Group Blog
Group ตัวอย่าง
เล่าทั่วไป
ธันวาคม 2552
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
15 ธันวาคม 2552
เคล็ดไม่ลับในการแต้มน้ำหอม
เรื่องเหลือเชื่อที่คนเราอาจยังไม่รู้ !
รวมมิตรโรคฮิตจากคอมพิวเตอร์
ทริคชะลอความแก่ง่าย ๆ
กินอาหารทะเล บำรุงสมอง
All Blogs
เทรนด์ชุดทํางาน ปี 2016 สำหรับสาวออฟฟิต
ยาทน สมุนไพรชะรอการหลั่ง
ซื้อขาย เช่าชุดราตรีไม่ให้ถูกหลอก
สรรหามาใส่ ชุดออกงานสังคม
หาโรงเรียนเรียนเสริมสวยให้พี่สาว
น่ารักมากเลย เก่งจริงๆ เด็กตัวเล็กๆ เพลงฟิตหัวใจ พี่น้ำอิง+น้องสาละวิน
255 :: เด็กหนึ่งขวบถึงขวบครึ่ง: สภาพแวดล้อม: ป้องกันอุบัติเหตุ
254 :: เด็กหนึ่งชวบถึงขวบครึ่ง: สภาพแวดล้อม: สร้างสถานที่ให้เด็กเล่นกันเถอะ
253 :: เด็กหนึ่งชวบถึงขวบครึ่ง: การเลี้ยงดู: อย่าทำให้เด็กกลัว
252 :: เด็กหนึ่งชวบถึงขวบครึ่ง: การเลี้ยงดู: ดุเด็กดีหรือไม่
251 :: เด็กหนึ่งขวบถึงขวบครึ่ง: การเลี้ยงดู: เด็กเจ้าอารมณ์อาละวาด
250 :: เด็กหนึ่งขวบถึงขวบครึ่ง: การเลี้ยงดู: ฝึกขับถ่าย
249 :: เด็กหนึ่งขวบถึงขวบครึ่ง: การเลี้ยงดู: กล่อมลูกนอนตอนกลางคืน
248 :: เด็กหนึ่งขวบถึงหนึ่งขวบครึ่ง: การเลี้ยงดู: ขนมสำหรับเด็ก
247 :: เด็กวัยหนึ่งขวบถึงขวบครึ่ง: การเลี้ยงดู: อาหารของเด็กวัยนี้
246 :: เด็กหนึ่งขวบถึงหนึ่งขวบครึ่ง: ลักษณะของเด็ก
245 :: 245. เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: สภาพผิดปกติ: ไส้เลื่อน
244 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: สภาพผิดปกติ: ไม่ค่อยอยากอาหาร
243 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: สภาพผิดปกติ: อาเจียน
242 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: สภาพผิดปกติ: ไอ
241 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: สภาพผิดปกติ: ท้องเสีย
240 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: สภาพผิดปกติ: มีไข้สูง
239 :: 240. เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: สภาพผิดปกติ: ฟันยังไม่ขึ้น
238 :: 239. เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: สภาพแวดล้อม: ภูมิอากาศ
237 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: สภาพแวดล้อม: ป้องกันอุบัติเหตุ
236 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: การเลี้ยงดู: สุขสันต์วันเกิด
235 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกให้แข็งแรง
234 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: การเลี้ยงดู: ฝึกขับถ่าย
233 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: การเลี้ยงดู: อุปนิสัยในการนอน
232 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: การเลี้ยงดู: ไม่ยอมกินข้าว
231 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: การเลี้ยงดู: การให้ผลไม้
230 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: การเลี้ยงดู: หย่าขวด
229 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: การเลี้ยงดู: อาหารของเด็กวัยนี้
228 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: ลักษณะของเด็ก
227 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: สภาพผิดปกติ: ถนัดซ้าย
226 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: สภาพผิดปกติ: ท้องผูก
225 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: สภาพผิดปกติ: อ้วนเกินไป
224 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: สภาพผิดปกติ: บาดเจ็บ
223 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: สภาพแวดล้อม: ภูมิอากาศ
222 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: สภาพแวดล้อม: เมื่อมีผู้ป่วยเป็นวัณโรคในบ้าน
