ตอนเช้าถูกปลุกด้วยนักร้องที่รีสอร์ทข้าง ๆ ร้านตอนเช้าส่วนใหญ่ยังไม่เปิดได้ไปทานข้าวต้มปลา - หมึก ที่รถเข็นข้างวงเวียนพะยูนสองอย่าง ปลา - หมึก 30 บาทเที่ยวต่อเลาะไปตามถนนเลียบฝั่ง" เฉลิมบูรพาชลทิต "ถนนสายนี้ที่เรามา เริ่มจากเชิงสะพานข้ามแม่น้ำจันทบุรีที่มีไหล่ทางสีแดงสำหรับจักรยานไปจนถึงทางเข้าปากแม่น้ำประแสแผนที่นี้ เริ่มจากวงเวียนพะยูนที่เจ้าหลาว ไปประแส เรามุ่งหน้าไปคุ้งวิมานห่างออกไป 11 กม.ทางเข้าคุ้งวิมาน เป็นวงเวียนโลมา ขวาไปสุขุมวิท ซ้ายไปคุ้งวิมาน ตรงไปไม่ทราบเข้ามาเรื่อย ๆ จะเจออีกสี่แยกเลี้ยวขวาไปประแสตรงไปลงหาดคุ้งวิมานซ้าย ไปหมู่บ้านประมงและแยกขึ้นเขาไปจุดชมวิวพระยืนเราขึ้นไปจุดชมวิวขาลง ถนนราดยางหมดแล้วหาดคุ้งวิมานเล่นน้ำได้ มีอาหารทะเลขาย มีซุ้มนั่ง ... มันน่าแวะซะทุกหาดเลยละออกเดินทางต่อ สองข้างทางมีนากุ้งตลอด ... แวะถามข้างทางแล้วถนนเฉลิมบูรพาชลทิต มีป้ายชี้ไปที่ที่พักริมทางตลอดป้ายซ้ายมือเขียนว่า ปากน้ำพังราดดูป้ายไปตลอดทางเป็นของ อบต. สะอาดดีมาก ๆ เป็นที่แวะแห่งเดียว ไม่ค่อยมีปั๊มใกล้ความจริงแล้วอาศัยป้ายอย่างเดียวเรือรบหลวงประแสได้ปลดประจำการแล้วในปี 2546ทาง อบต. ประแส จึงขอไปทางราชนาวีให้นำมาไว้ที่นี่โดยเมื่อใกล้ถึง ชาวประมงได้นำเรือมาลากจูงต่อเข้าสู่ร่องน้ำประแสแล้วถมดินสร้างอนุสรณ์สถานขึ้นมาภารกิจแรกของหมู่เรือหลวงประแสร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2495 คือออกเรือลาดตะเวนปิดอ่าวคุ้มกันเรือลำเลียง เรือบรรทุกน้ำมัน เรือกวาดทุ่นระเบิด ระดมยิงฝั่งเป็นครั้งคราว โดยมียุทธบริเวณตั้งแต่ท่าเรือปูซานฝั่งตะวันออก เรื่อยไปจนถึงวอนซานในเกาหลี จนกระทั่งในวันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2498 กระทรวงกลาโหม ได้มีคำสั่งให้ถอนทหารบางส่วนกลับประเทศไทย พร้อมด้วย ร.ล.ท่าจีน และ ร.ล.ประแส กลับและให้เรือทั้ง ๒ ลำ ทำหน้าที่คุ้มกันเรือลำเลียงทหารบก ในระหว่างการเดินทางกลับด้วยประภาคารเดิมประภาคารใหม่รู้แต่ว่าเขากำลังทำจะทำสะพานข้ามปากแม่น้ำประแสแต่ไม่ทราบว่าตอม่อนี้เกี่ยวหรือไม่ริมฝั่งประแส ฝั่งแกลงตากกุ้งแห้งวัดตะเคียนงาม มีต้นตะเคียน 500 ปีปิดท้ายด้วยดอกไม้สีเหลือง
ตามมาเที่ยวค่ะ