"มี" กับ "ไม่มี" ต้องเข้าใจก่อนว่า โลกทัศน์ของมนุษย์โลกที่เราเห็นทุกวันนี้ เป็นสังคมของมนุษย์ ที่ตัดสินสิ่งต่างๆ ด้วยความคิด และคำความรู้สึก ความคิดและความรู้สึกก็มาจากความจำ มาจากสิ่งเก่าๆคือประสบการณ์ ที่บันทึกอยู่ในจิต เช่น ความชอบ-ความไม่ชอบ ความรัก-ความเกลียด ความมี-ไม่มี ความดี-ความชั่ว เชื่อพระเจ้า-ไม่เชื่อพระเจ้า มองโลกแง่ดี-มองโลกในแง่ร้าย ความเห็นแก่ตัว-ความเห็นแก่ส่วนรวม .................... ความรู้สึก ความจำ เป็นเหตุปัจจัย ให้เกิดความคิด ความรู้สึก ความคิด เป็นเหตุปัจจัย ให้เกิดการกระทำ ความคิด การกระทำ เป็นเหตุปัจจัย ให้เกิดความรู้สึก มนุษย์ทุกๆ คนอยู่ในวงเวียนเหล่านี้ ไม่ว่าคนนั้นจะเชื่อพระเจ้าหรือไม่เชื่อก็ตาม คนที่มีความคิดดี ย่อมมีการกระทำดี ย่อมมีความรู้สึกดี คนที่มีความจำแม่น ย่อมคิดได้เยอะ คนที่มีความจำในเรื่องดีๆ และมักคิดแต่เรื่องดีๆ ก็มักจะมีความรู้สึกดีๆ ความคิด ความจำ ความรู้สึก การกระทำ เหล่านี้ เกิดขึ้นด้วยมนุษย์เอง มนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้นเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้มนุษย์ได้รับผลต่างๆกันไป ..................................................... หลักของพุทธศาสนามีอยู่ว่า ถ้ามนุษย์ทำเหตุดี ย่อมได้รับผลดี ถ้ามนุษย์ทำเหตุไม่ดี ย่อมได้รับผลไม่ดี ปลูกโพธิ์ย่อมได้ต้นโพธิ์ ปลูกมะเดื่อ ย่อมได้ผลมะเดื่อ ปลูกมะเดื่อ ย่อมไม่ออกผลเป็นอินผลัม ........................................... ทุกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ ล้วนมีเหตุและมีปัจจัย ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า มนุษย์เองนั้นสำคัญที่สุด ทำให้มนุษย์ทุกข์ หรือสุข หรือเฉยๆ หากมีความคิดที่ดี/รู้สึกที่ดี แม้สภาพแวดล้อมไม่ดีก็มีความสุขได้ หากมีความคิดที่ไม่ดี/รู้สึกที่ไม่ดี แม้สภาพแวดล้อมดีขนาดไหนก็มีความทุกข์ได้ ..................................... เมื่อใดก็ตาม มีเหตุปัจจัย ปรากฏการณ์ย่อมมีผลเกิดขึ้น เมื่อใดก็ตาม เหตุหมด ปัจจัยหมด ปรากฏการณ์นั้นย่อมดับไป ธรรมชาติทั้งหลายที่มนุษย์ทั่วไปรับรู้ จึงเปรียบเสมือนเกลียวคลื่น พยับแดด ....................................... ความมี-ไม่มี ทางพุทธศาสนาถือว่า เป็นสิ่งสมมุติ สิ่งสมมุติคือสิ่งที่มนุษย์บัญญัติขึ้นมาเอง อุปโลกขึ้นว่าเป็นอย่างนู้นอย่างนี้ สิ่งที่มนุษย์ สมมุติหรือ บัญญัติ ได้แก่ 1. ภาษา 2. ทฤษฎีต่างๆ 3. ศาสนาหรือลัทธินิกายต่างๆ 4. ความเชื่อที่ไม่ประกอบด้วยเหตุผล ยิ่งเหตุปัจจัยซับซ้อนมากเท่าไหร่ มนุษย์ก็ยิ่งหัวหมุนมากขึ้นเท่านั้น เพราะลำพัง มนุษย์ หัวหมุนกับ "ความคิด ความจำ ความรู้สึก" อยู่แล้ว ยังมีเรื่องของปัจจัยทั้ง 4 นี้อย่าง มาคอยกำหนด ยิ่งทำให้เกิดความวุ่นวายมากในโลก เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน คนละภาษา คนละเชื้อชาติ คนละวัฒนธรรม คนละศาสนา Create Date : 24 กันยายน 2550 Last Update : 24 กันยายน 2550 18:03:52 น. 0 comments Counter : 268 Pageviews.   Share Tweet ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet