. . . ทุกอย่างที่ได้ทำ . . . ทำให้ได้ทุกอย่าง . . . ด้วยความตั้งใจ . . . ก็จะไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ . . .
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
11 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 

ฟ้าประทาน

. . . 20 วัน . . . ที่ชีวิตของเราโคจรมาพบกัน . . .

. . . 5 ก.ค. 2550 : 20.00 . . .
หลังฝนหอบใหญ่ผ่านพ้นไป ระหว่างที่กำลังรีบวิ่งไปขึ้นเรือให้ทันเที่ยวสุดท้าย เพื่อที่จะกลับบ้านเช่นทุกวัน
พลันได้ยินเสียงหนึ่งของสิ่งมีชีวิตกำลังแผดร้องอยู่กลางถนน
กวาดสายตามองหา ในความมืด ก็พบกับลูกแมวตัวเปียกปอนตัวหนึ่ง
โงนเงนชูคอกู่ร้องด้วยความหวาดกลัว
รถยนต์คันแล้วคันเล่า แล่นผ่านไป (มันรอดมาได้หวุดหวิดทุกคันสิน่า)
ทั้งคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ไม่มีใครได้ยินเจ้าบ้างเลยหรือ (แล้วทำไมต้องเป็นตูด้วยฟะ)
อีกคันกำลังแล่นมา คราวนี้เจ้าไม่รอดแน่แล้ว (ยืนงงอยู่พักนึง) รีบกระโดดไปคว้าคอขึ้นมาทันใด
สบตาปิ๊งๆ มาอยู่นี่ได้อย่างไร แม่เจ้าไปไหนกัน เอาไงดีเนื่ย
เห็นสาวสวยนางหนึ่งเดินออกมาจากร้านอาหารแถวนั้นพอดี ถามสักหน่อยดีกว่า ว่าเห็นแม่แมวบ้างไหม
แล้วใยกลับได้คำตอบกลับมาว่า พี่เอากลับบ้านไม่ได้หรอก แล้วเธอก็เดินจากไป . . . เลยงงหนักเลยคราวนี้
ไม่รู้ทำไง โทรไปถามพี่รักษ์ซักหน่อย ว่าทำไงดี (เอ่อตอนนั้นหนูต๊กใจไปหน่อยอ่ะพี่ แหะๆ)
คิด คิด คิด ตัวกระเปี๊ยกเดียวแค่นี้ หิ้วกลับบ้านก่อนก็ได้มั๊ง แล้วเดี๋ยวค่อยตั้งกระทู้หาบ้านกัน
ตลอดทางที่นั่งเรือมา หลับปุ๋ย ไม่ร้องซักแอะ
ระหว่างที่นั่งรอผู้ปกครองอยู่ ก็เจอกับเลือดซึมๆออกมาจากทวาร (มิน่า มันเงียบเชียว)
ชีพจรลงเท้าอีกแล้ว แจ้นเอาไปส่งหมอ
หลังจากหมอได้ดูสภาพแล้ว บอกไม่น่ารอด
ช้ำใน จนท้องเป็นสีม่วงเข้ม เหงือกซีดมาก ก้นมีรอยขีดยาวเหมือนโดนของมีคมบาดมา
เอิ๊ก . . . อุตส่าห์มาเจอ จะปล่อยให้ตายง่ายๆได้ไง
เลยฝากหมอไว้ดูอาการ 1 คืน
ก่อนออกมาจุ๊บหัวจุดไปหนึ่งที บอกให้สู้ๆนะ



. . . 6 ก.ค. 2550 : 8.30 . . . ไปนั่งรอร้านเปิด 1 ชั่วโมง
ก่อนไปทำงานแวะดูสักหน่อย . . . มันรอดมาได้วุ๊ย . . .
ทั้งๆที่เมื่อคืนเครื่องจ่ายน้ำเกลือไม่ทำงาน
ลูกแมวตัวน้อยนอนหลับปุ๋ยถูกจิ้มสายน้ำเกลือเส้นโต
พอตกบ่ายหมอโทรมาบอกว่าต้องผ่าตัด เพราะฟี้ววไม่ยอมฉี่เลย
และตัวก็บวมมากแล้ว
สองทุ่มกว่า เข้ารับการผ่าตัด เอาฉี่ออก แล้วต้องสอดท่อให้ฉี่ที่พุงไปตลอดชีวิต
ครั้งแรกของหมอที่ผ่าตัดลูกแมวตัวเล็กขนาดนี้
ซึ่งไม่สามารถวางยาสลบได้ เดี๋ยวมันไม่ฟื้น สรุปต้องใช้วิธีบล็อกหลัง



