บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
11 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
เพลงแห่งรัก(18)...จำเลยรัก







เพลงจำเลยรัก
คำร้อง - ชาลี อินทรวิจิตร/ทำนอง - สมาน กาญจนะผลิน

เจ็บแค้นเคืองโกรธ โทษฉันไย
ฉันทำอะไร ให้เธอเคืองขุ่น
ปรักปรำ ฉันเป็นจำเลยของคุณ
นี่หรือพ่อนักบุญ แท้จริงคุณคือคนป่า

ไม่ขอคุกเข่า เฝ้าง้องอน
แม้นใจขาดรอน ขอตายดีกว่า
ไม่ขอ ร้องใครให้กรุณา
ไม่ขอเศร้าโศกา หรือบีบน้ำตา อ้อนวอนใครๆ

เชิญคุณ ลงทัณฑ์บัญชา
จนสมอุรา จนสาแก่ใจ
ไม่มีวัน ที่ฉันจะร้องไห้
ร่ำไรเพราะฉันมิใช่ หญิงเจ้าน้ำตา

กักขังฉันเถิด กักขังไป
ขังตัว อย่าขังหัวใจดีกว่า
อย่าขังหัวใจ ให้ทรมา
ให้ฉันเศร้าโศกา เหมือนว่าฉันเป็น เช่นดังจำเลย

เกร็ดเพลง

เพลงนี้ บันทึกแผ่นเสียง โดย สวลี ผกาพันธุ์ เมื่อ ปี พ.ศ.2512 และถือได้ว่าเป็นเพลงฮิตอีกเพลงหนึ่งของศิลปินแห่งชาติผู้นี้ครูชาลี อินทรวิจิตร เขียนเล่าเอาไว้ ใน หนังสือ บันเทิง บางที ชาลี อินทรวิจิตร ถึงความเป็นมาเป็นไปของ เพลงจำเลยรักไว้อย่างน่าติดตาม ว่า...

“..วงดนตรีประสานมิตร ในความควบคุมของ คุณพิบูล ทองธัช ทำให้ผมได้สัมผัสชีวิตกับ สมาน กาญจนะผลิน ชาลี อินทรวิจิตร, ชาลี อินทรวิจิตร, ประสิทธิ์ พยอมยงค์, สง่า อารัมภีร, ชาลี อินทรวิจิตร

เป็นเรื่องน่าคิด ที่ชื่อมาคล้องจองกันโดยบังเอิญ ผมร่วมแต่งเพลงกับท่านทั้ง 3 นี้ เป็นส่วนมาก โดยเฉพาะ คุณสมาน แต่งเพลงด้วยกันมากที่สุด ได้รับรางวัลร่วมกันมากมาย สุดยอดที่เป็นเพลงประจำชาติ ประจำแผ่นดิน ก็คือ เพลงสดุดีมหาราชา ในภาพยนตร์ เรื่อง ลมหนาว ของ ชรินทร์ นันทนาคร

วิธีการแต่งเพลงของผมกับน้าหมาน ค่อนข้างจะไม่เหมือนใคร

สมัยนั้น ประมาณ พ.ศ. 2503 มีห้องอัดเสียงอยู่ 3 แห่ง กมลสุโกศล ยีน ซีมอน และ อัศวินการละครและภาพยนตร์ บังเอิญเพลงภาพยนตร์ต้องรีบอัดก่อน เพราะหนังกำลังใกล้จะฉายแล้ว

ผมไปขอร้อง ผู้ที่เช่าห้องอัดเสียงในวันนั้น คือ คุณปรีชา เมตไตรย์ หัวหน้าวงดนตรีทหารอากาศว่าผมขอแทรก เพลงจำเลยรัก 1 เพลง เขาบอกว่า อาจจะได้ตอนช่วงบ่ายคล้อยเย็น เพราะ สวลี ต้องร้องอัดถึง 10 เพลง

10.00 น. เพลงแรกของเขาเริ่มอัดแล้ว ระหว่างรอ ทีมงานกับผมก็เล่นรัมมี่กัน เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ซีเรียส

น้าหมานมา เอาเนื้อเพลงท่อนแรกจากผม น้าหมานถนัดเอาเนื้อเพลงไปยัดใส่ทำนอง ไม่ใช่เอาทำนองไปใส่เนื้อ ผมเขียนเพลงท่อนแรกว่า “เจ็บแค้นเคืองโกรธ โทษฉันไย ฉันทำอะไร ให้เธอเคืองขุ่น ปรักปรำฉัน เป็นจำเลยของคุณ นี่หรือพ่อนักบุญ แท้จริงคุณคือคนป่า”