221 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: สภาพแวดล้อม: ของเล่น
220 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: สภาพแวดล้อม: ป้องกันอุบัติเหตุ
219 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกให้แข็งแรง
218 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: การเลี้ยงดู: สิ่งที่ควรห้ามต้องห้าม
217 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: การเลี้ยงดู: ฝึกขับถ่าย
216 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: การเลี้ยงดู: ให้ขนมอะไรดี
215 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: การเลี้ยงดู: เด็กไม่ยอมกินผัก
214 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: การเลี้ยงดู: การให้อาหารเด็ก
213 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: ลักษณะของเด็ก
212 :: เด็กวัยเก้าเดือนถึงสิบเดือน: สภาพผิดปกติ: กินของแปลกปลอมเข้าไป
211 :: เด็กวัยเก้าเดือนถึงสิบเดือน: สภาพผิดปกติ: เด็กเจ้าอารมณ์
210 :: เด็กวัยเก้าเดือนถึงสิบเดือน: สภาพผิดปกติ: มีก้อนแข็งที่หลังหู
209 :: เด็กวัยเก้าเดือนถึงสิบเดือน: สภาพผิดปกติ: ไข้สูง
208 :: เด็กวัยเก้าเดือนถึงสิบเดือน: สภาพแวดล้อม: ภูมิอากาศ
207 :: เด็กวัยเก้าเดือนถึงสิบเดือน: สภาพแวดล้อม: พี่ ของเล่น
206 :: เด็กวัยเก้าเดือนถึงสิบเดือน: สภาพแวดล้อม: ป้องกันอุบัติเหตุ
205 :: เด็กวัยเก้าเดือนถึงสิบเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกให้แข็งแรง
204 :: เด็กวัยเก้าเดือนถึงสิบเดือน: การเลี้ยงดู: ฝึกขับถ่าย
203 :: เด็กวัยเก้าเดือนถึงสิบเดือน: การเลี้ยงดู: การให้ขนม
202 :: เด็กวัยเก้าเดือนถึงสิบเดือน: การเลี้ยงดู: ยังไม่ยอมเลิกนมแม่
201 :: เด็กวัยเก้าเดือนถึงสิบเดือน: การเลี้ยงดู: การให้อาหารเสริม
200 :: เด็กวัยเก้าเดือนถึงสิบเดือน: ลักษณะของเด็ก
199 :: เด็กวัยแปดเดือนถึงเก้าเดือน: สภาพผิดปกติ: ปอดบวม
198 :: เด็กวัยแปดเดือนถึงเก้าเดือน: สภาพผิดปกติ: ท้องเสีย
197 :: เด็กวัยแปดเดือนถึงเก้าเดือน: สภาพผิดปกติ: ถูกของร้อน
196 :: เด็กวัยแปดเดือนถึงเก้าเดือน: สภาพผิดปกติ: อุบัติเหตุจากที่สูง
195 :: เด็กวัยแปดเดือนถึงเก้าเดือน: สภาพแวดล้อม: ภูมิอากาศ
194 :: เด็กวัยแปดเดือนถึงเก้าเดือน: สภาพแวดล้อม: ของเล่น
193 :: เด็กวัยแปดเดือนถึงเก้าเดือน: สภาพแวดล้อม: ป้องกันอุบัติเหตุ
192 :: เด็กวัยแปดเดือนถึงเก้าเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกให้แข็งแรง
191 :: เด็กวัยแปดเดือนถึงเก้าเดือน: การเลี้ยงดู: ควรนอนด้วยกันหรือไม่
190 :: เด็กวัยแปดเดือนถึงเก้าเดือน: การเลี้ยงดู: นิสัยเลือกอาหาร
189 :: เด็กวัยแปดเดือนถึงเก้าเดือน: การเลี้ยงดู: ควรให้กินนมแม่ต่อไปหรือไม่
188 :: เด็กวัยแปดเดือนถึงเก้าเดือน: การเลี้ยงดู: การให้อาหารเสริม
187 :: เด็กวัยแปดเดือนถึงเก้าเดือน: ลักษณะของเด็ก
186 :: เด็กวัยเจ็ดเดือนถึงแปดเดือน: สภาพผิดปกติ: ลิ้นแผนที่
185 :: เด็กวัยเจ็ดเดือนถึงแปดเดือน: สภาพผิดปกติ: โรคหืดในเด็ก
184 :: เด็กวัยเจ็ดเดือนถึงแปดเดือน: สภาพผิดปกติ: โรคตุ่มเม็ดพองในปาก
183 :: เด็กวัยเจ็ดเดือนถึงแปดเดือน: สภาพผิดปกติ: ท้องเสีย
182 :: เด็กวัยเจ็ดเดือนถึงแปดเดือน: สภาพผิดปกติ: ชัก
181 :: เด็กวัยเจ็ดเดือนถึงแปดเดือน: สภาพแวดล้อม: พี่น้อง
180 :: เด็กวัยเจ็ดเดือนถึงแปดเดือน: สภาพแวดล้อม: ของเล่น
179 :: เด็กวัยเจ็ดเดือนถึงแปดเดือน: สภาพแวดล้อม: ป้องกันอุบัติเหตุ
178 :: เด็กวัยเจ็ดเดือนถึงแปดเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกให้แข็งแรง
177 :: เด็กวัยเจ็ดเดือนถึงแปดเดือน: การเลี้ยงดู: ฝึกขับถ่าย
176 :: เด็กวัยเจ็ดเดือนถึงแปดเดือน: การเลี้ยงดู: การให้ขนม
175 :: เด็กวัยเจ็ดเดือนถึงแปดเดือน: การเลี้ยงดู: นมสด
