Group Blog
 
 
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
28 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
วุ่นนักรักเด็กมหาลัย(ช่วงที่1)


เช้านี้อากาศช่างสดใส ท้องฟ้าเปิดไม่มีแม้แต่เมฆฝนเลยสักนิด แสงแดดอ่อน ๆ ทอแสงวาววับจับกับน้ำค้างยอดหญ้า มันช่างเป็นเช้าเปิดเทอมที่แสนจะสดใสมากเลยทีเดียว
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ทำให้หญิงสาวที่กำลังนอนหลับอย่างสบายอารมณ์จนลืมไปว่าวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของการเปิดภาคเรียนในสถานที่ใหม่ ๆ ชลดาต้องตื่นขึ้นมาทั้งที่ยังไม่เต็มใจตื่นนัก ดวงตากลมโตตื่นขึ้นมา และปิดเสียงนาฬิกาปลุกและนอนต่อตามนิสัยของคนทั่วไป สายลมอ่อน ๆ ค่อย ๆ พัดพากาลเวลาค่อย ๆหมุนเวียนมาจนล่วงเวลาแสงแดดเริ่มส่องจ้า ร่างบางเล็ก ๆ ที่ล้มตัวนอนเริ่มรู้สึกตัวและนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันเปิดเรียน จึงกระวีกระวาดลุกขึ้นมารีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปเรียนในวันแรก
สถานที่เรียนแห่งใหม่ของชลดา เป็นมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศไทย ถึงแม้มหาวิทยาลัยแห่งนี้จะไม่มีชื่อเสียงมากนัก แต่ก็ยังเป็นมหาวิทยาลัยลำดับต้น ๆ ของประเทศไทยเลยทีเดียว
“ถึงสักที... มหาวิทยาลัยของฉัน กว่าจะมาถึงได้รถติดเกือบตายดีนะที่ยังมาทัน แล้วนี่ยัยกุ้งไปไหนเนี่ย ไหนว่าจะรออยู่แถวนี้ไง “
ชลดาพูดกับตัวเองและเริ่มมองหาเพื่อนสาวที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ อาจจะนับได้ว่า ชลดากับแก้วกาญจ์เป็นเพื่อนที่รู้ใจกันมาก ๆ
“อ้อม.....กุ้งอยู่ทางนี้ “
แก้วกาญจ์เห็นเพื่อนสาวลงมาจากรถและมัวแต่หันรีหันขวาง เพื่อมองหาตนจึงเรียกและรีบเดินเข้าไปหา พากันเดินไปดูตามตึกต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะสำรวจสำรวจดูสถานที่เรียนแห่งใหม่ที่ต้องอยู่เรียนกันถึงสี่ปี ภาพนักศึกษาสาวสองคนที่ใส่ชุดได้อย่างถูกกาลเทศะ และเป็นระเบียบของมหาลัย กระโปรงเข้ารูปกับเสื้อนักศึกษาสีขาว รองเท้าส้นสูงสีดำ ผมยาวกลางหลังที่ถูกถักเป็นเปียอย่างเรียบร้อยมองแล้วเป็นที่น่าชื่นชมของผู้พบเห็นอย่างยิ่ง
