266 .. เสียงอ่านเพชรพระอุมา - ภาคแรก # 21 (301 - 315)
เสียงอ่านเพชรพระอุมา ภาคแรก # 21
ลำดับที่ 301-315
เพชรพระอุมา เป็นนวนิยายที่มีความยาวทั้งสิ้น 48 เล่ม แบ่งออกเป็นสองภาค คือภาคแรกและภาคสมบูรณ์ ภาคละ 24 เล่ม
ภาคแรกของเพชรพระอุมาแบ่งเป็น 6 ตอน ได้แก่ ไพรมหากาฬ, ดงมรณะ, จอมผีดิบมันตรัย, อาถรรพณ์นิทรานคร, ป่าโลกล้านปี และแงซายจอมจักรา
สำหรับภาคสมบูรณ์ก็แบ่งเป็น 6 ตอนเช่นกัน ได้แก่ จอมพราน, ไอ้งาดำ, จิตรางคนางค์, นาคเทวี, แต่ปางบรรพ์ และมงกุฎไพร
ป้า เป็นแฟนคลับ เพชรพระอุมา ค่ะ ได้ติดตามอ่านมาตลอด และอ่านจบหลายรอบ หลังจากป้าวางงานประจำแล้ว ป้าได้ใช้เวลาว่างไปอ่านหนังสือให้ผู้พิการทางสายตาฟัง โดยอ่านที่ ห้องสมุดคอลฟิลล์เพื่อคนตาบอด ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อคนตาบอด เริ่มอ่านมาตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2541 ถึงวันนี้ ป้าอ่านจบไปแล้วประมาณเจ็ดสิบเรื่อง และในจำนวนนั้นมีเรื่อง เพชรพระอุมา รวมอยู่ด้วย
เรื่อง เพชรพระอุมา จะมีผู้อ่านสองคน คนแรกคือ คุณศศวรรณ อรรถจรรยากุล ท่านอ่านมาถึงลำดับที่ 140 ค่ะ หลังจากนั้น ท่านมีความจำเป็นไม่อาจจะมาอ่านต่อให้จบได้ ทางศูนย์ ฯ จึงได้ขอให้ป้ารับหน้าที่อ่านต่อจนจบ
เพชรพระอุมา เป็นนวนิยายที่ยาวมาก กว่าจะอ่านจบต้องใช้เวลาอ่านนานมากทีเดียว ภาคแรก ป้าเริ่มอ่านเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2545 อ่านจบเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2546 ส่วนภาคสมบูรณ์ ป้าเริ่มอ่านเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2547 และอ่านจบเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2551 ค่ะ
เนื่องจาก เพชรพระอุมา เป็นงานเสียงที่ป้าชอบมาก จึงอยากจะนำมาเก็บไว้ในบล็อก และหวังว่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของแฟนคลับ เพชรพระอุมา ที่ไม่สะดวกหรือมีข้อจำกัดในการอ่าน
ขอเชิญฟังเสียงอ่านนวนิยาย เพชรพระอุมา ภาคแรก ลำดับที่ 301-315 ค่ะ
ลำดับที่ 301-303
ลำดับที่ 304-306
ลำดับที่ 307-309
ลำดับที่ 310-312
ลำดับที่ 313-315
ขอเชิญติดตามตอนต่อไปค่ะ
ขอขอบคุณ "พนมเทียน" เจ้าของผลงาน "เพชรพระอุมา"
ขอขอบคุณ ณ บ้านวรรณกรรม ผู้จัดพิมพ์วรรณกรรมเรื่องนี้
ขอขอบคุณ ห้องสมุดคอลฟิลด์เพื่อคนตาบอด มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ผู้จัดทำเป็นหนังสือเสียง
ขอขอบคุณ คุณศศวรรณ อรรถจรรยากุล อาสาสมัครผู้ให้เสียงอ่าน ตั้งแต่ต้น จนถึง ลำดับที่ 140
ขอขอบคุณภาพจากทุกเว็บที่เกี่ยวเนื่องกับเพชรพระอุมา
และขอขอบคุณ คุณ treetree6969 ผู้จัดทำวิดีโอนี้
เ พ ช ร พ ร ะ อุ ม า
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อเรื่องย่อ อาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 2
รพินทร์ทำลายร่างของมันตรัย กริชสีดำ และคัมภีร์มหามายาวินด้วยการเผาไฟ แต่ไม่สามารถทำลายได้ พรานบุญคำนำผ้าเปื้อนเลือดประจำเดือนของมาเรียโยนเข้าไปในกองไฟ จึงสามารถทำลายกริชและคัมภีร์ได้สำเร็จ
คืนนั้นดารินฝันว่าขุนพลวรมันต์ มาเล่าถึงประวัติอาณาจักรนิทรานครก่อนล่มสลายด้วยฝีมือของมันตรัย และวิญญาณทุกดวงในอาณาจักรนิทรานคร ล้วนถูกจองจำกักขังด้วยกริชที่ปักตรึงกับคัมภีร์มหามายาวินนี้ เมื่อกริชและคัมภีร์ถูกทำลาย วิญญาณทุกดวงจึงเป็นอิสระ ขุนพลวรมันต์ ขอคืนร่างแงซายให้ที่โคนต้นไม้แห่งหนึ่ง ดารินเล่าความฝันตามที่ได้รับทราบจากวิญญาณของขุนพลวรมันต์ ให้รพินทร์และเชษฐาได้รับรู้ และเร่งให้ออกติดตามค้นหาตัวแงซายให้พบ แต่รพินทร์และคนอื่นๆ ในคณะเดินทางไม่เห็นด้วยกับการออกติดตามค้นหาแงซายในเวลากลางคืนตามที่ดารินต้องการ
