บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
18 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
หลักปฏิบัติ(8)…คั้นออกมาจากศีล บทหนึ่ง






"ศีล" นั้นเป็นหัวใจ ในการปฏิบัติธรรม อันสำคัญยิ่ง ตามคำสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นพระบรมศาสดา ของ "ศาสนาพุทธ" คำสอนหลักใหญ่ จึงจะต้องดำเนินตาม องค์ปรมาจารย์ เจ้าลัทธิของเรา คือ "ศีล-สมาธิ-ปัญญา"

แม้คำสอนย่อยๆ ใดๆ อันจะประพฤติ เพื่อเป็นไปตามลำดับ มีเบื้องต้น ท่ามกลาง บั้นปลาย เมื่อรู้จักพระรัตนตรัย และศรัทธาในพระรัตนตรัย โดยจริง โดยแท้ ถูกต้องตรงตัวแล้ว เริ่มหลักสูตรในการเรียน และประพฤติธรรม ก็จะเริ่มที่ "ศีล" นั้นทั้งสิ้น

นั่นคือ หลักการต่างๆ ที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน โปรดสรรพสัตว์ ให้พ้นทุกข์ เป็นคำสอนซ้ำซากหลากหลาย (พหุลานุสาสนี) ซึ่งตัวอย่างมีมากมาย หลากล้น ในพระไตรปิฎก

แต่เป็นเพราะ เราชาวพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ในปัจจุบันนี้ ชินชา และประมาท คำว่า "ศีล" กันไปหมดแล้ว เนื่องจาก เห็นเป็นของพื้นๆ เห็นเป็นเรื่องเบื้องต้น จึงได้ทำให้ "พุทธศาสนิกชน" พลาดจุดหมาย และออกนอกขอบเขตของพุทธ หลงทางนิพพาน ไปเสียอย่างจริงจัง "ศีล" มันจึงกลายเป็นสิ่งไร้ค่า สำหรับคนผู้หลงผิด (มิจฉาทิฐิบุคคล) ไปหมด แต่แท้จริงนั้น "ศีล" นั้นคือ หลักสำคัญสูงสุด และก็เพราะ "ศีล" นี้จริงๆ เป็น "หลักการ" เป็นองค์ประกอบ ในการปฏิบัติทั่วไป สำหรับคนทั่วไป จึงจะทำให้บุคคลผู้ประพฤติธรรม บรรลุธรรม [ยกเว้นผู้มีบุญบารมีที่เข้าข่าย "อุคฆฏิตัญญู" เยี่ยมยอดจริงๆ แม้ในพุทธสมัย ก็มีเพียงไม่กี่คนในโลก ที่ไม่ต้องปฏิบัติ] ดังพระพุทธพจน์ต่อไปนี้:-

จาก "กิมัตถิยสูตร" พระไตรปิฎก เล่ม ๒๔ พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต อานิสังสวรรค ที่ ๑ ข้อ ๑ และ เอกาทสกนิบาต นิสสายวรรค ที่ ๑ ข้อ ๒๐๘

"ดูกรอานนท์ ศีลที่เป็นกุศล ย่อมยังความเป็นพระอรหันต์ ให้บริบูรณ์ โดยลำดับฯ" (กุสลานิ สีลานิ อนุปุพฺเพน อรหตฺตาย ปริปูเรนฺตีติฯ)

ดังนี้เป็นต้น จะเห็นได้ชัดว่า "ศีล" นั้นเป็น "เหตุ" และ "กุศล" นั้น เป็น "ผล" ของผู้พากเพียรมุ่งหมาย ชนิดที่เป็น "อิทัปปัจจยตา" (คือ ความมีสิ่งนี้ จึงมีสิ่งนั้น ความมีสิ่งนั้น จึงมีสิ่งโน้น…) อย่างต่อเนื่อง จนถึงที่สุด และ "มีสภาวะถึงที่สุด" จริงๆ ด้วย

ไม่ใช่เป็น "อิทัปปัจจยตา" ชนิดที่ "ไม่มีสภาวะจบ" คือ ไม่หมดเกิดสภาวะนั้นๆ ตลอดไป หรือ "มีที่สุด" ก็เป็นเพียงความนึกคิดเอา เป็นเพียงความเข้าใจได้ชัดแจ้ง ในความหมายเท่านั้น ส่วนสภาวะที่สุดจริงๆ ดับจริงๆ สูญจริงๆ นั้น ไม่มี

