Bloggang.com : weblog for you and your gang
บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
ปฐมบท...ความจริงของชีวิต
พุทธประวัติ
พุทธองค์ตรัส
หลักปฎิบัติเพื่อหลุดพ้น
โศลกธรรม
คาถาธรรม
ทัสนะ
วิปัสสนาข่าว
ลำนำ
เพลงอริยะ
วิถีแห่งเซน
นวนิยายอิงหลักธรรม
เสียงธรรม
รักเอย ?
เพลงแห่งรัก
ชีวิตจริง
ปรัชญา คติธรรม คำคม
เรื่องราวดี ๆ
Life & Family
สุขภาพ
ธรรมชาติและวัฒนธรรม
จิปาถะ
ถาม-ตอบ ทุก(ทุกข์)ปัญหาชีวิต
รวมลิงค์ทั้งหมด
<<
มีนาคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
22 มีนาคม 2554
จิปาถะ(20)...แด่...หัวใจอันทระนงของ 'ชาวอาทิตย์อุทัย'
All Blogs
จิปาถะ(23)...เพลงรักราตรี ณ เกาะเขียวมรกต(Green Island Serenade)
จิปาถะ(22)...ภาพฝันลวงตา
จิปาถะ(21)...i am sorry
จิปาถะ(20)...แด่...หัวใจอันทระนงของ 'ชาวอาทิตย์อุทัย'
จิปาถะ(19)...วีรบุรุษนิรนามที่ "ฟุคุชิมา" แนวป้องกันสุดท้ายของญี่ปุ่น ในวิกฤตนิวเคลียร์
จิปาถะ(18)...เบื้องหลังความโหดร้ายของนิทานก่อนนอนที่นิยมไปทั่วโลก
จิปาถะ(17)...Wonderful Chill Out Music - east
จิปาถะ(16)...Wonderful Chill Out Music - west
จิปาถะ(14)...ภาพวาดมีชีวิต
จิปาถะ(13)...Zoom
จิปาถะ(12)...10 อันดับ ภาพที่คุณอาจไม่เชื่อว่า มันคือภาพวาด
จิปาถะ(11)...Beautiful Chinese Music 2
จิปาถะ(10)...ชุมชนนิมนต์ยิ้ม 3
จิปาถะ(9)...ชีวามาลา
จิปาถะ(8)...เพลงชุด ท่านผู้หญิงพวงร้อย
จิปาถะ(7)...รักเอิงเอย ฉบับขำ ขำ
จิปาถะ(6)...ชุมชนนิมนต์ยิ้ม 2
จิปาถะ(5)...ชุมชนนิมนต์ยิ้ม 1
จิปาถะ(4)...Beautiful Chinese Music
จิปาถะ(3)...Tsai Chin
จิปาถะ(2)...เพื่อมวลชน
จิปาถะ(1)...เสถียรธรรมสถาน
จิปาถะ(20)...แด่...หัวใจอันทระนงของ 'ชาวอาทิตย์อุทัย'
กระแสธารความห่วงใยจากมหาชนทั่วโลก ยังคงหลั่งไหลมาสู่ดินแดนอาทิตย์อุทัยอย่างไม่ขาดสาย หลังเกิดมหันตภัยอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เหตุแผ่นดินไหว คลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่ม และล่าสุดการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ส่งผลให้มีชาวญี่ปุ่นจำนวนมหาศาลต้องจบชีวิตลง
ภาพของอุปกรณ์เครื่องใช้ ข้าวปลาอาหาร ทุนทรัพย์เล็กๆ น้อยๆ และแรงกำลังของเจ้าหน้าที่จากประเทศต่างๆ ซึ่งได้รับอนุญาตจากเจ้าภาพ ถูกส่งมายังผู้ประสบภัย กลายเป็นสิ่งเรียกน้ำตาได้อย่างดีให้แก่ผู้พบเห็น เพราะมันคือเครื่องบ่งชี้ได้อย่างดีว่า แม้แต่เส้นอาณาเขตที่กั้นอยู่ก็ไม่สำคัญเท่ากับ จิตสำนึกของความเป็นคนได้
