น้ำหนาว คราวปลายฝน

คุยกันกันก่อน

ผมจั่วหัวเรื่องแปลกๆใช่ไหมครับคราวนี้ ก็พยามหาเหตุและผลให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ และความที่เป็นปัจจุบันของอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวในวันนี้นั่นเอง

วันอาทิตย์ ที่ 12 ตุลาคม 2008 หลังจากฝนที่ลงหนักมาทั้งอาทิตย์ อากาศวันนี้ค่อนข้างโปร่ง เลยอยากหาโอกาสไปสูดอากาศบริสุทธิ์ แถวๆภูเขาซักแห่ง เอาแบบที่ขับรถเข้าถึงได้สะดวก ปลอดภัย และอากาศไม่ร้อนมาก..... ดูซิครับ ข้อแม้ผมบางครั้งก็ทำให้หาสถานที่ลำบากเหมือนกัน สาเหตุที่อยากไปในที่แบบนั้น ก็อยากจะเดินออกกำลังไปในตัว หลังจากที่สภาพร่างกายแย่มากๆในอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงฝนต่อหนาว คนที่แพ้อากาศจะเข้าใจสภาพแบบนี้ดี คือพออาการแพ้แรงๆเกิดขึ้น ก็เชื่อขนมกินได้เลยว่า ฤดูกาลกำลังจะเปลี่ยน ผมแพ้แบบนี้ตลอด.... เลยเลือกเอาป่าน้ำหนาวนี่แหละเพื่อเดินทดสอบความฟิต เมื่อไปแล้วก็เลยถือโอกาสเก็บภาพมาฝากเพื่อนๆนักเดินทาง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการเดินทางในโอกาสต่อไปด้วย.

การเดินทางในวันเดียวของผมในคราวนี้ ไม่อาจครอบคลุม แหล่งท่องเที่ยวหลายๆแห่งในอุทยานฯแห่งนี้ ต้องขอติดหนี้ท่านผู้อ่านไว้ก่อนนะครับ.



ข้อมูลทั่วไป :

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวมีเนื้อที่ประมาณ 603,750 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2515 อยู่ในท้องที่ 2 จังหวัด คือ จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดชัยภูมิ สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำพอง แม่น้ำเลย มีสัตว์ป่าชุกชุม เช่น กระทิง ช้าง กวาง เก้ง หมาไน เสือ กระต่ายป่า ไก่ป่า ไก่ฟ้าพญาลอ และนกชนิดต่างๆ เทือกเขาสูงบางแห่งยังประกอบด้วยหน้าผาสูงชันที่สวยงาม อาทิ ผากลางโหล่น ผาล้อม ผากอง ผามัดพริก ผาป่าเล่า นอกจากนั้นยังมีถ้ำและน้ำตกที่สวยงาม เช่น ถ้ำห้วยประหลาด หรือถ้ำมรกต ถ้ำผาหงษ์ ถ้ำน้ำหนาว น้ำตกเหวทราย น้ำตกทรายทอง น้ำตกพรานนก

ด้วยสภาพผืนป่าที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ประกอบกับภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขาสูง ทำให้มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นในตอนดึกและตอนเช้า ส่วนใหญ่ตอนกลางวันอากาศเย็นสะบาย วันที่ไปก็อยู่ราวๆ 25 องศาเซลเซียส กล่าวได้ว่าอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 25 องศาเซลเซียส..... ในฤดูหนาวอากาศค่อนข้างหนาวจัด จนบางครั้งน้ำค้างจะกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง อากาศจะหนาวเย็นที่สุดในช่วง กลางเดือน พฤษจิกายน ในบางปีอุณหภูมิจะลดต่ำถึง 0 องศา.




สะพานพ่อขุนผาเมือง

อยู่ทางหลวงหมายเลข 12 กม ที่ 18 (ช่วงหล่มสัก-ชุมแพ) เป็นสะพานคอนกรีตโค้ง สร้างข้ามห้วยตอง รัศมี 200 เมตร ความยาว 180 เมตร ความสูงของตอม่อ 50 เมตร สันสะพานอยู่เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง 320 เมตร สร้างเสร็จเมื่อ 3 มิถุนายน 2518. เป็นจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายภาพกัน ถ้าเราขึ้นเขามาจากทางด้านอำเภอหล่มสัก ก็จะเจอสะพานนี้ก่อน







