วันที่ สาม
1. Champs-Élysées & Arc de Triomphe ถนนฌ็องลิเซ่ และประตูชัยนโปเลียน
2. Grand Palais des Champs-Élysées
3. Petit Palais วังเปอตี
4. Concorde Square / Place de la Concorde
5. Eglise de La Madeleine
6. Louvre Museum / Musée du Louvre
Metro...Colonel Fabien(ที่พัก) --- Charies de Gaulle Étoile
Champs-Élysées & Arc de Triomphe
เช้านี้ฝนไม่ตก แต่ยังคงความเหน็บหนาวไม่มีเปลี่ยนแปลง พอเดินออกมาจากสถานีก็มองเห็นเลย เพราะว่ามันใหญ่โตมโหฬารสูงสง่า
ก่อนที่จะกลับไปเดินดูที่อื่นต่อ ก็ไปเจอเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเจอกับตัวเองเข้าจนได้ นั่นก็คือโดดลวงกระเป๋า เหตุเกิดตอนที่กำลังเดินกลับเข้าอุโมงค์ ญาติ ๆ ได้เดินนำหน้าเราไปไกล เพราะเรามั่วแต่อ่านโน้นนี่นั้น ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย มือก็ถือโทรศัพท์ไว้คอยถ่ายรูป ที่คอก็คล้องกล้องถ่ายรูปไว้
เดินผ่านทางอุโมงค์
ในกระเป๋าก็จะมีแค่กระเป๋าตังค์ใบเล็กที่มีเงินแค่ 50 ยูโร,บัตรเครดิต,บัตรเอทีเอ็ม พาสปอร์ต ที่เรายัดใส่กระเป๋าเล็กแยกไว้ด้านในที่มีซิปปิดกั้นอีกทีหนึ่ง ส่วนพวกน้ำ แซนวิส กระดาษทิชชูและของอื่น ๆ อยู่ในกระเป๋าใหญ่ ช่วงจังหวะที่รีบวิ่งก้าวขึ้นบันไดไปนั้น ก็เหมือนมีความรู้สึกว่าโดนผู้ชายวัยรุ่นพยายามเบียดเพื่อจะเดินผ่านไป เราเลยหันไปมองแว๊บเดียว แล้วเลี้ยวตัวหลบทางให้เดินผ่านไป แต่มันก็ไม่ได้เดินไป เราก็แค่คิดสงสัยว่า คนก็ไม่เยอะจะมาเดินเบียดทำถ้วยไรของมัน ก็เดินไปได้แค่ 2 ก้าวบันได ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงเอะอะทางด้านหลัง เสียงเหมือนญาติเราเลย หันไปดู...อ้าว !! ญาติตรูยืนชี้นิ้วใส่เด็กผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตาแบบโกรธจัดตะโกนเสียงดังและเอาเรื่องมาก ๆ บอกเด็กคนนั้นประมาณว่า " มรึงกำลังทำอะไรของมรึง, มรึงจะทำอะไร, มรึงระวังตัวให้ดี, มรึงอย่าเชียวนะ " แล้วบอกให้เราตรวจดูกระเป๋าว่ามีอะไรหายไปบ้าง เราตรวจดู มันกำลังจะปลดเชือกที่มันปากกระเป๋า แต่ก็ไม่มีอะไรหายไป
สะพายแบบเนี่ยเลยโดนล้วงกระเป๋า
เด็กหนุ่มคนนั้นทำหน้าทำตาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กับยืนจ้องมองเราและญาติเราแบบไม่อาย ไม่มีหลบ เพื่อนมันที่มาด้วยกันอีกสองคน ทำท่าเเกล้งไปกระโดนถีบเด็กคนนั้นประมาณว่ามรึงทำอะไรลงไป มรึงจะขโมยของเค้าเหรอ แต่ไม่เนียนขอบอก ดูออกว่าแกล้งทำแกล้งกระโดดถีบ ก็พวกมันมาด้วยกัน พวกมันคงไม่ได้สังเกตุและคิดว่าเรามาคนเดียว เพราะช่วงจังหวะที่วิ่งตามญาติไปจนเดินคู่กันห่าง ๆ แต่เราทั้งสองคนไม่ได้ทักหรือหันไปคุยกัน ต่างคนต่างเดินเพื่อออกสู่ถนน พวกมันก็เลยคิดว่าเรามาคนเดียวแน่ ๆ จึงกล้าทำได้ขนาดนี้
จากถนนซฌ็องเซลิเซ่ เราเดินตรงไปเรื่อย ๆ จะมองเห็นชิงช้ายักษ์ไกล ๆ จุดหมายคือเราจะไปที่นั้น ระหว่างทางก็จะต้องผ่านสถานที่สองแห่งนี้
Grand Palais des Champs-Élysées / พิพิธภัณฑ์วังแกรนด์
Petit Palais / วังเปอตี
ทั้งสองแห่งนี้มันสุดบรรยายความใหญ่โตจริง ๆ บิ๊กไจแอนด์ เอามาก ๆ ทำยังไงก็ถ่ายออกมาไม่ได้สวยจะมุมไหน ๆ พยายามมากมายกายกอง
Grand Palais des Champs-Élysées / พิพิธภัณฑ์วังแกรนด์
กะว่าจะเข้าไปข้างในก็เข้าไปไม่ได้เพราะติดซ่อมแซมด้านนอกหน้าประตูทางเข้า ก็เลยต้องเดินไปรอบ ๆ จะเจอสวนสาธารณะเล็ก ๆ มีที่นั่งมีกี่ตัว นั่งพักผ่อนสักแป๊บ แล้วก็ย้อนกลับมาเพื่อเดินเข้าไปที่วังเปอตีต่อ