. . . 7 ก.ค. 2550 . . .
รีบไปแต่เช้าตรู่ เพราะเมื่อคืนไม่ได้ไปเยื่ยม ไม่อยากเห็นตอนผ่าตัด . . . กลัว
หลับอีกแล้ว มะเป็นไรวันนี้วันเสาร์ รอได้ ไม่รีบ
รอจนตื่น ดูงัวเงีย โงนเงน ตามประสาแมวเด็กที่ป่วย
ได้แต่ลูบหัวเบาๆ ไม่ได้อุ่มมาดูแผลแม้แต่น้อย . . . กลัว


. . . 8 ก.ค. 2550 . . .
ไปจตุจักรเดินหาซื้อกระเป๋าหิ้วใบเหมาะๆ ต้องเหมาะด้วยประการทั้งปวง
เลยเดินวนรอบจตุจักรซะ 3 รอบ ดูแล้วดูอีก จนคนขายงง จะดูอะไรนักหนา
จนได้ใบที่ถูกใจ ก็ร้านแรกที่ดูแหระ
ขนาดเหมาะ ราคาเหมาะ สีถูกใจ รายละเอียดไม่เหมาะเท่าไร แต่ไม่เป็นไร แก้ไขได้
(จ่ายแบงค์พัน แต่มีการถ้ามีแบงค์ย่อยเดี๋ยวลดให้ด้วยอ่ะ เพราะไม่มีทอน)
ก่อนเข้าบ้าน แวะไปดูมันซะหน่อย
วันนี้แหกปากได้แล้ว ดังลั่นเลย
เอาไงดี ร้องทำไมฟระ พอดีเจ้าของกรงข้างๆกันบอกให้อุ้มมาแนบอก
มันจะได้รับความอบอุ่น . . . เอ่อครือ . . . นู๋กลัว
กลัว . . . กลัว . . . กลัว
กลัว . . . มันตัวเล็กมาก จะเป็นไรเปล่า จะจับมันแรงไปไหม
กลัว . . . อุ้มแล้วมันจะเจ็บไหมเนื่ย
กลัว . . . มะมีอกให้แนบ มันแบน (ขำ ขำ คิดในใจ)
อุ้มก็อุ้มฟระ . . . เออเงียบจริงๆด้วย
วางที่เดิม . . . แหกปากหนักกว่าเดิม
หมอเดินมา เลยถามว่ามันหิวหรือเปล่า
หมอบอกเพิ่งป้อนเสร็จก่อนที่จะมาแป๊บเดียว
อ่าว . . . เป็นเด็กขาดความอบอุ่นนี่หว่า
เมื่อวานมีแมวมาผ่าคลอด หมอก็จับไอ่หมาฟี้ววไปเนียนดูดจุ๊บๆ มันก็ดูดๆๆ ได้น้ำนมเหลืองมาหน่อยนึง
(ขอบคุณคุณเจ้าของแมวด้วยก๊าบบบบ)

. . . 9 ก.ค. 2550 . . .
วันนี้เริ่มแปลงร่างเป็นลิง
พออุ้มขึ้นมาก็จะปีนแขน ปีนไหล่ ไปซุกซอกคอ แล้วก็นอนอยู่อย่างนั้น
คงจะอุ่น แล้วเหมือนเดิมพอจับวางก็ร้องอีก
เป็นอันได้เสื้อเปียกกลับบ้านทุกวัน เปียกฉี่มันอ่ะ



. . . 13 ก.ค. 2550 : 19.XX . . .
วันนี้ไปรับฟี้ววกลับบ้าน จริงๆกลับได้ตั้งแต่ วันที่ 10 แต่ไม่อยากหิ้วไปออฟฟิศด้วย เพราะยังไม่แข็งแรงดี เลยฝากหมอไว้ต่ออีกหน่อย
ได้ยาก่อนอาหาร หลังอาหาร และยาทาแผลมาด้วย พร้อมอุปกรณ์ป้อนนม
และนมที่ยังกินไม่หมดกระป๋อง พอถึงบ้านก็กินนมแล้วนอน
ก่อนนอนทายาที่แผลนิดหน่อย จิ้มโดนบ้างไม่โดนบ้าง
เพราะไม่กล้าอุ้มขึ้นมา กลัวมันเจ็บ กลัวแผลด้วย ไม่รู๊กลัวทำไมเหมือนกัน
แล้วจับนอนในตระกร้า ไม่งั้นคงโดนทับแบน

