BlogGang.com : : it ซียู : ครุฑน้อย คอยนุช

มีนาคม 2548

		1	2	3	4	5
6	7	8	9	10	11	12
13	14	15	16	17	18	19
20	21	22	23	24	25	26
27	28	29	30	31

11 มีนาคม 2548

ครุฑน้อย คอยนุช

ครุฑน้อย คอยนุช

เพิ่งดูหมานครจบครับ เลยมีแรงบันดาลใจกลับมาเขียนเรื่องนี้ต่อให้จบ
ไว้มีเวลาจะมาพูดถึงเรื่อง “หมานคร” บ้างครับ แต่ขอพูดตรงนี้นิดนึงว่า หนัง “สุดยอดมาก” เสียดายที่ไม่ได้ดูในโรง :(

(เป็น Blog เชียร์หนังสือ แนะนำหนังสือ ที่อาจเขียนงงๆ หน่อย แต่ก็อยากให้ลองไปซื้อหาอ่านกันนะครับ หนังสือเล่มละ 90 บาทเอง)

ได้ข่าวไหมครับ? ว่าที่บ้านเรามีคนแห่ไปจองหนังสือเด็กยอดฮิตอย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์ (Harry Potter) เล่ม 6 ตั้งแต่หนังสือยังไม่วางขาย (และยังไม่ได้รับการตีพิมพ์ด้วยซ้ำ)

ได้ข่าวไหมครับ? ว่ายังมีสาวกอีกนับหมื่น นับแสนคน ที่ตั้งหน้าตั้งตาเฝ้ารอคอยภาคต่อๆ ไป (เล่ม 12 และ 13) ของหนังสือในตระกูลอย่าง “อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย” (A Series of Unfortunate Events)

แต่เคยได้ข่าวบ้างไหมครับ? ว่ามีเหตุการณ์ประมาณนี้เกิดขึ้นกับหนังสือเด็ก หรือ วรรณกรรมเยาวชนของไทย ให้เวลาคิดครับ ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก... กริ๊งงงงงงง............... หมดเวลา ได้คำตอบกันรึยังครับ?

คิดว่าทุกคนคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว และคาดว่าคำตอบนั้นก็คงจะเหมือนๆ กันเสียด้วยสิ
ว่า “ไม่มีเลย” (ถ้าจะมีก็มีแต่หนังสือที่ดารา นักข่าว หรือบรรดาคนดังทั้งหลายหันมาจับปากกาเขียนเท่านั้น; ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาเหล่านั้นอาจไม่ได้เขียนเองเสียด้วยซ้ำ แต่เป็น “นักเขียนเงา” เขียนให้แทน!)

น่าเศร้านะครับ ที่วรรณกรรมดีๆ ของไทยหลายๆ เรื่อง กลับถูกผู้คนยุคใหม่ สมัยใหม่มองข้ามไป เพียงเพราะ “ความเป็นไทย” ของเรานั้นมันเชยเสียจนไม่ “อินเทรนด์” “ไม่แนว” หรือ“ไม่เซอร์แตกแหวกตลาด” พอที่จะทำให้ใครหลายคนเหลียวหลังกลับมามองได้ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว หากเราลองพิจารณาดูให้ดี ก็จะพบว่า “ความเป็นไทย” ของเรานั้น ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติไหนๆ เลย ……และวรรณกรรมเยาวชนเล่มนี้แหละครับ ที่สามารถเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี กับหนังสือที่มีชื่อว่า “ครุฑน้อย” ^-^

ครุฑน้อยเป็นผลงานจากปลายปากกาของนักเขียนมากฝีมืออย่าง “คอยนุช” หลายคนคงอาจจะคุ้นหู คุ้นตากับผลงานของเธอมาบ้างแล้ว จากหนังสืออย่าง “ฟ้าทะลายโจร” หรือ “หมานคร” ซึ่งทั้งสองเล่มก็ได้ถูกดัดแปลงนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์โดยผู้กำกับยอดฝีมืออย่าง “วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง” แล้วทั้งคู่ เอ….เห็นอะไรเกี่ยวข้องกันไหม? หลายคนคงพอจะนึกออก แต่หากใครนึกไม่ออก ก็ไม่ต้องแปลกใจไปหากผมจะบอกคุณว่า คอยนุช และวิศิษฐ์เป็นสามี – ภรรยากัน!

