น้ำท่วมกะทูนปี31(ตอน แมลงสาบ)#โชคชัย สุมน

น้ำท่วม#กะทูน ปี’31

                            เรื่องที่คุณไม่เคยได้ยิน

                            ตอน..แมลงสาบ

Cr.Arkkaporn kuepak

ผู้เขียนกลับมานั่งที่ระเบียงหน้าต่างชั้นสองมองน้ำที่เริ่มทะลักท่วมเข้าสนามฟุตบอลของโรงเรียน ก่อนเข้านอน กระทั่งประมาณตี 2หรือตี3 คุณแม่ลุกขึ้นมาจากที่นอน แปลกใจกับจำนวนแมลงสาบนับร้อยๆตัววิ่งพล่านตามพื้นบ้านบางตัวตะเกีย ตะกายตามฝนัง

กะทูน  before&after

ภาพบน    cr.โตโต้ มาเฟีย

ล่าง cr.นสพ.ฐานเศรษฐกิจ

ผู้เขียนเองมั่นใจว่ามันคงขึ้นมาจากพื้นล่างเพราะบ้านผู้เขียนอยู่ในห้องแถว(ตามภาพ)ในตลาดเป็นร้านขายของชำ หลังใกล้ๆกันก็เป็นร้านขายอาหารขณะที่โครงสร้างนั้นเป็นการก่อสร้างแบบโบราณคือยกพื้นที่ห่างจากพื้นดินประมาณครึ่งเมตรทำให้แมลงสาบเข้าไปอาศัยตามพื้นล่าง เมื่อภูเขาถล่ม คนเราอาจไม่ได้ยิน ไม่รู้สึกต่างจากแมลงสาบที่มีสัญชาตญานเตือนภัยมากกว่า

คงไม่แปลก เพราะเคยอ่านเจอในทวิตเตอร์เจอข้อความที่ว่า“แมลงสาบ เกิดเมื่อ 354 - 295 ล้านปีที่แล้ว แมลงสาบเกิดมาก่อนไดโนเสาร์”จากการที่ค้นพบ“แมลงสาบโบราณ”ในอำพัน นั้นหมายความว่าแมลงสาบเอาตัวรอดมาได้ถึงปัจจุบัน ขณะที่ไดโนเสาร์สูญพันธ์ในคืนที่อุกาบาตรถล่มโลก

เวลาตี4ก่อนเช้าวันใหม่ของวันที่22พฤศจิกายนน้ำท่วมพื้นสนามฟุตบอลโรงเรียน และวัดศรีมาราม สูงขึ้น และปริ่มๆสะพานข้ามคลองกะทูน แต่มาหนักสุดช่วงบ่ายสองมวลน้ำทะลักเหมือนเขื่อนแตก ไม้ พัดพาบ้านเรือนจากบ้านเหนือคลองเข้าถล่มหมู่บ้านกะทูน สนั่นหวั่นไหว

cr.photo วิรัตน์ สุมน

การเกิดเหตุการณ์โคลนถล่มหมู่บ้านกะทูนครั้งนี้มีการสันนิษฐานกันว่าเกิดจากฝนตกอย่างต่อเนื่องหลายวัน จนดิน กิ่งไม้ต้นไม้ไหลมาปิดกั้นลำคลองกลายเป็นเขื่อนเล็กๆหลายจุดหลายๆฝาย เมื่อถึงจุดแตกหักฝายเหล่านี้ต้านกระแสน้ำไม่ไหวก็พังลงมา กลายเป็นมวลน้ำมหาศาล

ช่วงบ่ายท้องฟ้ามืดครึม เสียง ภูเขาถล่มผสมกับเสียงบ้านเรือนพังทลาย  ขณะที่ผู้เขียน พร้อมคุณพ่อ คุณแม่ อยู่บนบ้านชั้นสอง ที่ค่อยๆไหลไปตามน้ำหลากอย่างช้าๆ ช่วงเวลานั้น เชื่อว่าโอกาสรอดน่ามีแค่20% เท่านั้นแต่ผู้เขียนพร้อมครอบครัวก็รอดมาได้ ขณะที่นับร้อยชีวิตไม่รอดในคืนวันที่โหดร้าย

