ฉันเป็นอะไรนี้...
ย้อนไปเดือน ต.ค.2554 เวียนหัว เมาหัวบ่อยๆๆ จำได้ว่า เป็นหลังจากที่ฉันปวดฟันกรามแล้วไปถอนออก โดนฉีดยาชาสองเข็ม แล้วหมอก็ดึงออก หลังจากนั้นมามักจะเมาหัว เวียนหัวบอกไม่ถูกแต่ไม่บ่อยนะ แต่รู้สึกว่าไม่เหมือนเดิม
หลังจากนั้น3-4เดือนมีแต่เรื่องวุ่นๆเกิดขึ้น ซึ่งฉันก็น่าจะชินกะเรื่องวุ่นๆเหล่านี้ แต่ก็ทำให้ฉันมึนตึ๊บได้เหมือนกัน พ่อฉันเมาแล้วเดินล้มหัวฟาดฟื้น ตาไปชนก้อนหิน ตากลายเป็นตาหมีแพนด้าเลย ฉันก็ได้จัดการเรื่องพ่อเข้าโรงพยาบาลและดูแลพ่อ แต่คนที่นำพ่อส่งโรงพยาบาลกลับแจ้งว่าพ่อรถล้ม ซึ่งทางโรงบาลก็ให้เราเอาใบรถ ใบตำรวจไปให้ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ ฉันต้องปวดหัวอีกกะเรีื่องไม่เป็นเรื่อง ทาง รพ.บอกเค้าวอมาว่า ว.41 แปลว่า มีอุบัติเหตุรถ ฉันต้องได้ไปขอคนที่วอมายืนยัน และขอใบตำรวจว่าไม่มีรถล้มแต่เดินล้มเอง เสียเวลามากต้องลางานด้วย เรื่องพ่อเรียบร้อยเสร็จ ลูกป่วยอีก เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธ์เอ อยู่โรงบาลเติมน้ำเกลืออีก5 วัน สลับกันลางานกะแฟน งานหนองานลาอีกแล้ว แต่ก็ใช้พักร้อนตามสิทธิ์ของเรานะค่ะ ต่อมาฉันเริ่มเวียนหัว เมาหัวบ่อยขึ้น หรือเป็นเพราะฉันไม่ได้พักผ่อนหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ขึ้นไปนอนบนห้อง ล้มตัวลงนอนพักโฮ้โห้...พัดลม เพดานทุกอย่างหมุนติ้ว...ติ้ว... รีบเรียกแฟนมาช่วย ช่วยด้วยแย่แล้ว แฟนรีบพยุงพาไปคลีนิกใกล้บ้าน ตอนนั้นประมาณ2ทุ่ม หมอวัดความดันและรีบฉีดยาให้ที่ก้น หมอบอกว่าน้ำในหูไม่เท่ากัน พักผ่อนน้อย ทำให้เวียนหัวแบบบ้านหมุน ฉันกลับมานอนที่บ้านไม่เวียนหัวแต่ใจไม่ดียังไงไม่รู้ สักพักฉันก็หลับไป เดือนนั้นทั้งเดือนจำได้ว่าเวียนหัวเมาหัวทุกวันเลย ไปหาหมอที่คลีนิกก็บอกว่าเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ พักผ่อนน้อย ทั้งๆที่ก็หลับทั้งคืนแต่มันก็เพลียยังไงไม่รู้ แต่ช่วงนั้นก็ยอมรับว่ากินกาแฟทุกวัน วันละ2 แก้ว ตื่นมาตี4 ตี5 ดื่มกาแฟโสมแก้วหนึ่ง ตอนบ่ายอีกแก้ว
ฉันเป็นอะไร เมาหัวเวียนหัว ฉันกินยาก็ไม่หาย ก็เลยไปตรวจที่โรงบาล หมอก็บอกพักผ่อนไม่พอ ให้ยามากิน มียาแก้เวียนหัวเม็ดสีเหลืองมาด้วย แล้วก็ใบรับรองแพทย์ก็ไม่ให้ฉันได้หยุดพักซักวันเลย ฉันกินยาแล้วไปทำงาน โฮ้โห้...มึนยิ่งกว่าเดิม เมาหัวเวียนหัวมากก... เป็นอย่างนี้เป็นอาทิตย์ กินยาแล้วยิ่งเวียนหัวกว่าเดิม ฉันว่า...น่าจะเป็นเพราะยาทานแล้วง่วงแล้วฉันต้องทำงานประสาทสมองก็เลยมึนเวียนกว่าเดิม พอเวียนเมาหัวปุ๊บก็ใจเต้นแรงมาทันที โอ๊ยยย!! ฉันกลัวตาย! ทำไงดี ใครจะมาช่วยฉัน เค้าจะพาฉันไปรพ. ทันไหมเนี๊ยะ ใจฉันก็ยิ่งแรงและเร็วขึ้น ควบคุมอะไรไม่ได้ล่ะ! เพราะกลัวตาย กลัวคนมาช่วยไม่ทัน ฉันรีบไปห้องพยาบาล รีบบอกอาการ นอนพัก ก็เหมือนจะดีขึ้นน่ะ แต่ยังเมาหัวอยู่ ฉันก็เลยไปหาหมอที่รพ.
หมอตรวจดู บอกว่าฉันพักผ่อนไม่เพียงพอ และด้วยอาการที่เมาหัวประจำ หมอก็เลยให้ฉีดยาชื่อ Dimenhydrinate ให้พยาบาลเป็นผู้ฉีดเข้าทางเส้นเลือดซ้ายมือ หลังจากฉีดเท่านั้นแหละค่ะ ชาจี๊ดๆๆตามน้ำยาที่เข้าเส้นเราเลย เรารู้สึกได้เลย มันแสบมาที่คอ และแปลบๆที่หัวใจ ใจเต้นแรงขึ้น แรงขึ้น โฮ้วววว!!...สุดบรรยายอาการตอนนั้น แบบจุกจิ๊ดมาที่คอ หายใจหอบถี่แรงเหนื่อย ยกไม้ยกมือไม่ได้ ไม่มีแรงเลย จะลืมตกก็ไม่มีแรง ใครถามใครพูดอะไรด้วยก็ไม่มีแรง ตอนนั้นรีบบอกพยาบาลด้วยแรงที่ไม่มีว่า...หมดแรง ใจสั่น รู้สึกไม่ดี พยาบาลก็ว่าไม่เป็นไรอาการข้างเคียงของยา แล้วก็เดินไปไหนก็ไม่รู้ เรานี้เกือบตาย นอนอยู่นั้นเกือบชั่วโมงเริ่มดีขึ้น หมอให้นอน รพ 1คืนก็กลับ ได้ยามากิน
มาทำงานก็เข้าใจว่าตัวเราหายแล้วนะ นั่งอยู่ออฟฟิคไม่เป็นไรนะแต่พอเข้าไปใน line ซึ่งจะเป็นห้องโถงกั้นด้วยกระจกเป็นห้องๆห้อง ซึ่งดูด้วยแคบและแออัด มีคนเยอะด้วย เริ่มเวียนหัวตาลายจะเป็นลมอีกล่ะ ใจสั่นมาล่ะ โอ๊ยยยย!!!!กลัวตายอีกล่ะ ฉันจะตายไหมเนี๊ยะ ฉันเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า รีบเดินออกไปห้องพยาบาล พยาบาลตรวจความดันและชีพจร พบชีพจรเต้นเร็ว110-120 พาฉันส่งรพ