174 :: เด็กวัยเจ็ดเดือนถึงแปดเดือน: การเลี้ยงดู: นมมื้อดึก
173 :: เด็กวัยเจ็ดเดือนถึงแปดเดือน: การเลี้ยงดู: การให้อาหารเสริม
172 :: เด็กวัยเจ็ดเดือนถึงแปดเดือน: ลักษณะของเด็ก
171 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: สภาพผิดปกติ: ตาเข
170 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: สภาพผิดปกติ: ผื่นแดงและผื่นเม็ดนูน
169 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: สภาพผิดปกติ: ท้องผูก
168 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: สภาพผิดปกติ: ฉีดยาและกินยา (ยาลดไข้)
167 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: สภาพผิดปกติ: โรคส่าไข้
166 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: สภาพผิดปกติ: มีไข้สูง
165 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: สภาพผิดปกติ: เป็นหวัด
164 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: สภาพแวดล้อม: พี่น้อง
163 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: สภาพแวดล้อม: ของเล่น
162 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: สภาพแวดล้อม: ป้องกันอุบัติเหตุ
161 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: การเลี้ยงดูเด็ก: เลี้ยงลูกให้แข็งแรง
160 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: การเลี้ยงดูเด็ก: ฟันขึ้น
159 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: การเลี้ยงดูเด็ก: ฝึกนิสัยขับถ่าย
158 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: การเลี้ยงดูเด็ก: การให้ขนมเด็ก
157 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: การเลี้ยงดูเด็ก: อาหารเสริมสำหรับเด็กที่น้ำหนักแรกคลอดน้อย
156 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: การเลี้ยงดูเด็ก: หย่านมแม่เมื่อไรดี
154 :: เด็กวัยหกเดือนถึงเจ็ดเดือน: ลักษณะของเด็ก
153 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: สภาพผิดปกติ: ขี้หูเหลว
152 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: สภาพผิดปกติ: เป็นหัดก่อนอายุ 6 เดือน
151 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: สภาพผิดปกติ: เป็นฝีที่หัว
150 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: สภาพผิดปกติ: ร้องกวนกลางคืน
149 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: สภาพผิดปกติ: ไอบ่อย ๆ
148 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: สภาพผิดปกติ: ท้องเสีย
147 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: สภาพแวดล้อม: ภูมิอากาศ
146 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: สภาพแวดล้อม: พาลูกเดินทาง
145 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: สภาพแวดล้อม: ของเล่น
144 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: สภาพแวดล้อม: ป้องกันอุบัติเหตุ
143 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกให้แข็งแรง
142 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: การเลี้ยงดู: ควรให้ขนมเมื่อไร
141 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: การเลี้ยงดู: การเพิ่มอาหารเสริมและปัญหาต่าง ๆ ในการให้อาหารเสริม
140 :: 141. เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: การเลี้ยงดู: อาหารเสริมสำหรับเด็กที่คุณแม่ทำงานนอกบ้าน
139 :: 140. เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: การเลี้ยงดู: การให้อาหารเสริมให้สะดวก
138 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: การเลี้ยงดู: ตารางอาหารเสริม
137 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: การเลี้ยงดู: การให้อาหารเสริม
136 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกด้วยนมวัว
135 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
134 :: เด็กวัยห้าเดือนถึงหกเดือน: ลักษณะของเด็ก
133 :: เด็กวัยสี่เดือนถึงห้าเดือน: สภาพผิดปกติ: เป็นหวัด
132 :: เด็กวัยสี่เดือนถึงห้าเดือน: สภาพผิดปกติ: ตาผิดปกติ
131 :: เด็กวัยสี่เดือนถึงห้าเดือน: สภาพผิดปกติ: โรคลำไส้กลืนกัน
130 :: เด็กวัยสี่เดือนถึงห้าเดือน: สภาพผิดปกติ: ร้องจ้าอย่างกะทันหัน
129 :: เด็กวัยสี่เดือนถึงห้าเดือน: สภาพผิดปกติ: ท้องผูก
128 :: เด็กวัยสี่เดือนถึงห้าเดือน: สภาพผิดปกติ: น้ำหนักไม่เพิ่ม
127 :: เด็กวัยสี่เดือนถึงห้าเดือน: สภาพผิดปกติ: ตัวร้อน
126 :: เด็กวัยสี่เดือนถึงห้าเดือน: สภาพแวดล้อม: ภูมิอากาศ
125 :: เด็กวัยสี่เดือนถึงห้าเดือน: สภาพแวดล้อม: ป้องกันอุบัติเหตุ
124 :: เด็กวัยสี่เดือนถึงห้าเดือน: การเลี้ยงดู: ฝึกลูกนั่งกระโถน
123 :: เด็กวัยสี่เดือนถึงห้าเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกให้แข็งแรง
122 :: เด็กวัยสี่เดือนถึงห้าเดือน: การเลี้ยงดู: อาหารเสริม
121 :: เด็กวัยสี่เดือนถึงห้าเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกด้วยนมวัว
120 :: เด็กวัยสี่เดือนถึงห้าเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
119 :: เด็กวัยสี่เดือนถึงห้าเดือน: ลักษณะของเด็ก
118 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: สภาพผิดปกติ: กระดูกต้นขาหลุดจากข้อต่อตะโพกมาแต่กำเนิด
117 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: สภาพผิดปกติ: ตาเข(ตาเหล่)
116 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: สภาพผิดปกติ: โรคกระดูกอ่อน
115 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: สภาพผิดปกติ: มีขี้ตา
114 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: สภาพผิดปกติ: ร้องกวนกลางคืน
113 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: สภาพผิดปกติ: ไข้สูง
112 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: สภาพผิดปกติ: มีเสมหะ
111 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: สภาพผิดปกติ: ติดหวัด
110 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: สภาพผิดปกติ: ท้องเสีย
109 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: สภาพแวดล้อม: ภูมิอากาศ
108 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: สภาพแวดล้อม: ป้องกันอุบัติเหตุ
107 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกให้แข็งแรง
106 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: การเลี้ยงดู: อาหารเสริม
105 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกด้วยนมวัว
104 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
103 :: เด็กวัยสามเดือนถึงสี่เดือน: ลักษณะของเด็ก
102 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: สภาพผิดปกติ: ตัวร้อน
101 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: สภาพผิดปกติ: ท้องเสียและท้องผูก
100 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: สภาพผิดปกติ: ผดไม่หาย
99 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: สภาพผิดปกติ: ไส้เลื่อนที่ขาหนีบ
98 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: สภาพผิดปกติ: โรคเกลียดนม
97 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: สภาพแวดล้อม: ข้อควรระวังในการปลูกฝี
96 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: สภาพแวดล้อม: วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก (ดีพีที.)
95 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: สภาพแวดล้อม: บี.ซี.จี.
94 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: สภาพแวดล้อม: ทดสอบวัณโรค
93 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: สภาพแวดล้อม: ฉีดวัคซีน – ตารางการฉีดวัคซีนป้องกันโรค
92 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: สภาพแวดล้อม: พาลูกออกนอกบ้าน
91 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: สภาพแวดล้อม: ตัดผม
90 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: สภาพแวดล้อม: พี่
89 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: สภาพแวดล้อม: ป้องกันอุบัติเหตุ
88 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกให้แข็งแรง
87 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกด้วยนม
86 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
85 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: ลักษณะเด็ก
84 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: สภาพผิดปกติ: เป็นผื่นกะทันหัน
83 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: สภาพผิดปกติ: เหน็บชา
82 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: สภาพผิดปกติ: เด็กร้องจ้าเหมือนเจ็บปวดอย่างกะทันหัน
81 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: สภาพผิดปกติ: ร้องเก่ง(อุ้มติดมือ)
80 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: สภาพผิดปกติ: มีเสมหะ
79 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: สภาพผิดปกติ: ผื่นแดง
78 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: สภาพผิดปกติ: ท้องผูก
77 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: สภาพผิดปกติ: ท้องเสีย
76 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: สภาพผิดปกติ: อาเจียนนม
75 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: สภาพแวดล้อม: เมื่อมีคนเป็นวัณโรคในบ้าน
74 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: สภาพแวดล้อม: ยุง
73 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: สภาพแวดล้อม: อากาศร้อน
72 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: สภาพแวดล้อม: พาลูกเดินทางไกล
71 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: สภาพแวดล้อม: ป้องกันอุบัติเหตุ
70 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: การเลี้ยงดู: เด็กคลอดก่อนกำหนด ควรให้ธาตุเหล็กเพิ่ม
69 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: การเลี้ยงดู: อุ้มติดมือ
68 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกให้แข็งแรง
67 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: การเลี้ยงดู: น้ำผลไม้
66 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: การเลี้ยงดู: ควรให้น้ำผลไม้เมื่อไร
65 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกด้วยนมวัว
64 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
63 :: เด็กวัยหนึ่งเดือนถึงสองเดือน: ลักษณะของเด็ก
62 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: สภาพผิดปกติ: คอเอียง
61 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: สภาพผิดปกติ: ลูกอัณฑะบวม
60 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: สภาพผิดปกติ: สะดือโป่ง(สะดือจุ่น)
59 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: สภาพผิดปกติ: ผื่นแดงและก้นแดง
58 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: สภาพผิดปกติ: ตัวเหลืองไม่หาย
57 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: สภาพผิดปกติ: หัวเบี้ยว
56 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: สภาพผิดปกติ: คัดจมูก
55 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: สภาพผิดปกติ: ท้องผูก
54 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: สภาพผิดปกติ: ท้องเสีย
53 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: สภาพผิดปกติ: แหวะนม
52 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: สภาพแวดล้อม: พาลูกเดินเล่น
51 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: สภาพแวดล้อม: ป้องกันอุบัติเหตุ
50 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกด้วยนมวัว
49 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: การเลี้ยงดู: นมแม่ไม่พอ
48 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: การเลี้ยงดู: เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
47 :: เด็กวัยครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน: ลักษณะของเด็ก
46 :: เด็กหนึ่งสัปดาห์ถึงครึ่งเดือน: สภาพผิดปกติ: เป็นฝ้าในปาก
45 :: เด็กหนึ่งสัปดาห์ถึงครึ่งเดือน: สภาพผิดปกติ: เวลาหายใจมีเสียงดังในคอ