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับพลังใจจากภายในตัวของชาวญี่ปุ่นเอง ใบหน้าที่ยังคงนิ่งเฉย และยอมรับต่อสถานการณ์ความเป็นจริงอย่างเข้มแข็ง บ่งบอกว่าพวกเขาไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา และพร้อมที่จะยิ้มเดินหน้าต่อไป เพื่อให้ญี่ปุ่นกลับมาเป็นเหมือนเดิม โดยไม่ต้องร้องขอความเห็นใจจากใคร กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่ทำให้คนทั่วโลกต่างยกย่องหัวใจดวงน้อยๆ ของคนที่นี่นั้น ไม่ธรรมดาจริงๆ
แน่นอนปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำให้หัวใจของคนญี่ปุ่นเข้มแข็งเช่นนี้ แต่เป็นเพราะประสบการณ์ที่ต้องเผชิญมาอย่างหนักหน่วง เช่น สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งญี่ปุ่นพ่ายแพ้อย่างยับเยิน หลายเมืองถูกเครื่องบินถล่มด้วยระเบิดมากมาย รวมถึงระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ แถมประเทศยังต้องอยู่ภายใต้การปกครองของชาติตะวันตกอีก กลายเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้พวกเขารู้ว่าล้มไม่ได้ และถึงจะล้มก็ต้องพยายามลุกขึ้นให้เร็วที่สุด
ดังคำอธิบายของนักวิชาการด้านญี่ปุ่นศึกษา ปิยะ เดชะศิริ ผู้ช่วยผู้จัดการแผนก บริหารงานบุคคลและธุรการ บริษัท แคมพลาส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเล่าว่า ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีความเป็นชาตินิยมสูงมากๆ เพราะทุกคนต่างก็มีความเชื่อว่า ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของประเทศชาติ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดวิกฤตครั้งไหนๆ ญี่ปุ่นก็สามารถผ่านพ้นมาได้
ช่วงที่แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นเป็นหนี้ อยู่ในสภาวะหมดทางหนีทีไล่แล้ว ก็เลยมานั่งรวมพลังในการกอบกู้ประเทศขึ้นมา โดยที่ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเองและปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ค่าของเงิน เมื่อก่อน 1 ดอลลาร์จะแลกได้ประมาณ 240 เยน เมื่อญี่ปุ่นมีการพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีขึ้นมาผลก็คือ ค่าเงินของญี่ปุ่นมันเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ จาก 240 เหลือไม่ถึง 100 เยนในปัจจุบัน ผลก็คือประเทศชาติอื่นที่จะเอาเงินไปแลก ได้เงินเยนน้อยลง เงินญี่ปุ่นก็แข็งขึ้นมามาก โดยผลกระทบเรื่องการส่งออกญี่ปุ่นเขาก็มีการพัฒนาตัวเองขึ้นมาให้มีค่าในการส่งออกไปขาย ทุกคนไม่ได้เห็นแก่ตัวเมื่อได้รับผลกระทบเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันขึ้นมา
ซึ่งกว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ ก็ต้องใช้ทั้งจิตวิญญาณ และระเบียบวินัยอย่างมหาศาลจึงบรรลุไปสู่เป้าหมายได้