ภายในมหาวิทยาลัยนั้นมีบรรยากาศที่ร่มรื่นดีทีเดียว เพราะว่ามีการจัดสวนหย่อมและจัดโต๊ะม้าหินอ่อนไว้ให้นักศึกษาได้นั่งอ่านหนังสือหรือนั่งเล่นเพื่อผ่อนคลายสมองกันในยามว่างใต้ต้นไม้อันร่มรื่นและเงียบสงบ ระหว่างที่สองสาวนักศึกษากำลังเดินสำรวจภายในมหาวิทยาลัยนั้น ชลดาได้หันไปพบชายหนุ่มคนหนึ่งที่แต่งเครื่องแบบนักศึกษาสะอาดสะอ้าน ผมเผ้าหวีได้อย่างเรียบใบหน้าหมดจด คิ้วเข้มและยังมีดวงตาที่คมมาก รูปร่างลักษณะบุคลิกภาพคมสันเหมาะที่จะเป็นพระเอกในละครเลยทีเดียว จนทำให้นางเอกของเรานั้นแอบปลื้มเลยทีเดียว แต่ด้วยเหตุบังเอิญหรือสิ่งใดบันดาลให้ชายผู้นั้นหันมาสบตากับสาวน้อยผู้ใสซื่อผู้นี้ก็ไม่อาจทราบได้ ดวงตาอันคมกริบของชายผู้นั้นมองไปที่ชลดาอย่างไม่กระพริบ พร้อมกับพาเอาร่างกายที่ล่ำสันมาทักทายสาวน้อยทั้งสอง ทำเอาสาวน้อยทั้งสองนั้นใจหวิวอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว
“สวัสดีครับ ผมชื่อ “ต้นสาย “ครับ หรือจะเรียกว่าต้นเฉย ๆ ก็ได้นะครับ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยไหมครับ” ต้นสายชิงแนะนำตัวก่อนเพราะถ้าช้าเค้าอาจพลาดโอกาสทองก็เป็นได้ นาน ๆ จะได้เจอคนที่ถูกใจสักทีนี่
“เออ....ไม่มีอะไรหรอกค่ะก็เห็นคุณคุณอยู่คนเดียวไม่มีเพื่อนหรอคะ เพราะว่าในมหาลัยส่วนใหญ่ทุกคนมักจะเดินกันเป็นกลุ่ม ๆ นี่คะ” ชลดาตอบพร้อมกับแสดงความคิดเห็น ซึ่งต้นสายก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน เพราะคนเราเมื่ออยู่มหาวิทยาลัยแล้วส่วนใหญ่มักจะมีเพื่อนมาด้วยว่าจะเดินไปไหนก็ตาม
“เพื่อนผมกำลังมาครับบังเอิญไม่มีเรียนก็เลยเดินเล่นครับ ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณกับเพื่อนของคุณเลย ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรกันบ้างครับ และจะรังเกียจไหมครับ ถ้าผมจะขอเป็นเพื่อนกับคุณ หรือว่าคุณเห็นว่าเร็วไปที่เราจะมาเป็นเพื่อนกันครับ” ต้นสายพูดซะยาวเพราะความที่อยากจะทำความรู้จักกับชลดา จนทำให้เกิดกิริยาที่น่าขำมาก เพราะชายหนุ่มรูปงามกำลังมีท่าทางที่ ถ้าใคร ๆ เห็นต้องคิดว่าเป็นคนติดอ่างเป็นแน่นอน
“ฉันชี่อชลดา จะเรียกชื่อเล่น ๆ ว่า อ้อมก็ได้นะคะ และนี่แก้วกาญจ์เพื่อนอ้อมค่ะ ชื่อเล่นชื่อกุ้งค่ะ” ชลดาแนะนำตัวเองและแนะนำเพื่อนรักให้ต้นสายรู้จัก แก้วกาญจ์เห็นเพื่อนสาวคุยกะต้นสายจนลืมว่ามีเพื่อนมาด้วยจึงรีบพูดขึ้นว่า
“ไม่ทราบว่าคุณต้นเรียนอยู่สาขาไหน ปีไหนเหรอคะ”
“ผมเรียนปีสองคณะวิศวกรรมศาสตร์ครับ ผมแก่แล้วครับเป็นรุ่นพี่ของพวกคุณ”
พอต้นสายตอบชลดากับแก้วกาญจ์ถึงกับอึ้ง เพราะไม่คิดว่าต้นสายจะเป็นรุ่นพี่เพราะดูจากการแต่งตัวที่เรียบร้อยต่างจากรุ่นพี่ทั่ว ๆ ไปแล้วกิริยาท่าทางที่ไม่ถือตัวนั้นทำให้ดูไม่ออกเลยว่าต้นสายเป็นรุ่นพี่ของทั้งสองคน ชลดาจึงถามไปว่า
“ถ้าอย่างนั้น ให้อ้อมกับกุ้งเรียกว่าพี่ต้นจะได้ไหมคะ เพราะจะได้ไม่ดูเสียมารยาทที่เรียกรุ่นพี่ด้วยชื่อเฉย ๆ ค่ะ”
