กรกฏาคม 2553

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog
โปรเจค DDT ยาฆ่าแมลง..ผู้พิฆาตกองทุนดัชนี
โปรเจค DDT คืออะไร
DDT ย่อมาจาก DCA in Dividend Fund with 10% Target
เป็นโปรเจคที่ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบทะยอยออมหน่วยลงทุนที่เรียกว่า Dollar Cost Averaging หรือ DCA ในกองทุนหุ้น/ดัชนีที่มีนโยบายปันผล(Dividend Fund) โดยมีเป้าหมายผลตอบแทนการลงทุนที่ 10% ของเงินลงทุน

ความเป็นมาและจุดประสงค์ของ DDT
แรกเริ่มเดิมที "นักรบกองทุน" จะใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเครื่องมือหลักในการตัดสินใจจับจังหวะการลงทุน โดยมีรอบวัฐจักรการ(รอ)-(ซื้อ)-(ถือ)-(ขาย)ที่ให้ความสำคัญกับจังหวะซื้อขายหน่วยลงทุนเข้าออก เพื่อให้เกิดผลตอบแทนที่ดี ลดความผิดพลาดโดยเฉพาะการติดดอยที่นักลงทุนหน้าใหม่มักประสบอยู่เสมอ

แต่ในโลกของการลงทุนยังมีกลยุทธ์วิธีการลงทุนแบบอื่นๆ อีกมาก หนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมากก็คือ การลงทุนด้วยวิธีการแบบ DCA ซึ่งเป็นการทะยอยซื้อหน่วยลงทุน(หรือหุ้น)ด้วยจำนวนเงินเท่าๆกันอย่างสม่ำเสมอ เช่น ซื้อหน่วยลงทุนด้วยเงินจำนวน 1,000 บาทเป็นประจำทุกเดือน โดยไม่สนใจว่าจะได้หน่วยลงทุนที่ราคา NAV เท่าไหร่ หากเป็นช่วงขาลงของตลาดราคาของหน่วยลงทุนจะลดลงเรื่อยๆ การที่เราซื้อด้วยเงินจำนวนเท่าเดิมก็จะทำให้ได้หน่วยลงทุนเพิ่มมากขึ้น

ในทางกลับกันหากตลาดเป็นช่วงขาขึ้น การที่เราซื้อด้วยเงินเท่าเดิมก็จะทำให้ได้หน่วยลงทุนจำนวนลดลง โดยภาพรวมแล้วเราก็จะถือครองหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีระดับราคาต้นทุนเป็นค่าเฉลี่ย ไม่สูงเกินไป หรือต่ำเกินไป เรียกว่าเดินทางสายกลางก็ว่าได้

ลักษณะของการลงทุนด้วยวิธี DCA จึงเหมือนกับการปิดตาซื้อสินค้าโดยไม่สนใจว่าจะได้ราคาแพงหรือถูก เอาวินัยและความเสมอต้นเสมอปลายเข้าต่อกรกับความผันผวนของราคา ช่วยลดความเสี่ยง อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาติดตามภาวะของตลาดหรือไม่มีความสามารถที่จะจับจังหวะการลงทุนได้ด้วยวิธีการเชิงเทคนิค

อย่างไรก็ดี...DCA เป็นกลยุทธ์ที่ขาดความสมบูรณ์ คือ เป็นกลยุทธ์ที่บอกแต่วิธีซื้อ แต่ไม่บอกว่าควรจะขายทำกำไรเมื่อไหร่ เหมือนเชียร์ให้ซื้อลูกเดียว

โปรเจค DDT จึงเพิ่มการกำหนดเป้าหมายผลตอบแทน 10% เพื่อสร้างระบบฝั่งด้านการขายเสริมเข้าไป เพื่อให้เหล่านักรบกองทุนมีหลักยึดเพื่อปฏิบัติได้ครบทั้งด้านการซื้อและขาย

เริ่มต้น..คุณทำได้ไม่ยากเลย
นักรบกองทุนทุกคนคงจะมีบัญชีผู้ถือหน่วยลงทุนของ บลจ.ต่างๆอยู่แล้ว
สามารถเริ่มต้นได้โดยการ...