พอถึงรพ ก็พบหมอ หมอให้ไปตรวจคลื่นหัวใจ ผลออกมาก็เจอผิดปกติ ให้ไปพบหมอหัวใจ หมอก็ให้ติดเครื่องวัดหัวใจไว้ตลอด24ชมแล้วนัดฟังผลอาทิตย์หน้า (ไม่รู้เรียกเครื่องอะไรนะแต่ถ้าใจสั่นขึ้นมา ให้กดบันทึกไว้แล้วหมอจะเอาไปตรวจดู ) คิดอยู่ในใจหมอนัดฟังนานจัง ถ้าฉันเป็นโรคหัวใจขึ้นมาจริงๆ ฉันไม่ตายก่อนหรือนิ
กลับไปทำงานอีก นั่งอยู่หน้าจอคอม เวียนหัวมากมายแค่ดูหน้าคอม ฉันเป็นไรอีกนี้ ใจสั่นเริ่มมาอีกล่ะ แย่แล้ว!! อยากอ๊วกอยากถ่ายออก รู้สึกไม่ดีสุดๆ ไปรพ อีกล่ะ ฉันเป็นไรนี้
อาการหลักเลยคือเวียนหัว เวียนแบบเคว้งๆหมุนๆ อยู่ไม่ได้เลย แล้วก็ใจสั่นตามมา มันจะแรงขึ้นๆ มันเป็นแบบนี้บ่อยๆ หมอก็เลยฉีด Dimenhydrinate อีกเข็ม ซึ่งก็บอกหมอว่า ฉีดรอบที่แล้วเกือบตาย รอบนี้จะให้ฉีดอีกเหรอ ไม่อยากฉีดเลย แล้วพยาบาลก็จัดการพาไปฉีด บอกว่าฉีดแล้วจะได้หายเวียนหัว
พยาบาลถือเข็มมาล่ะ ฉีดเข้าซ้ายมือ ฉันรู้สึกแย่อีกแล้วเมื่อตัวยามันเข้ามา มันไหลมาตามเส้นเลือด พอมาหัวใจฉันปุ๊บ ใจฉันแร็ง เร็ว ฉันเริ่มตกใจกะอาการ แล้วมันก็ซ่านไปจิ๊ดๆที่คอ แล้วตาฉันก็ลืมไม่ขึ้น ฉันบอกพยาบาลฉันรู้สึกไม่ดี เหนื่อยยย ไม่มีแรงพูด ไม่มีแรงอะไรเลย จะยกมือยกขา จะขยับมือก็ไม่ได้ พยาบาลรีบวัดความดัน ความดันขณะนั้นอยู่ที่ 175-180นะแหละ ฉันได้ยินพยาบาลเรียกหมอกันใหญ่ และใส่ออกซิเจนให้ฉันด้วย บอกให้ฉันค่อยๆหายใจ ลึกๆ ช้าๆ ฉันพยายามทำ มันเหนื่อยมากกับการหายใจมากค่ะ.... ทำให้ฉันสัมผัสถึงอาการคนใกล้ตายมันเป็นอย่างไร
สักครู่เภสัชขึ้นมาสอบถามอาการ ยังคงเพลียอยู่ ยังตอบอะไรไม่ค่อยได้ เภสัชบอกไว้จะไปสอบถามทีหลังแต่อาการตอนนี้เป็นผลข้างเคียงจากยาซึ่งพยาบาลฉีดยาที่เส้นเลือดโดยตรงไม่ได้ผสมน้ำกะน้ำเกลือใดๆทั้งสิ้น ยาเลยออกฤทธิ์เร็ว ทำให้ใจเต้นแรงเร็ว โห้!!!เกือบตาย!!!! ใครไม่เจอไม่รู้เป็นอย่างไร พูดไม่ออก บอกไม่ถูกเลยค่ะ แล้วเภสัชก็ออกใบแพ้ยา Dimenhydrinate มาให้
