6.
"เหนื่อยมั้ยก๊ะ..." "นั่งพักตรงนี้ก่อนก๊ะ..." "ทำไม..ต้องเช็ดกระจกด้วยล่ะก๊ะ" "ทำไม..ป้าตุ๊กต้องผ่าท้องด้วยล่ะก๊ะ เจ็บมั้ยก๊ะ..." แล้วก้ออีกหลายทำไม... ที่สาวน้อยคอยถามป้าตุ๊ก แม่บ้านประจำชั้นสอง รร. ของสาวน้อย
เป็นคำบอกกล่าวของป้าตุ๊ก ว่าดีใจที่มีเด็กน้อยอยู่คนเดียวที่ถาม ป้าตุ๊ก "เหนื่อยมั้ยก๊ะ" ไม่ถามเปล่า แถมบางทีจะช่วยอีก ก็อาทิตย์นี้ คุณครูพึ่งฟ้องแม่วันก่อนที่ประชุมผู้ปกครองว่า.. สาวน้อยไม่ยอมเข้าห้องเรียน เอาแต่เดินตามแม่บ้าน
แม่เองก็ดีใจที่เห็นสาวน้อยของแม่เป็นเด็กจิตใจดี มีน้ำใจ รู้จักห่วงใยผู้อื่น โดยที่แม่เองนึกไม่ถึง...จะเรียกว่าเป็นเป็นไปโดยธรรมชาติของหนูจะได้รึปล่าวน้า
หนังสือ Why do kids do that ? เตรียมก่อนโต โดย ดร.ริชาร์ด ซี วูล์ฟสัน / สมพร พึ่งอุดม (แม่ส้ม) แปล บอกไว้ว่า...
...การที่ลูกจะสามารถแสดงออกถึงความจิตใจดีและห่วงใยผู้อื่นอย่างจริงใจนั้น เขาจำเป็นต้องมีความฉลาดทางอารมณ์และทักษะทางสังคม คือ ทักษะการให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมร่วมกันกับเพื่อนๆ... ทักษะพื้นฐานของความมีน้ำใจ คือ ความเต็มใจให้และแบ่งปันกับผู้อื่น โดยไม่หวังผลตอบแทน... และสามารถแสดงความรู้สึกเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น
เด็กบางคนอาจจะได้รับการพัฒนาขึ้นในตัวพวกเขาเองอย่างเป็นธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตาม เด็กส่วนใหญ่ได้รับการบ่มเพาะคุณสมบัติเช่นนี้อย่างต่อเนื่องผ่านการเลี้ยงดูในช่วงต้นของชีวิตจากครอบครัว และเริ่มมั่นคงขึ้นเมื่อเข้าโรงเรียน.. ควรที่เตรียมพร้อมให้คำแนะนำและส่งเสริมคุณสมบัติเหล่านี้ให้ลูก เพื่อช่วยเพิ่มทักษะทางอารมณ์ที่จะแสดงออกถึงความใส่ใจและห่วงใยต่อผู้อื่นตั้งแต่ลูกยังเล็กๆ...
สำหรับแนวทางง่ายๆในการส่งเสริมให้ลูกเป็นเด็กมีจิตใจดี ที่แม่ไม่คิดว่าจะมีผลต่อสาวน้อยของแม่ แต่เข้าตามแนวทางในหนังสือ เช่น พาสาวน้อยไปให้อาหารปลาทั้งที่บ้าน ที่ท่าน้ำ ให้อาหารแมว หมาที่บ้าน...
สาวน้อยชอบที่จะหยอดเหรียญในกล่องรับบริจาค...
เมื่อสาวน้อยแสดงความรู้สึกห่วงใยต่อป้าตุ๊ก..อย่างเป็นไปเอง แม้หนูจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แม่ก้อแสดงความชื่นชมสาวน้อยของแม่ เพราะจะได้เป็นการยืนยันให้สาวน้อยมั่นใจมากขึ้นต่อการกระทำของตัวเอง...
ส่วนแม่เองจะพยายามเป็นต้นแบบที่ดี แสดงความมีน้ำใจต่อผู้อื่นทั้งในบ้านและนอกบ้าน เพื่อที่สาวน้อยเลียนแบบพฤติกรรม โดยที่ไม่จำเป็นต้องสอน...