. . . 14 ก.ค. 2550 . . .
นอนหลับยาวจนเช้า เราตื่น ฟี้ววถึงตื่นเพราะเสียงกุกกัก
แหกปากร้อง แง๊วๆ
ดีเลย จับป้อนยาก่อนอาหารซะ ทำหน้างงๆ แล้วก็เงียบ
ได้จังหวะไปอุ่นนม พอร้อนแล้วต้องแช่น้ำให้อุ่นๆอีก ยังไม่ทันจะอุ่นดี
ฟี้ววร้องอีกแล้ว
ป้อนด้วยไซริง สวมไส้ไก่ ตามที่หมอจัดมาให้
กินได้สองหลอด ก็เบือนหน้าหนี
พออิ่มก็หลับต่อ อีก สาม สี่ ชั่วโมง
เราก็ปล่อยให้นอน จริงๆควรปลุกมากินนมทุกๆชั่วโมง

. . . 15 ก.ค. 2550 . . .
วันนี้หมอนัดตัดไหม
แต่พอหมอตรวจแล้วก็ยังตัดให้ไม่ได้
เพราะแผลยังปิดไม่สนิท และก็แฉะมาก
เนื่องจากการที่เราไม่ตั้งใจทายา มัวแต่กลัวแผล



. . . 16 ก.ค. 2550 . . .
เฮ้อ! วันนี้ต้องหอบไอ่ตัวยุ่งนี่ไปทำงานด้วยแล้วล่ะ
บางกะปิ - เพลินจิต
รถเมล์ บ้าง เรือ บ้าง
จับลงกระเป๋าปุ๊บ ปิดประตูบ้าน ออกก้าวเดินปั๊บ
เฮียแกแหกปากร้องทันที คนก็มองกันเต็มเลย
เลยต้องเอานิ้วแหย่ไปให้ดูด ถึงได้เงียบ
แล้วใครเค้าจะเอานิ้วแหย่ให้ได้ตลอดเล่า
พอเห็นว่าหลับแล้วก็ดึงออก ไม่ถึงสิบวิ ร้องอีกแล้ว
ก็เลยต้องเอานิ้วให้ดูดไปตลอดทาง
ถึงออฟฟิศ ป้าตรูดใหญ่ วิ่งมาหาเหมือนเคย
พอวางกระเป๋าลง ป้าเข้ามาดมๆแล้ววิ่งหนี
2 เดือนหลังจากนั้น ป้าไม่มาหาอีกเลย . . . เพราะ งอน!
ที่ออฟฟิศ ต้องรื้อของออกจากลิ้นชักชั้นบน ให้เป็นที่นอน เพื่อหลบแอร์
แต่ถึงอย่างนั้น อากาศก็ยังถือว่าเย็นมากอยู่ดี
ก็เลยไม่ยอมนอน ปีนป่ายไปเรื่อย ยิ่งถ้าไม่เห็นหน้ายิ่งร้องเรียก
เลยต้องอุ้มกันไว้ตลอดเวลา เกรงใจพี่ๆที่ออฟฟิศ
แต่ทุกคนก็ช่วยเลี้ยงเวลาที่เราต้องลุกไปโน่นไปนี่
มีวันนึงต้องออกไปซื้อของข้างนอก
คิดว่าไปไม่นาน คงกลับมาก่อนที่ฟี้ววจะตื่น
แต่ยังไม่ทันจะซื้อของเสร็จ พี่ๆก็โทรมาตาม บอกลูกชายตื่นแล้ว
อาละวาดใหญ่เลย พร้อมกับได้ยินเสียงแหกปากดังลั่นผ่านโทรศัพท์มา
ก็เลยต้องรีบกลับ เฮ้อ! ป่วนจริงๆ
สงสัยจะหลงเสน่ห์ตาใสปิ๊งๆ ของมันเข้าให้
ตอนเย็นแอบหิ้วเข้าห้าง เพราะต้องไปซื้อนม
นมที่หมอให้มาหมดแล้ว
เลือกซื้อเป็นนาผงมาชงเอง เพราะคิดว่าถูกกว่าเยอะและนมกระป๋องฟี้ววคงกินไม่ทัน
(งกไม่เข้าเรื่อง)

