|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ดนตรีกับมนุษย์ Multi Task
อาทิตย์ที่แล้วผมไปงานสัมมนาเรื่อง Music & Technology ที่จัดโดย GenX Academy มาครับ
งานนี้ถึงแม้จะรู้ว่าเนื้อหาบางส่วนจะถูกเอามาใช้ประกอบการขายของ (หลักสูตร) ก็ตาม แต่ผมก็เต็มใจไป เพราะเป็นงานที่ Organize โดยรุ่นน้องที่ผมสนิทที่สุดคนนึง ซึ่งสมัยก่อนเราเคยร่วมทำละครเวทีด้วยกัน
ตัวงานนับว่าน่าสนใจดีครับ มีการพูดถึงอุตสาหกรรมดนตรีในโลกยุคใหม่ มีการสาธิตการอัดเสียงแบบ Home Studio รวมถึงการพูดคุยในเรื่องการแต่งเพลงการเขียนเนื้อเพลงให้ออกมาดูดี
ในตอนหนึ่งของการบรรยาย วิทยากรบนเวทีได้พูดถึงอุตสาหกรรมดนตรีกับสังคมในยุคปัจจุบัน ผมชอบคำหนึ่งที่ท่านวิทยากรพูด ท่านใช้คำว่า
"สังคมยุค มนุษย์ Multi Task"
ตามคำนิยามของวิทยากร หมายถึงสังคมในยุคที่ มนุษย์ต้องทำกิจกรรมมากกว่า 1 อย่างในเวลาเดียวกันเสมอ
เช่น กินข้าวพร้อมกับดูทีวี / อ่านหนังสือหรือทำงานพร้อมกับฟังวิทยุ / วิ่งจ๊อกกิ้งพร้อมกับเสียบ iPod ไว้ที่หู / ตอบ E-Mail เพื่อนควบคู่ไปกับดู Clip บนเน็ต เป็นต้น
การที่เป็นมนุษย์ Multi Task ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมดนตรียังไง
วิทยากรบอกว่าเรื่องนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีของมันก็คือ การเผยแพร่ผลงานเพลงทำได้ง่าย เช่นการเปิดให้ฟังผ่าน Space หรือ เวปชุมชน และเพลงก็ติดหูไว เพราะคนไม่สนใจความปราณีตของเพลง มีแค่ท่อนฮุคหรือ Sampling ที่ติดหูก็ขายได้แล้ว นั่นทำให้มีศิลปินเกิดใหม่ที่สร้างผลงานออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ข้อเสียคือเพลงเหล่านั้นจะมาเร็วไปเร็ว และคนจะนิยม Download มากกว่าเสียเงินซื้อ CD อัลบั้ม (ซึ่งทราบๆกันอยู่ว่าการ Download ส่วนใหญ่ก็ละเมิดทั้งนั้น)
เท่ากับว่าคนทำเพลง ต้องเปลี่ยนแนวจากทำเพลงเพื่อขาย CD เป็นการแสดงสด หรือไม่ก็หันไปทำเพลงประกอบละครหรือโฆษณาเลยเพราะอย่างน้อยก็ได้เงินเป็นชิ้นเป็นอันกว่า
กลับกลายเป็นว่าผลงานเพลงถูกมองว่าไม่มีค่า ในสายตาผู้บริโภค แต่สิ่งที่ขายได้คือความดังของศิลปิน โดยขายที่การโชว์ตัวและแสดงสด
ดีเจสี่ (คุณสี่ เอกมหาชัย) เคยคุยกับผมว่า ความสุขที่สุดอย่างหนึ่งของมนุษย์คือการฟังเพลง และต้องฟังอย่างตั้งใจจริงๆ ไม่ใช่แค่ได้ยินเพลง ซึ่งการเสพติดความสุขนี้ทำให้คนบางคนยอมขายรถ เพื่อซื้อลำโพง (อันนี้เรื่องจริง) และก็เป็นเหตุผลเดียวกันที่ทำให้นักนิยมเครื่องเสียงหลายๆท่านซื้อสายลำโพงเมตรละ 1 หมื่น (ที่เค้าเรียกว่าสายไอ้งูเหลือม)
การฟังเพลงอย่างตั้งใจจริงๆเป็นยังไง มนุษย์ Multi Task อย่างผมก็ไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากนักหรอกครับ แต่ผมเชื่อว่าคุณค่าที่แท้จริงของเพลง ไม่เกี่ยวกับ Hardware แต่อย่างใด แต่ขึ้นอยู่กับความที่เราสนใจในเสียงที่ศิลปินสื่อออกมามากน้อยแค่ไหนมากกว่า
เพราะทุกเสียงที่รับฟัง คือการเล่าเรื่องของศิลปินโดยใช้ดนตรีเป็นสื่อ แน่นอนว่าบางเพลงเราอาจฟังไม่เข้าหู อันนี้ก็ว่ากันไปแล้วแต่จริตการฟังของแต่ละคน
ผมว่าเราทุกคนทีสิทธิที่จะมีความสุขได้กับ Symphony ของ Mozart ในลำโพงคู่ละ 400 บาท เทียบเท่ากับคนที่ฟังจากลำโพงคู่ละ 2 แสนกว่า เราสามารถดื่มด่ำดับเสียง Saxophone ของ Pat Methany Trio ในวิทยุเก่าๆได้เช่นเดียวกับคนที่ฟังจาก Amp หลอดราคา 8 หมื่นกว่าบาท
เพียงแต่ในสังคมยุค "มนุษย์ Multi Task" เราอาจเร่งรีบจน "เผลอ" ลืมความละเอียดในศิลปะไปเท่านั้นเอง
..........................................................................................
