สเต็กปลา
วันนี้จะพาทำเมนู สเต็กปลา และ สเต็กหมู ซอสขาว สูตรทำเองค่ะ แต่ก็อร่อย ปกติที่บ้านไม่ค่อยทานสเต็กปลากันเท่าไร ส่วนมากจะทานสเต็กเนื้อกันมากกว่า บีมไม่ทานหมูแต่ต้องมาทำสเต็กหมูนี้สิ พอดีเนื้อหมูมันแช่ตู้มา 3 วันแล้ว เนื้อสวยๆ เริ่มจะดำ ก็เลยจัดการมาทำสเต็กซะให้หมด เพราะเหลือไว้เดี๋ยวเนื้อเสียหมด เริ่มที่สเต็กปลาก่อนเลยค่ะ ส่วนประกอบ และของที่ต้องเตรียมมีดังนี้ค่ะ1. พริกหวาน เขียว แดง เหลือง2. หอมหัวใหญ่3. พริกไทย4. ไวน์ขาว5. เนยเค็ม หรือ เกลือ6. มันมะกอก7. น้ำมะนาว8. มันฝรั่ง9. แครอท10. พาร์ทลีย์สด11. น้ำสต๊อก12. วิปปิ้งครีม13. เนยจืด14. นม15. เนื้อปลา16. เนื้อหมู17. มายองเนสวิธีทำ สเต็กปลา1. นำปลามาล้างให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง วางในจานที่ใช้กับไมรโครเวฟได้ ทาชิ้นปลาด้วยน้ำมันมะกอกให้ทั่ว 2. สับหอมใหญ่และพริกหวาน3. ผสมเนย มายองเนส หอมใหญ่และพริกหวานสับ น้ำมะนาว เกลือ พริกไทย ในภาชนะ จากนั้นให้เอามาราดที่ชิ้นปลา แบบนี้ค่ะ4. ใช้พลาสติกใสสำหรับทนความร้อนไมรโครเวฟคุมภาชนะ5. จากนั้นนำเข้าอบในไมรโครเวฟ ด้วยไฟแรง high 100 / 3 นาที6. นำปลาออกจากไมรโครเวฟ แล้วกลับด้าน จากนั้นคุมด้วยพลาสติกใส อบต่อ 3 นาที ไฟแรงเท่าเดิมค่ะ 7. ในช่วงที่รอก็มาทอดมันฝรั่งกันค่ะ ทอดพอสุกเป็นสีเหลืองก็ตักขึ้นเสด็จน้ำมันพักไว้วิธีทำซอสขาว1. นำเนยเค็มลงไปผัดในกระทะ2. นำหอมสับลงไปผัดกับเนย3. ผัดหอมสับให้มีกลิ่นพอหอม จากนั้นก็นำพริกหวานสับลงไปผัดต่อสัก 2 นาที เติมไวน์ขาวลงไปในกระทะ แล้วผัดต่อจนกว่าแอลกอลฮอลล์ละเหย4. เติมน้ำสต๊อกผักลงไป5. ใสวิปปิ้งครีมลงไปในกระทะ แล้วคนส่วนผสมให้เค้ากัน ปรุงรสด้วย เกลือ พริกไทย จากนั้นเปิดไฟอ่อนๆแล้วเคียวต่อสัก 5 นาที ชิมรส แล้วใส่พาร์ทลีย์สับละเอียดลงไป เป็นอันว่าเสร็จค่ะ6. จากนั้นก็นำไปราดที่ชิ้นปลา กับ เนื้อหมูตกแต่งจานด้วยผักต้ม เช่น แครอท ข้าวโพด และมันฝรั่งทอด ยกเสิร์ฟค่ะสเต็กหมู ซอสขาว1. ล้างเนื้อหมูให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง แล้วนำมาหมักด้วย เกลือ พริกไทย ไวน์ขาว นมสด สัก 30 นาที ( ถ้ามีเวลา ก็หมักทิ้งไว้นานกว่านี้ จะทำให้เนื้อนุ่มขึ้นค่ะ )2. นำเนื้อหมูที่หมักไว้ ลงไปจี้ในกระทะร้อนๆ พอสุกแล้ว ก็นำมาใส่จาน ตกแต่งด้วยพักต้ม และราดด้วยซอสค่ะเสร็จแล้วค่ะสำหรับมื้อนี้ เสิร์ฟพร้อมข้าวผัดเนย และ มะกาโรนีผัดซอสเนื้อค่ะ อ้อ...