สะพานพ่อขุนผาเมือง


เมื่อผ่านสะพานพ่อขุนผาเมือง รถจะไต่เขาขึ้นมาประมาณ 6 กม. ก็จะถึงจุดชมวิว ซึ่งรถใหญ่หน่อย ก็ถือโอกาสพักรถเสียที่นี่ บริเวณนี้จะเป็นหน้าผาสูง มองออกไปทางทิศตะวันออก และทางทิศใต้ จะเจอทะเลภูเขาไกลสุดๆ ถ้ามองเยื้องๆขึ้นไปทาง ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะเจอผาแดง ซึ่งรถเราก็จะขับเลาะไปทางนั้น เพื่อเดินทางเข้าที่ทำการอุทยาน หรือต่อไปที่ขอนแก่น




ที่จอดรถจุดชมวิว ตามเส้นทางหมายเลข 12




ทิวทัศน์ ตรงจุดชมวิว



จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นภูค้อ

ตั้งอยูบริเวณ กม.ที่ 45 ของทางหลวงหมายเลข 12 เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า โดยสามารถมองเห็น ภูกระดึง และภูผาจิต อยู่เบื้องหน้า ทางอุทยานฯ ได้จัดทำเส้นทางเดินป่า 3.5 กม. ไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย.... เราสามารถเอารถจอดไว้ริมถนนใหญ่ และเดินขึ้นไปอีกประมาณ 130 เมตร และข้างบนจะมีหอดูไฟป่าด้วย.




จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นภูค้อ




หอดูไฟป่าภูค้อ



ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว

เมื่อขับมาถึง กม. 50 จะเจอป้ายบอก อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เราสามารถขับรถเข้าไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้ โดยจะต้องซื้อบัตร "ค่าบริการให้ความสะดวกต่างๆ ในอุทยานแห่งชาติ" ก่อน โดยค่านำรถเข้า 30 บาท และคนอีกคนละ 40 บาท สำหรับคนไทย




ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว





ทางเข้าที่ทำการอุทยานฯ




ทางเข้าที่ทำการอุทยานฯ




ต้นสนสูงเสียดฟ้า




บ้านพัก น้ำหนาว 105



สำหรับบ้านพักน้ำหนาว 105 นี้ ราคาที่ถามวันนั้นคือ 3500 บาทต่อคืน โดยสามารถพักเป็นหมู่คณะได้ 12 คน ส่วนบ้านพักอื่นๆ มีราคาตั้งแต่ 1000 - 4000 บาท และมีเต้นท์บริการ หลังละ 250 บาทด้วย.




บ้านพัก น้ำหนาว 105






เส้นทางเดินป่า ซึ่งแบ่งเป้นหลายเส้นทาง ตามภาพด้านบน ถ้าเผื่อไม่มีเวลา แต่อยากสัมผัสบรรยากาศในป่าน้ำหนาว ก็เลือกระยะทาง 1 กม วนกลับมาที่จุดบริการนักท่องเที่ยวได้ โดยสภาพทั่วไปก็สวยงาม เหมาะแกรเดินพักผ่อน




ทางเดินที่มีมอสขึ้นเต็มตลอด




ผลไม้ป่า





เดินตามทางเดินแบบนี้




ดอกว่าน (ต้นคล้ายๆขิง)




ดอกว่าน และต้นว่าน



เหนื่อยนัก นั่งพักก่อน




สูงเสียดฟ้า




น้ำหนาว คราวปลายฝน (น้ำยังขุ่นอยู่)



ข้ามตรงนี้




ไม่ทราบชื่อ (ดอกไม้)





ถนนหมายเลข 12 ใกล้ๆทางเข้าอุทยานฯ




ถนนหมายเลข 12 ใกล้ๆทางเข้าอุทยานฯ




น้ำตกเหวทราย

ทางเข้าอยู่ตรงหลักกิโลเมตรที่ 67 ทางหลวงหมายเลข 12 (หล่มสัก-ชุมแพ) ระยะทางเดินเท้า 1 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่เกิดขึ้นจากห้วยสนามทรายซึ่งต้นห้วยอยู่ที่ป่าดงดิบที่เรียกว่าดงแหน่งไหลผ่านป่าซำผักคาว

ลำห้วยสนามทรายนี้เป็นแนวธรรมชาติที่แบ่งเขตแดนระหว่างอำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ น้ำในห้วยสนามทรายจะไหลไปลงลำน้ำเชิญ และลำน้ำเชิญจะไหลผ่านลงแม่น้ำพองจนถึงเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