แต่มี "กุศล" สูงขึ้นๆ เพราะนิวรณ์ ๕ อันเป็นเหตุให้เกิด "อวิชชา" ลดจางลงๆ จริงๆ และกายกรรมสุจริตขึ้น วจีสุจริตขึ้น มโนสุจริตขึ้นจริงๆ "อวิชชา" เบาบางลงๆๆ จนที่สุด "อวิชชา" ไม่มี เพราะสภาวะของ "นิวรณ์ ๕" ดับสนิท ไม่มีในจิตตลอดไปในชีวิตจริงๆ [เนื่องจาก "นิวรณ์ ๕" นั้น เป็นอาหารของ "อวิชชา" ดั่งพระพุทธพจน์ใน "อวิชชาสูตร" อังคุต. ทสก. ข้อ ๖๑]

ไม่ใช่ "อวิชชา" ไม่มี เพราะเพียงเข้าใจได้อย่างซาบซึ้ง ชัดแจ๋วถึงขั้น "หายโง่" เลยหลงตนว่า หมด "อวิชชา" หรือหมดทุกข์สนิท ถอนอาสวะสิ้นแล้ว ดับไม่เหลือแล้วเรา แค่นั้นก็หาไม่
ระวังจะหลง "ความเฉลียวฉลาด" ที่เรียกในภาษาบาลีว่า "เฉโก" คือ ยิ่งฉลาด ซ่อนบังมาให้ตัวของตนได้ ชนิดที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัวได้ง่ายๆ และหลงมันว่า นี่เป็น "ปัญญาตรัสรู้" ปานนั้นก็ยังได้

ถ้าปฏิบัติ "ศีล" ให้เกิด "กุศล" ได้จริงๆ สูงขึ้นๆ ตามลำดับ และสูงสุดก็คือ "อรหัตผล" หรือถึงความเป็น "พระอรหันต์" อย่างที่พระบรมศาสดา ของเราชาวพุทธ ทรงยืนยัน

ดังนั้น ผู้เข้าใจผิดว่า "ศีล" ไม่ใช่ทางแห่ง "โลกุตตรธรรม" หรือ แม้มีอาจารย์บางท่านกล่าวว่า เรื่อง "ศีล" ก็ดี เรื่อง "กุศล-อกุศล" ก็ดีนั้น ไม่ใช่เรื่องของ "โลกุตตรธรรม" ก็คือ ผู้หลงทางโดยแท้ [ตาม "คิริมานนทสูตร" ซึ่งมียืนยันไว้ใน "บท" ต่อไป]

ขอให้สังเกตจาก ข้อความละเอียด เพิ่มขึ้นของ "กิมัตถิยสูตร" นี้บางส่วนต่อไปนี้ ก็จะเห็นได้

"ดูกรอานนท์ ศีลที่เป็นกุศล มีความไม่เดือดร้อนเป็นผล มีความไม่เดือดร้อนเป็นอานิสงส์
ความไม่เดือดร้อน มีความปราโมทย์เป็นผล มีความปราโมทย์เป็นอานิสงส์
ความปราโมทย์ มีปีติเป็นผล มีปีติเป็นอานิสงส์
ปีติ มีปัสสัทธิเป็นผล มีปัสสัทธิเป็นอานิสงส์
ปัสสัทธิ มีสุขเป็นผล มีสุขเป็นอานิสงส์
สุข มีสมาธิเป็นผล มีสมาธิเป็นอานิสงส์
สมาธิ มียถาภูตญาณทัสสนะเป็นผล มียถาภูตญาณทัสสนะ เป็นอานิสงส์
ยถาภูตญาณทัสสนะ มีนิพพิทาเป็นผล มีนิพพิทาเป็นอานิสงส์
นิพพิทา มีวิราคะเป็นผล มีวิราคะเป็นอานิสงส์
วิราคะ มีวิมุติญาณทัสสนะเป็นผล มีวิมุติญาณทัสสนะ เป็นอานิสงส์
ดูกรอานนท์ ศีลที่เป็นกุศล ย่อมยังความเป็นพระอรหันต์ ให้บริบูรณ์โดยลำดับ ด้วยประการดังนี้แล"

สังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่า เพราะปฏิบัติ "ศีล" เป็น "กุศล" นั่นคือ "เหตุ" แล้วจึงเกิดก่อต่อเป็น "ผล" เนื่องต่อไป จนเป็น "สมาธิ" จนเป็น "ปัญญา" แท้ๆ "ปัญญา" ทางธรรม คือ "ยถาภูตญาณทัสสนะ" และจนที่สุดถึงขั้นเป็น "ปัญญาวิมุติ" คือ ปัญญาขั้น "วิมุติญาณทัสสนะ" เป็น "ปัญญา" ที่เห็นแจ้ง ของจริง ที่เป็นจริง มีสภาวะจริงแห่ง "วิมุติ" คือ อย่างน้อย ก็เห็นสภาวะ "นิวรณ์ ๕" ดับสนิท ไม่เกิดในจิตของตนอีก เป็นธรรมดาทุกๆ ปัจจุบัน ทุกๆ อิริยาบถ ทุกๆ ผัสสะ จริงๆ