แต่..เรื่องไม่ยอมเข้าห้องเรียนนี่สิ คงต้องพูดถึงหน้าที่ความรับผิดชอบของสาวน้อยยาวแล้วกระมัง
กลับมาบ้านสาวน้อยก้อเอาผ้าขนหนูมาทำท่าซักผ้า แล้วบอกว่า.. "นี่ป้าตุ๊กนะ.. กำลังซักผ้าอ๊วก น้องอุ้มอยู่นะ"
ช่วงนี้บทบาทสมมุติกำลังมาแรงแซงทางโค้งจริงๆ แถมเยอะแยะไปหมด อาทิเช่น...
บางทีก้อเป็นคุณหมอ...รักษาคนไข้ตัวร้อน เห็นรื้อๆลิ้นชักแม่แล้วเอา...ดึงแถบกาว แปะรักษาคนไข้(ตุ๊กตา...เพื่อนสาวน้อย)กันถ้วนหน้า ใครมาเห็นล่ะขำทุกราย พ่อล่ะบอก... "ดูซิ ดูลูกเธอทำ..." จนตอนนี้แม่ต้องเอาแอบไว้ตู้บนๆ สาวน้อยจะได้เอื้อมไม่ถึง...
บางทีก็เป็นครูแม็ค...จับเอาเพื่อนๆตุ๊กตามานั่งฟังนิทาน.."ใครฟังนิทาน ยกมือขึ้นสูงสู้ง" เพื่อนต้นฝนนั่งมองตาแป๋ว สาวน้อยแล้วก็อ่านไปเรื่อย...อ่านแบบฟังไม่ศัพท์จับไม่ได้ความหรอกนะ..
บางทีก้อเป็นก้านกล้วย...ให้แม่แสงดาว ตามหาพ่อภูผา บางทีต้องจับจังหวะให้ถูกเวลาสาวน้อยถามว่า... "แม่ชื่ออะไร..." ตอบผิดมีสิทธิ์ได้ยินเสียงกรี๊ดอีกว่า.."ไม่ใช่..นี่แม่แสงดาวนะ" นอกจากจะเล่นบทบาทสมมุติแล้ว ยังต้องทายใจอีกต่างหากนะเนี่ย
บางทีก็เป็น Lion King... แม่บอกว่า "ต้นฝนต้องเป็น Lion Queen เพราะต้นฝนเป็นผู้หญิง" ต้นฝนบอกแม่ว่า..."ต้นฝนเป็นผู้ชายเหมือนพ่อ" อืมมม..เอาเข้าไป
บางทีก็เป็น BEN-10... มาถึงก้อตีข้อมือแล้วบอก "เบ็นเท็น แปลงร่าง" แล้วหันมาถามแม่ว่า.."แม่เป็นอะไร.. แม่เป็นสัตว์ประหลาด" ถามเอง ตอบเองเสร็จ แม่ถาม.."ต้นฝนเป็นตัวอะไร.." "โฟร์อาร์ม.." ต้นฝนตอบ เป็นอยู่ตัวเดียวนี่ล่ะ เล่นไปเล่นมาเล่นกันแรงบ้าง พอ BEN-10 สู้แม่ไม่ได้ ร้องไห้ก็มี...ฟ้องพ่อ ว่า แม่แกล้งบ้างล่ะ...
ตอนอาบน้ำก้อช่วยกันผสมน้ำยา...สาวน้อยคงจะจำจากย่า บ้านเราซื้ออุปกรณ์จาก สตง. ที่ ธกส. มาผสมเอง ถุงนึงร้อยยี่สิบทำน้ำยาล้างจานได้หม้อใหญ่ เอามาใส่ขวดน้ำดื่มได้เป็นสิบๆขวด นอกจากจะทำใช้เอง ย่ายังสาธิตให้ชาวบ้านที่มาประชุมหมู่บ้านเดือนละครั้งด้วย ประหยัด และดี...
สาวน้อยเลยเอามั่ง อุปกรณ์ ขวดนมเก่า ถังน้ำ สบู่ ขันน้ำ ผสมน้ำยา กวนๆ แล้วกรอกใส่ขวด เล่นทุกวันทุกครั้งที่อาบน้ำ... พี่ตงตงเคยถามแม่ว่า "ทำไมต้นฝนอาบน้ำนานจัง..."
ไม่ว่าจะเป็นอะไร ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจของสาวน้อย แม่ก้อยอมละว้า...
สาวน้อยวัย 3 ขวบ 1 เดือน บันทึกเมื่อ 11 สิงหาคม 2552
Create Date : 11 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2552 1:42:53 น. |
|
23 comments
|
Counter : 376 Pageviews. |
|
|