สายไหม'โกลาหลคลองหกวาจ่อทะลัก ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

สายไหม'โกลาหลคลองหกวาจ่อทะลัก
'สายไหม'โกลาหลคลองหกวาจ่อทะลัก
"สายไหม" โกลาหล น้ำคลองหกวาจ่อทะลัก ซอยพหลฯ52 ระดับน้ำเริ่มเพิ่มขึ้น น้ำมุดท่อโผล่รันเวย์ดอนเมืองสูง 20 ซม. "สุขุมพันธุ์" เล็งประกาศพื้นที่เฝ้าระวังเพิ่ม 2 เขต "ลาดพร้าว-วังทองหลาง" คาดกรุงเทพฯวิกฤติท่วม 50 เขต สูง 30 ซม.ถึง 1 เมตร ขังนาน 1 เดือน สั่งจับตา 2 คืน 26 ต.ค.นี้นับถอยหลังกรุงเทพฯฝ่าน้ำท่วม
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 26 ต.ค.ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจการระบายน้ำที่ประตูระบายน้ำคลองสอง เขตสายไหม ว่าขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 10 ซ.ม. จากเมื่อวันที่ 25 ต.ค.นี้ ทำให้น้ำล้นคันกั้นน้ำที่บริเวณประตูระบายน้ำ เจ้าหน้าที่ต้องพังกระสอบทรายที่สูง 50 ซ.ม. บริเวณประตูระบายน้ำเพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก ลดผลกระทบต่อประชาชน แม้สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตื่นตระหนก แต่ก็ไม่วางใจ จึงได้ประกาศเขตเฝ้าระวังเพิ่มเติม คือเขตลาดพร้าว และวังทองหลาง เพราะน้ำจากคลองสองจะไหลไปยังคลองลาดพร้าว ขณะที่ได้สั่งการให้เพิ่มแนวคันกั้นน้ำเลียบคลองหกวาให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น จากความกว้าง 3 แถว เป็นความกว้าง 4 แถว และเพิ่มความสูงให้ได้ 3 เมตรตลอดแนว



รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่กทม.ประกาศพื้นที่เขตลาดพร้าว วังทองหลางเป็นพื้นที่เฝ้าระวังเพิ่มเติมเป็นเพราะส่วนหนึ่งจะมีการระบายน้ำที่รังสิต ผ่านคลองสอง จ.ปทุมธานี ผันเข้าสู่คลองลาดพร้าว ผ่านเขตลาดพร้าว แยกไปที่คลองบางซื่อออกแม่น้ำเจ้าพระยา และส่วนหนึ่งเข้าอุโมงค์พระโขนงออกแม่น้ำเจ้าพระยาอีกหนึ่งทางเช่นกัน

จากนั้นเวลา 16.45 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ขึ้นรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อเดินทางไปตรวจโรงเรียนฤทธิยะวรรณลัย 2 เขตสายไหม ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ใช้สำหรับระดมกรอกกระสอบทราย เพื่อนำมากั้นน้ำริมคลองหกวาสายล่างกว่า 7 ก.ม. ซึ่งขณะนี้น้ำได้เข้าท่วมถนนที่มุ่งสู่โรงเรียนฤทฺธิยะวรรณลัย 2 แล้วสูงกว่า 30 ซ.ม. ทำให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเขต ทหาร และประชาชน ที่เคยมาร่วมกันกรอกกระสอบทรายต้องย้ายออกจากพื้นที่ทันที ภายหลังระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ลงจากหลังรถกระบะ เพื่อเดินเท้าตรวจแนวกระสอบทรายริมคลองหกวาสายล่าง ซึ่งขณะนี้มีความสูงอยู่ที่ 3 เมตร ความกว้าง 3 แถว โดยพบว่ามีน้ำได้ซึมผ่านกระสอบทรายอยู่ตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่เขตสายไหมขณะนี้หมู่บ้านจัดสรร บ้านเรือน อาคารพาณิชย์ ตลอดแนวถนนสายไหม ส่วนใหญ่ได้นำกระสอบทรายรวมทั้งก่อแนวกำแพงเพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วม และพบว่าประชาชนบางส่วนได้อพยพออกนอกพื้นที่ โดยมีรถยนต์ เจ้าหน้าที่เขต รวมทั้งหน่วยฉุกเฉินในพื้นที่และรถพยาบาล ต่างพากันวิ่งด้วยความโกลาหล เพราะเกรงว่าระดับน้ำในคลองหกวาอาจจะล้นคันกั้นน้ำเข้าท่วมได้

