|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เพราะมีนิยาย บนโลกใบนี้
.....บางครั้งความสุขของชีวิตคนเรานั้น มีมากมายหลายหลาก จนไม่อาจนิยามได้ว่าอะไรคือความสุขที่สุด อะไรคือความสุขอันแท้จริง เพราะความสุขก็คงเหมือนความรัก ตรงที่มันออกแบบไม่ได้เหมือนกัน (หรือใครตอบได้...ไม่มีของรางวัลจะให้ นอกจากหัวใจอวบๆของอิป้าเองจ๊ะ อิอิ)
.....บางคนมีความสุขกับการได้ช้อปปิ้งของสวยๆ งามๆ .....บางคนก็มีความสุขกับการกิน โดยการสรรหาของอร่อยๆ มาลิ้มรสในปากเรา .....บางคนก็มีความสุขกับการได้ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ตามโอกาส ตามกำลัง ก็ว่ากันไป .....บางคนก็มีความสุขเพียงแค่ได้อยู่เงียบๆใต้ร่มไม้ ให้ลมพัดเอื้อยๆ ปล่อยใจ ปล่อยอารมณ์ .....บางคนก็มีความสุขกับการถ่ายภาพ เพื่อบันทึกความทรงจำจากประสบการณ์ที่เราเจอ .....บางคนก็มีความสุขกับการมีใครสักคนที่เรารัก เพียงแค่มีเขาอยู่ข้างๆกัน .....และบางคนก็มีความสุขกับการอ่านนิยายเล่มโปรดสักเล่ม บนเตียง บนตั่ง อ่านได้ในทุกที เพียงแค่พื้นที่เล็กที่เพียงพอให้เราได้นั่งกางหนังสืออ่านได้
...
การอ่านนิยายไม่ได้สร้างแค่ความสุข แต่เป็นการฆ่าเวลาอย่างรวดเร็ว จนอยากให้วันหนึ่งมีมากกว่า 24 ชั่วโมง นิยายบางเรื่องถูกนำมาสร้างเป็นละคร แต่โดยส่วนมากคนอ่านนิยาย ก็รักที่จะจินตนาการและดื่มด่ำอรรถรส ของการอ่านตามลำพัง แล้วลงท้ายเราก็มักจะบอกตัวเองว่า "ตอนอ่านหนังสือสนุกกว่า"
ฉันเองเริ่มอ่านนิยายตั้งแต่ตัวเท่าเข่า (โม้สุดๆ...) เอาจริงๆ ก็น่าจะเป็นช่วงนักเรียนสมถวิลคอนแวนด์ แถวๆ ถนนราชดำริ ก็เริ่มติดการ์ตูนญี่ปุ่นตาโต ก่อนจะเริ่มเป็นนิยาย ติดมันงอมแงม อ่านไม่หลับไม่นอน เกือบลงแดง ( คำเตือนตัวเอง ห้ามอ่านเกินวันละ 2 เล่ม )
สมัยนั้นนิยาย ไม่มีมากมายเท่าปัจจุบัน ด้วยความที่มีคุณน้าเป็นคุณครู จึงเหมือนโชคดี ที่ปลูกฝังให้รักการอ่าน ชอบอ่านหนังสือเป็นงานอดิเรก แต่ทั้งนี้มิได้เกี่ยวข้องกับการเรียนดี หรือ หนังสือเรียนแต่อย่างใด น้าซื้อ หลานอ่าน นับเป็นการหมุนเวียนทรัพยากรภายในครัวเรือนอย่างยิ่ง จะเรียกว่าคุณน้าเป็นไอดอลของการอ่านก็ว่าได้ ย้อนไปประมาณ 20 กว่าปีนั้น ส่วนมากนิยายจะลงเป็นตอนๆ ตามนิตยสารรายสัปดาห์อย่าง บางกอก สกุลไทย ทานตะวัน เป็นต้น (โอ๊ะ โอ๋...สาวๆ งงอะดิ นี่มันนิตยสารยุคไหน ชิมิค่ะ)
นักเขียนที่มีจึงล้วนแล้วแต่ทรงคุณวุฒิ อย่าง ป้าโสภาค ป้าโสภี ป้าทม (ทมยันตี) อาจารย์วอ (ว.วินิจฉัยกุล) น้าปิ (ปิยะพร ศักดิ์เกษม) น้าชู (ชูศักดิ์) หรือถ้าจะเอาสาระหน่อยก็แนวของ อาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ อะไรทำนองนั้น เพราะงานเขียนของท่านส่วนมากจะสอดแทรกความรู้ รวมถึงเรื่องราวในประวัติศาสตร์บ้าง แม้แต่ความเป็นอยู่ในยุคสมัยนั้นๆ ซึ่งป้าว่าหากอ่านได้ก็จะรู้สึกสนุก ไม่น่าเบื่อ ชุดสี่แผ่นดิน ไผ่แดง กาเหว่าที่บางเพลง เป็นต้น