บล๊อกก่อนหน้านี้ เราพาคุณๆไปเที่ยวชม Little Kyoto เขตเมืองเก่าที่อยู่ในเมือง Takayama ทางตอนเหนือของนาโกย่า ตามด้วยการเดินทางไปชมหมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-Go) และพักค้างคืนแบบโฮมสเตย์ เก็บเกี่ยวบรรยากาศในบ้านพักแบบกัสโซตามสไตล์บ้านทรงพนมมือของญี่ปุ่นโบราณที่สวยงามมาแล้วนะครับ

มาบล๊อกนี้เราจะพาท่านเดินทางไกล (อีกแล้ว) โดยวันนี้เราจะนั่งรถยาวจากเมืองทาคายามาลงใต้ไปที่เกียวโต เมืองหลวงและเมืองเก่าแก่ของญี่ปุ่น โดยมีแผนที่จะไปทานมื้อเที่ยงแบบบุฟเฟท์ที่ในเมือง จากนั้นก็จะเดินทางชมศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ที่สวยงาม ตามด้วยการไปทานมื้อเย็นและเดินช้อปกันที่ย่านกิออน (Gion) กัน ...ตามไปชมบรรยากาศพร้อมๆกันเลยดีกว่าครับ..

ระหว่างทาง

แผนที่การเดินทางจากทาคายาม่า - เกียวโต

สองข้างทางจากทาคายามา - เกียวโต ใบไม้บนเขากำลังเริ่มเปลี่ยนสี

บรรยากาศตามชนบทในญี่ปุ่น

ที่พักรถ-พักคนระหว่างทางไปเกียวโต

เกียวโต

ทานข้าวเสร็จ..ออกมารอรถเพื่อไปเที่ยวต่อ

เกียวโต

เคียวโตะ หรือ นครเกียวโต เป็นเมืองเอกของจังหวัดเคียวโตะ และเป็นอดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดว่าเป็นศูนย์กลางของเกาะฮนชู นอกจากนี้ นครเคียวโตะยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของ กลุ่มเมืองใหญ่ "เคฮันชิง" และนครเคียวโตะ ยังจัดว่าเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 11 ของโลก ในปี พ.ศ. 2555

แต่เดิม เมืองนี้มีชื่อในภาษาญี่ปุ่นว่า เคียว (京) และ มิยะโกะ (都) หรือบางครั้งก็ถูกเรียกรวมว่า เคียวโนะมิยะโกะ (京の都) ต่อมาในศตวรรษที่ 11 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น เคียวโตะ (มีความหมายว่า เมืองหลวง) ตามคำของภาษาจีนของเมืองหลวงที่อ่านว่า จุงตู (京都)[3] แต่หลังจากที่เมืองเอะโดะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว (มีความหมายว่า "เมืองหลวงตะวันออก') ในปี ค.ศ. 1868 เมืองเคียวโตะก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ไซเกียว (西京 มีความหมายว่า "เมืองหลวงตะวันตก') เป็นเวลาสั้นๆ ก่อนจะเปลี่ยนกลับมาเป็น เคียวโตะ ในเวลาต่อมา

เกียวโต มีพื้นที่ทั้งหมด 827.9 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 1,473,746
( 1สิงหาคม 2011 )
(อ่านเพิ่มเติม)

เด็กๆกำลังเข้าแถวเดินไปที่ศาลเจ้า

ประตูโทริอิ

บ่ายวันนั้นผู้คนเข้ามาชมศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ มากมายเหลือเกิน ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะช่วงนี้โรงเรียนในญี่ปุ่นเขาปิดเทอม เด็กๆจึงมาเยี่ยมชมที่นี่มาก (ตลอดสถานที่สำคัญอื่นๆด้วย) ..... รถมาส่งเราที่ลานจอดรถ แต่ต้องรีบออกไปจอดที่อื่น เพราะสถานที่จอดรถจะปิดก่อนเวลาที่เราจะลงมาจากศาลเจ้า


หลังจากนัดแนะเวลากันเรียบร้อย เราก็รีบเดินผ่านร้านขายสินค้าขึ้นไปที่ศาลเจ้าก่อน กะว่าเยี่ยมชมสถานที่สถานที่สำคัญๆบนนั้นเสร็จ ค่อยกลับลงมาซื้อกลับไปฝากเพื่อนฝูงทีหลัง ส่วนสถานที่ๆควรไปชมให้ได้บนนั้น น้องไกด์บอกเราว่า มี 1.เสาร้อยต้น (เสาโทริอิที่เรียงกันเป็นตับนั่นแหละ) 2. ศาลเจ้าโอะคุฉะ ที่มีแผ่นป้ายให้เขียนขอพรเป็นรูปหน้าจิ้งจอก และ 3. การยกหินเสี่ยงทาย ซึ่งว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์นัก

