ถนนสายนี้มีตะพาบ ก.ม. 118 : ระลึกความหลัง
"อันความรักมิใช่รักแบบชู้สาว
แต่เป็นรักชั่วคราวแบบเพื่อนๆ
ที่รักกันฉันญาติมิตรมิบิดเบือน
รักแบบเพื่อนเท่านั้นมิปันหทัย"
บทกลอนสั้นๆที่เขียนด้วยลายมือเป็นระเบียบ แม้ไม่สวยงามนัก
แต่ฉันรู้สึกได้ถึงความตั้งใจและบรรจงของผู้เขียน ฉันพบบทกลอนนี้
อยู่ในเศษกระดาษสมุดที่เก่าจนเหลือง เบื้องหลังกระดาษแผ่นนี้นั้น
แปะรูปถ่ายใบหน้าของหนุ่มน้อยคนหนึ่ง ผู้ซึ่งมีไรหนวดบางๆขึ้นเหนือริมฝีปาก
เขาเอียงคอ ยิ้มน้อยๆให้กล้อง ดวงตาเล็กหยี ดูขัดกับคิ้วเข้มๆของเขา
ฉันจำได้ดีว่าฉันได้ตัดบทกลอนนี้มาจากกระดาษจดหมายฉบับหนึ่ง
เป็นจดหมายฉบับแรกและฉบับเดียวของเขา ที่ส่งมาถึงฉันที่บ้าน
โดยทางไปรษณีย์ ในวันหยุดปิดเทอมหน้าร้อนตอนมอสอง
เขาเป็นหัวหน้าห้อง ซึ่งเป็นหัวหน้าห้องที่ไม่เอาไหนเสียเลย
ไม่รู้ว่าใครมันแกล้งยกมือโหวด ให้เขาได้เป็นหัวหน้าห้องในปีนั้น
เขามักจะเข้าห้องเรียนสาย โดดเรียน และไม่ส่งการบ้าน
วันๆฉันเห็นเขาเล่นแต่ฟุตบอล
เวลาที่ฉันว่างจากคาบเรียน หรือเวลาพักเที่ยง
ฉันมักจะหลบมานั่งเหม่อมองออกไปที่สนาม
ไม่ว่าจะจากมุมไหนของของโรงเรียน จากระเบียงชั้นสองจากห้องอาหาร
จากใต้ถุนอาคาร หรือจากโต๊ะม้าหินริมสนาม เมื่อมองไปที่สนามครั้งใด
ฉันจะต้องเห็นเขา วิ่งไล่แย่งลูกบอลกลมๆอยู่กลางสนามเสมอๆ
ใบหน้าของเขาดูเคร่งเครียด จริงจัง เหงื่อที่ไหลชุ่มโชก
ชายเสื้อนักเรียนสีขาวหลุดรุ่ยจากขอบกางเกงสีกากี
เขาดูแข็งแรงและมีชีวิตชีวา เขาดู.....น่ามอง....และ....