“ได้สิครับ ไม่เห็นเป็นไรเลย จะเรียกกันว่าพี่ต้นหรือต้นเฉย ๆ ก็ได้ครับเพราะว่าผมไม่ถือหรอกครับ” เป็นจริงอย่างที่ชายหนุ่มบอกเพราะว่าเขาไม่ได้เป็นคนเรื่องมากอะไร เป็นคนที่ทำอะไรสบาย สบาย ไม่ซีเรียสอยู่แล้วกับเรื่องเพียงเล็กน้อย หลังจากการจบการสนทนาแล้วต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันไปเรียน
จากการสนทนาในวันนี้ ทำให้ชลดารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ได้แต่ยิ้ม ๆ เพราะมันเป็นเพียงการพบกันครั้งแรกของทั้งคู่ หลังจากกลับจากมหาวิทยาลัยนั้น ชลดาได้ชวนแก้วกาญจ์ไปเดินเที่ยวแถว ๆ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัยก่อนที่จะกลับบ้าน ชลดาเหนื่อยมากเพราะว่าเธอได้ซื้อของมาเต็มมือทั้งสองข้างทั้งยังเดินเที่ยวจนเพลิน ครั้นพอเดินเสร็จจึงรีบดิ่งไปส่งแก้วกาญจ์ที่บ้านแล้วก็รีบกลับบ้านโดยทันที
ในค่ำคืนนั้น ชลดาหลับผล็อยไปด้วยความอ่อนเพลีย เพราะตลอดทั้งบ่าย หล่อนเรียนหนักใช่ย่อยอยู่เหมือนกัน ขนาดเปิดเรียนวันแรก อาจารย์ก็สั่งงานแบบถ้าเทียบก็เป็นภูเขาเลย แต่ความอ่อนเพลียก็เป็นสิ่งสวยงามได้เหมือนกัน เพราะในขณะที่เป็นยามนอนหลับพักผ่อนชลดาได้ฝันถึงใครบางคนที่เธอเพิ่งรู้จักกันเมื่อตอนกลางวันมานี้
“วันนี้มาเรียนแต่เช้าจังเลยนะครับ” ต้นสายทักทายชลดาเมื่อเห็นเธอเดินอยู่คนเดียว เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นหูชลดาจึงหันไปตามเสียงที่เรียกเธอนั้นจึงได้รู้ว่าใครคือเจ้าของเสียงที่เรียกเธอ
“ค่ะพี่ต้น วันนี้อ้อมมีเรียนตั้งแต่แปดโมงเช้าค่ะ เป็นวิชาที่น่านอนมากซะด้วยค่ะ” ชลดาพูดด้วยน้ำเสียงที่สดใสและจริงใจตามแบบบุคลิกท่าทางของคนที่ไม่ถือตัวและแสดงความเป็นกันเองต่อต้นสายอย่างมากด้วย
“งั้นเดี๋ยวให้พี่เดินไปส่งที่คณะไหมครับ พอดีพี่นัดไว้กับเพื่อนพี่พอดีครับ” ต้นสายชวนเพราะว่า ทั้งคู่ต้องเดินไปทางเดียวกัน และเป็นผลดีกับตัวเขาด้วยที่จะได้เดินไปกับคนที่ตนเองแอบปลื้มอยู่
“ได้เลยค่ะพี่ต้น งั้นเรารีบเดินไปดีกว่าค่ะ เดี๋ยวอ้อมเข้าเรียนไม่ทันค่ะ อาจารย์โหดซะด้วย” ชลดาพูดพลางชวนต้นสายให้รีบเดินไปเรียนที่คณะ พอไปถึงก็ได้รู้จักกับสมชายหรือ “เอก” ที่เป็นเพื่อนสนิทของต้นสาย เมื่อชลดาแยกไปเรียนแล้ว สมชายจึงถามต้นสายว่า
“ต้นแกไปรู้จักกับน้องอ้อมเค้าตั้งแต่เมื่อไรกันล่ะ ไม่เห็นเล่าให้ฟังบ้างเลย” ต้นสายเลยตอบเพื่อนชายช่างสงสัยไปว่า
“ตั้งแต่เปิดเทอมแล้ว เขาเป็นรุ่นน้องคณะอักษรศาสตร์น่ะ น่ารักดี “