เป็นน้ำตกที่มีความกว้างที่สุดคือ ประมาณ 30 เมตร สูง 4 เมตร มีบรรยากาศร่มรื่นน่านั่งเล่น พักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะในฤดูฝน คือประมาณเดือนมิถุนายน-ตุลาคม ของทุกปี มีทางเดินเท้ามาทางน้ำตกเหวทราย ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร




ไปน้ำตกทรายทอง หรือเหวทราย




น้ำตกเหวทราย




น้ำตกเหวทราย




น้ำตกเหวทราย




ถ้ำใหญ่น้ำหนาว (ภูน้ำริน)

ทางเข้าอยู่ตรงกิโลเมตรที่ 60 ทางหลวงสายบ้านห้วยสนามทราย อำเภอหล่มเก่า บ้านหินลาด มีทางลาดยางเข้าถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ถ้ำใหญ่น้ำหนาวอยู่บนเขาสูงประมาณ 955 เมตร ลักษณะเป็นหินปูน เป็นถ้ำใหญ่ที่มีความวิจิตรพิสดารของธรรมชาติ มีหินงอกหินย้อยและแปลกที่สุดคือ มีน้ำไหลหรือน้ำริน ภายในถ้ำจะมีปล่องธรรมชาติที่แสงแดดสามารถส่องไปในถ้ำซึ่งมีอยู่เป็นช่วง ภายในถ้ำเป็นที่อาศัยของค้างคาวนับเป็นจำนวนแสนตัว ความลึกของตัวถ้ำนั้นไม่มีใครทราบแน่ชัด เนื่องจากเป็นถ้ำที่มีความลึกมาก และยังไม่มีผู้ใดเข้าไปทำการสำรวจอย่างทั่วถึง

วันที่ไปถึงเป็นช่วงเย็นสี่โมงกว่าๆ เลยเข้าชมถ้ำได้เพียงผิวเผิน ไม่สามารถเข้าไปมากกว่านั้นได้ เพราะกลัวเวลาไม่พอ เลยได้ภาพออกมาตามที่เห็นครับ

มีป้ายบอกว่าที่ป่ารอบๆ จะมีตุ๊กแกชนิดใหม่ของโลกชนิดหนึ่ง เป็นตุ๊กแกในสกุล Conydactylus และมีตุ๊กแกที่หายากชนิดหนึ่ง คือตุ๊กแกป่าโดนนิ้วติด เป็นตุ๊กแกที่พบเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย และเป็นที่อยู่ของค้างคาวนับแสนตัว มีค้างคาวที่ใกล้สูญพันธุ์ชนิดหนึ่ง คือค้างคาวมงกุฏมาร์แชล และค้างคาวกินแมลงซึ่งเป็นสัตว์หายาก เช่นค้างคาวหูหนูยักษ์ เคยพบครั้งแรกและครั้งเดียวที่จังหวัดน่านและพบที่ถ้ำใหญ่น้ำหนาวเป็นครั้งที่ 2 ในประเทศไทย.



ทางเข้าถ้ำใหญ่




กุฏิหลวงปู่ผาง จิตะคุตโต




ไหว้พระหน้ากุฏิหลวงปู่



เข้าถ้ำ




ภายในถ้ำ




ภายในถ้ำ




น้ำไหลลอดออกมาจากถ้ำ




ป่ารอบๆบริเวณ




การเดินทาง และสถานที่ติดต่อ

ที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองขอนแก่น 103 กิโลเมตร อยู่ห่างจากอำเภอหล่มสักประมาณ 55 กิโลเมตร เดินทางโดยรถยนต์ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ถึงหลัก กม.ที่ 50 มีป้ายชี้ทางเข้าสู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ถ้าไปโดยรถประจำทางสามารถขึ้นรถได้จากขอนแก่นหรืออำเภอหล่มสัก ซึ่งรถจะผ่านหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติฯ ทุกวัน

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ 67260
โทร 0 5672 9002 E-Mail ; nation.p604@hotmail.com

สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 61 ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร 0 2562 0760 //www.dnp.go.th


จองบ้านพัก




ปล. บล๊อกนี้ได้หายไปตอนทำการเคลื่อนย้ายบล๊อกเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2554 และได้ให้ทางทีมงานบล๊อกแก๊งค์กู้กลับมาให้ใหม่....ขอบคุณครับ


________จบทริป________

Create Date : 14 ตุลาคม 2551		2 comments
Last Update : 26 มกราคม 2554 7:13:31 น.
Counter : 8852 Pageviews.
Share Tweet