รายงานข่าวจากกทม. แจ้งว่าขณะนี้กทม.ได้ประเมินสถานการณ์เลวร้ายที่สุด หากกรุงเทพฯ จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จะมีปริมาณน้ำสูง 30 ซ.ม.ถึง 1.50 เมตร ทั้งหมด 50 เขต ระดับความสูงของน้ำจะแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ โดยน้ำจะท่วมขังเป็นเวลา 1 เดือน จากนั้นสถานการณ์จะคลี่คลายลง ทั้งนี้ตั้งแต่คืนวันที่ 26 ต.ค. ถึงวันที่ 27 ต.ค. เป็น 2 วันที่กทม.จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากขณะนี้น้ำในคลองหกวาเขตสายไหมมีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันมวลน้ำก้อนใหญ่ที่อยู่บริเวณคลองรังสิตก็กำลังไหลเข้ามาในพื้นที่สายไหมอย่างต่อเนื่อง จึงเกรงว่าสถานการณ์ขณะนี้เป็นช่วงที่สำคัญที่สุด



ซ.พหลฯ52เขตสายไหมระดับน้ำเริ่มเพิ่มขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานจาก พหลโยธิน 52 เขตสายไหม เมื่อเวลา 18.00 น ว่าเริ่มมีน้ำเอ่อท่วมทั้งถนนตลอดทั้งซอย ซึ่งโดยมากเป็นการเอ่อล้นมาจากท่อประบายน้ำ ประกอบกับมีคลองเชื่อมต่อจากคลองหลักทำให้น้ำในคลองล้นออกมา โดย เฉพาะในพื้นที่หมู่บ้านณัฐกานต์ 3 ได้มีน้ำเอ่อล้นจากท่อระบายน้ำมาตั้งแต่ วันที่ 21 ที่ผ่านมา โดยในช่วงสองวันแรกระดับน้ำจะอยู่ประมาณ 5 -10 ซม. แต่วันนี้ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและคาดว่า มีแนวโน้มที่จะเพิ่มระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนที่อาศัยอยู่ในซอยพหลโยธิน 52 ยังใช้ชีวิตตามปกติ โดยบ้านพักและอาคารพาณิชยื ได้มีการตั้งเครื่องป้องกันน้ำ ไม่ว่าจะเป็นแนวกระสอบทรายหรือก่อคันปูนกั้นหน้าบ้าน นอกจากนี้ผู้ที่อยู่ในซอยก้จับกลุ่มใพูดคุย และวิพากษ์วิจารณ์ถึง สถานการณ์น้ำ แต่ยังคงไม่มีผู้ใดที่อพยพออกไปแต่อย่างใด



น้ำมุดท่อโผล่รันเวย์ดอนเมืองสูง20ซม.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์น้ำภายในท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อเวลา 16.30 น. ระดับน้ำบริเวณลานรันเวย์ สถานที่จอดพักเครื่องบินโดยสาร ด้านข้างตัวอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยปริมาณน้ำเริ่มแผ่ขยายตัวเป็นวงกว้าง เนื่องจากมวลน้ำที่ท่วมขังในบริเวณ ถ.วิภาวดีรังสิตได้ผุดผ่านท่อระบายน้ำเข้ามาภายในท่าอากาศยานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ล่าสุดระดับมีความสูงเกินกว่า 20 ซม. ในพื้นที่ต่ำและยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


พม.เร่งอพยพประชาชนออกจากศูนย์พักพิงดอนเมือง


ผู้สื่อข่าวรายงานจากศูนย์พักพิงชั่วคราว ท่าอากาศยานดอนเมือง ขณะนี้มีผู้ประสบภัยที่เดินทางมาพักพิงก่อนหน้านี้ได้อพยพไปยังศูนย์พักพิงที่จ.ชลบุรีแล้ว 1,100 คน กลับภูมิลำเนาประมาณ 250 คน โดยมีการนำรถของขสมก.ไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต และได้ประสานกับบริษัท ขนส่ง จำกัด ต่อไป ขณะเดียวกันมีผู้อพยพได้เดินทางไปพักพิงต่อที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถานแล้ว 203 คน โดยเหลือผู้อพยพอยู่ที่ อาคาร 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง 2,000 คน ซึ่งผู้อพยพบางคนยังยืนยันที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ต่อไป แม้ว่าน้ำท่วมพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานดอนเมือง ทำให้กลายเป็นเกาะจนไม่ได้สามารถลำเลียงอาหารเข้ามาได้ ก็จะออกไปหาอาหารเอง ขณะที่บางคนก็จะขอรอดูสถานการณ์ก่อนที่จะย้ายไปยังศูนย์พักพิงตามต่างจังหัดที่รัฐบาลจัดไว้ให้


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า จะมีการเร่งอพยพผู้ที่พักพิงอยู่ในศูนย์แห่งนี้ออกไปอยู่ในที่รัฐบาลจัดไว้ให้ เพราะเกรงว่าน้ำจะขึ้นสูง จนอาจทำให้เกิดความลำบากในการลำเลียงอาหาร เข้ามาเลี้ยงผู้ประสบภัยได้ และจะมีการเร่งอพยพโดยเร็วที่สุดก่อนจะมีการปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวแห่งนี้

Create Date : 26 ตุลาคม 2554		1 comments
Last Update : 26 ตุลาคม 2554 20:11:46 น.
Counter : 692 Pageviews.
Share Tweet