Petit Palais / วังเปอตี
เดินเข้าไปข้างใน มีตรวจกระเป๋าเล็กน้อย ถ่ายรูปได้แต่ห้ามใช้แฟลต เดินไปดูทางด้านหลังก็เลยได้นั่งดื่มชาร้อน ๆ จิบกินให้หายหนาว และแล้วฝนก็ทำท่าเริ่มจะตกลงมาอีกแล้ว
ด้านหลังวังเปอตี มีร้านกาแฟ
มีต้นกล้วยด้วย
แล้วเราก็เดินต่อไปยังจุดหมายต่อไปนั่นก็คือเจ้าชิงช้ายักษ์ ทางที่เราเดินผ่านเค้ากำลังจัดเตรียมงานวันคริสมาสเต็มสองข้างทางเดิน รู้สึกอยากจะกลับไปอีกรอบจังช่วงเวลาปีใหม่ เพราะทั้งถนนทั้งสองข้างเตรียมจัดงานกันอย่างใหญ่โตแน่ ๆ น่าเสียดาย
Concorde Square / Place de la Concorde
เดินสำรวจไปรอบ ๆ แต่ยังไม่ได้ข้ามถนนไปยังชิงช้ายักษ์นั้น เพราะตั้งใจจะไปที่อื่นต่อไกล้ ๆ กัน
จากจตุรัสค็องคอร์ด เราเดินแยกออกมาทางด้านซ้ายมือ เพื่อที่จะไปเดินดูของแพงสำหรับผู้หญิง ๆ อย่างเรา ๆ แต่ก็แพงเกินกำลังที่จะจ่ายไปจริง ๆ ก็เลยต้องมายืนเอ่อ ๆ ไกล้ ๆ อยู่ทางด้านหลังเจ้าหุ่นตัวนี้
ช่วงระหว่างที่เรายืนรอญาติ ๆ อยู่คนเดียว เราก็ไม่สนใจอะไร ก็มีหญิงวัยกลางคนมาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ เรา แล้วถามเราว่า (พวกมิจฉาชีพ) นี่ทองของคุณหรือเปล่า...? เราหันไปมองตกใจนิดหน่อย แต่ก็ควบคุมสติได้ เลยถามย้ำไปแกล้งไม่ได้ยิน เค้าก็ถามเราว่านี่ทองของคุณหรือเปล่าฉันเห็นมันตกอยู่ที่พื้นตรงที่ที่คุณยืนอยู่เนี่ย...? (อยากจะบอกว่าตอนมายืนก็มองอยู่น่ะว่าแถวนั้นมันไม่มีอะไรพิเศษ) ก็เลยบอกไปว่า " ไม่ใช่ " แล้วก็บอกเราว่า " อ้าวถ้าไม่ใช่ของ ๆ คุณแล้วทำยังไง...? " ช่วงตรงนี้เค้าพยายามยืนทองนั้นมาใส่มือเรา เราเลยบอกว่า " ไม่ไม่ไม่ใช่ของเรา คุณเอาไปให้ตำรวจเถอะ " ถามเราย้ำ ๆ อีกแหละ เลยตอบเสียงดังแข็ง ๆ ว่า " โนโน เรียกตำรวจสักทีเถอะ " แล้วเราก็เลยเดินหนีไปตามหาญาติ ๆ
แล้วก็เดินไปอีกนิดเดียวก็จะเจอกับที่แห่งนี้
Eglise de La Madeleine
Palais Garnier โรงละครโอเปร่าแห่งชาติ
เราเดินลัดเลาะไปตามถนนอีกสักเล็กน้อย ก็จะเจอพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ไม่มันก็ไกลกันมาก แวะนั่งดื่มชาร้อน ๆ อีกสักแก้ว หนาวเหลือเกินตอนนี้
Louvre Museum / Musée du Louvre พิพิธภัณฑ์ลูฟร์
เดินตรงมาก็จะเจอกับสวนสาธารณะ
พักขาสักนิดหน่อย
วันที่ 3 ของการเที่ยวปารีสในครั้งนี้ ถึงจะไม่ค่อยเป็นไปตามที่คาดหวังอย่างที่ตั้งใจเอาไว้มากสักเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าได้มาเห็นเกือบทั้งหมดในสถานที่ที่สำคัญ เรายังมีโอกาสมาได้ใหม่ไม่เป็นไร อิอิ
เดินทางกลับอพาร์ทเม้น ตอนเช้าเก็บกระเป๋า ไปหาซื้อของฝากอีกสักเล็กน้อย เพราะยังมีเวลาก่อนขึ้นเครื่องหลายชั่วโมง
** Wifi เกือบทุกทีเข้ายากมาก โน้นนี่นั้น แถมไม่ค่อยโอ แทบจะไม่ม่ไวไฟให้ใช้ฟรีเลยที่นี่
** ระวังพวกมิจฉาชีพ มันจะมากันเป็นกลุ่ม พวกผู้หญิงบ้าง เด็กหนุ่มบ้าง มากันหลากหลายแบบทางที่ดีเก็บข้าวของให้มิดชิดที่สุด
** คนฝรั่งเศสส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษกับสเปนกันได้เยอะมาก และดูเป็นกันเองด้วย
** ภาษาฝรั่งเศสกับสเปนก็คล้าย ๆ กัน ทำให้ไม่ค่อยงงสักทักเท่าไหร่ โชคดีไปที่อ่านหนังสือเป็น 555
จบบริบูรณ์ การท่องเที่ยวแห่งปารีส...
และจุดมุ่งหมายต่อไปคือ...เก็บเงินก่อน 555
Buenas Noches / bonne nuit / Goodnight