ภ า ษ า ไ ท ย วั น ล ะ นิ ด จิ ต แ จ่ ม ใ ส แ ล ะ ไ ฟ ล น ก้ น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก สวัสดีท่านผู้ชมทุกท่านค่ะ กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ กับรายการ "ภาษาไทยวันละนิด จิตรแจ่มใส" ฮั่นแน่...ไม่ต้องงงค่ะ ว่าพิธีกร (มัน) สามารถเอา อะไรต่อมิอะไร มายำรวมกันได้ยังไง ไม่ยากค่ะ...ก็แค่อาศัยความใจกล้า หน้าด้านเข้าไว้แค่นั้นเอง...เห็นมั๊ยคะ ภาษาไทยวันละนิด จิตรแจ่มใสจริงๆค่ะ เข้าเรื่องเลยละกันนะคะ เดี๋ยวจะกินเวลาสปอนเซอร์ไปเยอะ...ขาดทุนกับค่าโฆษณากันอีกค่ะ วันนี้...จะขอนำเสนอสำนวนไทยที่ว่า "ไฟลนก้น" คุณเคยได้ยินกันมั๊ยคะ..สำนวน เอ๊ะ หรือเป็น สุภาษิต ??? พิธีกรเริ่มงงเองแล้วค่ะ... เอาเป็นว่า คำว่า ไฟลนก้น ไม่มีหลักฐานการแจ้งเกิดนะคะ ว่าเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยไหน ซึ่งพิธีกรเดาว่า..มันอาจจะเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยสถาปณาอาณาจักรสุโขทัยก็ได้นะคะ เพราะว่า...สมัยก่อนผู้คนยังไม่ค่อยสันทัดในกรณีการจดบันทึกสักเท่าไร จึงไม่สามารถหาหลักฐานได้ค่ะ ต่อนะคะ..สำหรับสำนวน หรือ สุภาษิต ไฟลนก้น ใช้กันต่อมาอย่างแพร่หลายมากขึ้นหลังจากอาณาจักรสุโขทัยล่มสลาย และถ่ายทอดเข้ามาสู่อาณาจักรอยุธยาตอนต้นสมัยพระพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เห็นได้จาก...มีหลักฐานบอกไว้ในหนังสือวิชาประวัติศาสตร์ไทยชั้น ป.2 ที่กล่าวขานกันว่า..อาณาจักรอยุธยามีความอุดมสมบูรณ์เพราะเนื่องจากมีแม่น้ำไหลผ่านถึงสามสาย ทำให้มีประชาชนในสมัยนั้นมีความอยู่ดีกินดี..พูดง่ายๆก็ไม่อดอยากนั่นแหละค่ะ อยากกินอะไรก็ได้กิน...ตามตำนานกล่าวไว้ว่า นายมี เพื่อนของนายศักดิ์ อยากกินหมูย่าง สองคนจึงไปหาหมูขนาดพอดีตัว ที่เนื้อกำลังแน่น เอามาหันแล้วหนังกรอบน่ากินมาบรรจงเชือดคอ ก่อนที่จะเอาไม้เสียบเข้าไปที่ ตรู๊ดดด -- ของมัน แล้วเอามาค่อยๆย่างกับไฟที่ใช้ถ่านไม่มะค่า ใช้เวลาเผาประมาณ 2 วันครึ่ง หมูจึงสุกได้ที่ กรอบนอก นุ่มใน หอมไปสามบ้านแปดบ้าน แต่ระหว่างที่กำลังจะแบ่งหมูหันตัวน้อยกันอยู่นั้น อยู่ๆนายมีที่นั่งยองๆอยู่ข้างกองไฟ ก็เกิดตาลาย คล้ายจะเป็นลม เพระว่านั่งย่างหมูมานาน ทำให้นายมีเผลอเอาก้นไปจ่อกับกองไฟที่ยังไม่มอด และขยับออกไม่ทัน จึงทำให้ไฟจากถ่านไม้มะค่าลนก้นของนายมีซะเกรียม และนี่เองก็เป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า "ไฟลนก้น" ค่ะท่านผู้ชม สำหรับวันนี้ก็หมดเวลาสำหรับรายการ "ภาษาไทยวันละนิด จิตรแจ่มใส" แล้วนะคะ พบกันใหม่โอกาสหน้า ถ้าสปอนเซอร์ยังให้การสนับสนุน สวัสดีค่ะ เอื๊อกกกกกกกกกกกกก บ้าไปแล้วตรูเอ๊ยยยยย หลังจากเจอกำหนดการส่งงานอย่างที่พอจะเลาๆเองได้ ((ในที่นี้หมายถึง พอรู้มาบ้างว่ามันควรจะต้องส่งประมาณนั้น แต่ทำใจรับไม่ด๊ายยยยซักที)) สติที่มีอยู่น้อยนิด ก็บินจากไปอย่างไม่เหลียวหลัง งานอีกมากมายที่รอเจ้าของงานเปิดขึ้นมาทำ แต่... การเริ่มต้น ((สำหรับฉัน)) มันมักจะยากเสมอ เตรียมตัวนับถอยหลังไปกับ "ไฟลนก้น" กันเถอะค่า........
Free TextEditor
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2554 |
|
4 comments |
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2554 20:06:09 น. |
Counter : 566 Pageviews. |
|
|
|