20 นาทีต่อมา น้าหมานเอาแอกคอเดียน มาดีดทำนองที่แต่งแล้ว 1 ท่อน ให้ฟัง ผมขนลุกซู่ด้วยความไพเราะ ครึ่งชั่วโมงต่อมา เนื้อเพลงท่อนสองเสร็จเรียบร้อย...“ไม่ขอคุกเข่า เฝ้าง้องอน แม้ใจ ขาดรอน ขอตายดีกว่า ไม่ขอร้องใคร ให้กรุณา ไม่ขอเศร้าโศกา หรือบีบน้ำตา อ้อนวอนใครๆ”

ถึงตรงนี้ ผมบอกน้าหมาน ว่า ให้ น้าหมาน แต่งทำนองมาก่อนดีกว่า ถ้าเพราะ ผมจะใส่เนื้อตาม น้าหมาน หายไปชั่วครู่ ก็กลับมาดีดทำนองท่อนแยกให้ฟัง ผมไม่ชอบ เพราะมันคล้ายกับท่อนหนึ่งและท่อนสอง ผมบอกว่าไม่เพราะเลย แกเถียงว่า เพลงไมเนอร์ ทำนองท่อนแยกควรจะเป็นไมเนอร์

ผมเถียงว่า เปลี่ยนเป็นเมเจอร์มั่งไม่ได้เชียวหรือ ผิดกฎหมาย ถูกตัวหัวคั่งแห้งหรือเปล่า

“มันต้องทำสะพานทั้งเข้าทั้งออก ไม่งั้นคนร้องจะล่ม” แกบอก

“ถ้างั้น น้าหมาน ไปสร้างสะพานเพชร สะพานทอง สะพานไม้ได้เลย ผมต้องการท่อนแยกเป็นเมเจอร์”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทำนองท่อนแยกก็พลิ้วหวานในคอร์ดเมเจอร์ ดังกระหึ่มจากแอกคอเดียน ผมเขียนเนื้อตาม ด้วยความประทับใจ
“เชิญคุณลงทัณฑ์ บัญชา จนสมอุรา จนสาแก่ใจ ไม่มีวัน ที่ฉันจะร้องไห้ ร่ำไร เพราะฉันมิใช่ หญิงเจ้าน้ำตา”

ผมกระซิบกับ น้าหมาน ว่า

“เพลงนี้จะดังที่สุด ถ้าไม่ดัง ผมเลิกแต่งเพลงเลย”

“แล้วท่อนสุดท้าย เมื่อไหร่จะเสร็จ ล่ะ” เขาถาม

ผมหลิ่วตากับเขา อย่างกระหยิ่มใจ แทนคำตอบ เพราะผมคั่วสเปโตอยู่ ใครทิ้งสเปโต ผมน็อกมืด แต่แล้วเกมนั้น ผมกลับถูกลบมืด เพราะมือเหนือ เขากักสเปโต

ฉับไว เนื้อเพลงท่อนสุดท้าย ก็วาบขึ้นในสมองทันที

“กักขังฉันเถิด กักขังไป ขังตัว อย่าขังหัวใจดีกว่า

อย่าขัง หัวใจให้ทรมา ให้ฉันเศร้าโศกา เหมือนว่า ฉันเป็นเช่นดังจำเลย” เพลงจบ ผมลบมืด จริงๆ นะ จะบอกให้

ครูชาลี อินทรวิจิตร เขียนถึง สวลี ผกาพันธุ์ ไว้ใน ผู้หญิงคนนี้ สวลี ผกาพันธุ์ จาก หนังสือ คอนเสิร์ต 55 ปี สวลี ผกาพันธุ์ ราชินีโลกมายา ว่า

“...เป็นความรู้สึกของนักแต่งเพลงคนหนึ่ง อยากจะตีกรอบติดดาวเพลงดัง ให้ใครสักคนหนึ่ง คนนั้นต้องเป็น คนโปรด คนพิเศษ ที่เธอกรองลมหายใจไว้กับเพลง จากหนึ่งร้อยเป็นพัน รวมไปถึงบทเพลงของผมด้วย

อย่างน้อย คุณต้องนึกถึง เพลงนำภาพยนตร์ เรื่องเรือนแพ หยาดเพชร เพลงเอกในภาพยนตร์ เรื่อง เงิน เงิน เงิน และคงไม่ลืม เพลงดอกแก้ว ที่ทำเงินเป็นบ้าเป็นหลังให้ผู้สร้าง เพราะ ส.อาสนจินดา ทั้งแต่งเองและกำกับเองด้วย หรือ ป่าลั่น ใน เทพบุตรนักเลง ของ รพีพร

เราต้องไม่ลืม ติดดาว ให้กับเพลงไตเติล ของภาพยนตร์ และละคร ที่ผ่านมาหลายกาลเวลา หลายครั้งหลายครา

คุณคงจำ เพลงจำเลยรัก ได้

“...กักขังฉันเถิด กักขังไป ขังตัวอย่าขังหัวใจดีกว่า อย่าขังหัวใจ ให้ทรมา ให้ฉันเศร้าโศกา เหมือนว่าฉันเป็น เช่นดังจำเลย..”

