อบอุ่นในอ้อมกอดแม่ของตะวันออก
วันนี้ 6 มิถุนายน เป็นวันเกิดแม่ของตะวันออกนะ
1.
ที่บ้านคล้ายชุมชนแออัด ใกล้สนามบิน จี ไอ โคราช นี่เป็นโทรทัศน์สีเครื่องแรกในย่านนี้เลยตอนนั้น ทั้งที่บ้านอื่นเพิ่งมีโทรทัศน์ขาว ดำ กันและไม่เกินสิบหลังด้วยซ้ำไป
เมื่อก่อน เรากับแม่เราจะยืนอยู่ที่ฝาบ้านป้าที่เป็นซี่ลูกกรง เพื่อดูโทรทัศน์ ยืนเกาะไปดูไป จนละครจบนั่นล่ะถึงจะกลับบ้าน
แต่บ้านไอ้ป๊อปอาย ลูกคุณนายอรวีเจ้าของบ้านเช่ามีทีวีสี เราก็ไปยืนดูที่หน้าต่างบ้านมัน แต่แม่เราไม่ได้ไปด้วย ตื่นตาตื่นใจกับภาพสีในโทรทัศน์ แต่บางทีก็เสียอารมณ์ เมื่อมันเปลี่ยนช่องไปเรื่อย และเฝ้าภาวนาในใจให้มันเปิดช่องนั้นกลับมา
ที่บ้านยกพื้นสูงมีน้ำครำเจิ่งนองอยู่ใต้ถุนบ้าน " ใกล้ได้บรรจุแล้วนะแม่ " พ่อพูดให้กำลังใจแม่ แม่เราเป็นครูฝึกสอน สอบบรรจุเป็นครูได้แล้วเหลือแค่รอสัมภาษณ์ ซึ่งต้องพึ่งพาผู้ใหญ่ เพราะสมัยนั้นขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ว่าจะให้ผ่านหรือเปล่า
" แม่ วันเกิดแม่ปีนี้พ่อจะถอยโทรทัศน์ให้นะ " ประโยคนี้เรียกรอยยิ้มจากแม่และเราได้ทันทีในวันนั้น
พ่อบอกว่าสงสารลูกกับเมีย ที่ต้องไปเกาะฝาบ้านคนอื่น ด้วยเงินเดือนครูจนๆ สองคน กับความขยันของพ่อกับแม่ คงมากพอที่จะส่งค่างวดโทรทัศน์ได้แน่ๆ พ่อเราบอก
2.
" กินข้าวอยู่ จะไปไหนตะวันออก " " ไปบ้านป๊อปอาย " เราตอบในขณะที่ก้าวลงบันได " อย่าเข้าไปในบ้านของคุณนายเค้านะตะวันออก " แม่ตะโกนไล่หลังมา ไม่มีเสียงตอบจากเราเพราะไปถึงบ้านไอ้ป๊อปอายแล้ว
ที่บ้านไอ้ป๊อปอาย โทรทัศน์เปิดทิ้งไว้ คุณนายอรวีไปเดินห้างกับคนใช้ ไอ้ป๊อปอาย ไอ้ป๊อก ไอ้แดงอยู่ในครัว พอพวกมันเห็นเราก็พากันเดินออกมาท่าทางมีพิรุธ " ตะวันออกกินมะขามแช่อิ่มมั๊ย " ถามพร้อมยื่นมะขามให้เรา มะขามแช่อิ่มนี่แพงมากในสมัยนั้น แต่พวกมันมีเป็นถุงใหญ่ ๆ เรารับมะขามมากิน พอกินหมดมันก็ถามอีก แต่คราวนี้ไม่ยื่นให้กิน แล้วก็หัวเราะล้อเราชอบใจกันใหญ่ " ตะวันออกไม่ได้กิน นายนะจน คนจนไม่ได้กิน ฮ้า..." เราไม่พูดอะไร ได้แต่มองผ่านหน้าต่างเข้าไปเพื่อดูโทรทัศน์สีที่เปิดอยู่
เราสังเกตเห็นไอ้ป็อกกับไอ้แดงมีของเล่นแพงๆ อยู่คนละสองสามอัน ซึ่งมันสองคนคงไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อได้แน่นอน แล้วไอ้ป๊อปอายก็เอาเงินออกมาอวดเพื่อน เป็นแบงค์สีแดงหกใบ เยอะขนาดไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าทองสมัยนั้นบาทละแปดร้อยบาท
" ตะวันออกปอกมะละกอให้แม่หน่อยลูก " เสียงแม่ตะโกนเรียก ทำให้เราต้องกลับมาที่บ้าน ยังได้ยินเสียงล้อเรื่องคนจนตามหลังมาแว่ว ๆ
3.