หากแปลความหมายจากภาษาญี่ปุ่น คนที่ไม่อยู่ในกฎระเบียบ เปรียบเหมือนตะปูที่ยื่นออกมา เมื่อใดก็ตามที่คุณเป็นเหมือนตะปูที่ยื่นออกมาจากไม้แล้ว คุณจะต้องถูกตอกกลับเข้าไป ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ไม่ได้รู้สึกสักเท่าไหร่ มันทำให้เมื่อเกิดตะปูยื่นออกมาคือ สิ่งไม่ถูกต้อง สังคมก็เพิกเฉย แต่สังคมญี่ปุ่นบอกว่าไม่ใช่นะ ต้องถูกทุบกลับเข้าไป เมื่อทั้งหมดทั้งมวลรวมกันทุกคนรู้ว่าคือหน้าที่ในการฟันฝ่าอุปสรรคของประเทศชาติไปด้วยกัน
อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา เมื่อมองย้อนกลับไปทุกคนรับรู้ว่าคือวิกฤตคือโศกนาฏกรรม แต่ว่าขณะเดียวกันมันคือโอกาสที่ญี่ปุ่นจะทำให้คนทั้งโลกเห็นว่า เขาอยู่กันได้นะ เขามีการแก้ปัญหา วางแผนการป้องกันไว้แล้ว เมื่อเกิดปัญหาเขาไม่มีความตระหนกตกใจ
เช่นเดียวกับมุมมองของ ติ๊ก-กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ ดาราสาวและพิธีกรรายเซย์ไฮ ในฐานะทูตสันถวไมตรีของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งย้ำให้เห็นถึงจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์นี้ไ ด้ซึมลึกเขาไปอยู่ในตัวตนของคนญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นความรักศักดิ์ศรี ความมีระเบียบต่อตัวเองต่อสังคม สังเกตได้จากการเข้าคิวของคนที่นั้น ซึ่งสะท้อนความเชื่อได้อย่างดีว่า คนญี่ปุ่นมองว่า การรอจะทำให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนา หรือการไม่ยอมรับทิป เพราะถูกสอนให้รักศักดิ์ศรีและหน้าที่การงานของตนเอง
เราไม่ได้เห็นว่าเขาสอนเด็กๆ ยังไง แต่ผู้ใหญ่เขาทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี อย่างติ๊กไปเจอเจ้าของบริษัทอะไรก็ตาม ถ้าเขาเห็นขยะ เขาจะก้มเก็บเองโดยไม่สั่งให้ใครเก็บ และไม่ได้สั่งให้ลูกน้องเอาไปทิ้งนะ เขาจะเก็บไว้กับตัวเอง ถ้าไม่มีถังขยะตามทางเดิน เขาก็จะเอาไปทิ้งที่บ้านหรือที่ทำงาน
แต่เหนือสิ่งอื่นใด การจะผ่านพ้นอุปสรรคไปให้ได้จะขาดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้เป็นอันขาดนั่นก็คือ 'ศรัทธา'
.เป็นศรัทธาที่มีต่อตนเอง ต่อความเชื่อ และต่อสิ่งที่ตัวเองรัก เพราะนี่คือยาอย่างดีที่จะหล่อเลี้ยงขวัญและกำลังใจให้พวกเขาสามารถกลับมามีพลังได้เช่นเดิม
คนที่นั่นเขามีศรัทธาและความเชื่อมั่นสูงมาก แม้แต่รัฐบาลเองซึ่งถูกโจมตีหลายเรื่อง แต่คนญี่ปุ่นเองก็เชื่อว่าทุกอย่างต้องฟันฝ่าไปได้ เพราะฉะนั้นเขาเองจะมีความเชื่อว่า ผู้นำของเขาจะเป็นกลไกสำคัญ ที่จะจัดการการแก้ไขปัญหา นอกเหนือจากบริบททางสังคมเขามีพลังที่เชื่อมโยงกันที่สำคัญที่จะไปสู่การแก้ปัญหาวิกฤตพร้อมกัน ที่ผ่านมาเขาผ่านจุดร่วมด้วย เหมือนประวัติศาสตร์ที่เขาภูมิใจว่าเคยผ่านมาได้ ครั้งนี้ก็จะผ่านไปได้ เด็กหรือคนรุ่นใหม่ได้ถูกสั่งสอนว่า เราเคยผ่านมาแล้วนะ ไม่ว่าต่อไปเราจะเกิดอะไรขึ้น เราก็พร้อม ปิยะกล่าวสรุป
..........
