Bloggang.com : Papatos : กระซิบรักบรรลือโลก น่านวันที่1

กระซิบรักบรรลือโลก น่านวันที่1

กระซิบรักบรรลือโลก

อาจารย์สมจิต วิมลเกษม ได้บรรยายภาพนี้ไว้ว่า
“…มองภาพหนุ่มสาวนี้แล้ว อดนึกถึงโวหารล้านนาสมัยเก่าบทหนึ่งไม่ได้ เพราะเข้ากับบรรยากาศภาพนี้ได้เป็นอย่างดี

บทที่ว่า...
คำฮักน้อง กูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว
จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาคะลุม
จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป
ก็เลยเอาไว้ในอกในใจตัวชายปี้นี้
จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้ ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา...”

ใครได้เคยไปเมืองน่านก็คงจะเคยเห็นภาพนี้มาแล้ว

เมื่อวันหยุดของชาวใช้แรงานทั้งหลายมาถึง 5 ชีวิตออกเดินทาง
สู่จังหวัดน่านแบบไม่มีแบบแผน สิ่งที่ติดตัวไปมีเพียงตั่วขึ้นรถ
เสื้อผ้าและกระเป๋ากล้องพร้อมสมองกลวงๆ
เรื่องสนุกเกิดขึ้นเร็สฃวเกินคาดเอาไว้ เมื่อรถทัวร์รอบสองทุ่มครึ่ง
ยังไม่มาทั้งๆที่นี่มัน 3 ทุ่มแล้ว

กาหัวตัวแดงๆไว้เลยนะจ๊ะ " วิริยะแพร่ทัวส์ "

4 ทุ่มกว่าๆพระเจ้ารถมาแล้ว พร้อมกลับแอร์ร้อนๆ
รถออกจากสถานีประมาณ 3 นาที่รถดับ T_T
คนขับรถขอแรงผู้โดยสารชายลงมาช่วยกันเข็น
ระหว่างทางก็ต้องลุ้นกันตลอดเวลาว่ามันจะไปรอดกันไหม
แต่ก็มาถึงน่านจนได้ 10 โมงกว่าๆ
จัดแจงเข้าที่พักหารถเช่าแล้วออกเดินทาง

ข้าวซอยต้นน้ำเป็นอาหารมื้อแรกที่จังหวัดน่าน
ผมซัดข้าวซอยไก่ไปหนึ่ง ตามด้วยน้ำเงี่ยว อีกหนึ่งสบายไป

สิ่งแรกที่ต้องทำจริงๆ
หลังจากไปเยือนบ้านใครก็ตาม ควรบอกกล่าวเจ้าของบ้านซะหน่อย
แวะไหว้หลักเมืองน่านก่อนเลยครับ ขอพรว่า อย่าให้ฝนตก
ขอให้ช่วยคุ้มครอง ให้การเดินทางเป็นไปได้ด้วยดี สาธุ

วัดมิ่งเมือง เสาหลักเมืองน่าน
ในระแวกเดียวกันนั้นยังมีวัดอีกมากมาย เราเลยมาต่อที่วัดต่อไป
วัดภูมินทร์

หลังจากนั้น พวกเราก็เดินทางมาต่อกันที่ วัดช้างค้ำ
อยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน เดิมชื่อ วัดหลวงกลางเวียง
เจ้าผู้ครองนครน่าน พญาภูเข่ง เป็นผู้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1949

