IES | Felipe Dana/AP Photo รัสเซียได้เรียนรู้อะไรจากบราซิลปีนี้ไปบ้าง
อีก 4 ปีเจอกันที่รัสเซีย!!
ฟุตบอลโลกปีนี้นับเป็นทัวร์นาเมนท์สุดยิ่งใหญ่ที่รังสรรค์ฟุตบอลน่าตื่นตาตื่นใจ และประกอบด้วยสุดยอดเกมที่แสนเร้าใจมากมาย แต่ขณะเดียวกันก็เกิดข้อพิพาทต่างๆ ขึ้นไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้น ก่อนจะถึงฟุตบอลโลกครั้งหน้าในปี 2018 เจ้าภาพรัสเซียควรจะเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากเหตุการณ์ในบราซิลที่เพิ่งผ่านพ้นไป
Rex Features
1) ใช้เทคโนโลยีให้มากขึ้น
เทคโนโลยีโกลไลน์และสเปรย์ล่องหนช่วยให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้นมากในฟุตบอลโลกที่บราซิล สามารถป้องกันความผิดพลาดที่อาจเปลี่ยนเกมได้ทั้งจากนักเตะและกรรมการ ในรัสเซีย หากมีการใช้ภาพรีเพลย์เพื่อดูลูกล้ำหน้าและจังหวะอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนถูกต้อง ก็น่าจะช่วยให้เกมดำเนินไปอย่างยุติธรรมมากขึ้น
Shuji Kajiyama/AP Photo
2) เพิ่มมาตรฐานการตัดสิน
แม้ว่าเทคโนโลยีจะสามารถช่วยผู้ตัดสินได้บางส่วน แต่ก็ยังเห็นได้ชัดว่ามาตรฐานการตัดสินยังไม่เที่ยงตรงพอ หลายครั้งดูเป็นการเกรงใจและเข้าข้างเจ้าภาพ และบางครั้งก็ดูจะตั้งใจปล่อยให้เกมไหลมากเกินไป กับทัวร์นาเมนท์ใหญ่ที่ 4 ปีมีเพียงครั้งเดียว การตัดสินควรจะมีความแน่นอนและมีมาตรฐานกว่านี้
Rex Features
3) กำจัดการพุ่งล้มให้หมดไป
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่แค่กรรมการที่ต้องปรับปรุงในฟุตบอลโลกปี 2018 เหล่านักเตะก็ต้องร่วมด้วยเช่นกัน ปัญหาเรื่องการพุ่งล้มไม่ควรจะเกิดขึ้นในเกมอีกต่อไป ผลพวงจากจังหวะล้มในเขตโทษที่น่ากังขาของอาร์เยน ร็อบเบน ซึ่งออกมาขอโทษและยอมรับว่าได้พุ่งล้มจริงในเกมกับเม็กซิโกรอบ 16 ทีมสุดท้าย กลายเป็นประเด็นปัญหาใหญ่ที่สุดในทัวร์นาเมนท์ที่บราซิล
VANDERLEI ALMEIDA/AFP/Getty Images
4) สั่งแบนการขอแลกเสื้อทั้งที่เกมยังไม่จบ
นักเตะหลายคนคลั่งไคล้ซูเปอร์สตาร์อย่างเนย์มาร์และลีโอเนล เมสซีมากๆ จนถึงกับไปตกลงขอแลกเสื้อในสนามทั้งที่ยังไม่จบครึ่งแรก นี่เป็นพฤติกรรมที่ต้องหยุดไว้เด็ดขาด เพราะมันทำให้ทั้งโค้ชและแฟนบอลรู้สึกว่านักเตะคนนั้นไม่ได้โฟกัสที่เกมเลย เพียงแต่รอแลกเสื้อเท่านั้น
Shinji Akagi/FAR EAST PRESS/Corbis
5) จัดพิธีเปิดให้ดีกว่านี้
ในการแข่งขันโอลิมปิก ทั้งพิธีเปิดและปิดนั้นยิ่งใหญ่ ทรงพลัง และเป็นส่วนที่ตราตรึงใจที่สุดส่วนหนึ่งของการแข่งขัน ขณะที่ในฟุตบอลโลก พิธีเปิดดูจะต้องกลับไปพิจารณาอีกครั้ง เพราะนอกจากจะจืดชืดแล้ว ยังดูเป็นอะไรที่ไม่จำเป็นต่อฟุตบอลเลย หลังจากรัสเซียจัดการแสดงพิธีเปิดสุดประทับใจที่โอลิมปิกฤดูหนาวมาแล้ว พวกเขาควรจะใช้ข้อดีด้านนั้นมาปรับเข้ากับพิธีเปิดฟุตบอลโลกครั้งถัดไปด้วย
Kirsty Wigglesworth/AP Photo
6) แก้ไขเพลงฟุตบอลโลกให้ดีกว่านี้