เอิ่ม.....ฉันเล่าถึงไหนแล้วนะ อ้อ...เขาเป็นหัวหน้าห้องที่ไม่เอาไหนใช่มั๊ย
ดังนั้นฉันจึงเขียนโน๊ตใส่กระดาษสมุดไปเตือนเขา ถึงการกระทำ
ที่ดูไม่เหมาะสมกับการเป็นหัวหน้าห้อง และแนะนำให้เขาปรับปรุงตัว
ใช่...ฉันเขียนจดหมายไปต่อว่าเขาและลงท้ายจดหมายว่า
ด้วยรักและหวังดี ลงชื่อ xxx พร้อมกับเขียนสัญลักษณ์หน้ายิ้ม :)
หลังจากนั้น...ฉันก็จำได้ไม่แน่ชัดนักว่าเขาเริ่มรู้ได้อย่างไรว่าจดหมายมาจากฉัน
ฉันแค่เขียนชื่อเล่นที่ไม่มีใครรู้จัก และแค่พยายามเขียนสัญลักษณ์หน้ายิ้ม :)
ลงบนปกสมุด และปกหนังสือทุกเล่มก็แค่นั้นเอง เขารู้ได้ไงน๊าาา..เก่งจัง
แล้วจู่ๆวันหนึ่ง เขาก็เดินมาขอยืมหนังสือเรียนจากฉัน อ้างว่าลืมเอามา
และวันรุ่งขึ้นเขาก็เอามาคืน พร้อมกับจดหมายน้อยๆที่แอบสอดมาในหนังสือ
ซึ่งฉันเพิ่งมาเห็นในภายหลังว่า หน้าที่เขาสอดจดหมายไว้นั้น
เขาได้เขียนคำว่า"ตู้จดหมายของเรา" (หรืออะไรประมาณเนี๊ย จำไม่ได้ละ ^^)
ไว้ที่มุมของหน้าหนังสือ น่ารักมุ๊งมิ๊งมากเลย.. ^^
เราคุยกันทางจดหมายได้ไม่กี่ครั้ง พูดคุยกันจริงๆไม่กี่หน (ซึ่งสั้นมากๆ)
แล้วฉันก็ได้รับรู้ว่า เขากำลังคบ และคุยอยู่กับนักเรียนหญิงอีกคนหนึ่ง
ซึ่งอยู่คนละห้องกับเรา แต่เขาไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ
ไปกินข้าวด้วยกัน เรียนลูกเสือด้วยกัน(หล่อนเรียนเนตรนารีส่วนฉันยุว)
กลับบ้านพร้อมกัน และอาจจะทำอย่างอื่นๆด้วยกันอีก...
นั่นเป็นสาเหตุนึงที่ฉันคุยกับเขาน้อยลง จากที่น้อยอยู่แล้วอ่ะนะ
จนเราเลิกคุยกัน และห่างกันไปในที่สุด (เพราะย้ายห้องตอนมอสามด้วยแหล่ะ)
ฉันเองไม่เคยคิดว่าความสัมพันธ์ในครั้งนั้น จะเรียกว่า ความรัก
หรือเรียกว่า เป็นแฟนกันได้หรอกนะ ก็แค่เพื่อน หรือคนพิเศษไรงี้
ก็แค่เสียใจ นอนร้องไห้ขี้มูกโป่ง และใช้เวลาในการลืมเขาแค่ปีเดียวเอ๊ง...
ฉันเก็บกระดาษแผ่นนั้นกลับเข้าที่เดิม (อย่างดีด้วย)
เคยคิดจะทิ้งเสียก็หลายครั้ง แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม มันยังคงอยู่ที่เดิม
อยู่ในซอก อยู่ในกล่อง ถูกเก็บมิดชิด อยู่บนชั้นในตู้
รอเวลาให้ฉันรื้อมาเจอ มาอ่าน มาระลึกความหลัง ครั้งเยาว์วัย
เฮ้อ....อยากกลับไปอายุ 14 อีกครั้งจัง......
คุยกันท้ายเรื่อง :
ท่านหญิงฯห่างหายงานตะพาบไปนานมากกกกกกเลย คิดถึงทุกคนมากๆนะคะ
โจทย์วันนี้ไม่ยาก เลยขอร่วมแจมเสียหน่อย พอดีช่วงนี้กำลังระลึกความหลัง
เขาว่ากันว่าคนที่ชอบนึกถึงความหลังนี่แสดงว่าเริ่มจะแก่แล้ว จริงไหมนะ หุหุ
รักนะจุ๊บๆๆ
Create Date : 21 พฤศจิกายน 2557 |
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2557 11:41:36 น. |
|
24 comments
|
Counter : 2118 Pageviews. |
|
|
ทำให้นึกถึงตอนวัยรุ่นเหมือนกัน แหะ ๆ
แอบมอง รุ่นพี่ที่อายุน้อยกว่าครับ