คอยนุช หรือชื่อจริงว่า “ศิริพรรณ เตชจินดาวงศ์” มีผลงานการเขียนจริงๆ จังครั้งแรกเมื่อสี่ปีที่แล้ว กับนวนิยายเรื่อง “ฟ้าทะลายโจร” โดยได้เขียนขึ้นเนื่องจากสามีสุดที่รัก “บังคับ” ให้เธอเขียน เพื่อหลอกนายทุนว่า “นี่ไง มีเป็นนิยายด้วย” นายทุนจะได้อนุมัติให้สร้างหนังได้ อย่างไรก็ตาม “ผลงานชิ้นถัดมาของเธอ” ไม่ได้ถูกบังคับหรือขู่เข็ญใดๆ ทั้งสิ้น เพราะมันเป็นความตั้งใจ “อยากจะเขียน” ของเธอล้วนๆ โดยเธอได้กล่าวสาเหตุของการ “อยากจะเขียน” นั้นไว้อย่างน่าฟังว่า “ครุฑน้อย ถือกำเนิดขึ้นจากความโกรธและความดีใจของข้าพเจ้า ภายหลังจากที่ได้อ่าน Harry Potter และ Lord of the Rings เป็นความโกรธตัวเองที่หลงใหลภาคภูมิใจวรรณกรรมของชาติอื่นจนออกนอกหน้า และเป็นความดีใจที่วรรณกรรมเหล่านี้ทำให้ข้าพเจ้าระลึกถึงนางอุทัยเทวี พระรถเมรี…….จนทำให้เกิดความฮึกเหิม หาญกล้าที่จะสร้างครุฑน้อยให้มีตัวตน ออกมากระโดดโลดเต้น มอบความสนุกสนานเหมือนเช่นที่คนสมัยก่อนเคยสร้างนิทานพื้นบ้านเหล่านั้นมาให้พวกเรา” และนี่แหละครับ คือต้นกำเนิดของวรรณกรรมเยาวชนที่มีชื่อเรื่องเป็นสัตว์ในวรรณคดีเล่มนี้ ซึ่งผลจากความตั้งใจของเธอ ก็ได้ทำให้หนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัลวรรณกรรมเยาวชน รางวัลพิเศษ “นายอินทร์อะวอร์ด” ประจำปี 2545 อีกด้วย

หลายคนคงแปลกใจว่าวรรณกรรมเล่มนี้ มีอะไรพิเศษกว่าเล่มอื่นหรือ? จึงทำให้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ (รวมถึงทำให้ผมตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้นด้วย)

อ่า… งั้นลองมาฟังเนื้อเรื่องย่อๆ กันก่อนนะครับ “ครุฑน้อย” เป็นหนังสือที่มีโครงเรื่องว่าด้วย “ครุฑน้อย” กำพร้าตัวหนึ่ง ที่มีรูปร่างอัปลักษณ์แตกต่างออกไปจากครุฑตัวอื่นๆ มันมีลำตัวที่เล็กและบอบบาง อีกทั้งปีกเล็กๆ ทั้งสองตรงกึ่งกลางหลัง ก็ลีบผอมเสียจนมองดูคล้ายครีบปลา แถมมันยังมีรูจมูกที่หุบเข้าออกได้อีกต่างหาก ด้วยลักษณะร่างกายที่แปลกประหลาดนี้เลยทำให้มันถูกล้อโดยเพื่อนๆ วัยเดียวกัน แถมครุฑตัวอื่นๆ ในหมู่บ้านก็ยังมองมันอย่างประหลาดๆ อีกด้วย นานวันเข้า สถานการณ์ก็ยิ่งเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อครุฑตัวอื่นในวัยเดียวกับมันผลัดขนเป็นสีแดงสดราวกับเปลวเพลิง แต่ตัวครุฑน้อยยังคงมีขนสีขาวอยู่ ครุฑน้อยเลยต้องพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อให้มันมีขนสีแดงให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเอาลิปสติกสีแดงมาทา หรือถอนขนสีขาวของมันทิ้งซะ แต่ทำยังไง๊ ยังไงก็ไม่สัมฤทธิ์ผล แถมขนที่งอกออกมาใหม่ ยังกลายเป็น “สีดำ” อีก ทีนี้ก็แย่แล้วสิ ครุฑที่ไหนจะมีขนสีดำ!