ครั้งหนึ่งที่มาชมศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ

ประตูใหญ่ทางเข้า

ก่อนเข้าก็ต้องล้างมือบ้วนปาก ชำระร่างกายและจิตใจให้สะอาดตามธรรมเนียมของญี่ปุ่นเขา (มีป้ายบอกขั้นตอนในการล้างมือ)

แผนผังการเข้าชม

ช่วงนี้นักเรียนญี่ปุ่นปิดเทอมมาทัศนศึกษา..เลยขอถ่ายภาพมาฝาก

รูปปั้นสุนัขจิ้งจอก..เทพในชินโต มีไว้มากมายแทบทุกประตู

เทพอินาริ (Inari)
เป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ ข้าว และสุนัขจิ้งจอก สุนัขจิ้งจอกของเทพอินาริจะมีสีขาวล้วน และทำหน้าที่เป็นผู้ส่งข่าว

ทางเข้าไปยังศาลเจ้าอินาริจะมีประตูโทริอิ(Torii)สีแดง (ประตูศาลเจ้าที่คล้ายๆเสาชิงช้าของไทย แต่เตี้ยกว่า)
อย่างน้อย 1 บาน และมีรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกอยู่จำนวนหนึ่ง

เทพอินาริเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นตนหนึ่ง เพราะมีศาลเจ้าเกี่ยวกับเทพตนนี้ตั้งอยู่หลายแห่ง ศาลเจ้าหลักของเทพอินาริคือ ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari) ในตำบลฟุชิมิ จังหวัดเกียวโต ซึ่งตามเส้นทางที่ไปยังศาลเจ้า จะมีประตูโทริอิสีแดงส้ม และรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกติดผ้าคลุมแผงคอสีแดงเรียงรายไปตามทาง รูปปั้นเหล่านี้ถือว่าเป็นร่างหนึ่งของเทพอินาริ

ผู้คนมักถวายข้าวเจ้า เหล้าสาเกและอาหารอื่นๆ (คงจะเป็นกับข้าว) เพื่อสร้างความพึงพอใจและความกรุณาต่อเหล่าสุนัขจิ้งจอกทั้งหลาย

เทพอินาริไม่มีเพศที่แน่นอน บ้างก็เป็นชาย บ้างก็เป็นหญิง มักปรากฏกายในลักษณะชายแก่แบกกระสอบข้าวสาร และมีสุนัขจิ้งจอกสีขาวเดินตาม 2 ตัว แต่ก็มีหลายครั้งที่ปรากฏกายเป็นหญิงแก่ จากตรงนี้นี่เอง ทำให้นิยามของเทพอินาริแบ่งหลายอย่างคือ เป็นชายบ้าง หญิงบ้าง เป็นเทพแห่งข้าวบ้าง เป็นเทพแห่งอาหารและความอุดมสมบูรณ์บ้าง ซึ่งจะแตกต่างไปตามภูมิภาคและความเชื่อส่วนบุคคล เนื่องจากเทพอินาริเกี่ยวพันกับสุนัขจิ้งจอก
บางครั้งจะมีการพรรณนาเทพอินาริเป็นสุนัขจิ้งจอก เรื่องเล่าพื้นบ้านยังเป็นหลักฐานของความสามารถของท่านในการแปลงกาย คือ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เทพอินาริปรากฏกายต่อหน้าชายดุร้ายคนหนึ่ง ในร่างของสุนัขจิ้งจอกเพื่อสั่งสอนเขา

ในบางส่วนของคิวชู งานเทศกาล หรือช่วงเวลาการสวดอ้อนวอนเทพอินาริจะเริ่มต้นก่อนวันพระจันทร์เต็มดวง 5 วันในเดือนพฤษจิกายน
บางครั้งก็สัปดาห์หนึ่ง โดยจะเอาผลผลิตที่เกี่ยวกับข้าวเจ้า ถวายที่ศาลเจ้าในแต่ละวันและรับเครื่องรางโอ มาโมริ
(ที่คล้าย ๆ ซองกระดาษนั่นแหละ) เทศกาลนี้จะเป็นที่นิยมในแถบชนบทของนากาซากิ

ศาลานี้ใช้ทำพิธีต่างๆ

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ

ประวัติ

ปี 965 ช่วงต้นสมัยเฮอัน จักรพรรดิ์มุราคามิ ได้บัญชาให้คนนำส่งสารนำส่งข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆให้กับเทพเจ้าของญี่ปุ่น ข้อความเหล่านี้เริ่มแรกมีอยู่ใน 16 ศาลเจ้าของญี่ปุ่น รวมทั้งที่ศาลเจ้าอินาริด้วย สัญลักษณ์ของผู้นำศาลที่อินาริก็คือสุนัขจิ้งจอก ซึ่งมาจากพระเจ้าแห่งธัญพืช ในศาสนาชินโต

ต่อมาในปี 1589 โตโยมิ ฮิเดโยชิ (Toyomi Hideyoshi) ได้บริจาคประตูโทริอิ ขนาดใหญ่ วางไว้ที่ด้านหน้าทางเข้าศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ


บริษัทต่างๆของญี่ปุ่นนิยมบริจาคโทริกันเพื่อความเป็นสิริมงคล จึงทำให้มีประตูโทริอิมากมาย เรียงรายจนถึงยอดเขา

และตั้งแต่ปี 1871 – 1946 ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ได้ถูกกำหนดให้เป็นศาลเจ้าที่เป็นลับดับขั้นที่ 1 (First Rank) ในศาสนาชินโต และเป็นศาลเจ้าที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเป็นทางการ

ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Shrine) เป็นศาลเจ้าชื่อดัง ที่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกียวโตทุกคนต่างเดินทางมาดูโทริอิ (Torii) หรือประตูศาลเจ้าที่เรียงต่อทอดยาว จากตีนเขาไปถึงยอดเขาสูงถึง 233 เมตร ประตูโทริที่เรียงรายกันเป็นอุโมงสีแดงนี้เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

บริจาค 800 เยน ... จารึกชื่อลงในเสาโทริอิจำลอง (มีเราด้วย)

ขึ้นเขาต่อ

ศาลเจ้าโอะคุฉะ มีแผ่นป้ายให้เขียนขอพรเป็นรูปหน้าจิ้งจอก (500 เยน)

ยกหินเสียงทาย .. ที่เขียนคำขอพร (ขวาบน)

ประตูโทริอิเป็นร้อยๆต้น

หนุ่มๆชาวญี่ปุ่นมาทำบุญ

ร้านขายของที่ระลึก ... ส่วนมากจะเป็นตุ๊กตาเทพสุนัขจิ้งจอก

ร้านอาหารที่เราไปทานมื้อเย็น

เวลาไปทานอาหารสไตล์ญี่ปุ่นในร้านแบบนี้ ก่อนเข้าในร้านจะต้องถอดรองเท้าก่อนนะครับ โดยทางร้านเขาจะมี Locker ไว้เก็บและมีเจ้าหน้าที่บริการ แถมจำแม่นด้วยว่าของใครเป็นของใคร และไม่ต้องกลัวหายด้วย ... เข้าในร้านแล้วจะนั่งกับพื้นมีที่นั่งคล้ายๆฟูกเล็กๆให้เรานั่ง อันนี้คนไทยไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ เพราะร้านอาหารแบบเป็นซุ้มในบ้านเราก็มักจะจัดให้นั่งแบบนี้อยู่แล้ว

มื้อเย็น

ศาลเจ้าศาลเจ้ายาซากะ หรื ศาลเจ้ากิออน

กิออน หรือที่รู้จักกันว่าเป็นย่านเกอิชา เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในเมือง เกียวโต สถานที่ซึ่งเป็นจุดดึงดูดความสนใจได้แก่ถนนฮานามิ-โคจิ ที่มีบ้านไม้แบบดั้งเดิมอยู่มากมาย ในปัจจุบัน บ้านเหล่านี้ได้รับการปรับเปลี่ยนไปเป็น ร้านอาหาร เรือนชา (โอชา-ยะ) ที่แขกจะได้รับความเพลิดเพลินจากบริการของไคโกะและไมโกะ ซึ่งหาแทบไม่ได้จากที่อื่นใด

การเดินเที่ยวช่วงสั้น ๆ ในย่านกิออนที่จะได้เห็นบรรยากาศดั้งเดิมของญี่ปุ่น และการได้เข้าไปพักดื่มชาในเรือนชา ควรจะอยู่ในรายการสิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับต้น ๆ ในการท่องเที่ยวเกียวโตของคุณ

วันนี้เดินทางไกลจากทาคายาม่า ผ่านเทือกเขาที่มีใบไม้กำลังจะเปลี่ยนสี จนเข้าสู่เกียโตและไปทานมื้อเที่ยงแบบบุฟเฟท์ในเมืองเกียวโต ก่อนเดินทางไปชมศาลเจ้า "ฟูชิมิ อินาริ" หรือศาลเจ้า อินาริ ส่วนคำว่า "ฟูชิมิ" ก็คือชื่อตำบลที่ศาลเจ้าอินาริตั้งอยู่ หลังจากนั้นก็ไปเชคอินเข้าพักที่โรงแรม Kyoto Tokyu Hotel ก่อนจะออกมาทานมื้อเย็นสไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้และมาจบที่ย่านกิออน. เราเดินเที่ยวหาซื้อของที่ระลึกได้มาหลายชิ้น แต่เสียดายไม่มีโอกาสเข้าไปชมการแสดงของเกอิชา คงเอาใส่เข้าไปใน List ไว้ก่อนล่ะครับ เพราะตอนนี้ก็เกือบสี่ทุ่มในเกียวโตแล้ว .... เรานั่งแท๊กซี่กลับโรงแรมที่พักเพราะเหนื่อยมาก ปล่อยให้คนอื่นเขาเดินต่อแถวนั้น.. ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

ลาด้วยภาพประตูโทริอิที่ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ภาพนี้ครับ