แม้ตอนนี้ชาวญี่ปุ่นจะบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก แต่การที่พยายามลุกขึ้นโดยไม่ยอมแพ้ต่อความโชคร้ายแม้แต่น้อย ก็คือคำตอบอย่างดีที่แสดงให้เห็นว่า ใจของคนที่นั่นช่างยิ่งใหญ่ขนาดไหน
และสิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นเครื่องเตือนใจชาวโลกว่า แม้ข้างหน้าจะมีขวากหนามขนาดไหน แต่ถ้าใจสู้สักอย่างก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ฝ่าไปได้ ดั่งเช่นชาวอาทิตย์อุทัย
..........
'หัวใจนักสู้' ที่เรียกว่า 'คนญี่ปุ่น'
การต่อสู้กับความโหดร้ายของชีวิตนั้นไม่ใช่ที่ใครจะผ่านไปได้ ภาพบางอย่างอาจจะเป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนจิตใจ จนกระทั่งวันสุดท้ายของญี่ปุ่น และชาวญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน เหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนี้คือฝันร้ายที่ทุกคนไม่อยากจะให้เกิดขึ้น แต่เมื่อต้องเผชิญแล้ว คำว่า 'สู้' คงเป็นคำตอบเดียวที่จะกล่าวขึ้นมาได้ และเรื่องราวต่อไปนี้ก็คือ การส่งเสียง 'สู้' เสียงเล็กๆ ของคนญี่ปุ่นที่จะทำให้กันได้ในยามที่ทุกคนต้องการกำลังใจอย่างสูงเช่นนี้
1. รอยยิ้ม
ภาพชุด 'รอยยิ้ม' เกือบร้อยภาพจากฝีมือการวาดของทาเคฮิโกะ อิโนะอุเอะ เจ้าของผลงาน Slam Dunk อาจจะดูสิ่งธรรมดาๆ หากปรากฏขึ้นในยามปกติ แต่สำหรับยามวิกฤตที่ทุกคนกำลังอ่อนล้าเช่นนี้ รอยยิ้มเล็กๆ อาจจะมีค่ามหาศาลก็เป็นได้ แม้สิ่งนั้นจะเป็นเพียงแค่การ์ตูนลายเส้นเท่านั้นเอง แต่ทว่าทุกภาพกลับอัดแน่นไปด้วยพลังของความห่วงใยที่มีให้กัน ราวกับมีนัยที่จะบอกให้ทุกคนได้รู้ว่า 'ไม่เป็นไร จงยิ้มและก้าวต่อไปข้างหน้า' แค่นี้ก็คงเพียงพอแล้วที่ชาวญี่ปุ่นต้องการ (ติดตามผลงานของอิโนะอุเอะได้ที่ //twitpic.com/48u69p)
2. กัมบาเระ
คำพูดหนึ่งที่ยังคงติดปากของคนญี่ปุ่นไม่ว่ายุคไหนสมัยไหน ก็คือ 'กัมบาเระ' ซึ่งแปลเป็นไทยง่ายๆ ว่า 'พยายามต่อไป' หรือ 'สู้ๆ' ซึ่งเหตุผลอาจจะเป็นเพราะคนที่นั่นต้องเผชิญโศกนาฏกรรมมาไม่รู้กี่หนแล้ว แน่นอนแม้นี่จะเพียงคำพูดสั้นๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่า มันกลับมีคุณค่ามหาศาลอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตนี้ เพราะบางทีคำพูดแค่นี้ อาจจะสร้างเรียกพลังใจที่เคยแตกสลายให้คืนกลับมาอีกครั้งได้ และที่สำคัญ นี่คือเครื่องสะท้อนจิตใจและตัวตนของคนญี่ปุ่นอย่างดีว่าพวกเขาห่วงเป็นใยเพื่อนร่วมชาติมากขนาดไหนอีกด้วย
3. น้ำกิน-น้ำใจ
