Post it (Post it Note) หรือไอ้เจ้ากระดาษแผ่นสีๆทากาวตรงขอบ ที่ใช้แปะคั่นเอกสารกันอยู่เป็นประจำเนี่ยแหละครับ
มันอาจไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ หากวันนั้นไม่มีลมพัดเอาเศษกระดาษที่คั่นหน้าหนังสือบทเพลงสวดสรรเสริญพระเจ้า (ที่ร้องตามโบสถ์) ของนาย Arthur Fry ปลิวไป จนทำให้เขาต้องหาวิธีการคั่นหน้าหนังสือแบบใหม่ที่ต่อสู้กับแรงลมได้
นั่นคือที่มาของ Post it เศษกระดาษที่ขายดีที่สุดในช่วงปี 1977-1980 จนบริษัท 3M ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ กล่าวว่า Post it คือสิ่งประดิษฐ์ที่พระเจ้าทรงประทานมาให้
เช่นเดียวกับเรื่องที่ผมเล่าค้างไว้ใน Blog ที่แล้ว คุณ Tom Moulton ผู้ให้กำเนิดดนตรีแบบ Remix
คุณอาจสงสัยว่า แค่การ Mix เอาเทปมาต่อๆกันจนครบ 45 นาที มันไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย.....แล้วทำไมพอ Tom ทำผลงานออกมา มันถึงได้โดดเด่นนักหนา ทั้งๆที่เขาไม่เคยเป็น DJ ที่เธคไหนมาก่อน
คือยังงี้ครับ วิธีการ Mix ของ Tom น่ะ ในสมัยนั้นถือว่าเป็นการ Mix ในแบบที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยจริงๆ นั่นคือ Tom Moulton นำเพลงเดียวกันมา Mix ซ้ำกันแบบ วน Loop (Mix เพลงเดียวกันซ้ำไปซ้ำมาหลายๆรอบอย่างที่ปัจจุบันเรียกว่า Extended Version นั่นแหละครับ) ก่อนที่จะต่อด้วยเพลงอื่นๆที่ Mix ในแบบเดียวกัน
ดังนั้นเพลงที่มีความยาว 3 นาที หลังจากผ่านการ Mix ของ Tom มาแล้ว จะมีความยาวขึ้นถึง 6 นาที.....ซึ่งถือเป็นของแปลกใหม่สุดๆในสมัยนั้น และเป็นที่มาของเพลงแนว Remix แบบ Extended Version (สมัยนั้นเรียก Long Version) ซึ่งเปิดกันตาม Discotheque อย่างแพร่หลาย
Blog ที่แล้วผมเล่าค้างไว้ถึงตรงที่ผลงานของ Tom ถูกปฏิเสธกลับมา ทำให้ Tom ต้องหันไปบันทึกผลงานลงแผ่นเสียง 7" แต่คุณภาพเสียงที่ได้กลับออกมาไม่ดี...
Tom เหมือนจะอับจนหนทางเสียแทบล้มเลิกความคิดนี้แล้ว แต่โชคดีที่ Tom ยังนึกถึงเพื่อนร่วมงานของเขาคนนึงที่ชื่อ Jose Rodriquez ขึ้นมาได้ (Sound Engineer ของ ห้องอัด Media Sound) Tom รุดไปที่นั่นและขอให้ Jose ช่วยคิดวิธีปรับแต่งเสียงอีกครั้ง
ทั้ง Tom และ Jose พยายามอยู่หลายหน แต่ผลงานก็ยังไม่แตกต่างไปจากเดิม.....
คืนหนึ่ง Tom เข้าห้องอัดเพื่อทดลองปรับแต่งเสียงอีกครั้ง แต่โชคร้ายที่ไม่มีแผ่นเสียง 7" เหลืออยู่เลย Jose จึงเสนอให้ Tom ทดลองอัดผลงานลงแผ่นเสียง 10" ซึ่งเป็นแผ่นที่บังเอิญตัดมาผิดขนาด
ผลลัพธ์ที่ได้ดีเกินคาดครับ....เสียงที่ออกมาทั้งก้องทั้งกังวาล Bass และ Drums มีน้ำหนัก จน Tom แทบไม่เชื่อในหูตัวเอง ต่อมา Tom จึงขอให้ Jose ทดลองอีกครั้งกับแผ่นที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม โดย Tom คำนวณว่าความกว้างแผ่นเสียงขนาดเท่าไหร่จึงจะได้เสียงตามที่เขาต้องการ และไม่เทอะทะเกินกว่าที่จะหยิบสอยมาใช้งาน
ไม่กี่ปีต่อมาแผ่นเสียง 12" ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกพร้อมกับชื่อเสียงของ Tom Moulton
Tom ได้ Mixing ผลงานอีกเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น Dr.Love ของ First Choice เพลง Disco Inferno ของ The Trammps หรือแม้แต่เพลงที่จัดว่าดีที่สุดของ MFSB อย่าง Love is the Message ก็เป็นฝีมือของ Tom เช่นเดียวกัน และทุกผลงานของ Tom จะมีกำกับไว้ข้างท้ายว่า Mastered by Jose Rodriquez เพื่อนของเขานั่นเอง
ล่าสุดเมื่อปี 2004 Tom Moulton ได้รับเกียรติให้ถูกจารึกชื่อลงใน Dance Music Hall of Fame ในฐานะเป็นผู้ที่มีผลงานโดดเด่นในอุตสาหกรรมดนตรี (outstanding achievement of music industry)
และประโยคทองของ Tom Moulton ซึ่งพูดอยู่เป็นประจำคือ "ผมไม่ใช่คนทำดนตรีเต้นรำ แต่ผมทำดนตรี....ที่คุณเต้นได้" (กว่าจะวกเข้ามาชื่อตอนได้ ปาเข้าไป 2 Blog อิอิอิอิ )
จากความช่างสังเกตในเสียงเพลงของ Tom จนมาถึงความบังเอิญที่แผ่นเสียงขนาด 7" แบบปกติหมด ทำให้เกิดสิ่งประดิษฐ์ที่โลกต้องจารึก
แต่เหนือกว่าสิ่งอื่นใด คือ ความพยายามครับ
ถ้า Tom Moulton ไม่มีความพยายาม คงล้มเลิกตั้งแต่ถูก Sandpiper Discotheque ปฏิเสธไปครั้งแรกแล้ว
ผมขอจบ Blog นี้ด้วยการปรบมือให้กับความพยายามของ Tom Moulton ครับ
ผมชวนคุณไปฟังเพลงกันต่อเลยครับ
ที่คุณกำลังฟังอยู่ตอนนี้เป็นผลงานการ remix ของ Tom Moulton ครับ ชื่อเพลง Dr.Love ของ First Choice ตอนแรกผมกะจะตัดให้เหลือ 4 นาที แต่คิดไปคิดมา ไม่ตัดดีกว่าครับ ผมอยากให้ฟังฝีไม้ลายมือการ Mix ของ Tom แบบเต็มๆครับ ตัดไปเดี๋ยวเสียอรรถรส
Merry Christmas ทุกคนครับ
ผมฝากคู่หู R2D2 และ CTPO แห่งเรื่อง Star War มากล่าวคำอวยพรวัน Christmas ให้แก่คุณทุกคนครับ
พบกันใหม่ปี 2550 ครับ ผมคงพักการ Up Blog ไปช่วงนึงเพื่อปรับปรุงเนื้อหาและรูปลักษณ์ให้ดีกว่านี้ครับ สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าครับ
แหม แค่นี้เนื้อหาของบล๊อกก็ดีมากแล้วนะ อยากเห็นที่จะปรับปรุงค่ะ จะรออ่านๆ