ฟิคyและเรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟังของtsktonight.

ตอนที่ 59 ไม่ปล่อยมือ ...(จบ) yaoi

*** ///เรื่องนี้เป็นนิยายวายมีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย/// บอกไว้ให้สำหรับคนที่ไม่ชอบแนวนี้จะได้ไม่ต้องอ่านนะคะ แต่ถ้าใครสนใจ หรือชอบแนวนี้ ก็เชิญให้ลองอ่านและติดตามกันได้ตามอัธยาศัยค่า^^ เนื่องจากเรื่องนี้อาจมีคำไม่สุภาพค่อนข้างเยอะ เพื่อให้เข้ากับเนื้อเรื่องและลักษณะนิสัยของตัวละครแต่ละตัว เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่ชอบใจขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่า คนแต่งขอขอบคุณแฟนๆไว้ก่อนล่วงหน้า (จุ๊บๆ รักครับผม)






กลับมาที่บ้านตากับยายยังไม่ทันที่รถมอเตอร์ไซค์ของเดย์จะจอดดีผมรีบตะโกนทักไอ้ผู้มาเยือนด้วยความดีใจ
“ไอ้หมาซีนโว้ยยยยยยย!!! ฮะฮะฮะ”
ไอ้ซีนนั่งตาตี่เล่นกับมะขามมะยมอยู่หน้าบ้าน มันรีบลุกยืนขึ้นยิ้มร่าตะโกนแหกปากเสียงดังเช่นกัน
“ไอ้หมาลูก!!! มันมาแล้วโว้ยยยยยยยยฮะฮะฮ่า!”
สิ้นเสียงไอ้ซีนพวกเพื่อนๆอีกหลายชีวิตที่อยู่บนบ้านพากันกรูออกมาดูผม ผมกำลังลงจากท้ายรถไอ้เดย์
ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองตามเสียงเอะอะของพวกมัน เห็นแล้วตกใจครับ ไอ้เดย์มันบอกว่าเพื่อนมา
แต่มันไม่ได้บอกผมว่าจะมากันเยอะขนาดนี้ ผมนึกว่าแค่ไอ้ซีน นี่พวกมันเล่นยกโขยงกันมาหมดเลย ทั้งไอ้ซีน ไอ้กีต้าร์
ไอ้ยู ไอ้คิม ไอ้มาร์ค ไอ้น็อต แม้แต่กลุ่มพวกผู้หญิงก็มาด้วย ดุ๊กดิ๊ก แจ๋วแหว๋ว ไอซ์ โฟร์ แมวเหมียว ทุกคนลงมาหาผม
ล้อมวงเข้ามากอดผมจนเป็นก้อนกลม ผมดีใจมากที่เจอเพื่อนๆ

ไอ้ซีนจีบปากจีบคอพูดล้อเลียน “เป็นยังไงบ้างลูก หนีตามผู้ชายมาแซ่บไหมคะ ผู้ชายดูแลดีไหมลูก”
ผมอยากบีบคอมันจริงๆ แต่เห็นแก่ที่มันอุตส่าห์มาหาผมถึงอยุธยานะเลยแค่ผลักหน้ามันที่ลอยหน้าลอยตายิ้มล้อผม
“กูโอเค” ผมตอบไอ้ซีนไปคนอื่นก็พากันขำ แล้วจู่ๆไอ้ซีนก็เข้าโหมดจริงจัง
“มึงโอเคก็ดีแล้ว พวกกูเป็นห่วงมึงมากนะเว้ย ไม่ว่ามึงจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าเมื่อไหร่ ก็มีพวกกูเสมอนะมึงไม่ต้องกลัว”
ผมได้แต่มองหน้าไอ้ซีนแล้วค่อยๆมองสายตาที่ห่วงใยของทุกคนที่จ้องมาตาปริบๆ
“อื้ม ขอบใจว่ะเพื่อน” ตอบพวกมันได้แค่นี้ผมซึ้งไม่อยากร้องไห้เดี๋ยวพวกมันล้อ
ผมยิ้มกว้างทุกคนก็ยิ้มกว้างล้อมเข้ามากอดกันอีกครั้ง โดนแซวว่าผอมลงแล้วก็หาเรื่องชวนผมกิน พวกมันบอกว่า
จะมาค้างที่นี่หลายวัน เว้นแต่พวกผู้หญิงที่พรุ่งนี้ก็กลับ อยากไปเที่ยวนั่นนี่ ยังไม่ทันไรก็คิดแผนเที่ยวกันแล้วครับ

“เฮ้ยพวกมึง ยายเรียกมากินฟักทองแกงบวชบนบ้าน ทำไว้เป็นหม้อ” เสียงไอ้เดย์ที่ขึ้นไปบนบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
ตะโกนลงมาจากชานบ้านเรียกเพื่อนๆให้ขึ้นไปกินขนม ตอนที่ขึ้นบ้านแล้วผมเดินผ่านไอ้เดย์ มันก็แอบดึงแขนเรียก
แล้วกระซิบพูด “กูบอกพวกมันแล้วว่าไม่ต้องมาๆ ไอ้หอกพวกนี้แม่งดันไปถามทางมาบ้านตายายจากแม่กูอ่ะมึงคิดดู”
ผมขมวดคิ้วงง “เพื่อนมาก็ดีแล้วไง ทำไมถึงไม่อยากให้มา”
“ก ข ค “
“บ้า”
“เรื่องจริง พวกมันบอกจะมาค้างด้วยยาวๆ”
“เหรอ ก็ดีสิ”
“...ไอ้พวกนี้แม่งยิ่งกว่าสึนามิอีก”
“บ่นอะไรของมึงเนี่ยเดย์”
“เปล๊า กูแค่อยากจะบอกมึงว่ากูไม่เลิกล้มความพยายามง่ายๆหรอกนะลูกคิด”
“เรื่อง?”
“เรื่องของเรา”
มันเล่นพูดแล้วอมยิ้มมองตาผมอย่างหวาน ผมก็เขินสิครับ
“กำลังคิดเรื่องไม่ดีอยู่ล่ะสิมึง”
“กูก็คิดแต่เรื่องมึงอ่ะ”
“คิดเรื่องอื่นบ้างเห๊อะ”
“ก็มันมีแต่มึงอยู่ในหัว......ใจ”
“แหวะ แบร่!!!” บ้านมันก็ไม่ได้ขายขนมครกทำไมหยอดเก่งจังวะ//// เขินมันครับหนีไปกินขนมดีกว่า

แล้วผมก็คิดเรื่องดีๆได้ “ไหนๆก็มาแล้ว ไปเที่ยวฉลองเรียนจบกันดีกว่าพวกเรา”
“โอ้โหไอ้ลูกมึงมาอยู่อยุธยาได้แป๊บเดียวนี่นำเที่ยวได้แล้วเหรอวะ” ไอ้คิมถามอย่างทึ้งๆ
ผมรีบส่ายหน้า “เปล่า แต่กูมีไกด์”
“ใคร” ไอ้เดย์ขมวดคิ้วสวนถามหันควับมามองผมอย่างไว


แล้วผมก็พาเพื่อนๆกลับไปที่ตลาดครับ พาไปกินหวานเย็นกับไอศกรีมที่ร้านแม่ของมายด์ เฉลยกับทุกคนว่า
เพื่อนใหม่หรือลูกสาวคนสวยของร้านนี้นี่แหละที่จะเป็นไกด์ให้พวกเราได้ เป็นไงครับแผนการของผม
สุดยอดไปเลยใช่ไหม ไม่ปล่อยให้ไอ้บ้าเดย์ทำตาขวางจ้องจะซ้อมเพราะคิดว่าผมแอบซุกกิ๊กอยู่นานหรอกครับ
มันไม่ปลอดภัย ผมให้เดย์โทรเรียกไอ้นาวมาแล้ว ผมพาเพื่อนทุกคนมกินขนมที่ร้านแม่ของมายด์ต่อ
ถึงแม้ว่าพวกมันจะกินฟักทองแกงบวชที่ยายกับน้าพิมทำมาก่อนแล้ว เพราะอยากให้แม่ของมายด์วางใจ
ว่ามีเพื่อนผู้หญิงไปด้วย คุณป้าทนลูกตื้อของพวกผมกับลูกอ้อนของลูกสาวไม่ไหวก็ยอมให้มายด์พาพวกเราเที่ยว

มายด์พาผมกับเพื่อนๆไปเที่ยวก็พาไปช็อปปิ้งนั่นแหละครับ ถูกใจทุกคนน่าดูแวะไปตลาดน้ำ แล้วก็ไปที่คาเฟ่
พวกผู้หญิงซื้อของเยอะเพราะมาค้างกันแค่คืนเดียว พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะไปวัดกันทำบุญเสร็จก็ส่งสาวๆกลับ
แต่พวกผู้ชายที่เหลือคือเที่ยวต่อ ตอนอยู่ที่คาเฟ่เจ้านาวได้นั่งข้างมายด์แทนที่ฝ่ายหญิงจะเขินกลายเป็นไอ้นาวเขิน
มันบิดแล้วบิดอีกไม่กล้ากินอะไรเลยตลกเป็นบ้า ไอ้เดย์ก็แซวน้องมันตลอดมีไอ้คิมกับไอ้มาร์คคอยเป็นลูกคู่

มายด์น่ารักดีครับแต่น้องเป็นสาวสายลุยไปไหนไปกันไม่เรื่องมาก ไม่ได้ทำตัวหวานๆแต่ก็ยังมีความน่ารักแบบผู้หญิง
กับไอ้นาวที่แอบมองมายด์แล้วเขินตลอดเห็นคุยกันนับคำได้ แค่นั้นไอ้นาวก็ปลื้มจนหยิบจับทำอะไรไม่ถูกแล้วครับ
พอมายด์คุยกับสาวๆด้วยกันกลับคุยจ้อ ส่วนที่ทำให้มายด์เขินมากกว่าการคุยกับไอ้นาวคงเป็นผมกับไอ้เดย์มากกว่า
ตลอดเวลาน้องเขาก็ถ่ายรูปถ่ายคลิปผมไปยิ้มไป แถมยังมีพวกสาวๆเพื่อนผมคอยเล่าโมเม้นของผมกับเดย์ให้ฟัง
น้องมายด์ก็ชอบขอฟังไม่หยุด พวกผู้หญิงเลยขอเอารูปหน้าเอ๋อๆของผมที่มายด์ถ่ายได้ไปลงโซเชี่ยลเป็นการแลกเปลี่ยน
รูปหล่อๆไม่ลงยัยพวกนี้...