พระธาตุเจดีย์ช้างค้ำวรวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีลิกธาตุไว้ภายใน
นับเป็น ปูชนียสถานสำคัญ เป็นเจดีย์ที่ได้รับอิทธิพลทางด้านศิลปะสุโขทัย จากเจดีย์ทรงลังกา คือเจดีย์วัดช้างล้อมนั่นเอง พระธาตุเจดีย์สร้างด้วยอิฐถือปูนมีสัณฐานเป็นรูปสี่เ หลื่ยมจัตุรัสซ้อนกัน 3 ชั้น กว้างด้านละ 9 วา
ฐานจากชั้นแรกสูงถึงชั้นสองมีรูปช้างค้ำอยู่ในลักษณะ
เหมือนฐานรองรับไว้ด้านละ 6 เชือก รวมทั้งหมด 24 เชือก
ช้างแต่ละตัวโผล่ส่วนหัวลอยออกมาครึ่งตัวขาหน้าทั้งคู่
ยื่นพ้นออกมาจากเหลี่ยมฐาน เหนือขึ้นไปเป็นฐานปัทม์ (ฐานบัว)
ซ้อนกัน 3 ชัน และเป็นองค์ระฆังแบบลังกา
ต่อจากองค์ระฆังทำเป็นฐานเขียงรองรับมาลัยลูกแก้ว
ลดหลั่นกันไป เป็นส่วนยอด ปัจจุบันพระธาตุเจดีย์ช้างค้ำ
ได้รับการบูรณะซ่อ มแซม และหุ้นด้วยแผ่นทองเหลืองทั้งองค์
มีความสวยงามมาก

จากนั้นก็เดินทางมาต่ออีกวัดซึ่งแต่ระวัดระยะทสงก็ไม ่ได้ห่างไกลกันเลยเดินทางสบายๆ

วัดหัวข่วง วิหารฝีมือช่างน่าน
ตั้งอยู่ใกล้หอคำ หรือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน มีวิหาร
และเจดีย์ มีลักษณะศิลปกรรมแบบท้องถิ่นล้านนา สกุลช่างเมืองน่าน
ฝีมือประณีตงดงาม วัดนี้ไม่ปรากฏว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยใด
มีเพียงหลักฐานว่าได้รับการบูรณะในราว พ.ศ. 2425
โดยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าเมืองน่าน และต่อมาราวปี พ.ศ.2472
ในสมัยเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองน่าน องค์สุดท้าย

หอไตร ส่วนใหญ่ปลูกไว้บนบก เป็นอาคารทรงสูง ใต้ถุนโปร่งหรือก่อทึบ ส่วนใหญ่
จะทำบันไดไว้ในตัวอาคาร แต่บางแห่งใช้บันไดพาดขึ้นทางด้านนอก รูปทรงโดยทั่วไป
คล้ายคลึงกับอุโบสถหรือวิหาร แต่มีขนาดเล็ก เช่น หอไตรวัดภูมินทร์ วัดนาปัง วัดข่วง และ
วัดทุ่งน้อย ซึ่งมีลักษณะพิเศษ เนื่องจากมีการสลักลวดลายที่ฝาด้านนอก ส่วนหลังคาเดิม
คงเป็นหลังคาจั่วมีชั้นลดแบบปั้นหยา แต่ในปัจจุบันได้รับการซ่อมแซมขึ้นใหม่ ทำให้รูปทรง
ของอาคารหลังเดิมสูญเสียไป

จากนั้นก็ไปต่อวัดที่สำคัญอีกวัดหนึ่งของชาวเมืองน่า นเลยทีเดียว

วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง อ.ภูเพียง
วัดพระธาตุแช่แห้ง มาถึงเมืองน่านไม่ได้มานมัสการ ถือว่ามาไม่ถึงเมืองน่าน
ปูชนียสถานที่สำคัญของเมืองน่าน มีอายุกว่า 600 ปี ตามพงศาวดาเมืองน่านกล่าวว่า
พญาการเมือง โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่
ได้มาจากเมืองสุโขทัย ระหว่างปี พ.ศ.1891-1901 สถาปัตยกรรม
ด้านโบสถ์ ของวัดพระธาตุแช่แห้งที่สำคัญ และแสดงให้เห็น
ถึงแบบอย่างสถาปัตยกรรม และศิลปกรรมสกุลช่างน่าน

