12 คำถาม เจาะลึกวิกฤติอีโบลา กับ ผอ.ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคสหรัฐ
หลากหลายประเด็น ข้อมูลเจาะลึก วิกฤติอีโบลา จากผอ. ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ ซีดีซี
อีโบลา ในบริบทสำหรับคนไทย เชื่อว่ายังคงเป็นเรื่องราวที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างไกลตัวอยู่มาก แต่ในความเป็นจริงแล้วปัญหานี้เป็นปัญหาที่นานาประเทศกำลังกังวลว่าจะยกระดับความรุนแรงมากขึ้น กว่าที่ผ่านมา นี่ไม่ใช่โรคที่พบขึ้นใหม่ หากแต่เป็นเชื้อมรณะที่มีจุดเริ่มต้นเมื่อปี 1976 ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และไม่เคยหยุดระบาดในพื้นที่ประเทศแถบแอฟริกา นับจนกระทั่งปัจจุบัน นายโธมัส ฟรายเดน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ หรือ ซีดีซี ได้ให้สัมภาษณ์ กับ นิตยสารไทม์ ฉบับวันที่ 3 พ.ย. เกี่ยวกับเรื่องราวเจาะลึก แบบถาม-ตอบ ของเชื้อไวรัสมรณะอีโบลาที่กำลังแพร่ระบาดกลายเป็นวิกฤตที่นานาประเทศให้ความสำคัญ เพราะเป็นปัญหาที่ค่อนข้างร้ายแรงยิ่ง ซีดีซีมีนโยบายหรือท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างไรเมื่อเกิดวิกฤตอีโบลา ? ได้มีการประกาศเตรียมความพร้อมในสหรัฐฯเป็นอันดับแรก แต่ส่วนใหญ่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่คาดไว้ แต่เมื่อเกิดกรณีที่บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ จึงเกิดกระแสความตื่นตระหนกว่าจะเกิดการแพร่ระบาดขึ้น นายโธมัส ฟรายเดน เป็นผู้ที่มีบทบาทในเรื่องนี้เพราะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากท่ามกลางแรงกดดัน เขาพยายามส่งสารไปยังผู้คน โดยยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นในอดีต หลายคนเคยได้ยินว่าไวัรัสสามารถกลายพันธ์ุได้ เป็นไปได้ไหมที่อีโบลาจะกลายพันธ์ุและแพร่กระจายทางอากาศ ? เป็นไปไม่ได้ !! ถึงอีโบลาจะสามารถกลายพันธ์ุได้ก็จริง แต่การแพร่กระจายทางอากาศนั้นเป็นไปไม่ได้ การแพร่กระจายยังคงเกิดขึ้นได้จากสารคัดหลั่ง หรือของเหลวที่หลั่งออกมาจากร่างกายของผู้ติดเชื้อ ซึ่งจะมีความแตกต่างจากไข้หวัดใหญ่ อีโบลาอาศัยการแพร่กระจายผ่านของเหลว เช่น น้ำลาย อุจจาระ เลือด อาเจียน เป็นต้น กล่าวโดยสรุปคือเชื้อไม่สามารถแพร่กระจายในระยะไกลๆได้ ใครบ้างที่สามารถออกมาตรการในการกักตัวผู้ต้องสงสัย-ผู้ป่วยอีโบลา ในสหรัฐฯ รัฐบาลกลาง และรัฐบาลท้องถิ่น จะเป็นผู้ออกมาตรการกักบริเวณผู้ที่อยู่ในกลุ่มสุ่มเสี่ยง ซึ่งมาตรการกักตัวผู้ต้องสงสัย จะใช้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ประเทศในพื้นที่เสี่ยง หรือผู้ที่เดินทางมาจากประเทศดังกล่าว จะต้องอยู่ในข้อบังคับเป็นเวลา 21 วัน ซึ่งเป็นระยะฟักเชื้อ และเป็นระยะเฝ้าระวังไม่ให้ผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ แพร่เชื้อไปยังผู้อื่นในระยะนี้อาจจะกักตัวในโรงพยาบาล หรือ ที่บ้านก็ได้ แนวทางในการรักษาเป็นอย่างไรบ้าง ? สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ใช้วิธีการสังเกตสภาพแวดล้อมมาทดลองทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยและได้ผลเมื่อนำมารักษาผู้ป่วย ซึ่งเริ่มจากการทดลองกับสัตว์ ผลการทดลองคือ ยาสามารถเยียวยาผู้ป่วยอีโบลาได้ในระยะสั้นๆ ส่วนวัคซีนได้มีการทดลองใช้กับมนุษย์ ด้วยการใช้สารคัดหลั่งของผู้ป่วยอีโบลามาใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งองค์กรอนามัยโลก หรือ WHO ได้เริ่มจากการทดลองใช้กับบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่สีแดง