เช่นเดียวกัน เพลงประจำฟุตบอลโลกปีนี้ก็ฟังดูเหมือนกับบทสวดน่าเบื่อๆ รัสเซียและฟีฟ่ามีเวลา 4 ปีซึ่งมากพอที่จะทำออกมาให้ดีกว่านี้
Felipe Dana/AP Photo
7) ทีมจากเอเชียควรผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์บ้าง
ไม่มีทีมจากทวีปเอเชียเลยที่ผ่านไปถึงรอบน็อคเอาท์ที่บราซิล ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ฟุตบอลโลกปี 1998 ในฟุตบอลโลกที่รัสเซียซึ่งเป็นจุดเชื่อมทั้งเอเชียและยุโรป ควรจะมีตัวแทนจากทวีปเอเชียผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์บ้างเพื่อดึงดูดแฟนๆ จากทั้งสองฝั่งของประเทศ
Ricardo Mazalan/AP Photo
8) ต้องไม่มีการกัด "อีก" เด็ดขาด ทั้งจากนักเตะและแฟนบอล
ทัวร์นาเมนท์ที่บราซิลนั้นเกิดเหตุการณ์ "กัด" ขึ้นถึงสองครั้ง เริ่มจากหลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงอุรุกวัยที่ไปกับจอร์โจ คิเอลลินีในเกมรอบแบ่งกลุ่ม ขณะที่แฟนบอลอังกฤษคนหนึ่งก็ไปกัดหูแฟนบอลชาติเดียวกันหลังจากถูกพูดจาเหยียดผิว ระหว่างการแข่งขันอีกนัดหนึ่ง ฟีฟ่าและทางรัสเซียควรร่วมมือกันควบคุมไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำรอยอีกในปี 2018
Li Ming/xh/Xinhua Press/Corbis
9) ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของทีม
ความขัดแย้งกันเองภายในทีมระหว่างโค้ชและนักเตะของทีมคาเมรูนและกานา รวมถึงที่พวกเขาต้องตกรอบตามกันไป ให้ความรู้สึกคล้ายๆ เหตุการณ์ของฝรั่งเศสในผี 2010 ที่ตกรอบแรกเช่นกัน บรรยากาศที่เคร่งเครียดและความคุกรุ่มภายในค่ายฝึกซ้อมนั้นไม่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จแน่นอน และนั่นหมายถึงแฟนๆ ของพวกเขาจะไม่ได้เห็นเหล่านักเตะในฟอร์มที่ดีที่สุดด้วย ดังนั้นหวังว่าทุกทีมจะมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับมากขึ้นในปี 2018
Victor R. Caivano/AP Photo
10) ให้แฟนบอลออกกล้องน้อยลงบ้าง
ความต้องการของแฟนบอลที่จะได้โบกไม้โบกมือและทำท่าเพี้ยนๆ ออกจอใหญ่ ไม่ว่าทีมของพวกเขาจะชนะหรือแพ้ เริ่มกลายเป็นสิ่งที่ทำลายเกมการแข่งขันในบราซิล และควรหลีกเลี่ยงหากเหล่าตากล้องตั้งใจจะมาถ่ายการแข่งขันจริงๆ และเช่นเดียวกัน การซูมกล้องไปยังสาวสวยข้างสนามก็เป็นสิ่งที่เราควรจะลดๆ ไปบ้างตั้งแต่นี้ไป
Metin Pala/Anadolu Agency/Getty Images
11) เจ้าภาพต้องโชว์ฟอร์มให้ดี
รัสเซียต้องออกจากทัวร์นาเมนท์ตั้งแต่รอบแรกในฟุตบอลโลกปีนี้ ดังนั้น พวกเขาควรจะเร่งเครื่องโชว์ฟอร์มให้ดีกว่านี้ในปี 2018 เพราะการเป็นเจ้าภาพนั้นย่อมได้บรรยากาศที่ส่งเสริมให้ทีมไปไกลกว่าทีมอื่นๆ อยู่แล้ว
Rex Features
12) ทีมจากแอฟริกาควรผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศบ้าง