“เฮ้ยลูกมึงกินกาแฟซิกเนเจอร์ร้านไปยัง อร่อยว่ะ”
ไอ้ซีนเดินเข้ามาในห้องน้ำ ผมกำลังทำธุระส่วนตัวอยู่มันก็มายืนฉี่โถข้างๆ
“จริงดิ เออเดี๋ยวออกไปลองกูสั่งเป็นนมเหมือนของไอ้เดย์อ่ะ ไม่รู้ป่านนี้มันแอบกินของกูหมดรึยัง”
“กับแฟนยังหวง”
“ทีมึงไม่ได้เป็นอะไรกับไอ้ตาร์ยังหวงเลย”
“เอ๊ะเดี๋ยว มึงผิดเรื่องแล้วเชี่ยลูก”
“ตกลงมึงเอาไงวะ”
“อะไร”
“ก็มึงกับกีต้าร์ สรุป?”
“...สรุปอะไร”
“มึงจะเป็นแค่เพื่อนกับมันไปเรื่อยๆทั้งที่รักมันมากอย่างนี้เหรอซีน แล้วไอ้วันนั้นที่บ้านกูที่มึงขอมันเป็นแฟนนั่นยังไง”
“นั่นมันละคร..”
“กูรู้มึงอยากให้เป็นเรื่องจริง ไม่ลองคุยกับมันดูวะตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ”
“แอ๋มโทรหากูว่ะ”
“ห๊ะ!?อะไรนะ เมื่อไหร่วะ ไอ้ต้าร์รู้ป่ะ?” ผมตกใจกำลังล้างมืออยู่ข้างๆไอ้ซีนก็หันหน้าไปมองมัน มันส่ายหน้า
“ก่อนมาหามึงสองวันก่อนน่ะ เขาถามว่ากูชอบไอ้ต้าร์ใช่ไหม”
“เฮ้ยยยยยยย ถามงี้เลยเหรอ แล้วมึงตอบแอ๋มไปว่าไงวะ”
“กูก็บอกว่าใช่”
“เชี่ยยยยย แอ๋มร้องไห้รึเปล่า”
“ร้อง”
“แล้วไงต่อมึง”
“มึงห้ามเล่าให้ใครฟังนะลูกคิด กูบอกแค่มึง”
“เอ้อรับปาก”
“ถามกูว่าไอ้ต้าร์ชอบกูใช่ไหม”
“เชี่ยยยยย แล้วมึงบอกแอ๋มว่าไง”
“กูบอกกูไม่รู้”
“ซีน..มึงว่าแอ๋มอยากกลับมาขอคืนดีกับไอ้ต้าร์รึเปล่าวะ”
“ไม่”
“ทำไม เขาบอกมึงเหรอ”
“แอ๋มบอกว่าไอ้ต้าร์รักกู.. แอ๋มคงไม่กลับไปคบกับมันแล้วเพราะมันรักกูมากกว่าแอ๋ม แอ๋มบอกมีเรื่องจะขอกู”
“ขออะไรวะ”
“ไม่ให้กูคบกับไอ้ต้าร์”
“ห๊า!!?”
“เขาบอกทำใจไม่ได้ว่ะ ถ้าคนอื่นรู้ว่าไอ้ต้าร์เลิกกับเขาแล้วหันมาคบกูเป็นแฟน เขาคงอายมาก”
“จะบ้าเหรอวะ เรื่องแบบนี้มาขอกันได้เรอะ มึงอย่าบอกนะว่ามึงรับปากแอ๋มไป”
“กูบอกแอ๋มไปว่าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แอ๋มเข้าใจผิดแล้วกีต้าร์ไม่มีวันมาเป็นแฟนกูได้หรอก..มันไม่ได้รักกูขนาดนั้น”
“ซีนนนนนน โธ่เอ๊ยมึงงงง” ผมสงสารไอ้ซีนจนต้องเรียกมันลากหางเสียงยาว ตบไหล่มันแต่มันเข้ามากอดผมเลย
“ถึงพ่อมึงจะขัดขวางเรื่องมึงกับเดย์ แต่มึงก็พร้อมจะไปกับมัน แต่ถ้าเป็นไอ้ต้าร์มันไม่มีวันไปกับกูหรอก”
ผมลูบหลังปลอบไอ้ซีน มันโคตรน้อยใจไอ้ต้าร์เลยนะเนี่ย

“ทำอะไรกันวะ”
เราสะดุ้งผละออกจากกันเป็นไอ้ต้าร์ที่ยืนขมวดคิ้วมองจากตรงประตูทางเข้าห้องน้ำชาย
“เห็นหายมานาน พวกมึงมายืนกอดกันเนี่ยนะเดี๋ยวก็โดนไอ้เดย์ฆ่าหรอก ออกไปได้แล้ว”
กีต้าร์ดูไม่ค่อยพอใจมันกำลังจะสะบัดหน้าหันหลังเดินไป ผมรีบเรียกมันไว้แล้วรีบถาม
“เมื่อกี้มึงได้ยินที่เราคุยกันรึเปล่าไอ้ต้าร์”
“.............” มันก็นิ่งไม่พูดอะไร ผมยิ่งฉุนเดินไปกระชากไหล่เพื่อนให้หันมา
“มึงมีสิทธิ์เลือกว่าจะทำยังไงกับชีวิตมึงก็ได้ แต่มึงไม่มีสิทธิ์ทำยังไงกับชีวิตไอ้ซีนก็ได้! ถ้ามึงยังยืนยันไม่เลือกมัน
เหมือนที่มึงเคยบอกว่าจะปล่อยไอ้ซีนไปเหมือนกับแอ๋มจริง ทำ! ทำให้มันตัดใจจากมึงสิ ที่มันไม่เคยตัดใจจากมึงได้เลย
ก็เพราะมึงให้ความหวังมันมาตลอดโดยที่มึงไม่รู้ตัว แต่ตอนนี้กูว่ามึงรู้ตัวแล้วตั้งแต่ตอนที่เลิกกับแอ๋ม
แต่มึงก็ยังทำให้ไอ้ซีนหวังไม่เลิก มึงแม่งเชี่ย!มึงเถียงกูไหมล่ะ!?”

ไอ้ต้าร์กัดฟันจ้องหน้าผมแล้วมองหน้าไอ้ซีนที่มาดึงผมให้ถอยออกมาไม่ให้ว่าไอ้ต้าร์ต่อ มันไม่ได้เถียงผมสักคำ
“ถ้ามึงไม่มีแอ๋มได้ แต่มึงไม่มีไอ้ซีนไม่ได้ มึงก็น่าจะได้คำตอบแล้วไม่ใช่เหรอวะจะแอ็บเป็นเพื่อนกันทำเชี่ยไรวะ
รำคาญญญญญญญญญญ!!!!”

“ตอนที่พ่อมึงไม่ให้คบกับเดย์มึงรู้สึกยังไงไอ้ลูก”
ไอ้ต้าร์มันถอนใจถามผมเสียงแผ่ว ท่าทีเกรี้ยวกราดตอนแรกหายไปหมด
“กูเสียใจแต่กูไม่มีวันเลิกคบกับเดย์ เพราะพ่อกูเขาไม่ชอบไม่เห็นด้วยเพราะมันเป็นผู้ชาย
แล้วมันเปลี่ยนไปเป็นผู้หญิงจริงๆได้ที่ไหนล่ะ เดย์ไม่ได้ผิดตรงไหนเลย กูเลือกเดย์ แต่ไม่ได้หมายความว่า
กูไม่รักพ่อกู กูก็ยังรักพ่อแต่กูจะไม่ยอมให้พ่อทำลายความรักกู”

