Group Blog
 
 
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
12 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
ประวัติศาสตร์จากหน้าไพ่ the fool (การตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์1)

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องของจอกไวน์ ในอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู ซึ่งในตำราไพ่ยิปซีหลายๆเล่มมักจะกล่าวถึง ไพ่The Fool บ่อยๆว่าเป็น การออกค้นหา จอกศักดิ์สิทธิ์กันน่ะค่ะ

ดังนั้นกระติ๊บน้อยจึงได้ไปสรรหาเรื่องราวของการตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ มาให้อ่านกันนะคะเพราะว่าเรื่องของจอกใบนี้กล่าวได้ว่าเป็นประวัติที่น่าสนใจอย่างมากเลยค่ะ คิดว่าท่านใดที่ชอบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์คงสนใจเช่นเดียวกันค่ะ

อย่างในหนังเรื่องอินเดียน่าโจนส์ถ้าใครเคยชม ก็จะเห็นว่ามีเรื่องเกี่ยวกับการออกตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์นี้เช่นกันนะคะ

จอกที่ว่านี้ก็คือ จอกไวน์ในอาหารมื้อสุดท้ายก่อนที่พระเยซูจะถูกตรึงไม้กางเขนนั่นเองค่ะ ซึ่งจอกนี้ ได้ที่มีการออกค้นคว้าตามหา หลังจากที่พระองค์ถูกตรึง เรื่อยมาหลายศตวรรษทีเดียว



ภาพจาก(//occult-magick.blogspot.com/)


ตำนานเก่าแก่นั้นเขียนไว้ว่า หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์แล้วก็มี เศรษฐีคนหนึ่งจากบ้านอาริมาเธียชื่อว่าโยเซฟ เป็นศิษย์ของพระเยซูได้เข้าไปหาปิลาต ขอพระศพของพระองค์ไปประดิษฐานไว้ในอุโมงใหม่ของตน ซึ่งสกัดเข้าไปในหินก้อนใหญ่

แล้วโยเซฟก็ได้นำจอกและจานที่ใช้ในการรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายหนีเล็ดลอดออกจากดินแดนยิว มุ่งหน้าสู่อังกฤษ(โหหนีไปได้ไกลทีเดียวนะคะ) เขาได้นำไปซ่อนไว้ในปราสาทลึกลับแห่งหนึ่ง ซึ่งแรกๆโยเซฟกับญาติๆผลัดกันเฝ้ารักษา ต่อมาก็ตกอยู่ภายใต้การดูแลรักษาของลูกหลานสืบทอดกันมา

จนกระทั่งถึงศตวรรษที่๖ สมัยของคิง อาเธอร์ ซึ่งเป็นยุคของอัศวินโต๊ะกลม จอกกับจานเกิดหายไปอย่างไร้ร่อยรอย เมื่อพระเจ้าอาเธอร์ทรงทราบ ก็ทรงรับสั่งให้ทหารทั้งกองทัพออกตามหาแต่ก็ไร้วีแวว

จนกระทั่ง อัศวินทั้ง๔ ได้แก่ เซอร์ลานซ์ล็อต, เซอร์บอร์ส , เซอร์เปอร์ซิวัล และเซอร์กาลาแฮด ก็ได้ค้นพบจอกศักดิ์สิทธิ์ ในที่สุด



ภาพจาก(//www.grahamphillips.net/)


และอัศวินทั้งสี่คนก็อาจจะลงมติกันว่า มอบหมายให้เซอร์กาลาแฮดนำจอกนี้ไปเก็บรักษาไว้ที่เมืองซาร์รัส แล้วตั้งให้เป็นกษัตริย์ปกครองเมืองนี้ แต่ครองราชย์ได้เพียงปีเดียวก็สวรรคตแล้วจอกไวน์เลยหายไปอีก แป่ว!

เรื่องข้างต้นนี้เป็นตำนานของอังกฤษในยุคอัศวินโต๊ะกลม ซึ่งจริงบ้าง เท็จบ้าง แต่โดยทั่วๆไปแล้วก็มักจะมีเค้าความจริงแฝงอยู่บ้างไม่มากก็น้อยล่ะค่ะ

นอกเรื่องนิดนึงค่ะ ใครเคยอ่านเรื่องอัศวินแทมปร้าบ้างค่ะ ?
ซึ่งก็มาจากประวัติศาสตร์ช่วงนี้ล่ะ อัศวินเหล่านี้มีหน้าที่รักษาจอกนี้นั่นเอง

ต่อมาเหล่าผู้ที่ค้นคว้า หรือนักเชี่ยวชาญเรื่องจอกศักดิ์สิทธิ์นี้ ก็มีการแตกความคิดออกมาเป็นสามความคิดเห็น

พวกแรกเชื่อว่าเป็นเรื่องของพวกเซลท์ที่ตั้งถิ่นฐานเดิมในอังกฤษ

พวกที่สองเชื่อว่าโยเซฟแห่งอาริมาเธียพาครอบครัวเดินทางมาอังกฤษจริงเพราะว่ามีหลักฐานหลายชิ้นบ่งบอกไว้