เขียนมายาวล่ะ อยากจบแค่นี้ไม่อยากเล่าตอนที่รู้สึกทุกข์ ในห้วงเวลานั้น เพียงแต่อยากบอกว่า การทำให้ทุกข์เบาบางในขณะที่ภัยร้ายถาโถม และสูญเสียนั้น ผู้เขียนได้ ยึดคำสอนของท่าน พุทธทาสภิกขุที่ว่า "เคล็ดลับความสุขคือ รู้จักปลง รู้จักปลด รู้จักปล่อยวาง รู้จักไม่ยึดมั่นถือมั่นมันจึงจะทำให้มีความสุขอยู่ในโลกนี้ได้" อันนี้จริงครับ คอนเฟิร์ม

ภาพประกอบข้างบน ผู้เขียน(คนขวา) ขณะที่เดินเข้าไปในตลาด ซึ่งเป็นบ้านหลังน้ำท่วม4-5วันผ่านไป(CR.ภาพของพี่ชายผู้เขียนเองครับ)ตรงจุดที่ผู้เขียนยืนอยู่นั้นก่อนน้ำท่วมคือกลางลำคลองกะทูน แต่โคลน ทรายมหาศาลทำให้คลองตื้นเขิน

อ่านจากเพจมีคนถามว่า บ้านหลังไหนที่ช่วยชีวิต

คนไว้ได้ราวร้อยชีวิต ความจริงคือเป็นตึก2ชั้นครึ่ง

หลังสีขาวที่เห็นด้วยโครงสร้างแข็งแรงสามารถ

ต้านแรงน้ำได้ แถมยังช่วยให้บ้านฝั่งตรงข้ามไม่

ให้พัดพาไปตามกระแสน้ำและท่อนซุง

เขื่อนกะทูนในปัจจุบัน จะมองเห็น

เสาไฟฟ้าที่รื้อถอนไม่หมดหลังปิดเขื่อน และตรง

ใกล้ๆกันนั้นคือเหมืองแร่เก่าด้านล่างเชื่อว่ายังมี

อุปกรณ์ทำแร่ดีบุก หลงเหลืออยู่ โดยในอดีตกะทูน

มีบริษัททำเหมืองชื่อเหมือนแร่สินดำรง.. เหมืองสยามครับ 

อ่างเก็บน้ำแห่งนี้คงแฝงความงดงามไว้เสมอ

cr.photoสวยๆจากน้อง

#Miin Matinee

ส่วนผู้สนใจด้านท่องเที่ยว สามารถค้นหาข้อมูลของกะทูนในปัจจุบัน จากGoogle ครับเขียนคำว่า#กะทูน หรือ#อ่างเก็บน้ำคลองกะทูน#น้ำตกหนานน้ำฟุ้ง#เขื่อนกะทูน....

#ชิน ชินวุฒ ท่องเที่ยวเมืองคอน

กับ#NaruemonArjpairin

หลังน้ำท่วม อ.พิปูน ได้รับสมญานามว่า

"เมืองสองอ่าง"จากการสร้าง2เขื่อนรองรับภัย

พิบัติอาจเกิดซ้ำรอยคือนอกจากอ่างเก็บน้ำ

กะทูนแล้วยังมีอ่างเก็บน้ำคลองดินแดงหรือ

#เขื่อนห้วยโก

ภาพล่างอาชีพเลี้ยงปลาในกระชังของชาวกะทูนในปัจจุบัน

ปิดท้ายที่ภาพสวยๆงามๆคือบรรยากาศเขื่อนกะทูน

หลังน้ำลดเรียกว่าได้บรรยากาศ "สวิตเซอร์แลนด์

แดนใต้"ทีเดียว

cr.photo

#Sunanta Sampaopol

จากเฟซบุ๊คของน้อง 

                          สวัสดี

Create Date : 24 ตุลาคม 2559		1 comments
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2563 14:18:33 น.
Counter : 5369 Pageviews.
Share Tweet