“ทำไมมึงเท่จังวะลูกคิด” กีต้าร์ยิ้ม จู่ๆมันก็เอ่ยปากชมผมก่อนชายตาไปมองหน้าไอ้ซีนที่จ้องมันอยู่
“แล้วป๊ากับม๊ามึงจะไล่มึงออกจากบ้านไหมซีน ถ้ารู้ว่ามึงชอบผู้ชาย” กีต้าร์ถามไอ้ซีนก็ขมวดคิ้ว
“จะเหลือเหรอ กูโดนไล่ออกจากบ้านตั้งแต่ตอนปีใหม่แล้ว” คำตอบของไอ้ซีนทำเอาผมกับไอ้กีต้าร์ตกใจจนเหวอ
“มึงบอกป๊ากับม๊าแล้วเหรอไอ้ซีน” ผมรีบเขย่าแขนถามไอ้ซีนอย่างตื่นเต้น กีต้าร์มันยังพูดไม่ออกเลย
“เออ กูอึดอัด”
“เชี่ยยยยย พีคเชี่ยๆๆ มึงไม่เห็นบอกกูเลย” ไอ้ซีนแม่งไม่เคยบอกใครเลยครับ มันขยี้หัวผมเหมือนบอกขอโทษที่ปิดไว้
กีต้าร์ขมวดคิ้วว่าไอ้ซีนที่ท้าวเอวถอนใจ “อย่าตอแหล! มึงก็ยังอยู่ที่บ้านมึงนี่ไอ้บ้า”
ผมคิด ..เออก็จริงหลังปีใหม่ก็ยังเจอมันได้ที่บ้านมันนี่หว่า เอ๊ะยังไงวะ

“ก็โดนไล่แล้วก็โดนเรียกกลับไปอยู่บ้านภายในสองวันไง กูออกไปอยู่กับพี่สาวพวกพี่ๆช่วยพูดกับป๊าม๊าให้
ม๊าน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ป๊าโกรธกูยาว เพิ่งต้นเดือนที่แล้วนี่เองที่ยอมคุยกับกูบ้าง เขายอมคุยกับกูเพราะมาขอ
ให้กูรับปากว่าจะไม่แต่งหญิง เชี่ย!55555กูไม่แต่งอยู่แล้วไอ้ห่า5555555555”

กำลังซีเรียสกันอยู่แต่พอไอ้ซีนเล่าพวกเราทั้งสามคนอดขำออกมาพร้อมๆกันไม่ได้

“ก็เหลือแต่มึงอ่ะต้าร์ กูต้องรออีกนานแค่ไหนมึงถึงจะยอมรับสักที ว่ามึงอยากอยู่กับกูอย่างคนรักกัน”
ผมได้ยินไอ้ซีนถามไอ้ต้าร์จริงจังก็รู้สึกว่าต้องถอยออกมา
“กูออกไปก่อนแล้วกันนะ...” ผมส่งยิ้มให้พวกมัน ผมก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าในหัวกีต้าร์มันคิดแบบไหน
พวกมันจะลงเอยกันดีๆได้ไหม แต่ผมอยากให้มันใช้ใจคุยกัน
ถ้าอุปสรรคมันจะเข้ามาเราก็แค่ต้องจับมือกันผ่านมันไปให้ได้แค่นั้นเอง

..............
.....

ผมกลับออกไปนั่งที่โต๊ะ เป็นห่วงไอ้ซีนไอ้ต้าร์ชะเง้อคอมองหาพวกมันว่าเมื่อไหร่จะกลับมาที่โต๊ะจนไอ้เดย์ตีเหม่งผม
“เป็นอะไรวะไอ้ลูกอยู่ไม่สุกเลยมองอะไรนักหนาทางนั้น หาใครวะ” ไอ้เดย์กอดคอยื่นปากมากระซิบถามข้างๆหู
ผมต้องยันหน้าไอ้เดย์ให้ออกห่างหน่อยเพราะเขินน้องมายด์ที่นั่งมองตาเป็นประกาย นั่น...โดนถ่ายรูปอีกต่างหาก
ไม่ได้ว่าอะไรน้องเขาหรอกครับเพราะผมอนุญาตให้ถ่ายได้เอง แต่เยอะเข้ามันก็เขินนี่ครับ ผิดกับเดย์มันยิ้มอวดทุกรูป

แล้วผมก็ค่อยๆฉีกยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆไม่ใช่เพราะความเขินเรื่องตัวเอง แต่เขินไอ้สองคนที่จูงมือกันกลับมา
ผมมองไอ้ซีนที่เดินอมยิ้มมาแต่ไกลส่งคำถามให้มันทางสายตาว่าตกลงยังไงวะ!!!?
ไอ้ซีนมันขยิบตาให้ผมแทนคำตอบ พอผมมองกีต้าร์มันก็อมยิ้มไม่พูดอะไร แต่มันสองคนไม่ปล่อยมือกันจนมาถึงโต๊ะ
“ฮิ้ววววววววว สวีทอะไรกันวะพวกมึง นี่ๆๆ น้องมายด์ถ่ายไอ้สองคนนี้ด้วย เขาเป็นคู่จิ้นกันนะรู้ป่าว 555”
ไอ้คิมปากหมาพาแซวเพื่อนเหมือนเคย แต่ไอ้ซีนรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“คู่จิ้นมันเก่าไปแล้วเว้ย พวกกูตกลงกันแล้วว่าจะเลิกเป็นคู่จิ้นกันแล้ว”
ไอ้น็อตขำคิกคักช่วยไอ้คิมแซว “เอ๊า ทำไมวะ อย่างนี้พวกผู้หญิงก็หมดสนุกสิ”
ไอ้มาร์คก็เสริม “จะเลิกเป็นคู่จิ้นห่าอะไร มึงยังเดินจูงมือกันมาอยู่เลยพวกบ้าแล้วอย่างนี้จะไม่ให้คนอื่นแซวได้ไงวะ55”

“พวกกูอ่ะ.....” ซีนมันยิ้มหันไปมองตากีต้าร์ เพื่อนๆก็ยิ่งแซว ไอ้กีต้าร์แม่งหลบตาเขินใหญ่
ผมมองยังเขินแทนจนต้องจิกแขนไอ้เดย์ แล้วไอ้ซีนก็พูดออกมากลางวงเฉย “เป็นคู่จริงเว้ย”
ซีนชูมือที่จับกันแน่นกับกีต้าร์ขึ้นมายักคิ้วเขินๆอวดเพื่อน แต่เนื่องจากคนมันเคยเล่นมาเยอะครับก็ไม่มีใครเชื่อ
เอาแต่ด่าไอ้ซีนว่าน่ารำคาญชอบเล่นใหญ่ จนไอ้กีต้าร์ขำแล้วขำอีก ไอ้ซีนมันเลยหันมายกมือไหว้ผม
“มึงช่วยกูทีดิไอ้ลูก”
“555555555”
ผมขำกลิ้ง สงเคราะห์ช่วยยืนยันให้มันเอาบุญ บอกเพื่อนๆว่าเรื่องจริงที่พวกมันเป็นแฟนกันวันนี้สดๆร้อนๆ
ถ้าผมโกหกให้รุมถีบไอ้เดย์ได้เลย เดย์หันมาผลักหัวผม “มึงจะกลัวอะไรก็มันเรื่องจริงมึงไม่มีทางโดนใครถีบ”
เดย์มันว่าเออก็จริง... ทั้งกลุ่มแตกฮือเหวอกันไปหมด ไอ้ยูหัวเราะมันช่วยเสริมว่ามันเชื่อว่าเรื่องจริง
ไอ้สองตัวโดนรุมถามจนตอบไม่ทัน พวกมันเลยด่าเพื่อนๆแทน เอ๊าแก้เขินกันอย่างนี้ก็ได้

“เชี่ยยยยยย นี่พวกมึงชอบกันจริงๆเหรอเนี่ย ไอ่เชี๊ยยยยยถ้ารู้อย่างนี้กูล้อแม่งให้หนักกว่านี้มาตั้งนานแล้ว!”
ไอ้คิมหัวเราะชอบใจโดนไอ้กีต้าร์ด่าว่าไอ้เพื่อนเลว
คนที่พอจะรู้เรื่องพวกมันมาบ้างก็มีแค่ผมกับเดย์แล้วอีกคนก็คือไอ้ยู มันบอกผมว่ามันก็พอดูๆออก
ว่าใครชอบใครในกลุ่มเรา “เอ....ไม่รู้จะมีใครอยากเปิดตัวแฟนอีกไหมน้า” ไอ้ยูกอดอกพูดยิ้มๆเหล่มองไอ้คิม
ผมกับเดย์ทำท่าตามไอ้ยู ทุกคนชะงักหันมาจ้องไอ้คิมตามอย่างสงสัย งานนี้ไอ้คิมเหงื่อตกเลย

หลังเซอร์ไพร์สแรกทุกคนก็รอเซอร์ไพร์สที่สอง ในขณะที่ไอ้คิมยังเงียบ ดุ๊กดิ๊กก็ดูลนๆมันทำท่าจะลุกหนีไปห้องน้ำ
แต่ผมไม่ปล่อยให้หนีได้หรอกรีบบอกสาวๆตะครุบตัว แมวเหมียวกับโฟร์ช่วยกันจับตัวดุ๊กดิ๊กไว้แทบไม่ทัน
“ดุ๊กดิ๊กพวกกูเป็นเพื่อนมึงป่ะ ทำตัวน่าสงสัยมานานแล้วนะ คิดว่าพวกกูไม่รู้สึกเหรอ” โฟร์พูดกับดุ๊กดิ๊กทำหน้าจริงจัง
แมวเหมียวก็พยักหน้าตามทำหน้าขึงขัง ดุ๊กดิ๊กยิ้มแหยๆเหล่มองมาทางพวกผมแล้วสายตาก็ไปหยุดที่ไอ้คิม

