แต่งหน้าฟาร์มด้วยเส้นไหมด้วยรูปแบบที่เป็นสัญลักษณ์ทางอีสาน

ปัจจุบันจิม ทอมป์สันฟาร์ม เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นประจำทุกปีในเดือนธันวาคมจนถึงต้นเดือนมกราคม ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งสร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม ซึ่งสร้างความสุขและประสบการณ์อันแปลกใหม่ให้ทั้งผู้เข้าชม และเกษตรกรของจิม ทอป์สัน ฟาร์ม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร: 02-216-7368, 02-612-6740, 085-660-7336
แฟกซ์: 02-762-2569, 044-373-117
E-mail: farmtour@jimthompson.com
(อ่านรายละเอียด จิมทอมสันฟาร์ม)



การเข้าชมต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 80 บาท มีรถนำเที่ยวโดยจะออกจากอาคารสำนักงาน แล้วพาท่านเข้าไปในไร่ และจอดให้นักท่องเที่ยวลงไปถ่ายภาพ และชมความสวยงามที่ตกแต่งไว้อย่างดี 3 จุดด้วยกัน..

ฟักทองยักษ์...ที่จุดแวะจุดแรก

ตรงจุดแรกนี้เป็น ลานฟักทอง....ซึ่งตกแต่งด้วยมัดหญ้า วางฟักทองไว้ และมีกองฟักทองขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางลาน อีกด้านจะแสดงศิลปด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้จากเส้นไหม ส่วนรอบๆจะมีไร่ทานตะวัน สวนดอกไม้ฝรั่ง และมุมถ่ายภาพมากมาย

ศิลปที่ทำจากชิ้นใยไหม

ลานฟักทอง

กองฟักทองที่แต่งไว้อย่างดี (แต่เราเอาคนไปบังซะงั้น)

มีสวนดอกไม้ให้ถ่ายภาพด้วย

อีกด้านเป็นแปลงดอกทานตะวัน.... นี่คือดอกทานตะวันสีกำมะหยี่

นั่งรถแบบนี้เพื่อเดินทางไปชมจุดต่อไป..

รถแบบด้านบนจะมาส่งนักท่องเที่ยว และรับกรุ๊ปที่เที่ยวตรงจุดนี้เสร็จแล้วไปเลย คือไม่ต้องจอดรอรับ จอดส่งและรับไปเลย...เราสามารถขึ้นรถคันไหนก็ได้ จะมีผ่านมาทุกๆ 15 นาที... ออกจากจุดลานฟักทอง ก็จะมาจอดส่งนักท่องเที่ยว ที่จุดที่สองคือ "บ้านอีสาน"

ตรงจุดนี้เขาจะมีบ้านอีสานหลายแบบหรือขจากหลายเผ่า เช่นผู้ไท โคราช และอีกหลายท้องที่ มาสร้างไว้กว่าสิบแบบ..... มีจุดขายของที่ระลึก ตั้งโชว์ประเพณีท้องถิ่น อุปกรณ์การเกษตรสมัยก่อน จำลองความเป็นอยู่ดั้งเดิม รวมทั้งของเล่นในเทศกาลต่างๆ มีการแสดงพิณ-แคน ให้เราดูด้วย

ตรงนี้เป็นจุดที่คุณๆ จะได้พักรับประทานอาหาร ซึ่งมีมุมขายอาหาร เน้นตามแบบฉบับภาคอีสาน และโคราช.... อีกที่หนึ่งใกล้ๆกับที่ขายของที่ระลึก มี "ไอติมโบราณ" และ "ติมหลอด" ขายด้วย จขบ.ลองไอติมโบราณ อร่อยดีครับ

จุดเยี่ยมชมที่ 2 คือบ้านอีสาน

เกวียนแบบดั้งเดิมเลย

ไหมเมื่อทำเป็นเส้นแล้วเก็บไว้ พันไว้บน "อัก" แบบนี้ก่อน

บ้านอีสาน

เขียนเมนูบน "โบม".... โบมเป็นที่"ส่ายข้าวเหนียว" (ส่าย...เป็นภาษาอีสาน เอาข้าวเหนียวที่นึ่งเสร็จเทลงในแผ่นไม้นี้ แล้วเกลี่ยให้ไอร้อนออกจากข้าว เพื่อไม่ให้เหนียวมาก และติดมือ)

มุมของที่ระลึก

ครกกระเดื่อง ภาษาอีสานเรียก "คกมอง"

ตู้ไปรษณีย์...ที่นี่ก็จัดให้

เด็กๆเล่น"ขาโถกเถก"

ดอกฝ้าย....มุมเท่ห์ๆ

จำลอง...บ้าน ทุ่งนา และเดิ่นบ้าน (ลานบ้าน)

ออกจากบ้านอีสาน ซึ่งหลายๆคนใช้เวลาที่นั่นนานมาก ทานอาหารไป ฟังเพลงอีสานไป ได้บรรยากาศดี.... จุดต่อไปคือจุดสุดท้าย คือที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับไหม เริ่มตั้งแต่ตัวดักแด้ เรื่อยไปจนกระทั่งเราได้เส้นไหมมา แล้วนำไปย้อมสี จนถึงการทอเป็นผ้าไหม แล้วไปแปรรูปเป็นสิ่งต่างๆ..... ที่จริงตรงบ้านอีสาน ก็จะมีบ้านโชว์กรรมวิธีเลี้ยงไมด้วย

ตรงจุดนี้ เขาก็จะมีของที่ตีตราฟาร์มมาขาย รวมไปถึงพวดผัก และผลไม้สดด้วย..... ตรงที่ว่างระหว่าเรือนแสดง จะปลูกดอกไม้เข้ากับฤดูกาลไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพ

การไปเที่ยวชมจิมทอมสันฟาร์ม จึงเสมือนเราได้ไปเดินชมชนบทที่ตกแต่งสวยงาม พักผ่อน ในวันสบายๆ แถมได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลี้ยงไหมด้วย.... ปีนี้ปิดไปแล้ว รอไว้ปีหน้าละกันครับ ช่วงกลางธันวาคม ถึงประมาณกลาง มกราคม

จุดที่ 3..... นิทรรศการเกี่ยวกับไหม แต่สวนดอกไม้เต็มไปหมด

จำชื่อไม่ได้..อีกแล้ว

ดูเพลินๆ...เพราะลืมชื่อ

ดอกนี่ก็สวย....แต่ดูยากหน่อย

ต้นปอเทือง..ปลูกไว้ปรับสภาพดิน

รถกลับมาส่งที่เดิมเมื่อเราออกไป หาอะไรทาน แล้วขึ้นไปเดินเล่นบนสวนลอยต่อก้ได้ ก่อนที่จะขับกลับทางเดิมคือเข้า อ.ปักธงชัย...... ใครยังไม่ได้ไป ก็รอปีหน้าละกัน โดยเฉพาะสาวๆที่ชอบดอกไม้สวยๆครับ

ลากันด้วยภาพนี้ครับ

ขอบคุณที่ตามอ่าน....ขอถือโอกาสนี้ส่งความรัก และปราถนาดีให้กับแฟนๆบล๊อกของนาย wicsir ให้มีคนรักมากมาย ทุกคนนะครับ