1. เลือกกองทุนหุ้น/ดัชนี ที่มีนโยบายปันผล ได้แก่ AYFSDIV TMB50DV SCBDV แล้วศึกษาเงื่อนไขของกองทุนที่เลือกให้เข้าใจว่า มูลค่าซื้อขั้นต่ำเป็นเท่าไหร่ เหมาะสมกับกำลังของเราหรือไม่ เงื่อนไขด้านเวลาเช่นกองทุน SCBDV จะขายออกได้เฉพาะวันสุดท้ายของสัปดาห์เท่านั้น เงือนไขการปันผล รวมไปถึงอัตราค่าธรรมเนียมขาเข้าขาออกมีหรือไม่เป็นร้อยละเท่าไร

2. เมื่อเลือกได้แล้วก็วางแผนว่า เราจะออมเดือนละเท่าไหร่ หากปฏิบัติตามระบบ DDT จะต้องซื้อหน่วยลงทุนทุกๆวันจันทร์ เดือนนึงก็ตก 4-5 ครั้ง เราจะทำได้หรือไม่ ไหวหรือเปล่า เช่น มูลค่าซื้อขึ้นต่ำของ SCBDV คือ 1,000 บาท เราต้องเตรียมไพร่พลไว้ 5,000 บาทต่อเดือนจึงจะสามารถปฏิบัติการภารกิจนี้ได้

3. เปิดกองทุนเป็นครั้งแรกในกรณีที่ยังไม่เคยซื้อมาก่อนเลย อาจต้องซื้อครั้งแรกด้วยเงินจำนวนมากกว่าที่วางแผนไว้ เช่น TMB50DV ต้องซื้อครั้งแรก 2,000 บาท ดังนั้นจึงต้องวางแผนเผื่อไว้ด้วย

4. ใช้โปรแกรมระบบซื้อ/สับเปลี่ยนอัตโนมัติ จะช่วยให้สะดวกมากขึ้น ไม่ต้องคอยพะวงทุกๆ วันจันทร์ ขอเพียงเตรียมเงินออมไว้ให้เพียงพอในบัญชีออมทรัพย์ที่จะให้โปรแกรมมาตัดบัญชีเท่านั้น แต่ใน บลจ. บางแห่งยังไม่มีโปรแกรมแบบนี้ อาจจะเป็นภาระบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไร บลจ.ที่มีระบบเช่นนี้ได้แก่ TMBAM AYF

5. ดำเนินการออมอย่างสม่ำเสมอ และคอยตรวจสอบว่าผลตอบแทนได้เพิ่มขึ้นถึงเป้าหมาย 10% หรือยัง ซึ่งระบบรายงานของแต่ละ บลจ.จะมีความแตกต่างกันไป เช่น SCBAM จะรายงานผลตอบแทนกำไรขาดทุนเป็นเปอร์เซ็นต์ให้เห็นชัดเจน แต่บาง บลจ.ไม่มีรายงานเช่นนี้จำเป็นต้องจดบันทึกด้วยตนเองเท่านั้น (หวังว่า บลจ. AYF กับ TMB จะปรับปรุงรายงานซะที ผิดหวังมาเกิน 6 ปีแล้วครับ)

6. เป้าหมาย 10% หมายถึงผลตอบแทนบรรทัดสุดท้าย ณ ปัจจุบันเมื่อเทียบกับเงินลงทุน เช่น เราออมไปได้ 10 เดือน เป็นเงินทั้งสิ้น 40,000 บาท หากมูลค่ากองทุนของเรามากกว่า 44,000 บาทก็เท่ากับได้กำไร 10% แล้ว โปรเจค DDT จะจบลงทันที