“รู้นะ ว่าคิดอะไรกันอยู่อ่ะ เรื่องกูกับคิมใช่ไหม พวกกูไม่ได้เป็นแฟนกันหรอก จริงๆ” ดุ๊กดิ๊กพูดเสียงหงอยๆ
“แล้วงั้นทำไมชอบทำตัวมีลับลมคมในแอบคุยกันสองคน แอบนัดไปเจอกัน แอบไปดูหนังด้วยกันบ่อยๆ”
แมวเหมียวถามรัวจนดุ๊กดิ๊กตาโตไม่คิดว่าเพื่อนจะรู้ พวกผมเองก็พอระแคะระคายบ้างว่าไอ้คิมกับดุ๊กดิ๊กต้องแอบคุยกัน
“ก็เมื่อก่อนพวกกูทะเลาะกันทุกวัน ถ้าบอกว่าไปด้วยกัน พวกมึงก็ต้องล้อกูอ่ะ/////”
ดุ๊กดิ๊กพูดอ้อมแอ้มก้มหน้าเขินๆครับส่วนไอ้คิมก็ยังเงียบ
“ตกลงเป็นแฟนกันใช่ไม่ไช่ยะ” แจ๋วแหว๋วทำหน้าเหมือนตัวร้ายในละครเค้นถามเพื่อน
“ไม่ใช่” ดุ๊กดิ๊กทำหน้ามุ่ยเถียงจนเพื่อนๆพากันโห่ว่ามาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมรับอีก ไอ้คิมก็เอาแต่เงียบ

“ก็บอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกันไงโว้ยยยย! .............ก็มันไม่เคยขอ..”
ดุ๊กดิ๊กลุกยืนตะคอกเล่นเอาเงียบกันทั้งโต๊ะเลยครับ ทุกคนมองไอ้คิมที่ยังนั่งนิ่งมองมือตัวเองเล่นช้อนไปมา
มันไม่พูดอะไรจนดุ๊กดิ๊กทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ฮึดฮัดเดินออกไป ทุกคนเรียกดุ๊กดิ๊กแต่ดุ๊กดิ๊กก็ไม่หันมา
“ดุ๊ก!”
แล้วเสียงเรียกของไอ้คิมก็ทำดุ๊กดิ๊กชะงักได้ แต่มันหันกลับมาด่าไอ้คิมซะงั้น
“อิควายดำ! กูบอกกี่ครั้งแล้วอย่าเรียกอย่างนี้!”
“มึงทำไมไม่อ่านข้อความกูห๊ะพงษ์เทพ!”
“อิคิม!!! อิบ้า! เมื่อไหร่มึงจะเลิกล้อชื่อกู มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบชื่อนี้ มันเหมือนผู้ชายกูบอกมึงกี่ครั้งแล้วมึงมันใจร้าย”
“ก็มึงเป็นผู้ชาย ต่อให้มึงไปทำนมมา ยังไงมึงก็คือพงษ์เทพ!”
“อี!อีคิ๊มมมมมมม!!!!!!!!”
ดุ๊กดิ๊กจะเข้ามาตีไอ้คิมครับ เพื่อนๆช่วยกันจับแยก ต้องแกล้งโกหกพนักงานในร้านว่าเล่นกันขอโทษที่เสียงดัง
ดุ๊กดิ๊กกระฟัดกระเฟียดโดนเพื่อนจับกดให้นั่งลงใจเย็นๆ มันทำหน้าไม่พอใจไอ้คิมมากๆ “มึงส่งอะไรมา”
ไอ้คิมขมวดคิ้วตอบ “ส่งข้อความไปด่ามึงไง”
ดุ๊กดิ๊กยิ่งโกรธไอ้คิมมากขึ้นไปอีกรีบคว้ามือถือมาเปิดดู “อีๆๆๆๆหนอยยยย”
เพื่อนๆรุมด่าไอ้คิมว่าทำไมชอบแกล้งดุ๊กดิ๊ก ชอบก็บอกว่าชอบสิจะไปมีใครว่าอะไรมัน ทำตัวเหมือนเด็กไปได้

“ก็เวลามันโกรธ..............หน้ามันน่ารักดี”
ตาโตตกใจกับคำพูดไอ้คิมกันทั้งกลุ่มเลยครับ ส่วนทางดุ๊กดิ๊กแม่งนั่งก้มหน้าดูมือถือเงียบกริบเลย
กูปรับอารมณ์ตามไม่ทันโว้ยไอ้พวกบ้านี่

“เป็นอะไรอ่ะอิดุ๊กดิ๊ก มึงร้องไห้ทำไม อิคิม! อิหมาบ้ามึงด่าอะไรเพื่อนกู”
โฟร์เขย่าตัวดุ๊กดิ๊กที่จู่ๆก็เอามือปิดหน้าสะอื้น ทุกคนมองกันเลิ่กลั่ก ไอ้คิมไอ้ตัวต้นเหตุยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้โคตรน่าถีบ
แจ๋วแหว๋วทนความอยากรู้ไม่ไหวมันเลยเข้ามาแย่งมือถือจากมือดุ๊กดิ๊กไปอ่าน
“เป็นแฟนกันนะพงษ์เทพ”
ทุกคนโห่ร้องพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายทันทีที่แจ๋วแหว๋วอ่านจบแล้วตามันโตเท่าไข่ห่าน
ผมเพิ่งเคยเห็นไอ้คิมเขินสุดก็วันนี้แหละ แหม่.........มันร้ายนะครับ

พวกเราเลยฉลองกันอย่างสนุกสนาน น้องมายด์กับไอ้นาวก็ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดี เป็นวันที่ดีจริงๆครับวันนี้
เห็นเพื่อนๆยอมรับหัวใจตัวเองกันได้ผมก็ดีใจยิ้มกว้างสุดๆไปเลย

..........................................................
...................................
...........

เที่ยวกันสนุกเลยครับวันนี้ ส่งน้องมายด์กลับบ้านส่งสาวๆเข้านอนแล้ว (ให้นอนห้องไอ้นาว)
พวกผู้ชายก็ก๊งกันครับ คืนนี้พวกเราคงนอนกองรวมกันที่ชานบ้านนี่แหละ

ไอ้เดย์ขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาจากพาไอ้มาร์คไปซื้อน้ำแข็ง มาถึงมันก็ปรี่เข้ามาถามผม
“มึงเชิญกูเข้ากลุ่มอะไรเนี่ยลูกคิด ฟินแลนด์อะไรของมึง”
“กดเข้าสิเดย์”
“ทำไมกูต้องเข้าวะ”
“อ้าวเดี๋ยวกูคุยกับคนอื่นมึงไม่รู้อย่ามาโทษกูนะ”
มันจะตบหัวผมครับ ผมหนีมันไปซุกหลังไอ้ซีน “มึงจะทำอะไรลูกกู” ไอ้ตี่มันเล่นบทเป็นพ่อผม
เดย์มันท้าวเอวขมวดคิ้วถามไอ้ซีน “มึงคลอดไอ้ลูกออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
ไอ้ซีนตอบปากยื่นปากยาว “กูเบ่งออกมาเมื่อเช้านี้ไงกดน้ำแล้วมันไม่ยอมไปเอ่อขึ้นมาใหม่”
ผมผลักไอ้หมาซีนหัวเกือบทิ่ม “กูคนไม่ใช่ขี้สัด!พูดซะเห็นภาพเลย!”
ทุกคนก็ขำผม สุดท้ายโดนไอ้เดย์ล็อคคอลากไปนั่งกับมันจนได้
ผมอธิบายให้เดย์เข้าใจโดยการเปิดรายชื่อคนเข้ากลุ่มให้มันดู
“เพื่อน้องมึงเลยนะ” ผมชี้ให้ดูชื่อมายด์กับนาวแล้วยิ้มยักคิ้ว ไอ้เดย์ก็ยิ้มเอามือมาขยี้หัวผมก่อนกดเข้ากลุ่ม
ในกลุ่มแชทก็มีแค่ผมไอ้เดย์ไอ้นาวแล้วก็มายด์ ผมถ่ายรูปกับแกล้มลงมายด์ก็ส่งสติกเกอร์น้ำลายไหลมา
ผมเลยถามว่าพรุ่งนี้น้องจะพาไปเที่ยวไหนอีก มายด์บอกขอคิดโปรแกรมก่อน ไอ้เดย์ชงเข้าให้น้องเลยครับ
บอกไอ้นาวช่วยมายด์คิด ไอ้นาวรีบโผล่มาเลยครับเห็นซุ่มอ่านอยู่นาน แล้วแชทก็เด้งเอาเด้งเอา ผมกับเดย์
หันไปมองไอ้นาวที่นั่งหลบมุมอมยิ้มก้มหน้าก้มตาแชทแล้วก็แอบขำมัน

ดึกแล้วพวกเรายังนั่งเล่นมุกตลกเล่าเรื่องกวนๆหัวเราะเฮฮา แต่ลดเสียงลงและเลิกร้องเพลงเพราะกลัวผู้ใหญ่ตื่น
วันนี้เดย์ใจดีให้ผมดื่มเยอะกว่าทุกทีแต่ผมอิ่มเร็วเพราะกินกับเยอะกว่าเพื่อน นั่งเหยียดขาเอนตัวพิงไหล่มัน
ไม่ได้แตะแก้วเหล้าอีก เดย์ลูบหัวผมเบาๆถามเสียงนุ่มหู “ไม่ดื่มแล้วเหรอ ดื่มอีกก็ได้นะ”
ผมยิ้มขมวดคิ้วเอียงหน้าไปถามมัน “ทำไมวันนี้ใจดี ทุกทีแยกเขี้ยวใส่กูไม่อยากให้กิน”
“ก็วันพิเศษ”
“พิเศษยังไง”
“วันนี้มีแต่เรื่องดีๆใช่ไหมล่ะ”
“อืม ก็จริง แต่มึงไม่ค่อยดื่มเลย”
“กูต้องดูแลมึงไง”
“แหวะ//////หวาน”
“ไหนแลบลิ้นใหม่ดิ๊”
“ทำไม”
“จูบแม่ง”
“ทะลึ่ง”
แล้วเดย์ก็ชี้ให้ดูไอ้ยูที่นั่งหลับสัปหงก ไอ้น็อตแกล้งเอาต้นหอมไปทัดหูไอ้ยูยังไม่ยอมตื่น
ไอ้คิมหยิบมือถือมาถ่ายรูปไว้ ทุกคนยื่นหน้าเข้าเฟรมมีแต่ไอ้ยูที่นั่งหลับไม่รู้เรื่องไอ้ซีนจะขี่คอมันอยู่แล้ว