กว่าจะมี "อรหัตผล" แต่ละเรื่อง แต่ละผัสสะนั้น มิใช่การประหานเพียงกดข่มได้ เป็นบางรอบ บางขนาด (วิกขัมภนปหาน) แบบทำได้ด้วย การปลดปล่อยได้ ชั่วช่วง ชั่วคราว (ตทังคปหาน) แบบประหานได้เก่งขึ้น จนสงบ จนมีผล ได้ลิ้มผลเยือกเย็น ภายในจิตมากพอ (ปฏิปัสสัทธิปหาน) หรือแม้จะเป็นแบบสลัด ทั้งปล่อยวางได้เร็ว มีความชำนาญ และสามารถมากก็ตาม (นิสสรณปหาน) แต่ยังไม่ถึงขั้น สภาวะประหานได้ ชนิดขาดสูญไม่เกิดอีก อย่างต่อเนื่องเด็ดขาด ไม่เกิดอีกต่อไปในชีวิต (สมุจเฉทปหาน) ก็ยังไม่ถือว่า เป็น "อรหัตผล" หรือเรียกว่า สถาวะ "อรหันต์"

จาก "ศีลสัมปทาสูตรที่ ๒" พระไตรปิฎก เล่ม ๑๙ พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค ข้อ ๑๔๐

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อพระอาทิตย์จะขึ้น สิ่งขึ้นก่อน สิ่งที่เป็นนิมิตมาก่อน คือ แสงเงินแสงทอง ฉันใดก็ดี เพื่อความเกิดขึ้น แห่งอริยมรรคมีองค์ ๘ ของภิกษุ (คือ เกิด "อริยสัจ" ในผู้ปฏิบัติ) ความถึงพร้อมด้วยศีล ย่อมเป็นหลักเบื้องต้น เป็นนิมิตเบื้องต้น ฉันนั้นฯ"

จาก "ภิกขุสูตร" พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค ข้อ ๖๘๗

"ดูกรภิกษุ เพราะเหตุนั้นแหละ เธอจงชำระสิ่งอันเป็นเบื้องต้น ในกุศลทั้งหลาย ให้บริสุทธิ์ก่อนเถิด ก็อะไรเล่า เป็นสิ่งเบื้องต้น ของสิ่งอันเป็นกุศลทั้งหลาย สิ่งเบื้องต้น ก็ได้แก่ ศีลอันบริสุทธิ์หมดจดด้วยดี และ ความเห็น (ทิฐิ) ที่ถูกตรง เมื่อใดศีลของเธอ เป็นศีลที่บริสุทธิ์ หมดจดด้วยดี และ ทิฐิ ก็จักเป็นความเห็น ที่ถูกตรงด้วย เมื่อนั้นเธออาศัยศีล ตั้งอยู่ในศีลแล้ว พึงอบรมสติปัฏฐาน ๔ โดยส่วน ๓ เถิดฯ"

จาก "ราชาสูตร" พระไตรปิฎก เล่ม ๑๙ พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค ข้อ ๑๔๑๒

"ดูกรพระภิกษุทั้งหลาย… อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ผู้ควรนอบน้อมบูชา ผู้ควรแก่การต้อนรับ ผู้ควรได้รับของทำบุญ ผู้ควรนอบไหว้เคารพ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ประกอบพร้อมแล้ว ด้วยศีล อันเป็นที่น่าพอใจของพระอริยเจ้า (อริยกันตศีล) ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นไท วิญญูชนสรรเสริญ ไม่ถูกลูบคลำด้วยตัณหาและทิฏฐิ และเป็นไปเพื่อสมาธิ"

จาก "โสณฑันฑสูตร" พระไตรปิฎก เล่ม ๙ พระสุตตันตปิฎก ศีลขันธวรรค ทีฆนิกาย ข้อ ๑๙๓.

