Khantī paramam tapo tītikkhā [Buddhist Proverbs]
Group Blog
 
 
มีนาคม 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
29 มีนาคม 2558
 
All Blogs
 
'พุทธจักรวาล' - Interstellar พวกเขาในมิติที่ 5

ตอนที่หนัง Interstellar ออกฉาย ผมดูแล้วรู้สึกตื่นเต้นมาก ยิ่งตอนไคลแมกซ์ที่พระเอกลอยอยู่ระหว่างมิติของมนุษย์ (4 มิติ) กับ พวกเขาในมิติที่ 5 เพราะเป็นเรื่องที่ผมศึกษามานาน และได้เขียนไว้ในหนังสือ 'พุทธจักรวาล' ถึง 2 บท คือ มิติที่ซ่อนเร้น และสสารที่ซ่อนเร้น

เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ คิป ธอร์น นักวิทยาศาสตร์ที่ปรึกษาของหนังเรื่องนี้ ได้เขียนไว้ในหนังสือ The Science of Interstellar (ที่สนพ.มติชนนำมาแปลวางจำหน่ายแล้วในตอนนี้) ว่าแนวคิดนี้นำมาจากทฤษฎีของลิซ่า แรนดัล และรามัน ซันดรัม ที่วิเคราะห์ทฤษฎีสตริง/เอ็ม ที่ระบุว่า เอกภพประกอบด้วย 11 มิติ โดยมิติที่สูงขึ้นมานี้ มีลักษณะซ้อนเป็นชั้นๆ โดยสิ่งที่สามารถส่งผ่านถึงกันได้ มีเฉพาะแต่คลื่นความโน้มถ่วงเท่านั้น



ภาพจากหนังสือ The Science of Interstellar


ภาพจากหนังสือ พุทธจักรวาล


ดังนั้น โดยแนวคิดนี้ มนุษย์ปกติไม่สามารถไปที่มิติที่ 5 ได้ เนื่องจาก 'ถูกกักขัง' ในมิติทั้ง 4 คือ กว้าง-ยาว-สูง และเวลา แต่ผกก.โนแลน ก็พยายามสื่อว่า พวกเขาในมิติที่ 5 นี้คือมนุษย์ในอนาคตนั่นเอง ที่หาทางทลายขีดจำกัด คือพูดง่ายๆ ทลายคุกนี้ออกไปในมิติที่ 5 ได้


ที่ผมตื่นเต้นเพราะอะไร เพราะจากการศึกษาข้อมูลในพระพุทธศาสนา ผมพบข้อสรุปบางอย่างครับ


โดยอ้างถึงเบรนที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ตามที่ฟิสิกส์ใหม่นำเสนอแนวคิดนี้ รวมกับปริศนาสำคัญทางฟิสิกส์ตอนนี้เรื่องหนึ่งคือ สสารมืด (Dark Matter) ที่กล่าวโดยสรุปได้ว่า ในแต่ละกาแล็กซีนั้น สสารทั่วไป เช่น คน สัตว์ สิ่งของ น่าจะคิดเป็น 10 เปอร์เซนต์ ของสสารทั้งหมดที่จำเป็นต้องมี เพื่อให้กาแล็กซีเกาะตัวกันได้ นั่นคือ มีสสารที่เป็นอะไรก็ไม่รู้ ไม่สามารถหาได้ด้วยคลื่นแสง ซึ่งมีอยู่ถึง 90 เปอร์เซนต์ โดยรอบแต่ละกาแล็กซีเป็นทรงกลด (ฮาโล)



ถ้าเรานำข้อมูลทางพระพุทธศาสนาไปรวมเพื่อเติมเต็มข้อมูลที่หายไป ผมพบว่า หากเราพิจารณา ภพทั้งสาม และเฉพาะกามภพ เมื่อเทียบกับข้อมูลสสารปกติและสสารมืดทางวิทยาศาสตร์ ก็พบว่าแทบจะเป็นเรื่องเดียวกันอย่างน่าแปลกใจ ดังภาพด้านล่าง

บางส่วนจากหนังสือ พุทธจักรวาล


ข้อมูลเปอร์เซนต์นี้ เช่น เฉพาะกามภพ ประกอบด้วย เทวดา 6, มนุษย์, สัตว์, เปรต, อสุรกาย และนรก 8 รวมเป็น 18 ซึ่งถ้าแบ่งเป็นสสารที่มองเห็นได้คือ 2 (มนุษย์ และสัตวฺ์) ดังนั้น สสารที่ตามองไม่เห็น ก็จะเท่ากับ 16 คิดเป็น 11% และ 89% ตามลำดับ


ถุ้าเราใช้แนวคิด เบรนซ่อนเป็นชั้นจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ มารวมกับข้อมูล สวรรค์อยู่บน นรกอยู่ล่าง ซึ่งห่างกันเป็นชั้นๆ เช่นกัน ก็จะพบว่า ในแต่ละกาแล็กซี จะประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตเป็นชั้นๆ (เฉพาะกามภพ) ดังนี้



ภาพจากหนังสือ พุทธจักรวาล


และที่น่าทึ่งคือ ทั้งสองข้อมูลให้คำตอบที่ตรงกันว่า มนุษย์โดยทั่วไปไม่สามารถข้ามไปในมิติที่สูงกว่าได้ และตามนุษย์มองไม่เห็นพวกเขาในมิติที่สูงขึ้นไป เนื่องจากลักษณะทางกายภาพที่ต่างกัน


ส่วนข้อเสนอของผกก.โนแลนที่กล่าวว่า พวกเขาในมิติที่ 5 คือมนุษย์ในอนาคตนั้น ก็น่าสนใจ เพราะมีข้อมูลในพระพทุธศาสนาเช่นกันที่ระบุว่า เคยมีเหมือนกันที่มนุษย์ขึ้นไปอยู่ในมิติที่สูงขึ้นไปแบบไม่ถาวร ซึ่งเรื่องนี้ผมก็ได้กล่าวถึงในบางแง่มุมในหนังสือ ' พุทธจักรวาล' ในบทอื่นเช่นกันครับ




Create Date : 29 มีนาคม 2558
Last Update : 21 เมษายน 2558 15:46:13 น. 0 comments
Counter : 9019 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อุปนิกขิต
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




อุปนิกขิต น. คนสอดแนม, จารบุรุษ



Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
New Comments
Friends' blogs
[Add อุปนิกขิต's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.