ประมาณชม ฉันเริ่มดีขึ้น ได้ย้ายไปอยู่ในห้องพัก พอลุกขึ้นนั่งรู้สึกแผ่นดินไหว จึงถามพยาบาลว่ามีแผ่นดินไหวเหรอ พยาบาลบอกไม่มี อ้าว!เป็นว่าฉันรู้สึกไปเอง กินยาแล้วหลับไปด้วยความเพลีย ตื่นขึ้นมาหมอมาตรวจมาถามว่า เคยชักเหรอทำไมหมอคนที่แล้วให้ยาทานชักไปทาน อ้าว!!ไม่เคยชักค่ะ ไม่รู้หมอให้มาได้ไง ก็งงค่ะ กินไปเป็นอาทิตย์ อาการแย่กว่าเดิมอีก หลังจากนั้นฉันก็นอนก็ไม่ได้เลย นั่งก็ไม่ได้ มันแผ่นดินไหวตลอด มันเมาหัวม๊ากกกกกก อยู่ไหนไม่ได้เลย ฉันอยู่บนตึก แค่รถผ่าน ฉันก็สัมผัสได้ถึงตึกมันสั่น เครื่องบินผ่านก็เหมือนตึกโยกนิดๆ เป็นอยู่2วัน หมอให้ไปพบหมอประสาท หมอประสาทก็เช็คแล้วก็บอกว่าปกติ ส่งต่อไปให้หมอหู หมอหูก็ตรวจแล้วก็ว่าปกติ ให้ฉันออกรพได้
โอ้...แม่เจ้า ฉันเป็นไรนี้!!! กลับมาบ้านก็ยังเมาหัวแผ่นดินไหวอยู่ คือถ้าขึ้นชั้นบน ถ้าลูกนอนดิ้นแบบนี้ก็จะรู้สึกว่าเตียงมันจะสั่นไปมาเมาหัวอีกล่ะ เครื่องบินผ่าน รุ็สึกบ้านโยก อะไรแบบนี้ คือไวมากๆๆๆค่ะ ฉันเองกลุ้มใจไม่รู้ตัวเองเป็นอะไร ตัดสินใจไปตรวจที่ รพ ประสาท หมอก็บอกปกติไม่เป็นไร แล้วฉันจะทำอย่างไรดีนะ
คิด...คิด...คิด....อยู่นาน ฉันเป็นโรคที่คนอื่นไม่เข้าใจแน่ ฉันไหว้พระสวดมนต์ จะนั่งสมาธิรู้สึกยังไม่เป็นสมาธิ ฉันก็เลยเดินจงกรม เดินช่วงก่อนนอนประมาณ15นาที เริ่มดีขึ้น เริ่มหาหนังสืออ่าน ว่างก็เดินจงกรมคือไม่บ่อยนะ แต่จะทำตอนที่ใจอยากทำ รู้สึกใจเป็นสมาธิมากขึ้นแล้วก็อธิฐานขอให้หายจากเมาหัวแผ่นดินไหวด้วยเถิด อาการที่เป็นมันแย่มากๆเลยขอเจ้ากรรมนายเวรอโหสิด้วยเถิด ก็เกือบ2อาทิตย์เริ่มดีขึ้น แต่ก็มีอาการแบบนอนแล้วผวา ขาชักกระตุก มือชักกระตุก ไปหาหมออีกที่ รพ ประสาท เพราะเข้าใจว่าเราเป็นประสาทหรือเปล่า แต่หมอก็บอกว่าไม่ได้เป็นประสาท น่าจะเกิดจากเราเครียด อาการเหมือนคนหลับไม่สนิท กล้ามเนื้อเลยกระตุกขึ้นมา
พอไปทำงานฉันก็มีอาการอีก แค่เห็นหน้าคอมก็พะอืดพะอม เมาหัวอยากอ๊วกล่ะ ถ้าได้เข้าไปในlineอีก โคตรเวียนหัว อยากอ๊วก อยากถ่าย ปั่นปวนท้อง แล้วใจก็สั่น ใจไม่ดีอย่างไรไม่รู้ เหมือนกับใกล้จะตายอ่ะ เป็นอย่างนี้แทบทุกครั้ง และถ้าเจอสถานที่ ที่แบบอึดอัด มีแต่แอร์ แบบหายใจไม่ทั่วท้อง ผู้คนมากมาย ฉันก็จะเวียนหัวได้อีก ฉันเป็นอะไร ฉันก็อยากรู้เหมือนกันนะเนี้ยะ กลุ้มใจกับสิ่งที่เป็น มันทรมาน และทำให้คนอื่นมองเราอู้งานได้ มองเราไม่ดีได้ แต่มันจะเกิดอาการขึ้นมาเองเมื่อเจออะไรแบบนี้ มันอธิบายยากค่ะ มันเป็นแล้วมันเกือบตาย มันทรมานสุดๆๆ