แอลจีเรียและไนจีเรียโชว์ฟอร์มได้ดีในฐานะทีมจากแอฟริกา อย่างน้อยพวกเขาก็ผ่านถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่บราซิล แต่สำหรับไอวอรีโคสต์ กานา และแคเมอรูน นับเป็นความน่าผิดหวัง ถึงเวลาแล้วที่ทีมจากแอฟริกาจะก้าวสู่ขั้นถัดไปและเอาชนะความท้าทายให้ได้ด้วยการเข้าถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย
Natacha Pisarenko/AP Photo
13) ประตู ประตู และประตู
มีการทำประตูอย่างมหาศาลในบราซิล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทัวร์นาเมนท์นี้เป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนท์ที่ดีที่สุดตลอดกาล หลังจากผ่านพ้นช่วงขาดแคลนการทำประตูในฟุตบอลโลกปี 2006 และ 2010 หวังว่านี่จะเป็นการเริ่มต้นเทรนด์ใหม่ที่จะต่อเนื่องไปยังฟุตบอลโลกที่รัสเซียด้วย
ASUYOSHI CHIBA/AFP/Getty Images
14) เพิ่มบทบาทแฟนบอล ลดบทบาทฟีฟ่า
ฟีฟ่าตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากก่อนทัวร์นาเมนท์ในบราซิลจะเริ่มขึ้น แต่โชคดีสำหรับพวกเขาที่เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น เรื่องนี้ก็จางหายวับไป เพราะเหล่าแฟนบอลในบราซิลนั้นได้รับความสนใจมากกว่า หากว่าเวลา 4 ปียังไม่พอที่ชื่อเสียงด้านลบของฟีฟ่าจะหายไป พวกเขาก็น่าจะฉลาดพอที่จะนั่งอยู่หลังฉากอีกครั้งในทัวร์นาเมนท์ที่รัสเซีย
Silvia Izquierdo/AP Photo
15) พื้นที่แฟนบอล
พื้นที่สำหรับแฟนบอลในบราซิล อย่างเช่นหาดโคปาคาบานาในกรุงริโอเดจาเนโร ถือเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม สามารถรวบรวมแฟนบอลจากทั่วโลกไว้ร่วมกัน ท่ามกลางบรรยากาศสุดคึกคักตลอดทัวร์นาเมนท์ หลายคนต่างกังวลเรื่องการเหยียดเชื้อชาติและสีผิวจากแฟนบอลรัสเซียในประเทศ แต่หากมีพื้นที่แฟนบอลในรัสเซียก็น่าจะเป็นวิธีที่ดีในการรวมผู้คนให้เป็นหนึ่งเดียวกันในฟุตบอลโลก 2018
AFP/Getty Images
16) การมีส่วนร่วมของประเทศเล็กๆ
สิ่งหนึ่งที่ยังขาดไปในฟุตบอลโลก 2014 คือบทบาทของประเทศเล็กๆ ที่ไร้ชื่อ อย่างเช่นน้องใหม่บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกโดยได้รับการจัดอันดับสุดประทับใจให้เป็นที่ 21 ของโลก ดังนั้นหวังว่าชาติเล็กๆ อย่างไอซ์แลนด์และหมู่เกาะเคปเวอร์เด ที่เพิ่งพลาดไปเล่นฟุตบอลโลกที่บราซิล จะสร้างเซอร์ไพรส์และอะไรใหม่ๆ ให้กับทัวร์นาเมนท์ปี 2018 บ้าง
Felipe Dana/AP Photo
17) สรรพสัตว์บนสนาม
เนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่ามากมาย ไม่ว่าหมาป่า กวาง หรือหมีใหญ่สีน้ำตาล ถือเป็นโอกาสสำหรับเจ้าสัตว์เหล่านี้ที่จะฉายแววเป็นสัตว์ดาวเด่นของทัวร์นาเมนท์อย่างตั๊กแตนสีเขียวตัวยักษ์ที่เกาะแขนของฮาเมส โรดริเกซ
Rex Features
18) ความนิยมฟุตบอลในจีนและอินเดีย
ฟอร์มการเล่นของสหรัฐอเมริกา และการตื่นตัวของคอกีฬาชาวอเมริกันที่ตามมาติดๆ นับเป็นสองไฮไลท์ที่โดดเด่นของฟุตบอลโลก 2014 ทีเดียว ดังนั้น จากจำนวนประชากรที่รวมกันแล้วได้ถึง 2.5 พันล้านคน น่าจะถึงเวลาแล้วที่อินเดียและจีนจะมีบทบาทในฟุตบอลโลกบ้าง
ที่มา - //sports.th.msn.com/world-cup-2014