พูดถึงการฟังดนตรีอย่างตั้งใจ ผมอยากพูดถึง Concert นึงสักเล็กน้อยครับ
ตอนนี้มี Concert ที่น่าดูมาถึงประเทศไทยหลายงานมาก ไม่ว่าจะเป็น Travis and Simple Plan (ที่จนถึงวันนี้ผมยังเกาหัวแกรกๆเลยว่า ใครจับมารวมกันฟระ) หรือ Air Supply ที่จะมาวันที่ 1 ก.ค. นี้ ยังไม่รวม Live ที่น่าสนใจมากๆอย่าง We Will Rock You : Queen and Ben Elton และ Jump จาก เกาหลี
แต่ Concert ที่ผมจะพูดถึงคือ "ASKA Symphonic Concert Tour Live in Bangkok" ครับ
Aska คือครึ่งหนึ่งของคู่ดูโอยอดนิยม Chage and Aska (อ่านว่า ชาเงะ กับ อาซากะ) ที่มีเพลงฮิตอย่าง Say Yes นั่นเอง
จะว่าไปแล้วคนไทยเรารู้จัก Aska น้อยมาก แต่ที่ญี่ปุ่น ทั้ง 2 คนนี้ดังเทียบเท่า อัสนี วสันต์ ในบ้านเราทีเดียว
Concert นี้ถึงแม้จะไม่ดังเปรี้ยงปร้าง แต่ผมเชื่ออย่างว่าศิลปินญี่ปุ่นโดย Nature แล้วเป็นคนทำงานละเอียด นี่ยังไม่นับความเป็นศิลปินรุ่นใหญ่ระดับนี้ และทำงานร่วมกับวง Bangkok Symphony Orchestra ครบวง ย่อมไม่ทำให้คนดูผิดหวัง
ถึงแม้เราจะไม่รู้จักเพลงของ Aska สักเท่าไหร่ แต่เราสามารถฟังในสิ่งที่เป็นดนตรีจริงๆได้
เพื่อนผมที่เคยอยู่ญี่ปุ่นบอกว่า Concert ในลักษณะนี้ศิลปินญี่ปุ่นเขาถนัดนักแล ผมเลยต้องขอไปพิสูจน์ดูสักครั้ง
2 วันก่อนผมคุยกับพี่ชายคนหนึ่งที่เป็นหนึ่งในผู้บริหารของค่ายเพลงที่นำเข้าเพลงญี่ปุ่น พี่เขาบอกว่างานนี้เป็นงานแรกที่จัดโดย BSO จนถึงวันนี้พึ่งมียอดขายแค่ 9 แสนบาทเท่านั้น พอแค่ค่าตัวศิลปิน ยังไม่รวมค่าเช่าสถานที่และค่าบริหารจัดการเลย
คงน่าเสียดายถ้าดนตรีดีๆ จะมาจัดในบ้านเราแล้วขาดทุนครับ
ถ้าใครสนใจก็ไปชมได้ในวันเสาร์ที่ 21 มิ.ย. นี้ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยครับ
ปล.วันนี้ไม่ใส่เพลงครับ เพราะจะลองให้อ่านอย่างเดียวแบบไม่ Multi Task ดู อิอิอิ
Create Date : 14 มิถุนายน 2551 |
|
22 comments |
Last Update : 15 มิถุนายน 2551 11:14:50 น. |
Counter : 1013 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: getterTu 15 มิถุนายน 2551 11:47:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: Hobbit 15 มิถุนายน 2551 16:41:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: sawkitty 15 มิถุนายน 2551 21:19:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: มิน (มินทิวา ) 16 มิถุนายน 2551 8:25:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: หิ้ม ผู้มีทรัพย์ IP: 195.229.236.212 16 มิถุนายน 2551 22:46:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: Mrs.Ballack (ฟ้าคงสั่งมา ) 17 มิถุนายน 2551 11:37:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: fonrin 19 มิถุนายน 2551 1:53:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: azamiya 19 มิถุนายน 2551 21:31:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: JFFlostman@hotmail.com IP: 61.19.229.42 20 มิถุนายน 2551 12:42:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: Hobbit 22 มิถุนายน 2551 12:31:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: Nankipooh IP: 202.91.19.192 22 มิถุนายน 2551 23:19:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: pick IP: 202.41.167.246 23 มิถุนายน 2551 19:35:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: aston27 23 มิถุนายน 2551 19:38:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: Tony Koon (tk_station ) 23 มิถุนายน 2551 23:08:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: Hobbit 24 มิถุนายน 2551 16:50:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: มิน (มินทิวา ) 25 มิถุนายน 2551 19:06:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: azamiya 28 มิถุนายน 2551 14:19:20 น. |
|
|
|
|
|
|
|
นี่ถือเป็นมนุษย์ Multi Task ด้วยรึเปล่าครับ
Aska นี่ ผมไม่ได้ตามงานเค้านานมากแล้ว
แต่คาดว่าน่าจะไพเราะดุจเดิม
ไม่รู้คนไทยจะรอฟัง Say Yes หรือเปล่า
ส่วน Travis and Simple Plan นี่
ก็ Multi Task Concert ไงครับคุณคูน