ชาวบ้านครุฑมองเห็นครุฑน้อยมีลักษณะประหลาดยิ่ง จึงต่างอดสงสัยไม่ได้ว่า “เอ….ตกลง ครุฑน้อย มันเป็นครุฑหรือไก่แจ้กันแน่?” -- ด้วยความประหลาดและเหตุผลบางประการ (ที่ต้องตามอ่านในหนังสือเอง :D) เลยทำให้ครุฑน้อยต้องถูกเนรเทศออกไปอยู่นอกเมือง ต่อมาไม่นาน ครุฑน้อยก็ต้องเจอกับปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นอีก เพราะนอกจากมันจะมีขนสีดำ มีจะงอยปากที่หุบเข้าออกได้แล้ว มันยัง “บินไม่ได้” อีก เอาล่ะสิ ครุฑน้อยก็เอาแต่กลุ้มใจ กลัวว่าจริงๆ แล้วมันจะไม่ใช่ครุฑอย่างที่คนอื่นเขากล่าวหากัน ครุฑน้อยเลยต้องหาทางออก ด้วยการบุกป่าฝ่าดง เพื่อหา “ผู้วิเศษ” สอนมันให้บินให้จงได้ และเรื่องราวหลังจากนี้ ก็เป็นการ “ค้นหา” ของครุฑน้อย -- ค้นหาตัวตนที่แท้จริง ว่าจริงๆ แล้ว “ครุฑ” จำเป็นต้องบินได้, ว่าครุฑต้องมีขนสีแดง, ว่าครุฑต้องไม่ว่ายน้ำแบบปลา, ว่าครุฑต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับนาค เท่านั้นหรือ?

ดูโครงเรื่องย่อๆ แล้ว …หลายคนอาจเห็นว่า หนังสือเล่มนี้ ก็ดูไม่น่าจะแตกต่างจากหนังสือเด็กทั่วไปเลย ก็ดำเนินเรื่องตามขนบทั่วไป แล้วแฝงด้วยข้อคิดสอนใจอย่างที่หนังสือเด็กทั่วไปเค้าทำกัน [เพียงแต่อาจดูซีเรียสกว่าเพราะเป็นการกล่าวถึง “อิสระที่จะแตกต่าง” เรื่อง “การค้นหาตัวตน จนไปถึงการค้นหาขั้นจิตวิญญาณ (Soul Searching)” ] แถมดูเผินๆ แล้วยังคล้ายๆ กับนิทานพวก “ลูกเป็ดขี้เหร่” อีกด้วย แบบลูกเป็ดตอนแรกก็ดูไม่เหมือนชาวบ้าน แต่พอตอนจบ ก็รู้ว่า ที่มันไม่เหมือน ก็เพราะจริงๆ แล้วมันมีดีกว่าชาวบ้านอย่างไรล่ะ….

ครับ หากมองอย่างอคติ ก็สามารถมองได้แบบนั้น แต่หากลองพิจารณาดูให้ดี ก็จะพบว่าความแตกต่าง (ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ และทำให้หนังสือโดดเด่นเป็นอย่างมาก) นั้นมีอยู่ให้เห็นอย่างมากมาย เราจะเห็นว่า
- ผู้เขียนกล้าเหลือเกินที่จะนำเอาเรื่องราวของครุฑที่เราเคยรู้ เคยเห็นผ่านวรรณคดีไทยโบราณตามหน้าหนังสือเรียน มาผสานเข้ากับเรื่องราวแบบสมัยใหม่ โดยไม่กลัวว่าใครจะหาว่า “เธอ” ได้ทำให้ตัวละครในวรรณคดีมีรูปร่างผิดเพี้ยนไป
- ผู้เขียนกล้าเหลือเกินที่จะใช้กลวิธีเขียนสมัยใหม่ที่สอดแทรกปรัชญาชีวิตเข้าไปมากมาย โดยไม่กลัวว่าจะทำให้ “คนอ่าน” รู้สึกเบื่อหน่าย
- และที่สำคัญ ผู้เขียนยังกล้าเหลือเกินที่จะเขียนในรูปแบบที่คนทั่วไปไม่คุ้นชิน โดยไม่กลัวว่า “หนังสือจะขายไม่ออก”