“นั่นแน่สนใจน้องเขาล่ะสิ ทำตาหวานเยิ้มเชียว” สมชายเย้าขึ้นทำเอาเพื่อนรักที่ยืนด้วยกันเขินหน้าแดงโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าทำไมนะเวลาที่เขาได้อยู่ใกล้รุ่นน้องคนนี้ถึงมีความรู้สึกดี หรือว่าเขาหลงรักรุ่นน้องคนนี้เข้าแล้วก็ไม่รู้ ชายหนุ่มเวลาที่อายหน้าแดงก็น่ารักดีเหมือนกันนะ ยังดีนะที่ชลดาไม่ได้เดินมาแถวนี้ไม่งั้นเขาคงไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรดี
“อ้อม กลางวันนี้เราไปกินข้าวที่โรงอาหารมหาลัยกันดีกว่า ตั้งแต่เปิดเรียนมาเรายังไม่ได้ไปกินข้าวที่นั่นเลยสักมื้อเลยนะ เห็นพี่ ๆ บอกว่ากับข้าวที่โรงอาหารอร่อยมากเลยแหละ” แก้วกาญจ์ชวนพร้อมทั้งบอกคุณภาพอาหารพร้อม
“ดีเหมือนกัน เรายังไม่ได้ไปกินข้าวที่โรงอาหารเลยตั้งแต่เปิดเทอมแล้ว เราลองไปกันเถอะ” ชลดายิ้มอย่างสดใสโดยที่ไม่รู้ว่า มีดวงตาคู่หนึ่งแอบมองอยู่
หลังจากที่รับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว แก้วกาญจ์ได้ชวนชลดาไปที่ห้องสมุด เปิดเทอมได้ 2 เดือนงานช่างเยอะอะไรขนาดนี้ก็ไม่รู้ พอเดินไปถึงห้องสมุดทั้งสองสาวก็เดินไปที่ชั้นหนังสือที่เกี่ยวกับเนื้อหาที่ทำรายงานทันที พอหาหนังสือได้สักพักใหญ่ ๆ ก็ได้หนังสือกองโตบนโต๊ะให้เลือกเยอะแยะไปหมดเลย ช่วงที่กำลังดูเนื้อหาของหนังสือนั้น ต้นสายกับสมชายก็เดินมาทักทายที่โต๊ะ พร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยนแสนจริงใจ แต่สิ่งที่แปลกก็คือ แก้วกาญจ์ผู้ที่เป็นเพื่อนสนิทของหล่อนนั้นดูจะตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ
ใครจะไปรู้ว่าภายในจิตใจของเพื่อนรักเริ่มคิดในสิ่งที่เรียกว่าหักหลังเพื่อน เพราะตั้งแต่เรียนมาแก้วกาญจ์ย่อมรู้ว่าเพื่อนรักของเธอน่ะคิดยังไงกับรุ่นพี่คนนั้น แต่คนที่คิดจะหักหลังยังไงก็ไม่สนอยู่แล้วฉันอยากได้อะไรก็จะต้องได้ และพักหลัง ๆ ชลดาและแก้วกาญจ์ดูห่างเหินกันไปทุกที และบางครั้งแก้วกาญจ์ก็ทำเหมือนกับว่าชลดาไม่ใช่เพื่อนสนิทเลยสักนิด
“หาอะไรหนังสืออะไรอยู่เหรอครับ ให้พี่ช่วยหาไหมครับ “ต้นสายขันอาสาในการช่วยหาหนังสือ แต่ว่าผิดคาด คนที่ต้นสายต้องการที่จะให้ความช่วยเหลือไม่ได้ขอความช่วยเหลือ แต่กลับกลายเป็นแก้วกาญจ์ที่พอดีบังเอิญหรือจงใจกลั่นแกล้งชลดาก็ไม่รู้ ได้เดินมาขวางและยิ้มให้ต้นสายและพูดว่า
“กุ้งต้องการความช่วยเหลืออยู่พอดีเลยค่ะพี่ต้น หาหนังสือยากจังค่ะ”
“แล้วหนังสือที่ต้องใช้เป็นหนังสือเกี่ยวกับอะไรล่ะครับ พี่จะได้ช่วยหา”