นอกจากนิยายก็มีอ่านงานเขียนเรื่องสั้น เรื่องยาว ก็มีนักเขียนในดวงใจอีกสองสามท่าน ไม่ว่าจะเป็น พิบูลศักดิ์ ละครพล, วดีลดา เพียงศิริ, เสกสรรค์ ประเสริฐกุล และมีในกรุดวงใจอีก แล้วแต่อารมณ์ใด คิดถึงใคร ก็หยิบเ่มนั้น เรื่องนั้นมาละเลียดอ่านไป ทุกท่านล้วนแต่เป็นมือนิยายระดับขั้นเทพของป้า พูดถึงชื่อนักเขียนแต่ละท่านแล้ว ก็รู้สึกขนลุกเหมือนตัวเองไม่อาจต้านทานแรงโน้มถวงของโลก ความแก่มาเยือน ชะอุ๊ย...บรึ้ย (ไม่เอา ไม่พูด ไม่พูด)
ต่อมาก็เริ่มมีนักเขียนในดวงใจอื่นๆ เข้าวินมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ พี่เอียด(กิ่งฉัตร) พี่ปุ๊ (ดวงตะวัน) คุณชาครียา คุณวรรณวรรธน์ (น้าโตมีร่างทรง "โตมิโต กูโชว์ดะ" แห่งห้องสมุดพันทิพ) คุณกรมาศ คุณคีตาญชลี ก็ด้วย แค่นั้นยัง ยังไม่หนำใจ นักเขียนรุ่นใหม่ ที่เก่งกาจอีกหลายสิบคน ทั้งจากห้องนิยายพันทิบเอย ถนนนักเขียนเอย ก็ทยอยเข้ามาเบียดกันจนจะล้น ทั้งคุณตันหยง, เปียรุส, ครูกี้ (วลีวไล), Clear ice, เมเปิ้ลขาว, นราเกตต์, นลัท, อุรัสยา, Andra, Bookmark, ตัว Z, ป้าหนอน, ณ มน, สิรินดา, ณารา, เนตรนภัต สุดจะเอ่ยได้หมดภายในหน้ากระดาษ B5 ที่ไม่เขียนถึงไม่ใช่ไม่รัก แต่จำไม่หมดจริงๆ นะจ๊ะ.....
โอ้ย...ทำไมฉันรู้สึกแน่นหน้าอก สงสัยเพราะในหัวใจเต็มไปด้วยนักเขียน หากแบ่งใจเป็นแฟลตได้ ขอแบบแฟลตที่ฮ่องกงเลย เพราะซอยยิบได้หลายห้องหน่อย บางครั้งเพื่อนอิป้าในกลุ่มก็มักจะมีนักเขียนคนโน้น คนนี้มาคุย ให้ฟัง บางครั้งเพื่อนก็วิจารณ์ถึงตัวละครนั้น คุยกันซะเหมือนเขาเหล่านั้นมีชีวิตอยู่ในโลกแห่งความจริงนี้ด้วย น่าแปลกว่าการคุยกันของคนที่ชอบในเรื่องเดียวกัน รสนิยมเดียวกัน ทำให้ลืมเวลาไปเลย มันเพลิดเพลิน ไม่ใช่แค่เรื่องนิยายเท่านั้น การพูดคุยถึง เรื่องราวของชีวิตช่วงที่ต้องห่างหายกันไปก็ดูจะมากมาย เหมือนไม่รู้จบ ดูนาฬิกาอีกที ก็รีบไปสตาร์ทรถกลับบ้านใครบ้านมันแทบไม่ทัน อืม...คิดถึงเพื่อนๆ จัง
ก่อนจะถึงโค้งสุดท้าย ฉันรู้สึกว่าโชคดีจัง ที่โลกเดี๋ยวนี้มีอินเตอร์เนต ฉะนั้นก็เลยมีแหล่งนิยายออนไลน์ให้ตามเข้าไปอ่านได้ฟรี แก้เหงาไปเยอะเลย ขอบคุณนักคิด นักเขียนทุกคนที่ช่างเขียน และบางท่านยังใจดีให้อ่านฟรีอีกตะหาก และ ที่มากกว่านั้น ทำให้เราได้ตกหลุมรักกันผ่านตัวหนังสือ...จุ๊บ จุ๊บ
ปล. เขียนบล๊อกนี้ด้วยอารมณ์อิ่มสุข ยิ้มค้าง หลังอ่านนิยายเีื่รื่อง จันทราอุษาคเน่ย์ จบ
ปล.2 บล็อกนี้เป็นบล็อกเก่า แต่เอามาจัดหมวดลงใหม่ ให้ถูกต้องตรงใจ จขบ.ค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาชมบล็อกนะคะ
••*´¨¯¨`*••lll••*´¨¯¨`*••*.:゚‘゚・
+++
นิยายที่ชั้นรกๆ ของ...ป้าเองจ้า (รกได้โล่ห์ )
Create Date : 31 พฤษภาคม 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2552 13:43:06 น. |
Counter : 1096 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
ตอนนี้ ที่บ้าน เต็มไปด้วยกองหนังสือ