ข้างใน วิหารพระนอน มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่

ในวิหารมีหน้าต่างบานเล็ก น่าจะเอาไว้สำหรับระบายอากาศ

แล้วก็ที่สุดท้าย ของวันที่1 ในจังหวัดน่านคือ
วัดพระธาตุเขาน้อย นมัสการพระธาตุเก่าแก่ ชมเมืองน่านจากมุมสูง
จากตัวเมืองน่านใช้เส้นทางเดียวกับวัดพญาวัด แต่เลยไปอีกราว 2 กม.
ขึ้นเขาไป ก็จะถึงยอดเขาน้อยซึ่งเป็นที่ตั้งของวัด วัดพระธาตุเขาน้อย
เป็นปูชนียสถานที่สำคัญและเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของ จ.น่าน
สันนิษฐานว่ามีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพระธาตุแช่แห้ง
ตั้งอยู่บนดอยเบาน้อย สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 240 ม.

Create Date : 01 สิงหาคม 2553

Last Update : 21 กรกฎาคม 2555 22:40:42 น.

9 comments

Counter : 3084 Pageviews.

สวยจังเลยคับ
น่านเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ติดไว้ ต้องไปให้ได้

โดย: ibozla

วันที่: 1 สิงหาคม 2553 เวลา:23:25:46 น.

เมืองน่านอยากไปมากๆเลย (ยังไม่เคยไป)

โดย: ja9pai

วันที่: 2 สิงหาคม 2553 เวลา:5:38:57 น.

ขอบคุณครับน่านเป็นจังหวัดที่น่าไปจริงๆนะครับ
เงียบสงบมากๆ

โดย: Tosdy14ank

วันที่: 2 สิงหาคม 2553 เวลา:8:45:07 น.

สวัสดียามเช้าค่ะ

ยุ้ยได้ไปเที่ยวน่านมาเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา
น่านเป็นจังหวัดที่ยังเงียบสงบ และมีวัดสวยงามมากมาย
เห็นภาพวันนี้แล้วทำให้นึกถึงความสุขในทริปนั้นจังค่ะ

xoxo ขอบคุณที่ไปเยี่ยมชมบล๊อคกันด้วยนะค้า

โดย: nLatte

วันที่: 2 สิงหาคม 2553 เวลา:9:11:08 น.

ปีนี้ก็เล็งอยู่เหมือนกันครับ
ต้องรีบไปเที่ยวซะก่อน ก่อนที่จะบูมแล้วคนจะแห่กันไป อิอิ

ชอบใจ ถูกใจ blog นายหัว ก็อย่าลืมไปให้กำลังใจกันนะครับ

โดย: นายหัวเด่น

วันที่: 2 สิงหาคม 2553 เวลา:17:04:12 น.

อยากไปเที่ยวแว้ว

โดย: tik_tos IP: 127.0.0.1, 125.24.18.197 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:12:41:44 น.

มาเมืองน่านให้คิดว่าเป็นบ้านของท่าน ขอให้ท่านรักษาความงดงามความประทับใจของเมืองน่านเหมือนกับคนเมืองน่านนะจ๊ะ ขอบคุณค่ะ

รักษ์โลกณักเมืองน่าน

โดย: จาวน่าน IP: 118.172.125.128 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:40:40 น.

ภาพวิหารหน้าพระธาตุช้างค้ำ(ภาพที่ 5)...จะงดงามมากถ้าไม่มีภาพหญิงนักท่องเที่ยวใส่กางเกงขาสั้น หันหลัง (ก้นดูเด่น ขาดูอวบ) ยืนถ่ายรูปอยู่...ดูแล้วไม่เหมาะนะ...น่านเมืองวัฒนธรรมนะ

โดย: ตนน่าน IP: 118.172.126.92 วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:10:04:16 น.

ชอบทุกรีวิวของคุณทอสกับโมมากค่ะ จะคอยติดตามผลงานต่อๆไปน่ะค่ะ

โดย: geeraa (geeraa.net

) วันที่: 29 ธันวาคม 2553 เวลา:10:11:27 น.