ซึ่งทั้งหมดนี้ คือความกล้าที่จะแตกต่างของผู้เขียนที่น่ายกย่องยิ่ง (โดยที่เจ๋งยิ่งกว่านั้น คือนอกจากผู้เขียนจะกล้าที่จะแตกต่างแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังมีข้อคิดว่า “ให้กล้าที่จะแตกต่าง” อีกด้วย ยกนิ้วให้เลย) แต่แค่นี้หรือ ที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ดูดีขึ้นมาได้ แตกต่างก็อาจไม่ได้ดีเสมอไปมิใช่หรือ?

…..ครับ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้มีดีเพียงแค่แตกต่างแน่ๆ เพราะความจริงแล้ว มันยังมีข้อดีอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลวิธีการเขียน จริงอยู่ที่มันอาจดูมีกลิ่นอายการเขียนสมัยใหม่ไปบ้าง แถมยังไม่ดำเนินเรื่องตามขนบการเขียนทั่วไปอีก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าหนังสือเล่มนี้จะไม่ดี เพราะการไม่ดำเนินตามขนบนั่นแหละครับ ทำให้“ครุฑน้อย” มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ทำให้ตัวหนังสือทุกตัวดูน่าติดตาม เราจะเห็นว่าในทุกๆ บทของหนังสือจะมีหน้าแรกที่แปะคำพูดสั้นๆ ชวนให้ฉุกคิดไว้อย่าง “…..ยังมีสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ ณ ที่ใดที่หนึ่ง….” แค่เริ่มต้นแค่นี้ ก็เพียงพอที่จะดึงดูดให้เราชวนสงสัยไปกับถ้อยคำสั้นๆ เหล่านี้ไม่ได้

หลายคนคงงง ว่าแค่ชวนสงสัย แล้วมันจะดีได้อย่างไร? คำตอบของผมก็คือ เมื่อเรารู้สึกฉงนสงสัยไปกับข้อความเหล่านั้นแล้ว มันก็จะยิ่งทำให้เราตั้งใจอ่านเรื่องราวต่อจากนั้นอย่างใจจดใจจ่อ เพื่อให้เข้าใจว่า “ที่เขาว่ามาน่ะ มันหมายถึงอะไร?”

แต่นั่นยังไม่พอ เพราะแต่ละบท ก็ยังขึ้นต้นด้วยถ้อยคำซ้ำๆ ที่ว่า “ใครๆ ในหมู่บ้านเรียกมันว่าครุฑน้อย” อีก ดูมีเอกลักษณ์ดีไหมล่ะ? กับการเน้นให้ชัดๆ ไปเลยว่านี่คือเรื่องของ "ครุฑน้อย" ที่แตกต่างนะ ซึ่งผมเห็นว่า นี่คือกลวิธีที่ทำให้ทั้งคนอ่านและคนเขียนไม่หลงประเด็นอย่างแยบยล (คนเขียนไม่งงว่าจะเขียนอะไรต่อ และคนอ่านก็จะได้ใจจดใจจ่อสนใจแต่เรื่องของครุฑน้อยเป็นสำคัญ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวจริงๆ) จากนั้นคนเขียนก็จะเล่าเรื่องต่อไปเรื่อยๆ อย่างน่ารักน่าชัง โดยสอดแทรกมุขขำขัน เสียดสี ประชดประชันเป็นระยะๆ (เสียดสีเยอะจริงๆ อ่านๆ ไปแล้วอดฉุกคิดถึงตัวเอง หรือคนรอบข้างไม่ได้) ซึ่งคนเขียนอย่างคอยนุชก็ไม่หลงประเด็นไปกับการเขียนให้สนุกแต่เพียงอย่างเดียว เพราะทุกถ้อยคำในแต่ละบทยังคงสารอันเป็น 'หัวใจ' ของเรื่องไว้อย่างครบถ้วน