ดีที่สุด ที่ผมตีกรอบเป็นพิเศษให้ คือ เพลงบ้านทรายทอง ไตเติลเพลงนี้ กำเนิดที่ ช่อง 4 ขาว ดำ บางขุนพรหม...

ฉลอง สิมะเสถียร เป็นชายกลาง ...คนแรกที่แสดงเป็น พจมาน สว่างวงศ์ คือ สวลี ผกาพันธุ์

บ้านทรายทอง เป็นนวนิยาย ที่นักอ่านทั่วประเทศชื่นชอบยอมรับ ติดลมเร็ว สร้างทั้งละครและภาพยนตร์หลายยุค หลายสมัย เป็น เรื่องของ ความรัก กับ ศักดินา

ผมต้องยกเครดิตให้ สวลี ผกาพันธุ์ ทั้ง เล่น ทั้งร้อง หาใครเปรียบมิได้...
...
ในขณะที่ ชรินทร์ นันทนาคร พูดถึง เรื่องนี้ไว้ ใน 55 ปี สวลี ผกาพันธุ์ อีก 1 วัน ที่มีความหมายว่า

“...จะด้วยเวทมนต์แห่งโลกมายาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ที่พาชีวิตของเด็กคนหนึ่ง ซึ่งแม่ตั้งใจจะให้เป็น นายแพทย์รักษาคนไข้ กลายมาเป็นนักร้องสลับฉากละคร

สมัยนั้น เมืองไทยมีละครเวทีที่ยิ่งยง บ้านทรายทอง ถูกนำมาสร้าง และได้รับความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

พจมาน สว่างวงศ์ โลดแล่นจากตัวหนังสือ มามีชีวิตชีวาบนเวทีอันทรงเกียรติ บทบาทของผู้หญิงคนหนึ่ง ติดตรึงอยู่ในหัวใจของผู้ชม อย่างน่าภาคภูมิใจ

คนแรก และ คนเดียว ก่อนที่ละครเวทีจะแตกดับไปจากโลกบันเทิง

สวลี ผกาพันธุ์ ถือเป็นนางเอกละครที่ร้องเพลงเพราะที่สุด

เมื่อไม่มีเวทีละคร เธอก็ใช้ เสียง ประกาศคุณค่าของ ชื่อ ตลอดมา จนทุกวันนี้ เธอคือ นักร้องศิลปินแห่งชาติ คนแรก“


คีตา พญาไท Manager Online

ความรัก เป็นและทำอะไรได้หลายอย่าง

ความรักเป็นความสุข แต่หลายครั้งก็ทุกข์เมื่อความรักไม่ได้รับการตอบสนอง

ความรักเป็นความบริสุทธิ์ ในมิติหนึ่ง แต่เป็นความไม่บริสุทธิ์ในอีกมิติหนึ่ง

ความรักเป็นผู้ให้ แต่เกือบทุกครั้งก็มีความต้องการจะเป็นผู้รับกลับมาเสมอ

ความรักทำให้โลกเป็นสีชมพู แต่กลับทำให้โลกของบางคนเป็นสึคล้ำหมอง

ความรักทำให้ชีวิตมีความหวัง แต่เมื่อผิดหวัง ความรักกลับทำให้ชีวิตเศร้าหมอง

นี่แหละกฏของอนิจจัง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป หมุนเวียนอยู่อย่างนี้ เสมือนเขาวงกตที่หาทางออกไม่ได้

บทเพลงเกี่ยวกับความรักจากนี้ นำเสนอเรื่องราวความรักเพียงด้านเดียว ซึ่งเป็นด้านที่สอดคล้องกับหลักธรรม ดังคำตรัสของพระพุทธองค์ …..ทัสนะ







Create Date : 11 มกราคม 2554
Last Update : 11 มกราคม 2554 19:11:41 น. 1 comments
Counter : 3410 Pageviews.

 
แล้วรู้หรือยังล่ะ "วันใดขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก"
อยากบอกอะไรก็จะรับรู้ไว้...ว่าฉันก็เป็นเหมือนเธอ..
อยากบอกให้เธอได้รู้ไว้เธออยู่ในใจฉันเสมอไม่เคยลืม
เวลาเจอก็ดีใจถึงแม้ว่าไม่ได้พูดได้คุยกับเธอก็ตาม
แต่อยากให้รู้ว่า "ยังรัก" เสมอ เช่นกัน


โดย: วินัย นักรบนพดล IP: 210.246.186.4 วันที่: 31 พฤษภาคม 2555 เวลา:18:26:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

atruthoflife10
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




กลับคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยสุขภาพที่ดีกว่า

ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553

ดับไป....???

Friends' blogs
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.