"ดูกรพราหมณ์ ศีลย่อมชำระปัญญา ให้บริสุทธิ์ และปัญญาเล่า ก็ชำระศีล ให้บริสุทธิ์เหมือนกัน ศีลอยู่ที่ใด ปัญญาอยู่ที่นั้น ปัญญาอยู่ที่ใด ศีลอยู่ที่นั้น ผู้มีศีล ก็มีปัญญา ผู้มีปัญญา ก็มีศีล บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมกล่าวถึงศีล และปัญญาว่า เป็นของเลิศในโลก เปรียบเสมือน คนล้างมือด้วยมือ หรือล้างเท้าด้วยเท้า ฉันใด ศีลย่อมชำระปัญญา ให้บริสุทธิ์ และปัญญาเล่า ก็ชำระศีล ให้บริสุทธิ์เหมือนกัน ศีลอยู่ที่ใด ปัญญาอยู่ที่นั้น ปัญญาอยู่ที่ใด ศีลอยู่ที่นั้น ผู้มีศีล ก็มีปัญญา ผู้มีปัญญา ก็มีศีล บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมกล่าวถึงศีล และปัญญาว่า เป็นของเลิศในโลก ฉันนั้นเหมือนกัน"



ธรรมบรรยายจากครูอาจารย์






Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2554 11:03:30 น. 16 comments
Counter : 1250 Pageviews.

 


สาธุ

มีสุขด้วยธรรมในวันพระใหญ่วันนี้ค่ะ


ขออนุญาตนำดอกรำเพยกับโคลงประกอบมาฝาก
อาจจะไม่เข้ากับบล็อคนี้นัก คงไม่ว่ากันนะคะ






โดย: พธู วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:18:58:39 น.  

 




เชิญไปชม เด็กเหมียว
อยากทำบุญด้วยอ่ะจ่ะ...

************

อยากจะไปแต่ไม่มีเพื่อนอ่ะจ่ะ...
งือ...งือ...



โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:23:07:32 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...



อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์ค่ะ


โดย: KeRiDa วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:4:49:17 น.  

 
อนุโมทนาสาธุครับ


โดย: shadee829 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:59:51 น.  

 


-ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิดดีๆค่ะ-


โดย: k'mom k'daugh วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:12:12:44 น.  

 
Orkut Scraps - Good Morning




อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์ค่ะ
แวะมาทักทายกันเป็นประจำ


โดย: KeRiDa วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:4:54:19 น.  

 
ขอบคุณ สำหรับกลอนอวยพร ดีๆ นะคะ



โดย: aa-noo DCN วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:07:52 น.  

 


โดย: KeRiDa วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:4:42:08 น.  

 
สวัสดีวันทำงานวันแรกของสัปดาห์ค่ะ มีความสุขกับการทำงานนะคะ



Friends18.com Orkut MySpace Hi5 Scrap Images




โดย: phunsud วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:12:28:23 น.  

 
Orkut Scraps - Good Morning





อรุณสวัสดิ์เช้าวันอังคารค่ะ แวะมาทักทายจ้า



โดย: KeRiDa วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:5:12:50 น.  

 
ขอบคุณมากมายสำหรับคำทายทัก
ขอบคุณความรักมิตรภาพที่มอบให้
ขอบคุณเหลือเกินสำหรับความอาทรห่วงใย
ขอบคุณน้ำใจทุกถ้อยคำอวยพร

ไม่รู้จะขอบคุณอย่างไรจึงแต่งกลอนนี้มาขอบคุณมาก ๆ นะคะ ที่แวะมาอวยพรวันเกิดให้เรานะ

ขอให้เพื่อนมีวันดีดี มีจิตใจเข้มแข็งขึ้นทุกวัน พร้อมจะเผชิญทุกปัญหา และผ่านมันไปได้ด้วยดีทุก ๆ วันค่ะ ^_^


โดย: ริเศรษฐ์ วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:1:15:19 น.  

 
Orkut Scraps - Good Morning





อรุณสวัสดิ์เช้าวันพุธค่ะ แวะมาทักทายจ้า



โดย: KeRiDa วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:4:58:34 น.  

 
ตามมาอ่านธรรมบรรยาย ทำให้รู้สึกใจสงบขออนุโมทนาด้วยนะคะ


โดย: ม่านแพร IP: 223.204.91.226 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:33:27 น.  

 
สวัสดีวันพุธสุดท้าย ของเดือนแห่งความรักจ้า





โดย: phunsud วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:37:20 น.  

 
ขอขอบคุณที่เข้ามา มอบการ์ด สวย ๆ คำอวยพรไพเราะ
สัปดาห์ก่อน วิ่งไปมาเรื่องทำบุญ ด้วย ฯลฯ แล้วก็ไปต่างจังหวัด
มาด้วย กลับมา ยุ่งอีก เพิ่งได้เข้ามาดูบล็อกวันนี้ ค่ะ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ


โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:0:23:10 น.  

 
ขอบคุณที่ มาทักทาย วันเกิด ค่ะ ..
มารับ ข้อมูล ดี ๆจากบ้าน นี้ ด้วยค่ะ
ขอให้มีความสุข เช่น กัน.


โดย: tifun วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:12:36:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

atruthoflife10
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




กลับคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยสุขภาพที่ดีกว่า

ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553

ดับไป....???

Friends' blogs
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.