. . . 19 ก.ค. 2550 . . .
ตอนเดินทาง ฟี้วว ร้องน้อยลง
คิดว่าคงชินแล้ว (แต่คิดผิดมหันต์)
ฟี้ววเริ่มจะไม่ยอมกินนมแล้ว
ก็เลยลองไปซื้ออาหารเปียกมาแล้วเอานิ้วป้ายให้เลีย
ฟี้ววเอาหน้าไถๆพยายามจะกิน จนหน้าเลอะไปหมดเลย
วันนี้ต้องตัดไหมแล้ว
แผลยังปิดไม่ดีเท่าไร ต้องทายาเรื่อยๆ
ตั้งใจทายามากขึ้น บังคับกันก็ต้องทำ

. . . 21 ก.ค. 2550 . . .
วันนี้มีงานแคทโชว์ ว่าจะเอาฟี้ววไปเดินเล่นซะหน่อย
แต่สุดท้ายต้องเอาฟี้ววไปหาหมอ
เพราะ ฟี้วว ไม่ถ่ายมา สาม วันแล้ว
(เพิ่งคิดได้ว่าควรมาหาหมอ หลังจากที่พยายามหาน้ำลูกพรุนมาให้กิน
ซึ่งมันไม่เป็นผล)
หมอจัดการสวนทวารให้
เดาว่าขาดน้ำ นมที่ชงให้ข้นเกินไป
จริงเพราะเรากลัวสารอาหารไม่พอเลยผสมนมเยอะๆ
เป็นความผิดที่ร้ายแรงมากๆ

. . . 22 ก.ค. 2550 . . .
ตอนเช้าออกไปแคทโชว์ กะว่าจะไปแป๊บเดียว
แค่ฟี้ววหลับตื่นนึง (ประมาณ 3 ชั่วโมง)
แต่พอไปแล้วเห็นที่บู๊ทห้องแมวยุ่งๆก็เลยอยู่ช่วยซักพัก
ตำแยแมวขายดีมากๆ ก็เลยกลับมาเก็บไปให้อีก
และแวะเอาฟี้วว ออกไปด้วยกันอีกรอบ
คราวนี้อยู่จนงานเลิกเลย ไม่เอะใจอีก ว่าฟี้ววหลับนานผิดปกติ
ตลอดบ่ายตื่นแค่ครั้งเดียว

. . . 23 ก.ค. 2550 . . .
เช้านี้ ก่อนออกไปทำงาน เห็นฟี้ววลุกมาเลียเนื้อเลียตัว
ไม่ได้ระวังอะไร
ซักพักฟี้ววกัดสายฉี่ทิ้ง
ไม่สามารถรอร้านหมอเปิดได้ ก็เลยหิ้วไปทำงานด้วยกันก่อน
ตอนเย็นถึงจะแวะเอาไปส่งร้านหมอ
หมอบอกต้องซ่อมแผล
คือผ่าตัดอีกรอบ

. . . 24 ก.ค. 2550 : 14.30 . . .
โทรไปถามหมอ ว่าฟี้ววเป็นไงบ้าง
ได้รับคำตอบว่า เค้าไปแล้ว
เป็นเวลาที่เข้าใจอะไรโง่ๆที่ทำไปทุกอย่าง
ฟี้ววไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเพราะ เป็นการผ่าตัดซ้ำ ครั้งแรกยังไม่แข็งแรงเลย
ฟี้ววไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเพราะ ภาวะขาดน้ำขั้นรุนแรง ที่เรามัวแต่ งก
ไปซื้อนมผงมาชงเอง
ฟี้ววไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเพราะ ร่างกายอ่อนแอมาก ที่ต้องอยู่ในที่หนาวเย็น
สามวันสุดท้ายพึ่งไปหาโคมไฟมาส่องให้ตอนนอน
วันทั้งวันต้องอยู่แต่ในห้องแอร์
ฟี้ววไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเพราะ ความนิ่งนอนใจในหลายๆอย่าง ว่าคงไม่เป็นไร
ไม่ทายาก็คงไม่เป็นไร ป้อนยาแล้วบ้วนทิ้งก็คงไม่เป้นไร ไม่อึทุกวันคงไม่เป็นไร
ฟี้ววไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเพราะ ความกลัว ที่ไม่เข้าเรื่องทั้งหลาย
ฟี้ววไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเพราะ ความละเลยในเวลาที่ผ่านพ้นไปแต่ละวินาที
. . . ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะสั้นเพียงนี้

. . . 11 ก.ค. 2551 . . .
นั่งนึกย้อนไปถึงวันเวลาที่ล่วงเลยมาแล้ว 1 ปี
แต่เหมือนกับพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
ทุกๆวันที่ไปไหนมาไหน ต้องคอยมองบนพื้นถนนตลอดเวลา
ทุกๆวันที่เดินผ่านที่เดิม แล้วน้ำตาต้องไหลริน
ทุกๆวันที่ยังไม่ลืม . . . และคงไม่มีวันที่จะลืม








 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2551
7 comments
Last Update : 17 กรกฎาคม 2551 16:35:01 น.
Counter : 3802 Pageviews.