เช้าวันต่อมา คุณนายอรวีตะโกนโวยวายลั่นบ้านว่าเงินหาย แต่ก็จับตัวขโมยได้ เป็น ไอ้ป็อก กับ ไอ้แดง และทั้งสองคนต่างพากันบอกคุณนายว่าเราก็เป็นพวกเดียวกันกับมันด้วย ชาวบ้านมามุงดูกันเต็มเลย เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังอยู่เซ็งแซ่
" พ่อเป็นครู แม่เป็นครู ลูกเป็นขโมย " คุณนายอรวีพูดเสียงดัง พ่อไม่ได้ถามเราว่าเราเอาเงินคุณนายอรวีไปหรือเปล่า แต่พ่อเราถามว่าได้กินมะขามแช่อิ่มกับพวกนั้นหรือเปล่า พอเราตอบว่ากิน พ่อก็เอาก้านมะยมที่เด็ดมาสามสี่ก้านตีที่ขาเรา
เราร้องไห้น้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวดจากก้านมะยม แต่ไม่มีเสียงร้องดังออกมา มือหนึ่งพยายามที่จะจับมือพ่อให้หยุดตี อีกมือหนึ่งลูบขาไล่ความเจ็บปวด เราร้องตะโกนบอกพ่อว่าอย่าตี อย่าตี เราไม่ได้เอาไป เราไม่ได้เอาไป
" ขี้ขโมย เกลียดนักพวกจนแล้วเลวเนี๊ย " ประโยคนี้ของคุณนาย ทำให้แม่เราที่ไม่เคยเถียงหรือด่าใครมาเลยตลอดชีวิต เอ่ยปากโต้ตอบคุณนายทันทีทันใด " ถึงเราจนเราก็ไม่เคยสอนให้ลูกทำชั่ว จำไว้ " คุณนายอรวีอึ้งและเงียบไป ด้วยความอายแกก็พูดเฉไปทวงเงินค่าเช่าบ้านแล้วก็ไล่พวกเราออกจากบ้าน
" ที่ผมตีลูกผม เพราะลูกผมมีส่วนร่วมในของกินที่ขโมยเอาเงินไปซื้อมากิน แต่ถ้าลูกผมไม่ได้เอาเงินคุณนายไป คุณนายต้องรับผิดชอบในคำพูดของคุณนาย " พ่อพูดออกไปทั้งน้ำตา มองมาที่เรากับแม่ ที่มีน้ำตาเหมือนกัน ทำเอาชาวบ้านที่มาดูฮือฮาและพากันคาดเดาคำตอบไปต่าง ๆ นา ๆ
4.
คืนนั้น เรากับแม่ นั่งอยู่ที่หน้าบ้านเช่าหลังใหม่กับกองเสื้อผ้าและของใช้นิดหน่อย เรากับแม่นั่งรอพ่อที่เข้าไปติดต่อขอเช่าบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านเช่าอยู่ในเมือง แล้วฝนเจ้ากรรมก็ตกลงมาทำเอาเปียกโชกกันทั้งแม่ทั้งลูก
เราเสียใจและไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องถูกตี เพราะเราไม่ได้ขโมย ทำไมคนจนต้องถูกมองว่าเป็นคนผิด และทำไมเพื่อนเราไม่บอกความจริงออกมา เราร้องไห้เสียใจ เราไม่สบายเพราะใจเราช้ำ เพราะตอนนั้นเราอายุแค่เก้าขวบเอง น้ำฝนกับน้ำตาของแม่ ไหลมารวมกันกับน้ำตาเรา ในอ้อมกอดอันอบอุ่นของแม่ แม่กอดเราไว้แน่น ร้องไห้ไม่หยุดทั้งสองคน
" เค้าไม่ได้ทำนะแม่ เค้าไม่ได้ทำจริงๆ " " แม่รู้ตะวันออกเป็นเด็กดี ใครไม่เห็นฟ้าก็เห็นลูก "
นอนร้องไห้หลับไปในอ้อมกอดอันอบอุ่นของแม่เรา
*** หลังจากวันนั้นแม่ได้บรรจุเป็นครู เพราะทางผู้ใหญ่ก็รับรู้เรื่องราววันนั้นด้วย และพวกเราก็มีโทรทัศน์ขาวดำดูกัน ซึ่งมาจากน้ำพักน้ำแรงของพ่อเราที่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดของแม่ปีนั้นด้วย
*** คุณนายอรวีคุณรู้แล้วใช่มั๊ยว่าขโมยตัวจริงนะใคร และไม่ว่าคุณอยู่ที่ไหนในโลกนี้ เราอยากให้คุณจำไว้ คนดีคนเลวไม่ได้มาจากความจน ค น จ น ไ ม่ ใ ช่ ค น เ ล ว จำ ไ ว้
Create Date : 06 มิถุนายน 2550 |
|
27 comments |
Last Update : 7 มิถุนายน 2551 14:18:31 น. |
Counter : 883 Pageviews. |
|
|
|
ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงเด้อ