7. หากระหว่างลงทุนในโปรเจค DDT นี้ กองทุนได้ประกาศปันผลออกมา ให้นำเงินจำนวนนั้นเข้าไปซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มในวันจันทร์ถัดไปทันทีที่ได้รับเงินปันผลเข้ามาในบัญชีออมทรัพย์ เรียกว่า re-inverstment จุดนี้จะช่วยให้เราเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น และต้องไม่ลืมว่าต้นทุนของเราจะคำนวณได้ยากขึ้นหากระบบรายงานของ บลจ.ไม่มีการคำนวณกำไรขาดทุนให้ทราบ จำเป็นต้องจดบันทึกและตรวจสอบด้วยตัวเอง

8. หากโปรเจคบรรลุเป้าหมาย 10% นักรบจะลงทุนต่อไปหรือยุติโปรเจคโดยการขายออกทั้งหมดแล้วเริ่มต้นใหม่ หรือจะขายออกบางส่วน อันนี้เป็นสิทธิของท่านเอง โดยส่วนตัวแล้วผมเลือกที่จะรักษาวินัย คือ ขายออกทั้งหมดเพื่อนำทุนและกำไร 10% ที่ได้รับไปจัดสรรพอร์ตการลงทุนอีกครั้ง มิฉะนั้นสัดส่วนของระดับความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนจะโน้มเอียงไปในกองทุนหุ้นซึ่งมีความเสี่ยงสูงมากขึ้น ซึ่งถ้าผิดเพี้ยนมากเกินไปจะได้รับความเสี่ยงที่รุนแรงกระทบต่อพอร์ตโดยรวมได้

9. เริ่มต้นทำโปรเจค DDT ซ้ำเป็นโครงการ 2 3 4 ... เช่นนี้ไปเรื่อยๆ

10. โปรเจค DDT แต่ละโครงการ อาจใช้ระยะเวลาไม่เท่ากัน โครงการครั้งแรกอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือน ในขณะที่บางช่วงอาจใช้เวลายาวนานข้ามปี ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดหุ้นในช่วงเวลานั้น

ผมหวังว่าโปรเจค DDT นี้จะเป็นแนวทางให้เพื่อนนักรบกองทุนได้มีแนวทางง่ายๆ ในการลงทุน ขอให้สนุกกับสมรภูมิกองทุนรวมนะครับ We Can Do it !!






Create Date : 11 กรกฎาคม 2553
Last Update : 19 กันยายน 2553 9:15:06 น.
Counter : 11215 Pageviews.

2 comments
  
ถ้าเรามีเงิน 200,000 บาท
และจะเก็บออมเพิ่มเดือนละ 40,000 บาท
ควรเริ่มโปรเจ็ค DDT ยังไงคะ

แต่ตอนนี้ลง 200,000 บาท ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
คงจะทยอยซื้อเพิ่มสัปดาห์ละ 10,000 บาท
(พอดีซื้อไปแล้ว ค่อยได้เข้ามาอ่าน)

อันนี้ถามไว้สำหรับรอบหน้าค่ะ
โดย: nHuy (huytumhuy ) วันที่: 8 ตุลาคม 2553 เวลา:8:46:53 น.
  
ขอบคุณมากๆค่ะ เดี๋ยวจะทยอยอ่านบล็อกอื่นๆด้วย ได้ประโยขน์สำหรับมือใหม่มากเลยทีเดียวค่ะ ^^~
โดย: joyly_polly วันที่: 30 ตุลาคม 2555 เวลา:16:39:43 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tuxpower
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



ตระหนักเสมอครับว่า ชีวิตนี้มันสั้นนัก สนุกกับทุกนาที

เดินทางสายกลางทั้งการใช้ชีวิตและการทำงาน สบายๆ แต่ก็ไม่ประมาท

...มองว่าการลงทุนในตลาดเงินตลาดทุนเป็นเรื่องท้าทายเหมือนเกม ยิ่งเรียนยิ่งรู้ยิ่งมันส์ 555

...ยิ่งได้กำไร ได้เงินปันผล ยิ่งสะใจ ...555+