“อิสระที่จะแตกต่าง” ได้ตอกย้ำให้เราเห็นในทุกๆ บท ผ่านเรื่องราวที่คนเขียนช่างใจร้ายเหลือเกิน (คุณคอยนุชซื่อสัตย์ต่อตัวละครมากๆ ไม่สงสารคนอ่านบ้างเลย) เพราะเธอได้กำหนดให้ครุฑน้อยมีความแตกต่างจากชาวบ้านในทุกๆ เรื่อง แถมยังกำหนดวิธีจัดการปัญหาอันน่าเศร้าสะเทือนใจให้กับครุฑน้อยอีก (ไม่ว่าจะเป็นการเอาลิปสติกมาทาขนเพื่อให้ขนเป็นสีแดง หรือการโดนครุฑเกเรหลอกว่ามี “ครุฑวิเศษ” สอนให้บินได้ จนครุฑน้อยต้องออกจากหมู่บ้าน ไปค้นหาใน “สิ่งที่ไม่มีอยู่จริง” ) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ใช่ว่าจะแกล้งคนอ่านเล่นๆ เพราะทั้งหมดนี้ ก็อย่างที่บอกไปว่าคนเขียนทำไปเพื่อนำคนอ่านไปสู่บทสรุปอันเป็นสิ่งที่เธอต้องการบอกเล่า – กับการเห็นคุณค่าของตัวเอง ……. แม้จะแตกต่าง แต่เราก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ไม่ต่างไปจากคนอื่นเลย

…..โดยรวมแล้ว หนังสืออาจมีกลิ่นอายวิธีการเขียนสมัยใหม่ไปบ้าง แต่นั่นก็เป็นกลวิธีการเขียนของผู้เขียนที่จะประยุกต์ความเก่าและใหม่ให้เข้ามารวมไว้ด้วยกัน (เพื่อผู้อ่านรุ่นใหม่จะได้ไม่รู้สึกเบื่อจนเกินไป) ซึ่งผมกล้าพูดได้เลยว่า
นี่คือหนังสือที่พอเราอ่านจบแล้ว จะทำให้เราได้ข้อคิดกลับไปมากมาย (ทั้งธีมหลักอย่างกล้าที่จะแตกต่าง หรือธีมรองอื่นๆ อย่างพฤติกรรมแย่ๆ ของการตัดสินคนเพียงผิวเผิน และอื่นๆ อีกมากมาย)
นี่คือหนังสือที่จะทำให้เราย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องราวแบบไทยๆ และรู้สึกอหังการ์ มมังการ์ ในความเป็นไทย
และนี่คือหนังสือที่พออ่านจบแล้ว จะทำให้เราได้ตระหนักว่า แท้จริงแล้ว “อะไรที่เป็นไทยๆ” นั้น ก็ดีเด่นไม่แพ้ชาติไหนในโลกเลย (กับวรรณกรรมเด็กแบบไทยๆ ที่ดีเด่นไม่แพ้ Harry Potter หรืออาร์ทิมิส ฟาวล์เลย)
(นอกจากนี้ ยังให้ความรู้สึกคล้ายๆ กับตอนดูโหมโรงอีกด้วย แบบพอดูจบแล้ว ก็ทำให้เราตระหนักได้ว่า หากเราไม่รู้จัก “รากเหง้า” ของเราแล้ว เราก็จะไม่สามารถพัฒนาและก้าวต่อไปข้างหน้าได้เลย)

ก็ได้แต่หวังว่า สักวัน คงจะมีข่าวว่า “มีคนต่อคิวสั่งจอง สั่งซื้อหนังสือวรรณกรรมเด็กฝีมือคนไทย” บ้างนะ….
แล้วผมจะรอให้วันนั้นเป็นจริง……..

Create Date : 11 มีนาคม 2548

Last Update : 22 มีนาคม 2548 14:17:50 น.

31 comments

Counter : 5956 Pageviews.

มาตรงนี้หลายรอบแล้วหง่า

ขอบคุณนะที่ไปเยี่ยมบล๊อก ไม่ค่อยมีสาระแบบว่ามาสร้างตามเด็กๆ
อิทซียู (พยายามเรียกเป็นชื่อ แต่ดูไม่ค่อยเหมือนเนอะ) มีภาษาที่ดีและมีความคิดที่น่าติดตามมั่ก (คิดดู คนที่เลิกดูหนังฟังเพลงมานานแล้ว ยังมาชมขนาดนี้ อิอิ มองเห้นแต่มาดอนน่าง่ะ เจ๊เค้าชัดเกินไปหน่อย)

โดย: สุภาฯ IP: 202.5.83.61 วันที่: 15 มีนาคม 2548 เวลา:9:47:53 น.