เชื้ออีโบลาสามารถติดต่อได้ทางใดบ้าง ? เกิดจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง ทาง เลือด น้ำลาย และ อุจจาระ จากผู้ติดเชื้อโดยตรงหรือโดยการสัมผัสกับเวชภัณฑ์ที่ปนเปื้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเข็มและกระบอกฉีดยา จำเป็นต้องแบนการเดินทางผู้ที่มาจากประเทศในพื้นที่สีแดงหรือไม่ ? เรามีมาตรการอื่นที่ดีกว่าการยกเลิกวีซ่าของผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเหล่านี้ เพราะการกีกกันเช่นนี้จะส่งผลให้เกิดการปล่อยทิ้งให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ติดค้างอยู่ในพื้นที่อันตราย ดังเช่นสหรัฐฯ ที่ใช้วิธีเฝ้าระวังหรือกักตัวผู้ต้องสงสัยเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยจากการติดเชื้อ และการตรวจร่างกาย การตอบคำถาม ที่สนามบิน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่สุ่มเสี่ยงเป็นต้น ถ้าติดเชื้ออีโบลาแล้วครั้งหนึ่ง เป็นไปได้ไหมว่าจะติดเชื้อซ้ำอีกครั้ง? เป็นไปได้ คนเราสามารถติดเชื้ออีโบลาได้มากกว่า 1 ครั้ง เพราะเคยเกิดกรณีเช่นนี้มาแล้ว ที่ผ่านมานักวิจัยยังพบกรณีเดียวกันกับลิงที่ป่วยเป็นอีโบลา และกลับมาป่วยซ้ำสอง เชื้ออีโบลามีจุดกำเนิดมาจากคองโกในปี 1976 เนื่องจากเป็นประเทศด้อยพัฒนา ระบบสาธารณสุขยังไปไม่ถึง และสภาพความเป็นอยู่รวมถึงคุณภาพชีวิตที่ค่อนข้างต่ำ วิกฤตนี้ร้ายแรงถึงขั้น ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่สีแดง ต้องทิ้งถิ่นฐาน เพื่อแสวงหาพื้นที่ที่มีนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ดีกว่า โรงพยาบาลใช้มาตรการยับยั้งการแพร่กระจายเชื้อจากผู้เป็นพาหะอย่างไร ในส่วนของวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จะมีการจัดสรรแบ่งเป็นประเภท เมื่อใช้แล้วจะทิ้งเลย ซีดีซีแนะแนวทางการใช้ชุดคลุมป้องกัน หากมีการสัมผัสกับผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์จะต้องทำการฆ่าเชื้อโรคก่อนออกจากโรงพยาบาลทุกครั้ง หลังปฏิบัติหน้าที่ โรงพยาบาลมีการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน รวมทั้งระบบท่อน้ำทิ้งที่รองรับของเสียจากผู้ป่วยก็มีระบบกำจัดเชื้อ พูดถึงวิกฤตอีโบลาในอนาคต ? ในอนาคตจะมีการพัฒนาอุตสาหกรรมทางด้านเภสัชกรรม ซึ่งเงินทุนเป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันความก้าวหน้าในด้านการผลิตยา และวัคซีนมาใช้แก้ไขปัญหา ทั้งในด้านการรักษาและป้องกันก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละประเทศด้วย มีไม่กี่กรณีที่เกิดการติดเชื้อนอกพื้นที่สีแดง แต่ทำไมคนถึงตื่นตระหนกกับวิกฤตนี้ ? การหวาดระแวงกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งคือธรรมชาติของมนุษย์ แน่นอนว่าเมื่อเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ย่อมมีคนเอามาเปรียบเทียบ หรือหมายรวมว่าปัญหานี้จะบานปลาย และระบาดไม่หยุด ดังเช่น HIV เราจะมีส่วนช่วยวิกฤตอีโบลาได้อย่างไร นานาประเทศสามารถช่วยได้ด้วยการบริจาคเงิน เพราะเงินเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ขอขอบคุณข้อมูลจากนิตยสารไทม์
ที่มา - mthai.com
Create Date : 08 พฤศจิกายน 2557 |
|
4 comments |
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2557 11:08:40 น. |
Counter : 1066 Pageviews. |
|
|
ในไทย ดูจะเหมือนห่างไกล กับอีโบล่า
แต่มาคิดดู คนเดินทางสายการบิน มีโอกาศผ่าน
มาถึงได้ น่ากลัวครับ
ขอบคุณที่แวะไปเยือนที่บล๊อก แม้จะอ่านไม่จบ
ต้องรีบไปทำตามที่ ภรรเมียบอกก็ตาม 555