รุ่งเช้า รพินทร์และคณะนายจ้างพร้อมด้วยพรานพื้นเมืองและคะหยิ่น รีบออกติดตามค้นหาแงซาย และพบแงซายนั่งพิงโคนต้นไม้ใหญ่ในสภาพสลบ ชีพจรเต้นอ่อน เนื่องจากถูกแมงมุมหกขากัดที่แข้งขวาเหนือข้อเท้า เพราะบังเอิญนั่งขวางทางเข้าออกรูของแมงมุมหกขา ดารินโกรธจัดและโวยวายใส่รพินทร์ที่ไม่ยอมออกติดตามหาตัวแงซายตั้งแต่ตอนกลางคืน จนแงซายถูกแมงมุมหกขากัด รพินทร์นึกถึงส่างปาซึ่งเป็นหมอถอนพิษที่มีวิชาสืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษ และเคยช่วยชีวิตของไชยยันต์ที่ถูกตะขาบดงกัดจนหายเป็นปกติมาแล้ว จึงนำตัวแงซายที่กลายสภาพเป็นศพกลับปางพักเพื่อให้ส่างปาช่วยชีวิต
ส่างปาช่วยชีวิตแงซายจากความตายได้สำเร็จ ด้วยแท่งยาดูดพิษและพิษจากแมงมุมหกขาที่กัดแงซายนั่นเอง รพินทร์และคณะนายจ้างหยุดพักการเดินทางชั่วคราว เพื่อให้แงซายได้พักฟื้นจนหายเป็นปกติ
ตกตอนเย็นคะหยิ่นและส่างปารับหน้าที่ออกหาอาหารและไปขโมยเนื้อสมันได้จากเสือ แต่นำกลับมาไม่ได้ เนื่องจากเนื้อมีขนาดใหญ่ พรานบุญคำจึงตามไปช่วยขนเนื้อกลับมายังปางพัก ระหว่างเดินทางเกิดยิงปะทะกับไดโนเทเรี่ยม ซึ่งเป็นช้างโบราณที่มีงางอกจากปากบนลงล่าง แทนที่จะงอกเสยขึ้นบนเช่นเดียวกับช้างปกติทั่วไป คะหยิ่นและพรานบุญคำหนีรอดมาได้ แต่ทิ้งส่างปาไว้ในฝูงไดโนเทเรี่ยม เชษฐา, รพินทร์ และมาเรีย ออกติดตามเพื่อช่วยเหลือส่างปาทันทีที่ทราบข่าว ยิงถล่มโขลงช้างโบราณจนซากกองเกลื่อนกลาดไปทั่วบริเวณ และช่วยเหลือส่างปาที่หนีเอาตัวรอดจากโขลงช้างไดโนโทเรี่ยมเข้าไปในดงไผ่ได้สำเร็จ
เชษฐาอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งลักษณะของช้างโบราณให้ดารินและไชยยันต์ได้ทราบ มาเรีย และดารินวิเคราะห์ถึงลักษณะของช้างแปลกประหลาดตามคำบอกเล่าของส่างปาและคะหยิ่น พบว่าเป็นไดโนเสาร์ในยุคดึกดำบรรพ์ที่น่าจะสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้แล้ว เชษฐาสอบถามถึงวันเวลาในการเดินทาง ไชยยันต์ยืนยันด้วยวันที่ในไดอารี่คือวันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม (ขึ้น11 ค่ำ เดือน 11) และวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 12 คือวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พร้อมกับการยืนยันตำแหน่งในการเดินทางของคณะนายจ้างที่ผ่านเขตเหนือสุดของรัฐว้าจากรพินทร์
รพินทร์ซึ่งรับหน้าที่ยามดูแลปางพักในช่วงค่ำ นำลายแทงขุมทรัพย์เพชรพระอุมาของมังมหานรธาออกมาพิจารณา ตกดึกแงซายที่หายจากการบาดเจ็บตามมาพูดคุยด้วย พร้อมกับใช้ดุ้นฟืนที่ติดไฟกลายเป็นถ่าน วาดภาพเขาพระศิวะและปิ่น ทำให้รพินทร์โกรธจัดเนื่องจากคิดว่าดารินเล่าเรื่องแผนที่ลายแทงให้แงซายได้รับรู้ รุ่งขึ้นจึงอารมณ์เสียใส่ดาริน แต่ในที่สุดก็จะปรับความเข้าใจกันได้ เชษฐา, ดาริน, ไชยยันต์ ชวนรพินทร์และแงซายไปตรวจสอบซากช้างไดโนเทเรี่ยมที่ถูกยิงเสียชีวิต ปรากฏว่า ซากของไดโนเทเรี่ยมถูกสัตว์ที่มีขนาดใหญ่โตกว่ามากิน และทิ้งรอยเท้าขนาดมโหฬารไว้ทั่วบริเวณ รพินทร์สังหรณ์ใจถึงภัยอันตรายที่จะตามมา จึงให้แงซายเตรียมธนูติดระเบิดทีเอ็นทีไว้ให้พร้อม
ร่มไม้เย็น ค่ะ
Create Date : 19 ตุลาคม 2555 |
Last Update : 30 มีนาคม 2558 12:42:48 น. |
|
5 comments
|
Counter : 5292 Pageviews. |
|
|
|