“ปวดฉี่ว่ะไปห้องน้ำก่อนนะ” เดย์พูดแล้วลุกเดินไป ผมเลยล้มตัวนอนไปกับพื้นบ้าน เย็นดีครับมีลมพัดเอื่อยๆ
พักใหญ่ผิดสังเกตไม่เห็นไอ้เดย์กลับมาผมก็ลุกนั่งชะเง้อมองไปทางหลังบ้าน แล้วก็หันไปเห็นไอ้ซีนกับกีต้าร์
นอนจับมือคุยกันงุ้งงิ้งชี้ชวนให้มองพระจันทร์โรแมนติกกันจังนะพวกมึง มองไปมองมาไอ้ซีนหันมาเห็นผม
มันดันยักคิ้วให้จนผมเขินแทน ไม่ว่าทางบ้านกีต้าร์จะว่ายังไงเรื่องไอ้ซีนแต่ผมก็เชื่อว่าพวกมันจะผ่านไปให้ได้
เหมือนผมกับเดย์ที่เราจะสู้ไปด้วยกัน
ผมเบนสายตาไปมองเพื่อนคนอื่นมีแต่ไอ้มาร์คกับไอ้น็อตที่ยังนั่งคุยกันแบบมึนๆนอกนั้นก็ล้มนอนกันหมดครับ
ผมเองก็มึนนิดหน่อยแต่ไม่ได้เมาอะไร กำลังคิดว่าจะเดินไปดูไอ้เดย์ที่หายนาน
มันก็ส่งข้อความมาตามผมก่อน เดย์เรียกให้ผมไปหาหลังบ้านบอกมีอะไรให้ดู

ไปถึงมันก็นั่งยิ้มๆรออยู่ตรงหัวบันไดหลังบ้าน ผมกอดอกมองยิ้มตาม ถามมัน
“อารมณ์ดีจังนะ ไหน มีอะไรจะให้ดู”
“ต้องลงไปข้างล่างก่อน”
ผมขมวดคิ้ว ไอ้เดย์อมยิ้มหยิบไฟฉายที่วางข้างตัวมาเปิดแล้วจูงมือผมให้เดินตามมันลงบ้านไป
หลังจากแอบย่องลงบ้านเพราะกลัวเจ้ามะยมกับมะขามมันจะตื่นแล้วตามเรา เดย์ก็พาผมเข้าไปในสวนเล็กๆ
ข้างหลังบ้านส่วนใหญ่เป็นต้นมะม่วง มีฝรั่งขี้นก ขนุน ชมพู่บ้างไม่กี่ต้น แต่ตอนนี้มะม่วงลูกเยอะเชียวครับ
สวนไม่รกอะไรเพราะปกติตาดูแลอย่างดีทางเดินเลยเดินไม่ลำบาก
ผมแปลกใจไม่น้อยนะครับที่ไอ้บ้าเดย์ไม่กลัวผีพาผมเดินมาที่มืดๆแบบนี้ได้ด้วยไฟฉายกระบอกเดียว
พยายามถามว่ามันพาเดินเข้ามาในสวนทำไม มันก็เอาแต่หันมายิ้มให้ จนถึงที่หมายมันก็ชี้ให้ผมดู

“หา....อย่าบอกนะ55555เชื่อมึงเลยอ่ะเดย์ เอาจริงอ่ะ55555555”
มีเต็นท์กางอยู่ในสวนครับ ไม่รู้ไอ้บ้านี่แอบมากางไว้เมื่อไหร่ เดย์ยิ้มพยักหน้ารัวๆบอกว่านี่เป็นทางออกของเรา
“มึงไม่กลัวผีเหรอ” ผมแกล้งทำเสียงขนลุกมองซ้ายมองขวาขู่มัน ไอ้เดย์รีบเข้ามากอดผมเลยครับ
“เคยกลัวที่ไหนล่ะ เพ้อเจ้อนะมึง เดี๋ยวปั๊ดตีปากด้วยปาก” ไม่กลัวเล้ยแต่มึงกอดกูแน่นเชียว

จู่ๆไอ้เดย์ก็ถาม “สวยไหม”
ผมขมวดคิ้วมองหน้ามันที่อยู่ใกล้กันมาก “เต็นท์อ่ะเหรอ”
“พระจันทร์สิควาย”
“จะไม่สวยเพราะมึงด่ากูนี่แหละ”
“งั้นไม่ต้องดูมันแล้วพระจงพระจันทร์ ป่ะเข้าเต็นท์”
“ยังไม่ง่วงเลยรีบนอนทำไม”
“ใครบอกจะให้มึงนอน”
“...........”
เหมือนเพิ่งรู้สึกตัวว่ามีภัยครับ ผมหันหลังจะวิ่งกลับไอ้เดย์แม่งคว้าตัวลากผมเข้าเต็นท์อย่างไว
มันก็นั่งกอดนั่งหอมผมอยู่ในเต็นท์ ผมได้แต่แก้เขินเอียงคอหนีมันไปมา เขินโว้ยยยยยย/////
“ออกมาแบบนี้เดี๋ยวไอ้พวกนั้นก็โทรตามหรอกเดย์”
“ถ้ามึงเห็นเพื่อนหายไปกับแฟนสองคน...เป็นมึง มึงจะตามรึเปล่า”
ผมคงไม่ตามหรอกครับ เพราะพวกมันน่าจะหลบไปจู๋จี๋กัน แต่ยิ่งคิดแบบนี้ก็ยิ่งอายเพื่อนแย่
“โหยเดย์///////อย่างนี้เดี๋ยวไอ้พวกนั้นมันก็ล้อเราว่าแอบหนีมาจู๋จี๋กันสองคนอ่ะดิ”
“เอ้า ก็เรื่องจริงนิ” ดูมันตอบสิครับ ไอ้บ้าหอมแก้มผมอีก แล้วก็รุกผมหนักผลักผมลงนอนใช้จมูกไซร์ซอกคอ

ตุบ!!!

“อุ๊! อะไรวะ!?” ผมกับไอ้เดย์ร้องสะดุ้งผุดผัดลุกขึ้นนั่งพร้อมกัน เหมือนมีอะไรบางอย่างกระแทกกับเต็นท์
กลางดึกในสวนเงียบๆแบบนี้ชวนให้คิดระแวง
“มึง กลับขึ้นบ้านกันไหม” ผมห่อไหล่ขนลุกถามไอ้เดย์ที่ยังนั่งกรอกตาไปมา ไอ้เดย์รีบสั่นหน้าปฏิเสธ
“ไม่ๆๆ ยังไงคืนนี้เราก็จะนอนที่นี่แหละ” ความหื่นทำให้ไม่กลัวอะไรเลยเหรอวะเนี่ย..
“แล้วเสียงเมื่อกี้อะไรอ่ะเดย์”
“หรือว่า!”
“หรือว่าอะไร!?”
“แป๊บนะ..”
เดย์หยิบไฟฉายมาเปิดส่องออกไปนอกเต็นท์แล้วทำตาโตหันมามองผม
“อะไร” ผมก็ถามมันอย่างตื่นเต้น
“กูก็นึกว่าใครแอบตามมาแกล้งเรารึเปล่า ไม่งั้นก็คงเป็นไอ้มะยม มะขาม แต่ดันเป็น!”
“เป็นอะไร!?”
“เป็น”
“เป็นอะไรวะ!?”
“เป็น”
“เป็นเชี่ยอะไร!?”
ไอ้บ้านี่ก็ให้ผมลุ้นอยู่ได้ แต่มันกลับหัวเราะก่อนส่องไฟฉายออกไปทางหน้าเต็นท์ชี้ให้ผมดู
“.........มะม่วง?”
“เออ5555555555ดีนะกูกางเต็นท์ ตอนแรกว่าจะปูเสื่อ ถ้านอนแบบนั้นมะม่วงตกใส่หัวมึงแน่555”
“เก็บไปกินกันไหมเดย์ พรุ่งนี้ให้ยายทำน้ำจิ้มให้เนอะๆ”
“มันใช่เวลาเก็บมะม่วงไหมเชี่ยลูก”
“อ้าวด่ากูเฉย ไม่อยากกินเหรอ”
“ที่อยากกินตอนนี้ไม่ใช่มะม่วงเว้ย”
“...กูต้องช่วยชงให้มึงตบมุกนี้ไหม”
“ช่วย”
“อ่ะได้ แล้วตอนนี้มึงอยากกินอะไรเดย์”
“กินมึง”
“สบายใจมึงแล้วใช่ไหม”
“ขอบคุณ”
“ไอ้บ้า//////*//”