หากเป็นประเทศอื่นอาจเกิดการตะลุมบอนกันแล้ว แต่สำหรับญี่ปุ่นแล้ว เรื่องน้ำใจถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อย่างเรื่องราวจากอินเทอร์เน็ตของผู้ชายไทยคนหนึ่ง ซึ่งเล่าประสบการณ์ช่วงที่อยู่ที่นั่นว่า แทบจะไม่มีน้ำกินเลย เพราะไปร้านไหนๆ ต่างก็ถูกกวาดซื้อไปหมด แต่อย่างน้อยเขาก็หวังพระเจ้าคงจะใจดีประทานน้ำให้แก่เขาสักนิด จึงได้เดินทางออกไปหาซื้อน้ำอีกรอบ ระหว่างนั้นก็เจอคนญี่ปุ่นที่ข้างทาง ซึ่งก็ถามเขาว่าจะไปไหน จึงตอบไปว่า ไปซื้อน้ำแล้วก็จากไป แน่นอนว่าผลที่เป็นไปอย่างที่คาด เขากลับบ้านมาอย่างเหนื่อยล้าและผิดหวัง แต่เมื่อตื่นเช้าขึ้นมากลับพบว่ามีน้ำอยู่ 4-5 ขวดบรรจุอยู่ในถุงอย่างดีพร้อมกับข้อความเล็กๆ แขวนไว้หน้าประตู ซึ่งก็เป็นน้ำจากคนญี่ปุ่นนั่นเอง
4. ห้องน้ำยามยาก
ไม่บ่อยนักที่ใครจะยอมให้คนอื่นเข้าไปใช้ห้องน้ำในบ้านตัวเอง แต่ไม่ใช่สำหรับผู้หญิงคนนี้แน่ๆ เพราะในยามที่รถไฟฟ้าต้องปิดให้บริการ ส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากต้องเดินเท้ากลับบ้าน หลายคนจึงปวดหนักปวดเบาเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งก็มีหลายๆ บ้านใจดี ติดป้ายว่า 'เชิญใช้ห้องน้ำได้ค่ะ' แค่ป้ายเล็กๆ ก็ทำเอาคนน้ำตาไหลเป็นกองแล้ว
5. วีรบุรุษโรงไฟฟ้า
ในช่วงที่เกิดเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดดูเหมือนทุกคนจะพยายามถอยหนีกันหมด แต่สำหรับผู้ชายวัย 59 ปีคนหนึ่งกลับยืนหยัดจะกู้วิกฤตชาติครั้งนี้ เพื่อยับยั้งการรั่วไหลของกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ โดยบุตรสาวของเขาได้ทวิตข้อความกินใจเอาไว้ว่า พ่อพูดว่า อนาคตของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขึ้นอยู่กับวิธีจัดการกับวิกฤตครั้งนี้ของเรา พ่อต้องไปเพราะมันเป็นหน้าที่...ฉันไม่เคยภูมิใจในตัวพ่อเท่านี้มาก่อน
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
Create Date : 22 มีนาคม 2554
Last Update : 22 มีนาคม 2554 12:32:28 น.
1 comments
Counter : 610 Pageviews.
Share
Tweet
ก๊อก ก๊อก มีความรัก ความคิดถึง
มาฝากจ้า ช่วยเปิดประตูรับหน่อยได้ไหมค่ะ
ญี่ปุ่นเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมสูง เขาสอนให้คนของเขารู้จักอดทน มีระเบียบวินัย น่า
สรรเสริญจริง ๆ ค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 23 มีนาคม 2554 เวลา:4:44:11 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
atruthoflife10
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [
?
]
ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553
ดับไป....???
Friends' blogs
สู้ตาย85
ไวน์กับสายน้ำ
กัปตันลูกชุบ
พธู
shadee829
Webmaster - BlogGang
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
เกษตร-เกษตรพอเพียง
ศาสนา-พลังจิต
IT-Zone IT
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
มาฝากจ้า ช่วยเปิดประตูรับหน่อยได้ไหมค่ะ
ญี่ปุ่นเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมสูง เขาสอนให้คนของเขารู้จักอดทน มีระเบียบวินัย น่า
สรรเสริญจริง ๆ ค่ะ