พวกที่สาม มีมาดามบลาวัทสกี เป็นต้นคิด เชื่อว่าเรื่องจอกพระเยซูเป็นเพียงความเชื่อของลัทธิหนึ่งเกี่ยวกับไสยดำ (ไปโน่นเลย)


ตำนานเก่าแก่ของอังกฤษอีกตำนานระบุว่า จอกของพระเยซูมีผู้ลักลอบนำไปเก็บไว้ในหุบเขาอวาลอนในกลาสตันเบอรี จึงมีการออกค้นหาครั้งใหญ่แต่ไม่พบ(อีกแล้ว)

ต่อมามีการสร้างวิหารใหญ่ครอบไว้ ณ จุดๆหนึ่งซึ่งชาวคริสต์บางนิกายเชื่อว่าเป็นอาคารเก่าของโยเซฟแห่งอาริมาเธียและถ้วยไวน์คงถูกฝังอยู่ใต้ดินด้วย

สมัยต่อมามีการค้นพบจอกในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป โดยเริ่มจากการค้นพบภาพเขียนของนักเขียนลึกลับคนหนึ่ง ตามด้วยการขุดพบถ้วยขนาดสูง ๗ นิ้วครึ่ง ที่เมืองแอนตักยา เมื่อค.ศ. ๑๙๑๐ ซึ่งเมือนี้เป็นเมือเก่าแก่มากที่ตุรกี ในสมัยต้นศตวรรษผู้ที่เชื่อเรื่องจอกศักดิ์สิทธิ์นั้นรีบขานรับทันทีว่าใช่แน่นอน แต่นักวิทยาศาสตร์ไม่ยอมรับเพราะว่า


หนึ่ง ผิวลวดลายบนผิวของจอกสลักเรื่องพระเยซูถูกจับและตรึง แล้วยังชุบเงิน จึงเป็นถ้วยที่ทำขึ้นหลังจากพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขนแล้ว


สอง ได้ตรวจสอบหาอายุของถ้วยใบนี้แล้วพบว่ามีอายุประมาณศตวรรษที่๔ ก็ใกล้เคียงกับสมัยพระเยซูแต่จะนำมาสลักหาลวดลายในภายหลังหาได้ไม่

และที่สำคัญก็คือ จอกของพระเยซูนั้นทำด้วยอะไร?

เพราะว่าจอกไวน์ที่พบที่เมืองแอนตักยา ทำด้วยโลหะชุบเงิน , ภาพเขียนของดาวินชี่ วาดให้โบสถ์แซนตามาเรีย เป็นถ้วยแก้ว ส่วนตินโตเรตโต เขียนรูปจอกและจานเป็นโลหะทั้งหมด แต่บางภาพเขียนรูปจอกเป็นโลหะแต่ภาชนะอื่นเป็นแก้วทั้งหมด



เมื่อเกิดปัญหานี้จึงเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากและสรุปออกมาว่าน่าจะเป็นโลหะมากกว่า เพราะว่าในสมัยที่พระองค์เสด็จสั่งสอนประชาชนไปตามที่ต่างๆ พระองค์ต้องพกจอกโลหะติดตัวไปด้วย เพื่อใช้ตักน้ำดื่มถ้าหากป็นแก้วคงจะแตกง่าย

เพราะคุณภาพแก้วโบราณจะเปราะแตกง่ายกว่าแก้วสมัยนี้ อีกอย่างสมัยพระเยซูก็นิยมใช้จอกโลหะกันมากเนื่องจากสะดวกในการติดตัวเวลาเดินทาง

ปัจจุบันมีอยู่ 3 สิ่งที่ผู้สนใจในศาสนาและประวัติศาสตร์กำลังค้นหากันอยู่ ได้แก่ผ้าห่อศพของพระเยซู จานใส่อาหารที่พระเยซูเสวยและจอกไวน์


ที่มา: ต่วยตูนพิเศษ ฉบับที่๓๓๖ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๖


หากท่านใดประสงค์จะคัดลอกบทความหน้านี้ไปเผยแพร่ต่อกรุณาแปะลิงก์ของเวปtrendytarotที่webหรือblogของท่านด้วยนะคะ
//www.trendytarot.com
ขอบคุณค่ะ
กระติ๊บน้อย





Create Date : 12 เมษายน 2554
Last Update : 27 เมษายน 2554 11:01:36 น. 0 comments
Counter : 1470 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กระติ๊บน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]




ศึกษาธรรมะ ชอบไพ่ยิปซี
แล้วก็เป็นคนที่มีชีวิตที่ธรรมดาๆ

.....................................................
สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๘
ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน
หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และโดยอ้างอิง
โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
ผู้ใดฝ่าฝืน จะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
Friends' blogs
[Add กระติ๊บน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.