 

 

โดย: P_ปรัชญา 9 กุมภาพันธ์ 2553 19:48:32 น.  

 

ใจบุญแท้ครับขอให้ผลบุญส่งเสริมคุณให้เจริญก้าวหน้าครับ
อนุโมทนา

 

โดย: มีน IP: 115.67.136.180 22 กุมภาพันธ์ 2553 15:39:32 น.  

 

อ่า.............

 

โดย: แม่น้องกะบูน 6 มีนาคม 2553 16:01:57 น.  

 

ซึ้งในน้ำใจต่อสัตว์ผู้ยาก รู้มั๊ยว่าอ่านแล้วร้องไห้
รู้ว่าความกรุณาต่อสัตว์ มันต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน เทียมฟ้าไม่เคยสนใจสัตว์ เพราะมีภาระอื่นๆมาก
แต่วันหนึ่งต้องมาเจอลูกแมวตัวเล็กแบบนี้ ต่อสู้กับหมาตัวใหญ่ มันสู้สุดชีวิต เราช่วยไม่ทัน แล้วมันก็ถูกกัด สมองบวม ดิ้นตัวลอยตัวลอย อยู่ทั้งคืน เกิดความเวทนา อย่างมากขึ้นในใจ สงสารสุดๆ เลยให้น้องเอาไปหาหมอ
แล้วเราเอากลับมา ป้อนข้าว ป้อนน้ำ เค้าเดินไม่ได้ แต่คุณรู้มั๊ยไม่รู้บุญหรืออะไรที่เรามี เวลาเค้าปวดฉี่เค้าจะเอาตัวอิงกับผนังข้างฝาไปฉี่ที่ห้องน้ำ เข้าทันบ้างไม่ทันบ้าง
ถ้าไม่ทันก็ฉี่หน้าห้องน้ำ เรารู้แล้ว เลยบอกลูกสาวว่าให้เปิดห้องน้ำไว้ ไม่กี่วันเค้าตายอย่างสงบ จากนั้นก็มีแมวที่เราดูเข้ามาให้เราดูแลหลายตัว นอกจากกินข้าวแล้ว พวกเค้าไม่เคยรบกวนเลย กลางคืนถ้าเค้ากลัวหมา ไปฉี่หรืออึ
ข้างนอกไม่ได้ เค้าจะเข้าห้องน้ำทุกตัว
เคยได้ยินเวลาใครด่าแมว ที่ไปฉี่ไปอึที่บ้านของเค้า เห็นชอบด่า ว่าแมวมันจังไร ไปฉี่เรี่ยราด อะไรประมาณนี้
ทำให้เราคิดทันทีว่า ใครจังไร คนหรือแมวจังไร
เรารู้ทันทีเลยว่าเค้าคงไปด่าแมว เราว่าถึงเค้าเป็นสัตว์เค้าก็รู้เรื่อง เรื่องแบบนี้หลวงพ่อจรัญท่านก็ยังมีเรื่องเล่า

 

โดย: เทียมฟ้า (เทียมฟ้า ) 10 มีนาคม 2553 12:18:27 น.  

 

ลืมเลย แจกเมล็ดอะไร เทียมฟ้าขอจองกับเค้าบ้างค่ะ
ศุภมณฑา พรมแสง
322 ม.1 ต.มะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา
จ.ระยอง 21180
ขอบคุณค่ะ

 

โดย: เทียมฟ้า (เทียมฟ้า ) 10 มีนาคม 2553 12:21:44 น.  

 

อ่านเเรกๆตลกดี
อ่านไปอ่านมาน้ำตาไหลเลย
พูก้เลี้ยงเเมวกำพร้าอยู่ตัวหนึ่งค่ะ ชื่อสิงโต ตัวเล็กเท่าในภาพเลย ซึ้งมากค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

 

โดย: Pooh IP: 113.53.24.218 25 เมษายน 2554 12:59:28 น.  

 

อ่านจบน้ำตาไหลเลย

 

โดย: เหมียว IP: 188.165.240.145 29 ตุลาคม 2559 10:49:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อยากเลี้ยงแมว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add อยากเลี้ยงแมว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.