พายุที่พม่ากับ ในหลวงของเรา
เรื่อง: พระมหากษัตริย์
> > ขออณุญาตนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ > > มาเล่าสู่กันฟัง
เมื่อวันศุกร์(2พ.ค.51) พวกเราได้มีโอกาศได้เข้าค่ายที่ศูนย์ฝึกทหารของค่ายนเรศวร
> > วันแรกที่เข้าไปก่ะบรรยากาศครึ้มๆ พวกเราก็ว่าเอ... แปลกๆนะ
> > ทำไมอากาศอบอ้าวเหมือนจะมีฝนแต่ก็คิดว่าคงเป็นไปตามสภาพอากาศ
> > พอไปถึงก็ทำกิจกรรมจนได้เข้าหอประชุมตอนดึกใกล้เวลานอนมากแล้ว
> > อาจารย์เอกราช ท่านได้มาพูดถึงเรื่องของฝนที่ตกนี้ว่า 'ก่อนหน้านี้
> > พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านทรงให้คณะทำงานเกี่ยวกัยฝนเทียม
> > รีบทำฝนเทียมเพื่อเป็นแนวกั้นลมพายุดีเปรสชั่นซึ่งตอนนั้นยังไม่เกิดขึ้น
> > แต่พระองค์ทรงเหมือนกับเทวดาองค์นึงที่ทราบเรื่องนี้ก่อน
> > ถามว่าตอนนั้นกรมอุตุรู้เรื่องนี้ไม๊ ...
> > ไม่มีใครทราบว่าจะเกิดพายุที่ประเทศเมียนม่า(พม่า)ด้วยซ้ำ
> > พอคณะทำงานด้านฝนเทียมทำงานเสร็จ ด้วยความสำเร็จ...
> > ผลงานที่พระองค์ได้ทำ ก็ก่อให้เกิดผลและมัน
> > เกิดพายุอย่างที่พระองค์ตรัสไว้ที่พม่าจริงๆ
> > และพายุนี้ก็ได้สร้างความเสียหาย
> > และสร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศเมียนมาร์(พม่า)
> > จนทำให้เกิดความสูญเสียอันมหาศาลกับประเทศอันเคยเป็นอริกับเรา ...
> > แต่สำหรับประเทศไทย แนวกำแพงฝนเทียมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
> ได้ทรงสร้างไว้ทำให้เกิดฝนตกเพียงเล็กน้อยในเขตไทยเพื่อป้องกันพายุลูกใหญ่ที่จะเกิด
> > ซึ่งสามารถสร้างความเดือดร้อนแก่ประเทศอย่างมากมาย
> > ' พอพวกเราได้ทราบพวกเราถึงกับอึ้งขนลุกซู่ กับ
> > สิ่งที่พระองค์ได้ทำไว้ให้กับประเทศของเรา
> > ถึงแม้นจะเป็นเรื่องที่ดีที่ทราบเรื่องนี้
> > แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้พวกเราสะเทือนใจกับสิ่งที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้
> > วันที่2ที่เข้าค่าย ครูฝึกได้เปิดวีซีดีเกี่ยวกับพระองค์ให้ดู
> พวกเราก็ดูไปเรื่อยๆจนถึงตอนนึงที่เค้าตัดเอาตอนที่พระองทรงเสด็จพระราชดำเนิน
> > เพื่อไปส่งเหล่ากษัตริย์จากต่างประเทศ
> > คณะทูตที่มาเข้าเฝ้าในงานฉลองศิริราชสมบัติครบ60พรรษา
> ภาพที่ทำให้พวกเราปวดจี๊ดขึ้นมาในหัวใจก็คือ ตอนที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินลงบันได(ขอโทษนะคะพอดีไม่ทราบว่าเขียนยังไง)
> > พระองค์เกือบหกล้ม
> > ดีที่ทหารรักษาพระองค์ที่เดินนำหน้าคอยประคองพระองค์ไว้
> > พอพระองค์ทรงยืนได้ ก็ปัดมืออก พวกเราไม่ทราบว่าพระองค์ตรัสตรงนั้นทันทีไม๊
> > หรือตรัสกับคนสนิทในภายหลัง ว่า
> >
> > ' ไม่ต้องมาพยุงเรา เราจะเดินให้คนทั่วโลกได้เห็นว่า เราเดินได้
> > ให้คนทั่วโลกได้เห็นว่าเราสามารถปกครองคน64ล้านคนด้วยตัวของเราเองได้ '
> > ถึงตอนนี้แล้ว ...น้ำตาพวกเราคลอเบ้า คนที่ดูกันก็สะอึ้นกันไปหลายคน
> > ทุกๆคนในที่นั้นเงียบหมดกับคำพูดที่พระองค์ได้ตรัสไว้
> > พวกเราได้ยินเสียงกระซิบจากเพื่อนข้างๆว่า
> > สงสารพระองค์ที่ต้องมาทรงงานอย่างหนัก ถึงแม้นจะอายุเยอะแล้ว
> > แต่พระองค์ก็ยังทรงรักและเป็นห่วงลูกๆหลานของพระองค์
> > ลูกๆหลานๆที่อยู่ในประเทศนี้
> > ท่านทรงงานทุกอย่างเพื่อให้คนในประเทศได้สบาย
> >
> > เพื่อคนในประเทศได้อยู่ดีกินดี
> > อาจารย์ได้บอกกับพวกเราเมื่อวีซีดีจบว่า
> > พระองค์เหมือนฝนที่ทำให้ประเทศร่มเย็น
> > เหมือนเทวดาที่ไม่ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินไปที่ไหนที่นั่นจะชุ่มฉ่ำ
> > ที่ๆพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปจะพบแต่ความสงบสุข
> > มีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร
> > ท้ายสุดนี้พวกเราอยากจะบอกพระองค์หากแม้นมีใครผ่านมาอ่าน
> > ถึงจะเป็นคำพูดที่อาจจะได้ยินมาบ่อยๆ
> > แต่พวกเราก็ไม่สามารถจะคัดกรองคำพูดใดๆมาพูดได้อีกนอกจาก
> >
> >
> > 'ขอพระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงประชา
> > เป็นร่มโพธิ์ทองของเหล่าปวงชนชาวไทย
> > ขอพระองค์ทรงพระเจริญตราบนานเท่านาน'
> > ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
Create Date : 08 มิถุนายน 2551 |
|
3 comments |
Last Update : 8 มิถุนายน 2551 12:58:45 น. |
Counter : 401 Pageviews. |
|
|
|
ทุกคนได้เห็นและได้ทราบในทุกสิ่ง...
"ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน"
และขอบคุณนะครับที่แวะไป..สบาย
สบายที่บล็อค
ยินดีที่รู้จักครับ