อำลาหอฝิ่นก็มุ่งหน้าเข้าสู่อำเภอเมืองเชียงรายเพื่อชมวัดร่องขุ่น อ้อเคยมาวัดนี้หลายครั้งเพราะอยู่ใกล้บ้าน มาแต่ละครั้งก็ได้เห็นการพัฒนาหลายๆด้านค่ะ ดูเหมือนไอเดียของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ผู้ริเริ่ม จะไม่มีวันสิ้นสุดเลยค่ะ เฮ้อ แต่ก็มีเวลาอยู่ที่นี่แค่สี่สิบห้านาทีเพราะต้องรีบไปขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ จากตารางเดิมจะกลับตอนห้าโมงเย็นกลายเป็นบ่ายสามเพราะพวกเราจะได้ขึ้นเครื่องแอร์บัสวีไอพีกลับจริงๆ ไม่ใช่เครื่องบินรบอย่างตอนขามา อ้อมีเวลาน้อยยิ่งกว่าใครเพราะกลับมาเชียงรายเที่ยวนี้ไม่ได้แวะเข้าบ้านเลย พ่อเลยต้องมาหาที่วัดร่องขุ่นนี้ (บอกแล้วว่าใกล้บ้าน) ระหว่างที่คุยกับพ่อยังอุตส่าห์ได้ยินอาจารย์เฉลิมชัยประกาศต้อนรับคณะของเราและอธิบายการสร้างวัด อาจารย์ไม่ได้พูดถึงความเป็นมาของการริเริ่มสร้าง แต่ก็หาอ่านได้ทั่วไปนะคะ อ้อคิดว่าเอกลักษณ์ของวัดร่องขุ่นคือการประดับทุกยอดแหลม ทุกหน้าจั่ว ทุกชายคา ซุ้มประตูหรือหน้าต่างด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ลวดลายอ่อนช้อยวิจิตรตระการตาสไตล์อาจารย์เฉลิมชัย ไม่เน้นความโอ่อ่าใหญ่โตแต่เน้นความละเอียด และส่วนที่อาจารย์เพิ่มเข้ามาก็เห็นจะเป็นเรื่องของการแบ่งเป็นเขตนรกกับสวรรค์ ให้ผู้มาเยือนเห็นภาพความแตกต่างของสองภูมิ อ้อคุยกับพ่อประมาณครึ่งชั่วโมง เหลือเวลา 15 นาทีก็วิ่งถ่ายรูปเหมือนคนบ้า มาดูค่ะว่าสิบห้านาทีอ้อใช้คุ้มไหม
เฮ้อ โพสท์รูปจนเหนื่อย เป็นไงบ้างคะ 15 นาทีของอ้อ พอใช้ได้ไหม มิเสียแรงที่ทนโหลดเนอะ ถ่ายรูปเสร็จก็วิ่งแจ้นขึ้นรถตรงไปสนามบิน ขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพค่ะ กลับมาก็นอนหลับเป็นตายอยู่สองวันเต็มๆ ทริปนี้สนุกแต่ก็เหนื่อยชมัดเลยค่ะ ยังไงก็รู้สึกว่าคุ้มดีค่ะ เพราะฟรีตลอดงาน ไว้ไปเที่ยวกันอีกนะคะ