น่าสนใจครับ ไว้จะลองหามาอ่านมั่ง

โดย: underdog (พ่อน้องโจ

) วันที่: 22 มีนาคม 2548 เวลา:0:42:08 น.


เหมือนคนข้างบน

โดย: แบ่งกันเซ็ง

วันที่: 22 มีนาคม 2548 เวลา:1:55:43 น.

ยังไม่ได้อ่านเรื่องนี้เลย
แต่เวลาเห็นคนเข้าคิวกันซื้อ
แฮรี่ พ็อตเตอร์ แล้วก็แอบเซ็ง
(ถึงแม้นมันจะทำให้คนอ่านหนังสือ
กันมากขึ้น )
อ่านกันจน นักเขียน รวยกว่าควีนอลิซาเบ็ท
แล้วนะนั่น
เห็นตอนนี้ก็ตื่นเต้นรอเล่ม 6 กัน
เฮ้อ เราอ่านแฮรี่ เล่ม1 ยังไม่ผ่านเลย
ไม่หนุก
ชอบที่คุณเชียร์วรรณกรรมไทยนะ

โดย: grappa IP: 61.90.15.92 วันที่: 22 มีนาคม 2548 เวลา:7:30:13 น.

อ่านแล้วขำ

อยากส่งหนังสือไปให้อ่าน ถ้าไม่กลัวร้องไห้หรือเป็นบ้า ก็บอกที่อยู่มานะ ที่เมลก็ได้ ที่บล๊อกก็ได้ คงได้จากสำนักพิมพ์ ต้นอาทิตย์หน้าล่ะ

โดย: สุภารัตถะ IP: 202.57.159.30 วันที่: 22 มีนาคม 2548 เวลา:10:17:49 น.


ยังไม่ได้อ่านครับ เมื่อวานไปร้านหนังสือมาก็ไม่เห็นนะ ออกมานานแล้วรึเปล่า หน้าปกน่าสนใจดี น่าอ่านครับ..

โดย: Mint@da{-"-}

วันที่: 22 มีนาคม 2548 เวลา:13:41:16 น.


แหะๆ ไหนๆ ก็ไหนๆ ไม่ขัดศรัทธาคุณสุภารัตถะละกัน ส่งที่อยู่ไปให้หลังไมค์แล้วนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับหนังสือดีๆ ครับ :D

โดย: it ซียู IP: 203.149.29.94 วันที่: 22 มีนาคม 2548 เวลา:14:12:05 น.


อ้อๆ ตอบคุณ Mint@da{-"-} ออกมานานแล้วครับ แต่ผมก็เพิ่งเห็นเมื่อไม่นานมานี้เอง (ที่ B2S กับร้านนายอินทร์น่าจะมีนะครับ)

โดย: it ซียู

วันที่: 22 มีนาคม 2548 เวลา:14:22:08 น.


ง่า...หลังไมค์คืออะไร?? ยังไม่เคยเข้าไปเล่น เล่นไม่เป็นหงะ ส่งมาที่เมลได้เปล่า?? ดีนะ.. ที่แวะมาดู กระทู้นี้..

โดย: ไม่รู้จริงๆ (suparatta

) วันที่: 23 มีนาคม 2548 เวลา:10:59:46 น.


ได้ที่อยู่แล้ว เดี๋ยวหนังสือมาถึง ก็จะส่งไปให้เลย

โดย: สุภารัตถะ IP: 202.57.149.53 วันที่: 23 มีนาคม 2548 เวลา:20:12:10 น.

อ่านแล้ว น่ารักดีนะ
การที่เราไม่เหมือนคนอื่นไม่ได้แปลว่า ไม่ดีเสมอไป
ดั่งครุฑน้อยที่มีขนสีดำ แถมบินไม่ได้
ก็คงเหมือนป้อด ที่ไม่มีหาง
เราต้องมีความสามารถ หรือ ความพิเศษอย่างอื่นทดแทนแน่ๆ
ขึ้นอยู่กับว่า เราจะค้นพบสิ่งนั้นเมื่อไร

โดย: LUNATIC SPACE

วันที่: 22 เมษายน 2548 เวลา:13:07:03 น.