ฉันเจอกับคำถามว่า...หมอบอกว่าเป็นไร ฉันเงียบ... หมอบอกฉันว่าฉันปกติไม่ได้เป็นไร แล้วทำไมฉันเวียนหัวเมาหัวเกือบตาย ก็เข้าใจอยู่นะว่าคนถามเขาก็อยากรู้แล้วหมอก็บอกว่าเราไม่เป็นไร แล้วเรายังสลิดดกเป็นอะไรมากมายอาการหนักอย่างนี้
นี้แหละ...คือสิ่งที่ฉันสงสัยเหมือนกัน ฉันเป็นอะไร ทำไมฉันจะมีอาการเมื่อเข้าไปในสถานที่แบบนั้น ทั้งๆที่คนอื่นไม่เป็นไร ฉันไม่ได้แกล้ง ฉันจะแกล้งไปทำไม แกล้งทำไปเพื่ออะไร??? ใครจะเข้าใจฉันบ้าง???? ด้วยเหตุนี้ทำให้ฉันตัดสินใจลาออกงาน
Create Date : 11 มิถุนายน 2555 |
|
4 comments |
Last Update : 12 มิถุนายน 2555 16:34:45 น. |
Counter : 4107 Pageviews. |
|
|
|
เข้ามาอ่านด้วยความเข้าใจค่ะ
คนเราใครจะอยากแกล้งเป็นโน่นนี่นั้น เพื่ออู้งาน
อาจจะมีบ้างบางคน แต่คนเราอยู่ใกล้ชิดกัน จะดูออกนะคะ
ดูอาการแล้ว มีคนเคยเป็นคล้ายแบบนี้ เขาบอกว่ารู้สึกว่าบ้านหมุน
ซึ่งเขาเรียกโรคบ้านหมุน คืออาการของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
อาจจะว่าพอเราพักผ่อนน้อย ก็ทำให้เกิดอาการได้ค่ะ
แต่ไม่เคยเป็นเอง เลยไม่แน่ใจว่าที่คุณแตนเป็นใช่หรือป่าว
ไปหาหมอสมัยนี้น่ากลัวจังนะคะ ประมาณว่าหมอจ่ายยาอะไรมาให้
แล้วเราไม่รู้เรื่อง ไม่กล้าที่จะถามหมอ ยิ่งถ้าไปร.พ.แล้ว ถามอะไรหมอ
ไม่ได้เลยค่ะ ถามไปหมอก็จะไม่ค่อยตอบเรา
เคยไปแล้วถามหมอว่าเราเป็นอะไรหมอไม่ตอบ
ตรวจๆ แล้วสั่งยา เสร็จ พอใครถามว่าเป็นอะไร
เราก็ตอบไม่ได้ เพราะเราถามหมอแล้ว หมอไม่บอกเรา
ถ้าไม่หนักหนา ไปคลีนิคจะดีกว่า
ส่วนใหญ่แล้วถ้าไม่เป็นอะไรมากมาย จะไม่ไปหาหมอเลยค่ะ
กลัวหมอฝังใจ จากที่ดูข่าว แต่ถ้าเป็นมากๆ ก็จำเป็นนะคะ
เพราะเราจะรักษาไม่ถูก
ขอเอาใจช่วยให้คุณแตนหายจากอาการนี้เร็วๆนะคะ
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ แม้จะห่างหายกันไปบ้าง
ตอนนี้วรรณก็กำลังเป็นงูสวัสดิ์เหมือนกัน ปวดหัว ปวดเนื้อตัว น่ารำคาญค่ะ