เราหัวเราะใส่กัน ผมทั้งขำทั้งเขินมัน เดย์ปิดไฟฉายแล้วกอดผมไว้
“มืด...มองไม่เห็นอะไรเลย ตรงนี้อะไรน๊า..”
คลำไปมันก็ถามไป ถามแบบไม่ต้องการคำตอบเหมือนอยากคลำเล่นไปเรื่อยๆ ลูบตรงนั้น สะกิดตรงนู้น
เขี่ยตรงนี้ ในใจผมเต้นระทึกด้วยความตื่นเต้นตามมือซุกซนที่ลูบวนไปทั่วเนื้อตัว
ฝ่ามือร้อนๆนั้นไล่ลูบคลำผ่านทั้งบนเนื้อผ้าและใต้ร่มผ้า ไม่ช้าไอ้เดย์ก็ถอดเสื้อผมแล้วตามด้วยเสื้อตัวเองออก
ขนาดมืดๆยังรู้เลยว่ามันโคตรขาว ในใจผมนี่เต้นระเบิดระเบ้อเป็นจังหวะสามช่ารีมิกซ์เลยครับ
ตื่นเต้นสุดๆเลยคราวนี้เอาจริงแล้วแถมยังไม่มีใครมาขัดจังหวะ มะม่วงสักลูกก็ไม่มีตกลงมาอีก
คงมีก็แต่เต้นท์ที่สั่นเหมือนพายุเข้า
…………………………………………………
………………………….
……………
………
เอาเป็นว่ากล้องค่อยๆแพนไปที่ลูกมะม่วงแล้วตัดภาพไปตอนเช้าเลยแล้วกันนะครับ!!! เขิ๊นนนนนนน

+++++++++++++++++++++++++++++++++


เช้าแล้วครับ ....

ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ แต่ผลจากการที่ผมเล่นพ่อแม่แบบยังไม่มีลูกกับไอ้เดย์ในเต้นท์เมื่อคืน
ทำให้เช้านี้ผมเป็นไข้ ไข้ขึ้นเลยครับไปเที่ยวกับเพื่อนๆไม่ไหวใครๆก็สงสัยว่าผมไปทำอะไรมา

“อยู่ดีๆ มึงไม่สบายได้ยังไงวะ เมื่อวานก็ยังดีๆอยู่เลย ไปแอบกินอะไรแปลกๆมารึเปล่าไอ้ลูก”
ไอ้ซีนยืนท้าวเอวขมวดคิ้วมองจ้องผมที่นอนพะงาบๆตัวร้อนอยู่บนฟูกเหมือนจับผิด

“มึงจะบ้าเหรอซีนเมื่อวานมันก็อยู่กับพวกเราทั้งวัน กินก็กินเหมือนๆกัน” กีต้าร์คนดีของผมกลับมาแล้วครับ
มันว่าไอ้ซีนแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำบิดหมาดๆวางบนหน้าผากให้ผม เหมือนแม่เลยคิดถึงแม่จ๋าจัง

“เอ๊ะแต่เมื่อคืนนี้ ตอนดึกๆกูเห็นมึงหายไปกับไอ้เดย์สองคนไม่กลับมาเลยยันเช้า” ไอ้มาร์คไอ้เลวมันพูดยิ้มๆ
ทุกคนมองจ้องผมริมฝีปากเพื่อนๆยกยิ้มพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ผมรีบโวยวายทั้งที่อ่อนแรงจะเถียงสู้
“กูไป ไป ไป ไปสวนหลังบ้านกับไอ้เดย์เว้ย มันชวนกูไปเก็บมะม่วง! ก็ที่พวกมึงแดรกอยู่นี่ไงไอ่ฟาย!/////*//”

ไอ้น็อตมองมะม่วงในมือแล้วยิ้มล้อ “มึงไปเก็บมะม่วงตอนกลางคืนเนี่ยนะ” ไม่ยอมเชื่อง่ายๆ ผมก็อึกอัก
เดย์เดินถือชามข้าวต้มเข้ามาได้ยินพอดี มันสะกิดกีต้าร์ให้ถอยแล้วมานั่งแทนเรียกผมลุกมากินข้าวกินยาก่อน
เดย์หันไปบอกเพื่อนๆพลางป้อนข้าวผมไปด้วย “กูก็นึกสนุกอยากเก็บมะม่วงเลยชวนไอ้ลูกไป
เพราะเห็นพวกมึงเมาหลับกัน ไอ้มาร์คกับไอ้น็อตน่าจะไปไม่ไหว ส่วนไอ้ต้าร์กับไอ้ซีนกูก็ไม่อยากกวนเวลามึงจี๋จ๋ากัน”

ไอ้ยูรีบพูด “พวกมึงก็เลยหนีไปจู๋จี๋กันสองคนใต้ต้นมะม่วงว่างั้น”

“พรวด!!!” ผมสะดุ้งตกใจพ่นข้าวใส่หน้าไอ้เดย์ เพื่อนๆฮากันลั่น แต่ไอ้เดย์มันใจเย็นครับวันนี้ไม่ด่าอะไรผม
ใช้ทิชชู่เช็ดหน้าตัวเองแล้วเช็ดปากให้ผมต่อแถมส่งยิ้มหวานให้อีก
เพื่อนๆทั้งโห่ทั้งแซวล้อในความหวานผิดปกติของเรากันใหญ่ โอ้ยผมเขินบอกไอ้เดย์ไม่อยากกินข้าวแล้ว
อยากนอน มันก็ไม่ยอมครับคะยั้นคะยอให้ผมกินข้าวต่อให้หมดชามก่อนจะกินยาแล้วนอน
เสร็จจากดูแลผมแล้วเดี๋ยวมันจะไปส่งพวกสาวๆที่ท่ารถให้เอง

“โทษทีนะสาวๆที่ไปส่งไม่ได้ ขอบใจมากนะที่อุตส่าห์มาหาเราถึงนี่” ผมพูดเขินๆสายตาที่สาวๆมอง
บอกไอ้เดย์ว่ากินข้าวเองได้มันก็ไม่ยอมจะป้อนต่อให้ได้ พวกผู้หญิงพากันบอกให้ผมพักผ่อน
บอกเดย์ให้ดูแลผมดีๆแล้วไว้ค่อยเจอกันตอนที่ผมกลับบ้านได้แล้ว

“ลูกคิดอย่างนี้วันนี้มึงก็อดไปเที่ยวกับพวกกูอ่ะดิ”
ไอ้คิมบ่นเสียดายพลางยกมือโอบไหล่ดุ๊กดิ๊กที่นั่งข้างกันวางมาด
ดุ๊กดิ๊กยืนยันจะกลับพร้อมไอ้คิมครับ แหม...ติดแฟนน่าดูนะมึง

“กูก็จะอยู่ดูแลไอ้ลูกมัน พวกมึงไปเที่ยวกันเองก่อนนะซื้อขนมมาฝากกูด้วย” ไอ้เดย์พูดยิ้มๆ

ไอ้นาวเดินเข้ามากับน้องมายด์ มันไปรับน้องเขามาจากตลาด มายด์เห็นว่าผมไม่สบายก็เป็นห่วงมาก
“ไม่ต้องห่วงพี่หรอกมายด์ มีเดย์ดูอยู่ทั้งคน” ผมตอบน้องไปก็เขินนะครับแต่มายด์ท่าจะเขินกว่าผมอีก
ทุกคนตกลงจะออกไปพร้อมกัน ไหว้ลาผู้ใหญ่ในบ้านทั้งตายายน้าพิมอวยพรให้สาวๆเดินทางปลอดภัย
ขอให้พวกผู้ชายไปเที่ยวกันให้สนุก เดย์จะแยกไปส่งสาวๆแล้วค่อยกลับมาเฝ้าไข้ผม
พอรถตู้มารับบ้านก็เงียบไปเลย ผมนอนสะลึมสะลือเพราะอิ่มข้าวและฤทธิ์ยา ไม่นานก็ผล็อยหลับไป..

..............
..................
.........
...

“ลูกคิด ลูกคิด”

เสียง.......... ได้ยินเสียงเรียกเบาๆ ผมขยี้ตาทันทีที่ตื่นสมองยังประมวลผลไม่ทัน
คนตรงหน้านอกจากจะเสียงเหมือนพ่อแล้ว หน้าก็เหมือนด้วย.... พ่อ!?
“พ่อจ๋า!”
ผมตกใจลุกพรวดขึ้น พ่อก็เข้ามาจับตัวแตะหน้าผากถามว่าผมเป็นยังไงบ้าง นี่ผมฝันอยู่หรือไงนะ
ผมได้แต่มองพ่อยังเหวอๆงงๆพูดอะไรไม่ออก ในใจทั้งแปลกใจทั้งกังวล ระแวงไปหมด
ทำไมพ่อถึงตามมาที่นี่ได้!?
ยังไม่ทันถามอะไรน้าพิมก็เดินถือแก้วน้ำเข้ามายื่นให้พ่อ พ่อรับไปแล้วขอบคุณ
น้าพิมถามอาการไข้ของผม “ดีขึ้นรึยังลูก” ผมพยักหน้าตอบ “ดีขึ้นแล้วครับ....”
ผมหันไปถามพ่อแบบไม่กล้ามองหน้าพ่อนานนักก็ผมหนีพ่อมา... “พ่อจ๋ามาได้ไง”

“คุยกันไปนะ น้าต้มปลาค้างไว้ในครัวเดี๋ยวขอไปดูก่อน”
น้าพิมขอตัวออกไปเหลือแค่ผมกับพ่ออยู่ในห้องนอนไอ้นาว