อ่านแล้ว อ่านหลายรอบด้วย ชอบ ๆ

เพือนซื้อให้เป็นของขวัญวันรับปริญญา

แต่ก่อนไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่เพื่อนแนะนำมาเลย

ลองดู ใครมีเรื่องไหน แนะนำ บอกด้วยนะคะ

salanare@hotmail.com

โดย: มะลิ IP: 203.144.227.238 วันที่: 22 มีนาคม 2549 เวลา:12:34:31 น.


ได้อ่านแล้วสนุกมากๆๆเลยน่ะจ๊ะ ให้ความคิดสอดแทรกที่ดีมากด้วย

โดย: ัีyung IP: 125.24.169.5 วันที่: 6 ตุลาคม 2549 เวลา:4:56:19 น.


ได้อ่าน

โดย: นภาพร เอี่ยมเจริญ IP: 125.26.230.30 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:10:59:32 น.


หนูอยากอ่านครุฑน้อยมากที่สุดเลย

โดย: นภัสกร ชมภูศรี IP: 125.26.230.153 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:15:03:13 น.


หนูได้อ่านครุฑน้อยแล้วค่ะ

โดย: นภัสกร ชมภูศรี IP: 125.26.230.153 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:15:05:12 น.


หนูขอบคุณนะค่ะที่ให้หนูอ่าน

โดย: นภัสกร ชมภูศรี IP: 125.26.230.153 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:15:07:01 น.


หนูขอบอ่านอีกไม่ได้หลอ

โดย: นภาพร เอี่ยมเจริญ IP: 125.26.230.153 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:15:08:59 น.


หนูอยากได้หนังสือครุฑน้อย

โดย: นภัสกร ชมภูศรี IP: 125.26.230.153 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:15:10:31 น.


น่าสนใจนะค่ะ

โดย: นภาพร เอี่ยมเจริญ IP: 125.26.230.153 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:15:15:27 น.


มีเกมส์ของครุฑน้อยให้หนูเล่นไหมค่ะ

โดย: นภัสกร ชมภูศรี IP: 125.26.230.153 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:15:19:55 น.


ทำไมคนสมัคมากเลย

โดย: นภัสกร ชมภูศรี IP: 125.26.230.153 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:15:28:41 น.


ทำไมครุฑน้อยไม่เขียนจดหมายมาหารหนู

โดย: นภัสกร ชมภูศรี IP: 125.26.230.153 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:15:33:53 น.


มีเพื่อนมาสมัค1คน

โดย: นภัสกร ชมภูศรี IP: 125.26.230.153 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:15:43:42 น.


หนูมาสมัคใหม่ค่ะ

โดย: ศริพร พุ่มบัว IP: 125.26.230.153 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:15:47:42 น.


หนูมาสมัคใหม่ค่ะ

โดย: ศริพร พุ่มบัว IP: 125.26.230.153 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:15:47:44 น.


หนูอยากอ่านครุฑน้อยเล่ม 2 มีไหมค่ะ

โดย: นภัสกร ชมภูศรี IP: 125.26.229.171 วันที่: 23 ธันวาคม 2550 เวลา:9:38:01 น.


อยากอ่านจังเลยหาซื้อได้ที่ไหนหรอ555+

โดย: ... IP: 58.9.183.30 วันที่: 28 ธันวาคม 2550 เวลา:21:10:47 น.


หนูอ ยากอ่านครุฑน้อยเล่ม 2 มากเลย

โดย: นภัสกร ชมภูศรี IP: 118.172.208.58 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:32:03 น.


เมื่อไรจะมีภาค2ค่ะจะรอ

โดย: หมิวกิ๊ว IP: 118.173.156.229 วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:13:35:51 น.


👍👍👍

โดย: ม IP: 110.170.21.10 วันที่: 10 ตุลาคม 2560 เวลา:9:40:28 น.

it ซียู

Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

Rss Feed

Smember

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

[Add it ซียู's blog to your web]

Bloggang.com