ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างหรือแม้แต่สัจธรรมนั้นล่องลอยอยู่ในความว่างเปล่ารอบๆกายของเราจริง นั่นก็หมายความว่าผมต้องสามารถเขียนอะไรขึ้นมาสักอย่างจากความว่างนี้ได้เช่นกัน
ก็ไม่รู้จะเขียนอะไรดีครับแต่อยากเขียน!!!
เอาเป็นว่าสิ่งที่คุณจะได้อ่านต่อจากนี้นั้นเกิดจากการที่ผมปล่อยให้ความคิดลอยคว้างเข้าไปในอากาศ ให้มันไปสัมผัสอะไรก็ได้สักอย่างจากความว่างนั้นแล้วแปลมาเป็นตัวหนังสือที่ผมกำลังจะเขียน (พิมพ์) มันต่อจากนี้
พูดถึงสัจธรรมที่เคยได้รู้มานั้น เขาว่ากันว่าไม่ต้องดิ้นรนไปหาคำตอบมาจากไหน เพราะมันอยู่ตรงหน้าเรานี้เอง
งงนะครับท่าน แต่จากการประมวลผลของมันสมองอันซํบซ้อนซ่อนเงื่อนของผมและมนุษย์ทุกนาม (ซึ่งก็เป็นสัจธรรมเช่นเดียวกัน) ก็ได้เจอกับคำตอบที่ว่า ไม่ต้องไปหาให้มันปวดหัวหรอกมันก็คือสิ่งนี้ที่เราเห็นและพบเจอมันอยู่ทุกวัน ความรู้สึกต่างๆนั่นก็คงจะเป็นสัจธรรม หรือดังที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า คนเราทุกคนเกิดมาต้อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น นั่นก็คงเป็นสัจธรรม หรือบางทีทุกสิ่งทุกอย่างที่ผม (พยายาม) เข้าใจอาจจะผิดหมดเลยก็ได้นั่นก็คงเป็นสัจธรรม และบางทีสิ่งที่ผมเข้าใจผิดนั้นนั่นก็คงเป็นสัจธรรม ถึงตอนนี้ท่านผู้อ่านก็คงจะงงกับสิ่งที่ผมเล่า
ไม่ต้องงงหรอกครับ เราไม่จำเป็นต้องไปค้นหามันให้พบคำตอบหรอก ขอแค่รับรู้ว่าทุกสิ่งนั้นคือสัจธรรม ปล่อยวางกับคำถาม และให้มีสติมั่นรับรู้กับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตในทุกวันที่ได้พบเจอแค่นั้นผมว่าก็คงพอ
[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]