“เป็นไข้ได้ยังไง แล้วไอ้นั่นมันไปไหน ทำไมปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว”
“จ๋า...อย่าว่าเดย์”
“เออปกป้องมันเข้าไป”
“เดย์ไปส่งเพื่อน เดี่ยวก็มาครับ จ๋า...ตามมาได้ยังไง โกรธลูกไหม...”
“เรื่องนั้นช่างมันก่อน กลับไปกับพ่อก่อน”
“พ่อจ๋า” ผมโอดครวญ พ่อมาตามผมกลับจริงๆด้วย ยังไม่ยอมปล่อยผมอีกเหรอเนี่ย
“กลับวันนี้เลยไหวหรือเปล่า แต่พ่ออยากให้ไปตอนนี้เลยนะ...คือ.... แม่เราน่ะเขาเข้าโรงพยาบาล”
“ห๊า!? จ๋าว่าไงนะ”
“แม่เข้าโรงพยาบาลเมื่อคืน ตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาล เขาให้พ่อมารับลูกกลับบ้าน”
“ไม่จริงอ่ะ เมื่อวานก็โทรคุยกับแม่จ๋าไม่เห็นเป็นอะไรเลย”
“นี่แกไม่เชื่อพ่อแกแล้วใช่ไหมไอ้ลูก”
“หลังจากที่จ๋าหลอกลูกตัวเองสารพัด ควรเชื่อไหมล่ะ”
“......เฮ้อ! มันดื้อจริงๆ! ขี้เกียจจะเถียงด้วยแล้ว!”
พ่อจ๋าถอนใจใหญ่หยิบมือถือมากดโทรแล้วคุยกับคนในสายว่าผมดื้อไม่ยอมเชื่อ ผมได้แต่มองอย่างสงสัย
ก่อนจะเหวอไปอีกรอบเมื่อรับมือถือจากพ่อมาคุยต่อคนในสายกลายเป็นแม่จ๋าของผมเอง!

“แม่นอนอยู่โรงพยาบาล เมื่อวานเป็นลมน่ะไม่มีอะไรมากหรอกลูก แต่ลูกกลับมาได้แล้วนะ
มาพร้อมพ่อนั่นแหละ” หลังวางสายจากแม่ผมก็ตกลงจะกลับไปกับพ่อ

อาการไข้ผมดีขึ้นแล้วแต่แรงยังไม่ค่อยมี(เมื่อคืนสงสัยใช้เยอะไปหน่อย) แต่ผมขอให้พ่อรอเดย์กลับมาก่อน
ถ้าเดย์กลับมาแล้วไม่เจอผม แถมผมยังไปกับพ่อ มันต้องร้อนใจและไม่ไว้ใจพ่อผมแน่
ยังไงก็ต้องขอให้เดย์ไปด้วย พ่อนั่งหน้าบึ้งไปพักใหญ่ก่อนจะหันมาบอกให้ผมนอนพัก...

..........................................
.....................
........
พอรู้ว่าผมต้องกลับบ้านกะทันหัน ตา ยาย น้าพิม แม้แต่ไอ้นาว ต่างก็บอกให้ผมต้องกลับมาเที่ยวหาอีกให้ได้
ผมดีใจมากที่ทุกคนที่นี่รักและเอ็นดูผมเหมือนลูกเหมือนหลาน
ไอ้เดย์เข้าหน้าพ่อผมไม่ติดนัก ต่างคนต่างอยู่คนละมุม ดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่ทะเลาะกัน ดีแล้วครับเกรงใจตากับยาย
สรุปว่าผมกับเดย์จะกลับไปพร้อมพ่อ ส่วนพวกเพื่อนๆจะตามกลับไปเย็นนี้

บรรยากาศในรถขากลับจากอยุธยาไม่อึดอัดอะไรครับ เพราะเดย์มันขี่มอเตอร์ไซค์ตามหลังรถพ่อจ๋า
แบบไม่ให้คลาดสายตา ผมหลับมาในรถเกือบตลอดทาง ตอนแรกพ่อจะไปส่งผมที่บ้านก่อนเพราะผมไม่สบาย
ไม่อยากให้ไปโรงพยาบาลเลย เขาอยากให้ผมไปพักที่บ้านก่อน แต่ผมไม่ยอม อยากไปหาแม่จ๋าก่อน
และผมก็บอกว่าจะไม่กลับไปนอนที่บ้านพ่ออีก ถ้ากลับขอกลับมาอยู่บ้านแม่เหมือนเดิม พ่อได้แต่เงียบครับ
พ่อไม่พูดถึงเรื่องที่ผมหนีไปเลย เขาคงเสียใจ.. แต่ผมก็ยืนยันจะไม่กลับไปอยู่กับพ่อแล้วจริงๆ

............ที่โรงพยาบาล

ไปถึงห้องพิเศษที่แม่มานอนให้น้ำเกลืออยู่ เจอป้านั่งเฝ้าแม่ที่นอนกินองุ่นดูทีวีหัวเราะร่า..........เดี๋ยวนะ
“พวกตัวดีทั้งหลาย มากันได้สักทีนะ เฮ้อฉันออกไปซื้อของข้างนอกก่อน คุยกันดีๆล่ะ
หวังว่าจะไม่ลืมว่าที่นี่โรงพยาบาล” ป้าพูดขณะที่เดินไปหยิบกระเป๋ามาสะพายแล้วเดินออกจากห้องไป
ผมกับเดย์รีบยกมือไหว้ตอนที่แกเดินผ่าน พ่อจ๋านั่งที่โซฟากอดอกมองแม่ผมที่กินไม่หยุดปาก
“หมอที่นี่รักษาเก่งจริงๆนะ คืนเดียวแข็งแรงยิ่งกว่าอยู่ที่บ้านตัวเองอีก เมื่อวานเหมือนจะเป็นจะตาย”
“เอ๊าก็หมอเขาเก่ง ฉันก็ต้องหายสิ พูดอะไรคนเป็นลมไม่ได้เป็นมะเร็งจะใด้ป่วยใกล้ตายเหมือนในหนัง”
ไอ้เดย์กลั้นขำ พ่อผมส่ายหน้า ผมว่าตอนนี้แม่จ๋าน่าจะแข็งแรงยิ่งกว่าผมอีกนะ

“จ๋า....” ผมเข้าไปหาแม่กระซิบถามแม่ใกล้ๆ “ที่จ๋าบอกให้ลูกกลับมาได้แล้วเนี่ย แสดงว่าพ่อจ๋าเขา..”
แม่จ๋ายิ้มให้ผมกระซิบบอกว่า เมื่อคืนพ่อกับแม่คุยกันแล้วหลังจากที่พ่อไม่เคยยอมฟังแม่เลย
แต่เมื่อคืนนี้พอแม่เข้าโรงพยาบาลพ่อจ๋าก็ยอมฟังแม่มากขึ้น อาจเพราะเห็นว่าแม่ป่วย
“ทำไมจ๋าถึงเป็นลมได้ล่ะ” ผมไม่เคยเห็นแม่เป็นลมมาก่อนเลยตั้งแต่เกิดมา
แม่ผมตอบทีเล่นทีจริงว่าสงสัยเมื่อวานไม่ได้กินข้าว วันนี้ตื่นมาก็หิวทั้งวันแล้วเขาก็หัวเราะชอบใจ
“แล้วแม่จ๋าจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่อ่ะ”
“พรุ่งนี้ก็น่าจะกลับได้แล้วมั้ง เอ๊ะ..ทำไมตัวร้อนๆหือเรา” แม่จับแขนผมแล้วขมวดคิ้ว
“เป็นไข้ก่อนมาน่ะสิ เดี่ยวกินยาตัวก็หายร้อนเองแหละจ๋า”
“เมื่อวานคุยโทรศัพท์กันก็เห็นไปเที่ยวสนุกสนานกับเพื่อนได้อยู่ ทำไมกลับมาเป็นไข้ได้”
“อึก... ทีจ๋าอยู่ๆยังเป็นลมได้เลย อยู่ๆลูกก็เป็นไข้ได้เหมือนกันแหละน่า”
แม่ผมบ่นบอกให้ผมไปหายากินแล้วกลับไปนอนพักที่บ้าน ไม่ต้องห่วงคืนนี้ป้าเขาจะนอนเฝ้าแม่เอง

“จ๋าก็ไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวคืนนี้เดย์จะอยู่กับลูกคิดเอง”
ไอ้เดย์มายืนด้านหลังผมมันบอกพรุ่งนี้จะมารับจ๋ากลับบ้านด้วย
พ่อจ๋าหน้าบึ้งทันทีที่ได้ยินว่าเดย์จะอยู่กับผมคืนนี้ แต่แกต้องหน้าหงิกเข้าไปใหญ่ เมื่อผมตอบปฎิเสธ
ที่จะกลับพร้อมกัน ผมขออยู่กับแม่จ๋าต่ออีกหน่อยแล้วค่อยกลับพร้อมไอ้เดย์ ก็คิดถึงแม่นี่ครับ
มีเรื่องอยากคุยเยอะแยะ อีกอย่างโรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลบ้านมากนัก แถมไอ้เดย์พกยามาด้วย
ผมรีบกินต่อหน้าพ่อให้ดูว่ากินยาแล้วไม่ต้องห่วง พ่อจ๋าก็ได้แต่บ่นว่าผมดื้อมาก