“อ๋อ...เป็นหนังสือเกี่ยวกับพวกวรรณกรรมค่ะพี่ หาตั้งนานแล้วยังไม่เจอหนังสือที่ต้องใช้เลยค่ะ สงสัยว่ากุ้งจะต้องไปซื้อแล้วมั้งคะ”แก้วกาญจ์ตอบและยิ้มอย่างหวานเกินกว่าที่จะเป็นการยิ้มให้คนรู้จักทั่ว ๆ ไป
“หนังสือเกี่ยวกับวรรณกรรมอยู่ชั้นสองครับพี่เคยขึ้นไปดูแล้ว มีแต่หนังสือที่เคยอ่านทั้งนั้นเลยเราลองขึ้นไปดูดีกว่าครับ” ต้นสายชวนเพราะนึกว่าชลดาจะไปด้วย แต่กลายเป็นว่าแก้วกาญจ์ชวนต้นสายไปโดยบอกว่า
“ถ้าอย่างนั้นให้อ้อมอยู่ตรงนี้ก่อนก็ได้ค่ะ เพราะว่า อ้อมได้หนังสือทำรายงานตั้งมากมายแล้วนี่นา เราไปกันเถอะค่ะ” แก้วกาญจ์ชวนไม่ได้ห่วงใยเพื่อนเลยสักนิด แต่ก่อนที่จะขึ้นไปชั้นสองต้นสายไม่วายกำชับให้สมชายอยู่เป็นเพื่อนชลดา
“เอก...แกนั่งเป็นเพื่อนอ้อมตรงนี้ก่อนนะเดี๋ยวฉันมา” พอพูดจบต้นสายก็ต้องเดินตามแก้วกาญจ์ที่ดึงแขนเขาไปต่อหน้าชลดากับสมชาย
เมื่อแก้วกาญจ์กับต้นสายขึ้นไปชั้นสองแล้ว ชลดาเลยนั่งเงียบไม่รู้จะพูดอะไรกับสมชายดี เลยได้แต่นั่งดูหนังสือที่จะนำมาใช้ประกอบการทำรายงาน โดยมีสมชายเป็นคนช่วยให้คำปรึกษาแต่ชลดาก็ไม่ได้แจ่มใสมากนักที่มีสมชายเพื่อนรักของคนที่ตนแอบชอบนั้นมาช่วยเหลือ แต่เธอไม่เข้าใจในการกระทำของแก้วกาญจ์ ว่าทำไมถึงต้องทำเหมือนกับว่าจะกันไม่ให้ต้นสายเข้าใกล้ตนและแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของโดยที่ต้นสายเองก็ไม่ได้แสดงท่าทางว่าจะมีใจให้แก้วกาญจ์เลยแม้แต่น้อย
ตลอดบ่ายนั้น ชลดาไม่ค่อยได้พูดจากับต้นสายมากนัก เพราะนอกจากจะต้องวุ่นวายกับเนื้อหาที่จะต้องใช้ในการทำรายงานแล้ว แก้วกาญจ์ก็เหมือนกับไม่อยากให้ต้นสายมาคุยกับเธอมากนักทำให้สร้างความอึดอัดใจแก่ชลดาและต้นสายเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีเพราะว่าแก้วกาญจ์ก็เป็นเพื่อนสนิทเพื่อนที่ชลดาสนิทมากเสียด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้รู้ใจของแก้วกาญจ์เท่านั้นแหละ
ในคืนนั้นทั้งชลดาและต้นสายต่างก็นอนไม่หลับเพราะว่าไม่ค่อยสบายใจ ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นแต่ว่ามันกลับทำให้แก้วกาญจ์เริ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แก้วกาวกาญจ์คิดว่าตัวเองมีเสน่ห์มากพอที่จะสามารถดึงดูดความสนใจของต้นสายให้มาเป็นของตัวเองให้ได้ เพราะว่ายังไงซะ ชลดาก็ยังต้องเห็นแก่ความเป็นเพื่อนแน่นอนเพราะความรักเพื่อนยังไงชลดาก็ต้องยอมเสียสละต้นสายให้กับเพื่อนอยู่แล้ว
“อ้อม....พรุ่งนี้ไปดูหนังกับพี่นะครับพี่เลี้ยงเอง” ต้นสายชวนชลดาในเช้าวันหนึ่ง
“ไปค่ะ แต่ว่าพี่ต้นดูหนังเรื่องอะไรคะแต่อย่าดูหนังผีนะคะอ้อมไม่ชอบค่ะ อ้อมกลัว” ก็แน่อยู่แล้วที่คนเรียบร้อยแสนดีจะต้องกลัวผี ร้อยทั้งร้อยก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ
“เอาเป็นว่า เดี๋ยวเราค่อยไปดูโปรแกรมหนังก็แล้วกันนะครับเพราะว่าช่วงนี้มีหนังให้ดูเยอะแยะไปหมดเลย” ต้นสายออกความเห็นเพราะว่าช่วงนี้มีหนังเข้าโรงภาพยนตร์มากมายหลายเรื่องจริง ๆ คนเขาเองยังตัดสินใจไม่ถูก
“แล้วพรุ่งนี้เจอกันสักกี่โมงดีคะ แต่ว่าพรุ่งนี้อ้อมต้องช่วยแม่ทำงานบ้านก่อนนะคะถึงจะไปได้” ชลดาถามและบอกเงื่อนไข
“เอาเป็นว่าสักสิบเอ็ดโมงเช้าก็แล้วกันนะครับ เจอกันที่โรงหนังเลยก็แล้วกันนะครับ”ต้นสายบอกเวลานัด พอดีว่าทั้งสองคนเดินมาถึงตึกเรียนกันโดยไม่รู้ตัวทุกทีเลยก็มันเพลินอยู่ใช่ไหมล่ะ
“ตกลงค่ะ อ้อมไปเรียนก่อนนะคะ แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะคะ” พออ้อมพูดจบทั้งสองคนต่างก็แยกย้ายกันไปเรียน ทั้งสองคนมักเป็นแบบนี้อยู่เสมอ ตอนเช้าทีไรก็เดินมาที่ตึกเรียนพร้อมกัน เลยไม่แปลกที่ทุกคนนั้นต้องรู้ว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน
ชลดานั่งเหม่อลอยเพราะมัวแต่คิดว่า พรุ่งนี้จะแต่งตัวอย่างไรดีเพราะเป็นการออกเดทครั้งแรกซะด้วย จนรจนาอดสงสัยไม่ได้เลยถามว่า
“อ้อม....เธอเป็นอะไรเหรอยิ้มหวานเชียว” เมื่อถูกถามไปแบบนั้นชลดาเลยตอบกลับไปว่า
“เปล่าหรอก เราไม่ได้เป็นอะไร แค่นึกไม่ออกว่าจะใส่ชุดไหนไปดูหนังพรุ่งนี้ดี” พอได้คำตอบรจนาเลยถึงบางอ้อ
“ที่แท้ก็คิดเรื่องชุดนี่เอง แล้วทำไมต้องคิดมากด้วยล่ะแค่ไปดูหนังเอง เธอจะไปดูหนังกับใครล่ะใช่พี่ต้นสายหรือเปล่าบอกมาซะดี ๆ “เพื่อนสาวคาดคั้น
“ก็พี่ต้นเขาชวนเลยขัดไม่ได้” ชลดาตอบ แก้มใส ๆ ของเธอถึงกับร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีด้วยความเขิน
“แก้มแดงเชียวขอให้ดูหนังให้สนุกนะ “รจนาบอก
รจนาจัดเป็นเพื่อนที่ดีมากสำหรับชลดาก็ว่าได้สำหรับเธอ เพราะว่าตั้งแต่ที่เธอได้คบกับต้นสายเป็นแฟนกันนั้น แก้วกาญจ์ ก็เหมือนกับห่างเหินมากไปทุกที ๆ และในบางครั้งก็ทำเหมือนกับว่าชลดาไม่ใช่เพื่อนกันเลยสักนิด
การสนทนาของทั้งคู่อยู่ในสายตาของแก้วกาญจ์โดยตลอด ทำให้จิตใจของเธอร้อนรุ่มไปด้วยไฟริษยา แต่ก็ไม่วายที่จะแสร้งทำเป็นเพื่อนที่แสนดีและถามชลดาว่า
“แล้วไปกันกี่โมงล่ะอ้อม แล้วจะดูหนังเรื่องอะไรล่ะ” เธอถามได้นิ่งมาก มากจนเพื่อนเธอนึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นคนเช่นไร
“พี่ต้นนัดเราสิบเอ็ดโมงเดี๋ยวค่อยไปดูโปรแกรมหนังทีหลัง เพราะว่าช่วงนี้หนังเข้าเยอะเหลือเกิน” ชลดาว่า แต่มันสร้างความริษยาแก่แก้วกาญจ์มากขึ้นเป็นทวีคูณ แต่ต้องทำเป็นซ่อนความเจ้าเล่ห์ไว้และทำเป็นเพื่อนที่แสนดีจนชลดาตายใจ
