5 เคล็ดลับฝึกภาษาอังกฤษจากการดูหนัง
1. อย่าดูรวดเดียวจบ
ในการดูหนังเพื่อฝึกภาษานั้น ไม่ควรดูรวดเดียวจบโดยไม่พักเลย ควรปล่อยให้สมองได้มีช่วงเวลาพักบ้าง เพราะเวลาดูหนังเพื่อฝึกภาษาเราต้องเพ่งสมาธิและคิดตามมากกว่าการดูปกติ หากตะบี้ตะบันฝืนดูไปเรื่อยๆ จะทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ลดลงโดยใช้เหตุ
กรณีที่เพิ่งเริ่มต้นฝึกภาษา ยังไม่ค่อยเชี่ยวชาญทักษะการฟังมากนัก ควรเลือกหนังที่เคยดูมาแล้วรอบนึงจะดีกว่าค่ะ เพราะคุณจะได้โฟกัสกับการฝึกภาษาได้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงเนื้อเรื่องมากนัก และควรค่อยๆ ไต่ระดับโดยเริ่มจากเลือกหนังที่เข้าใจง่าย ใช้ภาษาไม่ซับซ้อน แล้วค่อยทยอยเพิ่มระดับความยากมากขึ้นตามความชำนาญ
2. ปิดซับไตเติ้ลซะ
การดูหนังพร้อมซับไตเติ้ลภาษาไทย จะทำให้คุณสับสนมากกับศัพท์บางคำมากยิ่งขึ้น เพราะด้วยบริบททางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน บางทีซับไตเติ้ลภาษาไทยก็อาจจะแปลไม่ตรงกับภาษาอังกฤษเป๊ะๆ อีกอย่างหนึ่งคือ พอเปิดซับไตเติ้ลแล้วคนดูส่วนใหญ่ก็จะเผลอตั้งใจอ่านแต่ซับไปโดยอัตโนมัติ ทำให้ประสิทธิภาพในการฟังลดลง แต่สำหรับมือใหม่หัดฟังที่ดูแบบไม่มีซับไตเติ้ลแล้วมึนตึ้บไม่ไหวจะเคลียร์ อนุญาตเปิดซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษเป็นตัวช่วยได้บ้าง แต่นั่นก็อาจจะทำให้คุณได้ฝึกทักษะการอ่านมากกว่าการฟัง
5 เคล็ดลับฝึกภาษาอังกฤษจากการดูหนัง
3. ดูเรื่องหนึ่งหลายๆ ครั้ง
ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ การทำซ้ำหลายๆ ครั้ง เป็นสิ่งที่สมองคนเราโปรดปรานมาก เพราะยิ่งตอกย้ำซ้ำเติมเข้าไปเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งจดจำได้ดียิ่งขึ้นเท่านั้น หากเลือกหนังที่มีบทสนทนาเป็นธรรมชาติ สามารถจดจำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ก็จะดีไม่น้อย และควรเลือกหนังที่ตรงกับความสนใจของเรา จะช่วยให้มีแรงจูงใจในการฝึกมากขึ้น
4. ไม่จำเป็นต้องพยายามเข้าใจทุกคำทุกประโยค
หากต้องการฟังให้เข้าใจทุกคำทุกประโยคแบบเพอร์เฟ็คท์ คุณจะไม่มีวันดูหนังเรื่องนั้นจบ เพราะบางทีแม้แต่เจ้าของภาษาเองเขาก็ไม่ได้เข้าใจทุกคำเป๊ะๆ ขนาดนั้น แค่พอใจจับความให้รู้เรื่องว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไรก็พอแล้ว และลองพูดตามสิ่งที่ได้ยินไปด้วย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟังและยังได้ฝึกออกเสียงให้ใกล้เคียงเจ้าของภาษาอีกด้วย ซึ่งในขณะที่พูดตามนั้น คุณไม่จำเป็นต้องพยายามแปลความหมายของศัพท์ทุกคำ ลองฝึกเดาศัพท์จากบริบทดูบ้าง และถ้าเจอคำศัพท์ที่น่าสนใจก็ค่อยจดเก็บไว้ แล้วนำมาหาความหมายทีหลัง
5. ฟังอย่างตั้งใจไม่วอกแวก
สมัยนี้เรามักชอบทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน นั่งทำงานไปเช็คโทรศัพท์มือถือ เล่นเฟซบุ๊ค เล่นไลน์ไปด้วย แต่ในชั่วโมงของการฝึกภาษา ควรเอาสมาร์ทโฟนไปวางไว้ให้ห่างมือ และตั้งใจโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้เต็มที่ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน แต่เน้นการฝึกต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมออย่าให้ขาด
ขอบคุณและที่มา : //teen.mthai.com/education/82785.html
นอกจากดูหนังแล้ว การอ่านหนังสือและฟังเพลงก็ช่วยได้ค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปชมดอกบัวตองที่บล็อกนะคะ
ดอกบัวตองบานสะพรั่งช่วงนี้จนถึงกลางเดือนธันวาคม ค่ะ