“จ๋า”
ผมเรียกพ่อไว้ก่อนตอนที่เดินตามออกมาจากห้อง พ่อจ๋าหันกลับมามองผมทำหน้าสงสัย
“ขอโทษนะครับ รักพ่อจ๋านะ”
ผมยกมือไหว้แล้วเข้าไปกอดพ่อไว้ น้ำตามันคลอขึ้นมาเอง พ่อก็กอดตอบผมตบหลังตบไหล่เบาๆ
“จะให้พ่อไปจี๋จ๋าดีกับมันคงทำไม่ได้หรอกนะ ยังไงพ่อก็ไม่ชอบมันเหมือนเดิม”
“ลูกเข้าใจ แค่ไม่บังคับให้เลิกกันก็พอ นะจ๋านะ”
“เฮ้อ.....กลับล่ะ ดูแลตัวเองให้ดี เตรียมตัวเข้ามหาลัย ไม่ต้องหนีไปไหนกับมันอีกล่ะ อยู่บ้านกับแม่นั่นแหละ
ไว้ว่างๆจะพาน้องไปหา”
“ครับ” ผมยิ้มให้พ่อโบกมือบ๊ายบายมองพ่อที่เดินไป
พอคิดได้ว่าพ่อไม่บังคับให้เลิกกับเดย์แล้วผมก็ยิ้มกว้างขึ้นมาทันที รีบกลับเข้าไปถามแม่

“จ๋า! จ๋า! ทำไมพ่อจ๋าถึงไม่ว่าอะไรเรื่องเดย์แล้ว” ผมตื่นเต้นมาก แม่ก็หัวเราะ
“เมื่อวานมันเห็นแม่จะตายมั้ง เลยรับปากว่าจะไม่กดดันลูกไม่บังคับจะยอมให้ลูกกลับมาอยู่กับแม่
พ่อเขาก็ยอมรับว่าทำเกินไปหน่อยลูกถึงได้หนีไป แม่เลยให้ไปรับกลับมาแล้วก็ให้สัญญาว่าจะเลิกยุ่งวุ่นวาย”
“จ๋า ถามจริง เล่นละครเหรอ”
“เป็นลมจริงๆ แต่ฉวยโอกาสนิดๆหน่อยๆ55555555”
“โหย รักอ่ะ!!!” ผมกอดแม่แน่น ไอ้เดย์รีบเข้ามากอดทั้งผมทั้งแม่อีกที “โหย รักทั้งสองคนเล้ย!”
+++++++++++++++++++++++++++++++

เรื่องของผมกับเดย์ พ่อจ๋าไม่ยุ่งด้วยอีกอย่างที่รับปากแม่ไว้จริงๆถึงแม้ว่าพ่อจะยังคงไม่ชอบขี้หน้าเดย์เหมือนเดิม
เวลามีวันหยุดยาวหรือช่วงปิดเทอมพ่อจะส่งน้องๆมาหา เจ้าฝาแฝดโตขึ้นมากจริงๆ
อีกไม่นานถ้าขึ้นมัธยมต้นเมื่อไหร่พวกมันคงสูงทันผมแล้ว ไอ้เดย์บ่นทุกทีว่ามันโดนแกล้งทุกครั้งที่น้องๆมา
เพราะมันจะไม่ได้นอนกอดผมเหมือนทุกวัน >////<

ผมกับเพื่อนๆขึ้นมหาวิทยาลัยกันแล้ว เวลาที่ได้มารวมกลุ่มกันแบบครบคนก็น้อยลง ไม่ค่อยได้เจอกันครบแก็งค์
แต่วันนี้เป็นวันพิเศษเพราะไอ้เดย์ถูกหวยครับ!!! มันเลยนัดรวมพลเพื่อนๆไว้ที่ร้านสุกี้

“เร็วดิ๊ไอ้ลูก ช้าเป็นเต่าอีกละ”
ไอ้เดย์คร่อมมอเตอร์ไซค์ถือหมวกกันน็อคอีกใบรอผมหน้าบ้านยังไม่เปลี่ยนชุดนิสิต
ผมรีบตามออกมาหน้าบ้านตรงไปดึงหมวกกันน็อคในมือมัน บ่นงุบงิบ “ก็มึงไม่อาบน้ำนิมึงก็เสร็จเร็วดิ”
“อ้าวๆ มึงอย่ามาหาว่ากูเสร็จเร็ว มึงก็รู้ว่ากูไม่เคยเสร็จเร็ว” ไอ้เลวมันทำยักคิ้วยิ้มกรุ้มกริ่มให้ผมไอ้ทะลึ่ง
“ไอ้บ้า”
“ด่ากู เดี๋ยวพายกล้อหน้าไปกินสุกี้เลยนะ”
“งั้นกูไปรถเมล์ดีกว่า”
“ล้อเล่น ป่ะขึ้นรถ”
ผมขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์กอดเอวมันแล้วรีบถามอ้อน “เดย์มึงโอเคไหมที่วันนี้กูชวนไอ้ไลค์ไปกินสุกี้ด้วย”
“ถามมาได้ควาย” เอ๊า ดูไอ้บ้าเดย์มันด่าผมสิครับ
“ก็มึงบอกเองว่าอยากชวนใครก็ตามใจ”
“มันเลิกชอบมึงแล้วแน่นะ กูไม่ไว้ใจเลย”
“แน่! ไลค์มันบอกว่ามันเจอคนที่มันชอบแล้ว ไม่ใช่กูแล้ว มาเป็นเพื่อนกันน่า”
“ไม่ กูไม่เป็นเพื่อนกับมัน มึงเป็นไปคนเดียวเถอะ”
“โธ่เอ๊ย”
“เป็นไร โกรธเหรอเงียบเชียว”
“เปล่ากำลังนึกถึงวันที่ไปกินสุกี้ด้วยกันครั้งแรก วันนั้นมึงก็เป็นคนเลี้ยงเพราะถูกหวยเหมือนวันนี้เลย555”
“เออ...จริงด้วย ถ้าวันนั้นกูไม่ดึงมึงไว้ วันนี้เราสองคนอาจจะยังเป็นแค่เพื่อนของเพื่อนที่ไม่สนิทกันก็ได้”
“จับกูไว้แล้ว...////// อย่าปล่อยกูไปนะ”
“รับรอง หึหึหึ...กอดแน่นๆนะน้องนะ”
ไอ้บ้าเดย์หัวเราะไม่น่าไว้ใจเลย แล้วก็อย่างที่คิดจริงๆ มันบิดมอเตอร์ไซค์คันโปรดกระชากออกตัวไปอย่างแรง
“ว๊ากกกกกกกก!!!ปล่อยกูลงโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!”
“เคี้ยกกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ผมต้องบีบคอ ตีหลัง ชกไหล่ ไล่หยิกนมมันไปหลายที กว่ามันจะเลิกแกล้งผมได้ ไอ้เดย์หัวเราะคิกคักจับมือผม
ให้กอดเอวมันเหมือนเดิม แล้วก็ขู่ว่าถ้าผมไม่กอดมันแน่นๆมันจะยกล้อ ผมเลยรีบกอดมันแน่นเลย
“มึงนั่นแหละ ห้ามปล่อยมือจากกูรู้ไหม”
“อื้อ//////”
ผมซบหน้ากับแผ่นหลังเดย์ อมยิ้มแล้วหลับตา ถ้าผมกอดมันแน่นๆมันก็จะขี่รถดีๆไปเรื่อยๆ
ผมไม่ปล่อยมือจากมันแน่เพราะอยากอยู่มันอย่างนี้ให้นานๆ






+++++++++++++++++++++++++++จบจ้า++++++++++++++++++++++++++++


tsktonight…

เป็นไงคะโรแมนติกมั้ยใต้ต้นมะม่วง5555555 วิมาดึกเลย ขอบคุณทุกคนที่น่ารักมาก นับถือใจเลยค่ะที่ยังมาอ่านกัน รัก

ใครคิดถึงวิ ใครคิดถึงนิยายวิ ไว้รออ่านเรื่องใหม่นะจ๊ะ "เมื่อคนร้ายๆมีความรักๆ" แล้วเจอกันค่ะ รักทุกคนเลย

ใครชอบเรื่องนี้อย่าลืมทิ้งเม้นไว้เป็นที่ระลึกนะคะวิจะกลับมาอ่านตลอด





 

Create Date : 24 กันยายน 2561
2 comments
Last Update : 24 กันยายน 2561 5:01:47 น.
Counter : 944 Pageviews.

 

เรื่องหน้าเป็นเรื่องของไลค์แน่เลยอ่า
วิมานใต้ต้นมะม่วงนี่ดีนะ แต่...อยากรู้อยากเห็นจังว่าพวกเค้าทำอะไร

 

โดย: อาณาจักรแห่งเรา 2 ธันวาคม 2561 11:42:10 น.  

 

กลับมาอ่านอีกครั้ง ก็คิดถึงนิยายเรื่องนี้ทุกครั้ง สนุกมากๆเลย ถึงแม้จะผ่านมา6ปีแล้วก็ตาม รักคนเขียนมาก ถ้ามีโอกาสอยากให้เขียนต่อนะ ขอบคุณที่สร้างนิยายดีๆแบบนี้ขึ้นมา ขอบคุณจริงๆ

 

โดย: Kircheis IP: 184.22.18.137 13 มีนาคม 2564 19:44:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


tsk.love
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




เพื่อนกัน คนที่มีใจรักวายๆๆๆๆ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2561
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
24 กันยายน 2561
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tsk.love's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.