เมื่อการเรียนการสอนจบลง ชลดาจึงชวนแก้วกาญจ์ไปซื้อของจำพวกเครื่องประดับ แต่แก้วกาญจ์ปฏิเสธที่จะไป ชลดาเลยต้องไปเพียงคนเดียว เธอเดินเลือกดูของได้สักพักก็ได้ของสวย ๆ งาม ๆ มากมายเลยทีเดียว
ชลดารีบตื่นนอนตั้งแต่เช้าเพื่อเลือกชุดที่จะใส่และพอทำงานบ้านเสร็จก็รีบอาบน้ำแต่งตัว เสื้อแขนตุ๊กตาสีชมพูกับกระโปรงยาวสีขาวแต่งหน้าพออ่อน ๆ เกล้าผมสูง เป็นการแต่งตัวได้เรียบร้อยและเหมาะกับท่าทางที่น่าเอ็นดูของเธอเป็นอย่างยิ่ง แต่พอไปถึงโรงหนังภาพที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นมาจนได้ เมื่อชลดาไปถึงที่โรงหนังและพบว่า แก้วกาญจ์ยืนเคียงคู่อยู่กับต้นสายคนรักของเธอ ความน้อยใจเริ่มก่อตัวขึ้นมาทันทีทำให้น้ำตาใส ๆ ไหลออกมาทั้งสองแก้มโดยที่ไม่รู้ตัว
“เค้านัดกับกุ้งแล้วทำไมต้องมานัดกับเราอีกด้วยล่ะ” ชลดาคิดพลางเดินออกมาจากโรงหนังช้า ๆ ไกลออกมาทุกที ทุกที แต่ว่าต้นสายหันมาเห็นเข้า เลยรีบวิ่งออกมาตามแต่ว่าไม่ทันเพราะว่า ชลดาได้รีบนั่งรถแท็กซี่ที่มาจอดรอ กลับออกไปซะก่อน และไม่ยอมฟังเหตุผลใด ๆ จากต้นสายทั้งนั้น ตอนนี้จิตใจของเธอสับสนว้าวุ่น จากชลดาที่ร่าเริงสดใส ก็กลายเป็นชลดาที่มีแต่ความทุกข์ ที่ไม่อาจจะบอกใครได้ แม้แต่เพื่อนที่เธอไว้ใจยังมาหักหลังเธอได้ลงคอ
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ชลดาก็พยายามที่จะหลบหน้าต้นสาย แต่ถึงแม้ว่าจะหลบหน้าอย่างไร จิตใจของเธอก็มีแต่ความทุกข์มากเท่านั้น
หลังจากนั้น สามวันต่อมา ชลดาก็ล้มป่วยลงเพราะเธอตรอมใจและไม่ได้รับประทานอาหารมาหลายวัน ต้นสายจึงเริ่มเป็นห่วงเพราะว่าชลดาไม่ได้ไปเรียนตั้งหลายวัน ต้นสายจึงโทรศัพท์ไปหาชลดาที่บ้านแต่ว่าเธอไม่ยอมรับสายของเขา เขาจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะเจอกับชลดา แต่ต้นสายก็ต้องหมดปัญญาเพราะชลดาเป็นคนที่ใจแข็งมาก เขาจึงลองเขียนจดหมายไปหาที่บ้าน โดยมีเนื้อความว่า
ถึง....อ้อมคนดีของพี่
พี่ไม่รู้ว่ามันเกิดกับเราสองคนนะ แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หรือสิ่งที่มันไม่ดีมันเกิดจากตัวพี่ก็ตาม พี่สัญญานะว่า พี่จะเป็นคนแก้ไขเอง และพี่ก็อยากให้อ้อมฟังเหตุผลของพี่บ้าง ไม่ใช่ว่าจะมาหลบหน้ากันอยู่แบบนี้ เพราะว่ามันเหมือนกับว่าเราไม่ใช่คนที่รัก และรู้จักกันมาก่อนเลย มันไม่น่ายินดีเลยในความรู้สึกพี่ อ้อมรู้ไหมว่าพี่เสียใจมากที่อยู่ ๆ อ้อมก็ทำเย็นชาใส่พี่แบบนี้ พี่อยากเจออ้อมทุกวันเหมือนเดิมและมีรอยยิ้มสดใสทุก