ลืมบอกไป วิธีทำน้ำสต็อกผักง่ายๆค่ะ1. แครอท 2. บล๊อกโคลี่3. ขึ้นฉ่าย หรือ ตั้งโอ๋4. หอมใหญ่5. ใบกระวาน6. น้ำเปล่าล้างผักให้สะอาด หั่นเป็นท่อนๆ ใส่ผักทั้งหมดลงไปในหม้อต้ม ประมาณ 30 นาที จากนั้นนำมากกรองด้วยผ้าข้าวบาง ก็จะได้น้ำสต๊อกผักค่ะ อาทิตย์ที่แล้วพี่ยุ่นได้สั่งซื้อเครื่องทำขนมปังจากญี่ปุ่นมา ( ของเล่นใหม่ ) ก็เลยพากันลองทำกินที่บ้าน ง่ายสะดวกดีค่ะ แต่สำหรับมือใหม่อย่างบีมได้ฮากันแหละ รสชาติอร่อยค่ะ แต่ต้องกินตอนร้อนๆออกจากเตาใหม่ๆนะค่ะ อิอิ นี่ค่ะ เจ้าตู้อบขนมปังอบเสร็จแล้วค่ะ ใช้เวลาอบ 4 ชั่วโมงผลงานของพี่ยุ่นเค้าค่ะ 555+ส่วนบีมก็ลองทำเค้กกล้วยหอมวันแรกค่ะ พอดีซื้อกล้วยมาทิ้งไว้ 1 อาทิตย์ จนลืมไปเลยค่ะ มองไปเจออีกที เปลือกกล้วยสุกหงอมหมดแล้วค่ะ จะทิ้งก็เสียดาย ก็เลยลองมาทำเค้กดูค่ะ ปกติเคยแต่ช่วยป้าข้างบ้านที่กรุงเทพทำค่ะ แต่ไม่ค่อยจำเท่าไร ส่วนประกอบทั้งหมดค่ะ คนช่วยทำค่ะ ขยันจริงๆ ตี 4 แล้วยังไม่หลับไม่นอนมาร์มี้ไล่ไปนอนไม่รู้กี่รอบแล้ว แต่ไม่ไปค่ะ จะช่วยอย่างเดียวเลย หลอกกินนมหมดแล้วนึกว่าจะหลับ เหอะๆ เจ้าตัวยุ่งเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการรอ มาทำส้มตำปูม้ากินก่อนดีกว่าค่ะอบเสร็จแล้วค่ะ ไม่ค่อยถูกสูตรเท่าไร หรือว่าลืมใส่อะไร เพราะมันไม่ค่อยฟูเท่าไรค่ะ รสชาติอร่อยค่ะ แต่เนื้อไม่ค่อยแน่น จะลองทำใหม่อีกที ครั้งหน้าไม่รู้จะออกมาเป็นไง อิอิวันนี้พี่ยุ่นจะพาไปกิน หอยยยยยย คร๊าา ( หอยนี้ เจ้าได้แต่ใดมา คริๆ ) หอยเม่นค่ะ หรือที่ร้าน sushi เค้าเรียกว่า uni ( うに ) ตามร้านอาหารแพงมากค่ะ บางคนก็ชอบ บางคนก็ไม่ชอบ แต่ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นแล้ว ชอบกันทั้งนั้นค่ะ ตอนแรกๆที่บีมกิน ไม่ค่อยชอบเท่าไรค่ะ มันรสชาติแปลกๆ กลิ่นฉุนๆ คาวๆ พอกลิ่นเข้าไปมันกลิ่นคาวมันขึ้นจมูกเลยค่ะ พออยู่กับยุ่นนานๆวัน ก็เริ่มชอบแล้วค่ะ สดๆจะอร่อยหวานๆ วันนี้บีมก็เลยซื้อตัวหอย มาเชาะเองซะเลย แหกหอยออกแล้วค่ะ ข้างในหอยก็จะมีเหลืองๆเป็นชิ้นๆติดอยู่ เราก็ชำแระเอาชิ้นสีเหลืองออกมามาดูรีลาะพี่ยุ่นเค้าล้างหอยกันค่ะ 555+ น้ำที่ใช้ล้าง