Life&Family(54)...โรคที่ผู้หญิงเป็น แต่ผู้ชายอาจไม่รู้ /ดร. สุพาพร เทพยสุวรรณ
แทบไม่น่าเชื่อว่า85 % ของผู้หญิงมีอาการบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายให้ใครฟังได้ ในช่วงก่อนมีประจำเดือนประมาณ 2 สัปดาห์ อาการนี้บางครั้งอาจทำให้ในบางครอบครัวเกิดปัญหาต่าง ๆ มากมายจนถึงขั้นทะเลาะกันอย่างรุนแรง หรือขนาดแทบจะขอเลิกรากันไปก็มี และในบางรายผู้หญิงอาจคิดสั้นฆ่าตัวตายก็เป็นได้ เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้กันดีกว่า โรคนี้มีชื่อว่า PMS หรือ Premenstrual Syndrome ซึ่งสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด เพราะมีอาการหลากหลายและยากต่อการวินิจฉัย มีการศึกษามากมายเกี่ยวกับโรคนี้แต่ยังไม่มีทฤษฎีไหนได้รับการพิสูจน์อย่างแน่ชัดถึงสาเหตุที่แท้จริง แต่สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะมีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนทางเพศ กับสารเคมีทางสมอง โดยฮอร์โมนตัวนี้จะส่งผลไปสู่สมองส่วนกลางทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์และความรู้สึกนึกคิด ในช่วงการมีก่อนมีรอบเดือน 7-10 วัน และอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปในช่วงมีประจำเดือน3-4 วัน บางรายอาจมีอาการขั้นรุนแรง ที่เรียกว่า PMDD หรือ Premenstrual Dysphoric Disorder ได้ อาการของ PMS หรือ Premenstrual Syndrome มีดังนี้ อาการทางด้านอารมณ์ รู้สึกหงุดหงิด เครียด โกรธง่าย มีความวิตกกังวล มีภาวะซึมเศร้า ร้องไห้ ไวต่อความรู้สึกจนเกินไป กระวนกระวายใจ อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย ขึ้นๆลง ชอบหาเรื่องทะเลาะกับคนรอบๆข้างโดยไม่มีเหตุผล อาการทางด้านร่างกาย เหนื่อยง่าย อ่อนล้า มีการบวมของร่างกาย มีความอยากอาหารมากกว่าปกติทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ท้องเสียหรือท้องผูก คัดตึงเต้านม เป็นสิว นอนมากเกินไปหรือน้อยเกินไป และบางรายมีอาการนอนไม่หลับ ส่วนอาการของ PMDD หรือ Premenstrual Dysphoric Disorder จะมีความรุนแรงทางด้านอารมณ์มากกว่า PMS หรือ Premenstrual Syndrome กล่าวคือ มีอารมณ์ก้าวร้าว ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ หดหู่ใจ สิ้นหวัง รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า อยากฆ่าตัวตาย หรืออยากทำร้ายผู้อื่น ซึ่งจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างรีบด่วน การรักษาอาการ PMS หรือ Premenstrual Syndrome เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในการพิสูจน์แน่ชัด ดังนั้นการดูแลรักษาสุขภาพโดยรวมอาจทำได้ดังนี้ 1. ทำสมุดบันทึกการมีรอบเดือนและจดรายละเอียดของอาการที่เกิดขึ้นทุกครั้ง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับแพทย์ในการบำบัดรักษาในรายที่มีอาการรุนแรง 2. การออกกำลังกาย ประมาณ ครึ่งชั่วโมงต่อวัน การออกกำลังกายทำให้ร่างกายผลิตสารเอ็นโดฟิน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้มีความสุขและช่วยลดความเครียด 3. พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด 4. ควบคุมปริมาณเกลือและน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่ม 5. พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน 6. งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ 7. ทำจิตใจให้สงบ มีสมาธิ 8. ดูหนัง ฟังเพลง หรือทำกิจกรรมที่ชอบ 9. ทานวิตามินบี 6, วิตามินอี แคลเซียม และแมกนีเซียมโดยคำแนะนำของแพทย์ 10.ทานยาคุมกำเนิด โดยคำแนะนำของแพทย์ น่าแปลกที่ว่าอาการของ PMS หรือ Premenstrual Syndrome และ PMDD หรือ Premenstrual Dysphoric Disorder อาจจะเกิดขึ้นกับ ผู้หญิงส่วนใหญ่ ดังนั้นการที่คนรอบข้าง โดยเฉพาะสามีและคนในครอบครัวเข้าใจและให้ความรัก จะช่วยให้ครอบครัวอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แม้จะมีอาการของ PMS บ้างก็สามารถผ่านอุปสรรคปัญหาต่างๆไปได้ ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวค่ะ
^_^ ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
Create Date : 13 มกราคม 2554 |
Last Update : 13 มกราคม 2554 12:03:12 น. |
|
0 comments
|
Counter : 348 Pageviews. |
|
|
|
|
|