ๆ วัน และอยากให้เราสองคนมีความเข้าอกเข้าใจกันมากกว่านี้ เพราะเรายังมีช่องว่างอีกมากระหว่างเราสองคนที่จะทำให้เราต้องโดนคนอื่นทำลายเราได้ง่าย ๆ พี่มีเรื่องที่อยากจะพูดเพื่อให้อ้อมเข้าใจพี่และเราจะได้เข้าใจกัน พี่เลยอยากให้อ้อมมาพบพี่ที่หน้ามหาวิทยาลัยวันเสาร์นี้จะได้ไหม ตอน สิบเอ็ดโมงเช้านะพี่จะคอย ถ้าอ้อมไม่มาพี่ก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น อย่าลืมนะ ว่าพี่ยังรักอ้อมเหมือนเดิม
รักเสมอ ……. ต้นสาย



Create Date : 28 มิถุนายน 2550
Last Update : 28 มิถุนายน 2550 10:56:05 น. 1 comments
Counter : 304 Pageviews.

 
พี่แนนขา อ่านอยากชะมัดเลยค่ะ แก้หน่อยดิคะ

อย่างนี้เน็ทอ่านไม่ได้อ่ะพี่ มันจะข้ามบันทัดเลื่อยเลยดีไม่ได้ นะค่ะน้องสาวคนนี้น่ะจะตาลาย


โดย: เน็ทนะค่ะ (ดอกพุทธ ) วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:14:28:57 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

น้องออมตังค์
Location :
จันทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีค่ะ ทุก ๆ คนที่หลงทางผ่านเข้ามานะคะ บล็อกของทอใยรักอาจจะยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับทุกท่านมากนัก แต่ขอรับรองว่าทอใยรักจะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นนะคะ ส่วนในเรื่องของผลงานที่นำมาลงนั้นได้โปรดอย่านำไปก๊อปปี้ที่ไหนเลยนะคะเพราะทอใยรักพยายามทุ่มเทแรงใจในการเขียนถึงมันจะไม่ดีพอแต่มันก็คืองานเขียนที่ทุ่มเทนะคะ คอมเม้นต์ทุกคอมเม้นต์เป็นกำลังใจสำหรับทอใยรักนะคะ อย่าลืมนะคะ

เธอรู้บ้างไหม ว่าฉันเคยตามหา ใครสักคนที่เดินเข้ามาตอบคำถาม ให้หัวใจ ว่าความรัก ว่าคนรัก นั้นคือใคร อยู่ที่ไหน ทำไมฉัน ไม่เคยเจอ แต่วันนั้นเราแค่บังเอิญ ได้พบ ก็เป็นวันที่ฉันได้พบคำตอบ ของหัวใจ ว่าความรัก ว่าคนรัก ฉันคือใคร ไกลแค่ไหน แต่ฟ้าก็ยังให้เราได้พบกัน * แค่เพียงรู้ ... ว่าเธอคือความรัก ความฝันหรือความจริง ฉันมีเธออยู่เคียงข้างกาย แค่นี้ก็คงเพียงพอกับ คนที่ไม่เคย...เชื่อว่าความรักแท้มีจริง... จนวันที่ฉันได้พบเธอในวันนี้... ฉันไม่ได้นอนฝัน ความรักฉันคือเธอ มีตัวตนและหายใจวันนี้ฉันเองพูดไม่ออก ว่าโชคดีแค่ไหน กับการที่ได้รักเธอ และมีเธอนั้นคอยเติมเต็มชีวิตที่หายไป ขอบคุณฟ้า ที่ลิขิตรักมาแบบนี้ ให้ทุกลมหายใจที่เหลืออยู่ได้รักเธอ ก็พอแล้ว ฉันพอแล้ว ฉันได้เจอกับความหมาย ว่าโลกที่มีรักช่างสวยงาม
Friends' blogs
[Add น้องออมตังค์'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.