเขาก็ไม่ยอมทำยังกะอยากให้เราไปสยบแทบเท้า พอเห็นว่าเราเฉยก็จะตายซะให้ได้สิ ต้องเที่ยววิ่งไปฟ้องคนโน้นทีคนนี้ที ให้มาจัดการเรา (รู้สึกว่าจะเป็นผู้ใหญ่น่าเคารพมากนะ) เราก็อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ ก็โดนเขาไปซะ เพราะฉะนั้นเรื่องที่เราโดนว่าส่วนมากไม่ใช่เรื่องงานหรอก เรามั่นใจว่าเราทำทุกอย่างตามหน้าที่และเสร็จทันเวลาที่กำหนดไม่เคยบกพร่อง มีเหตุและผล เขาก็จะใช้ประเด็นว่าเราประพฤติตัวไม่เหมาะสมไม่เคารพผู้ใหญ่ (ก็คิดในใจแล้วทำตัวให้น่าเคารพมั้ยหล่ะ) เราไม่สนใจว่าประวัติเราจะเสียมั้ย เพราะความฝันของเราไม่ใช่การในอยู่สภาพสังคมแบบนี้
เวลามีคนถามว่าคิดไว้ว่าอยากเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานมั้ย เราตอบได้ทันทีว่า “ไม่” เราไม่ได้คิดอยู่แล้วว่าที่นี้เขาจะตัดสินคนจากอะไรสถานที่ศึกษา หรือผลการทำงาน เพื่อผลักดันให้ขึ้นระดับที่ใหญ่กว่า เพราะเราไม่ต้องการ เราอยากอยู่แบบนี้ แบบสบายใจ เราทำงานอะไรก็ได้ ในเวลา 8 ชั่วโมง อีก 16 ชั่วโมงที่เหลือเป็นสิทธิของเรา ว่าเราจะเลือกทำอะไรที่ทำให้เรามีความสุข ก็แค่นั้น
เขากลับมองว่าเราน้อยใจ เปล่าเลย แต่ถ้าจะว่าเราไม่รักความก้าวหน้า คงใช่ เราชอบที่จะ เรียนรู้นะ เรียนเพราะเรารู้สึกสนุกกับการได้เรียนรู้อะไรใหม่ ได้ลองได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ แต่ไม่ใช่การ เรียนเพื่อให้ตัวเองไต่ระดับขึ้น
ยอมรับเลยว่ากลัว กลัวหลายอย่างการเป็นหัวหน้ามันไม่ใช่แค่การได้เลื่อนขั้นได้เงินเดือนเยอะขึ้น แต่ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับงานที่ตัวเองต้องดูแล ในความคิดนิก็คือการเป็นหัวหน้าต้องเก่ง มีภาวะการเป็นผู้นำ ช่วยเหลือลูกน้องได้ ให้คำแนะนำ มันไม่ได้หมายความว่าต้องทำเป็นทุกอย่าง แค่รู้บ้างจะได้เข้าใจ ไม่ใช่แค่การสั่งให้คนอื่นทำงาน เพื่อเอาผลงานเป็นของตัวเอง พอมีเรื่องก็โยนให้ลูกน้องเพราะเป็นคนทำ ก็นั้นแหละนิคิดว่าตัวเองไม่เก่งขนาดนั้นหลอก นำใครไม่เป็นด้วย ทำเองหมด ยิ่งถ้าเจอลูกน้องแบบตัวเองหล่ะ ตายเลย เจอหัวหน้าแย่ๆ ก็กลัวว่าถ้าตัวเองอยู่ตรงนั้นแล้วจะทำตัวแย่แบบนั้นหรือปล่า ถูกกลืนไปกับสังคมของการแข่งขัน ก็จะกลายเป็น “ว่าแต่คนอื่นตัวเองก็เป็นเหมือนกันแหละ”



Create Date : 08 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2551 13:32:26 น. 0 comments
Counter : 330 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

vember
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add vember's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.