ก็น้ำเย็นๆ ผสมกับเหลือ ให้ได้รสชาติเหมือนน้ำทะเลเลยอ่าค่ะล้างสีดำๆที่ติดมากับหอย ออกหมดแล้ว ก็จะได้สีเหลืองๆแบบนี้ออกมาค่ะ หอย 1 ตัว ได้ 6 ชิ้น ราคา 2.78 $ ถ้าซื้อตามซุปเปอร์ญี่ปุ่น 10$ จะได้ประมาณ 4 ชิ้นอ่าค่ะ แต่เค้าจะล้างทำความสะอาด แพคมาให้อย่างดีเลยค่ะ เราไม่ต้องเสียเวลามานั่งแหกหอยกันเองที่บ้าน 555+ ล้างเสร็จ ก็เตรียมลงมือทานได้เลยค่ะ โดยจิ้มกับ โชยุ ก็อร่อยแล้วคร๊าาา ^^ ตอนแรกว่าจะได้เที่ยวในวันหยุด แต่ดั๊นต้องไปเรียนขับรถฝึกทักษะก่อนวันลงสนามจริงๆ ซะงั้น พอเรียนเสร็จก็พากันเข้าไปในเมือง นานๆจะเข้าไปในตัวเมืองซานฟรานซักที แต่นึกว่าจะได้มีเวลาเดินเที่ยวในเมืองซักหน่อยก็อดไปตามระเบียบรอไปนั่งรอพี่ยุ่นเค้าไปร้านเสริมสวย เอ้ย..เสริมหล่อ ตัดผม ทำสี กว่าจะเสร็จ 2 ชั่วโมง แหนะ แต่นังบีมนี่สิคะ เกือบจะสุก เพราะนั่งรอพี่ยุ่นเค้าในรถ ตั้ง 2 ชั่วโมง แดดร้อนมว๊ากก วันหลังจะนานแบบนี้ก็กระซิบบอกนังเมียให้รู้ด้วยสิคะพี่ยุ่น จะได้เตรียม 2 พีท มาใส่อาบแดดมันซะเลย ขนาดเปิดแอร์ แรงสุดก็ไม่ได้ช่วยอะไรเล๊ยจริ๊งจริงค่ะ จะไปรอในร้าน เอมิลี่ก็ซนซะเหลือเกิน เดี๋ยวลูกค้าที่ร้านเค้าจะรำคาญเอา ก็เลยต้องมานั่งเป็นไก่อบในรถ ทั้งแม่ ทั้งลูกเลยก่อนไปเก็บรูปจาก วันชาติของเมกามาฝากค่ะ พอดีกลับมาจากในเมือง ก็เลยแวะซื้อของที่ TARGET เค้ากำลังจุดดอกไม้ไฟพอดีเลย แต่มันก็อยู่กั้ย ไกล จะเห็นวิวดีๆก็ดันหลังคาบังซะนี้ครั้งแรกที่ได้ดูดอกไม้ไฟที่เมกาค่ะ ที่นี้เค้ามีจุดพุชั่วโมงเดียว ทุกปีจะได้ดูที่โตเกียว คนเยอะมากๆ รถก็จะติด และในรถไฟคนก็จะแน่นกว่าปกติ ( ปกติก็จะแน่นเวลาเร่งด่วยของคนทำงานกันอยู่แล้ว)นักศึกษา วัยรุ่น จะควงกันเดทก็วันนี้แหละค่ะ วัยรุ่นจะชอบใส่ ยูกาตะ และมีพัดเสียบข้างหลังกัน น่ารักเชียว อิอิ ที่ญี่ปุ่นจะมีจุดพุทุกปี ในฤดูร้อน ที่ญี่ปุ่นงานจะเริ่มตอน 6 หรือ ทุ่มหนึ่ง ถึง 3 ทุ่มเลยค่ะ พูดแล้วก็คิดถึงเพื่อนที่โน้นจังปิดท้ายด้วย มาม่าต้มยำกุ้งน้ำข้น รอบดึกค่ะ
ช่ายแล้วแหละเอ้ไม่ได้อัพอะไรเลยอะบีม ช่วงที่ผ่านๆมาก็ยุ๊งยุ่งกะที่โรงเรียนแล้วพอมีคนมาเบรคไม่อยากให้ลงรูปเขียนไรมากเลยขี้เกียจเขียนมันซะเลย เหอๆ แต่ก็ตามอ่านของผู้คนอยู่ตลอดน้า รวมทั้งของบีมด้วย
ตัวเล็กนอนดึกจัง เอ้นี่ซักห้าทุ่มก็ง่วงแล้ว แหะๆ