39 :: เด็กหนึ่งสัปดาห์ถึงครึ่งเดือน: การเลี้ยงดู: การดูแลเด็กคลอดก่อนกำหนด หลังออกจากโรงพยาบาล
38 :: เด็กหนึ่งสัปดาห์ถึงครึ่งเดือน: การเลี้ยงดู: การดูแลเด็กหลังอาบน้ำ
37 :: เด็กหนึ่งสัปดาห์ถึงครึ่งเดือน: การเลี้ยงดู: จำเป็นต้องเพิ่มวิตามินให้ทารกหรือไม่
36 :: เด็กหนึ่งสัปดาห์ถึงครึ่งเดือน: การเลี้ยงดู: สำหรับคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมวัว
35 :: เด็กหนึ่งสัปดาห์ถึงครึ่งเดือน: การเลี้ยงดู: ขอนมคนอื่น
34 :: เด็กหนึ่งสัปดาห์ถึงครึ่งเดือน: การเลี้ยงดู: วิธีรีดนมแม่
33 :: เด็กหนึ่งสัปดาห์ถึงครึ่งเดือน: การเลี้ยงดู: สำหรับผู้ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
32 :: เด็กหนึ่งสัปดาห์ถึงครึ่งเดือน: ลักษณะเด็ก
31 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพผิดปกติ: ตัวเหลือง
30 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพผิดปกติ: เด็กเกิดมามีฟัน
29 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพผิดปกติ: ปาน
28 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพผิดปกติ: ปากแหว่ง เพดานโหว่
27 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพผิดปกติ: อวัยวะเพศผิดปกติ
26 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพผิดปกติ: อาเจียนมีเลือดปน
25 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพผิดปกติ: อาเจียน
24 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพผิดปกติ: มีก้อนนูนที่หัว
23 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพผิดปกติ: ลูกแฝด
22 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพผิดปกติ: เด็กคลอดก่อนกำหนด
21 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพแวดล้อม: ญาติมิตร เพื่อนฝูง
20 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพแวดล้อม: พี่
19 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพแวดล้อม: การอาบน้ำให้เด็ก
18 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพแวดล้อม: เสื้อ ผ้าอ้อม ผ้ายาง กางเกงกันเปียก
17 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพแวดล้อม: ที่นอน หมอน มุ้ง ผ้าห่ม
16 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพแวดล้อม: เตียงเด็ก
15 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: สภาพแวดล้อม: ห้องเด็ก
14 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: การเลี้ยงดู: การให้นมลูก
13 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: การเลี้ยงดู: วิธีชงนม
12 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: การเลี้ยงดู: จะใช้ขวดนมชนิดไหนดี
11 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: การเลี้ยงดู: นมวัวชนิดไหนดี
9 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: การเลี้ยงดู: นมแม่ไม่พอหรือเปล่า
8 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: การเลี้ยงดู: การให้นมแม่
7 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: การเลี้ยงดู: การเลี้ยงด้วยนมแม่
6 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: การเลี้ยงดู: น้ำนมเหลือง นมที่ต้องให้ลูกกิน
5 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: การเลี้ยงดู: จะเริ่มให้นมเมื่อไรดี
4 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: การเลี้ยงดู: คุณแม่ในวันคลอด
3 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: ลักษณะของเด็ก: ระยะแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์
2 :: เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งสัปดาห์: ลักษณะของเด็ก: วันแรกของเด็กอ่อน
1 :: ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึงวันคลอด
ชั่งหัวมัน.... โครงการพระราชดำริ ทราบซึ่งครับ
ถ้าอยากมีรักในที่ทำงานก็พึงระวัง 5 ข้อนี้เอาไว้!
เรื่องไม่ดีที่ไม่ควรมีในครอบครัว
คนเราควรมีเพื่อนอย่างน้อย 5คน !
อะไรเนี่ย .... ฝนมาได้ไงหน้านี้
เรื่องของเมีย (ขำ ขำ) เอาสิ!
7 สิ่งมหัศจรรย์ของยุคโบราณ
7 สิ่งมหัศจรรย์ในโลกยุคปัจจุบัน
[แจก] วิธีค้นหาแบ็คลิ้งค์จากเว็ป PR สูงๆ ฟรีๆ
ชวนชมภาพถ่ายที่ปาย ครับ ชอบมุมไหนเชิญชมเลย
ดูแล กระดูกสันหลัง กันหน่อย ดูเหมือนจะไม่น่ากลัว แต่ก็น่ากลัว.
สถานที่เคาท์ดาวน์สุดชิคทั่วไทยปี 2553
วันจันทร์อีกแล้ว!
เลือก ของขวัญ ปีใหม่ ให้ถูกใจคนรับ
แครอท ไข่ กาแฟ คุณจะเป็นอะไร?
ความต่างที่ดูไม่ออก
มือชา-นิ้วล็อค โรคฮิตของคนทำงาน
การรักษาสีรถ
6 สมุนไพรที่ลำไส้ต้องการ
ความดี ๔ ระดับ
กิจกรรมเฉลิมฉลอง คริสต์มาส
เคยให้ 1 สลึง กันแบบ ขำขำ
คำอวยพรเทศกาลปีใหม่เเละChristmas
ชีวิตอิสระ คือ การไม่ผูกมัด
ข้อคิดดีๆ....จะได้ไม่เครียดปีใหม่ ลองเอาทำดูนะคร้าบ....
ของขวัญ...ที่มอบให้กันได้ทุกวัน
เก็บเงินทำได้...แถมง่ายนิดเดียว
แก้ปมใหญ่ เพื่อคลายปมเล็ก
ขำ ขำ ครบรอบ 40 ปี
อาหารระบายอารมณ์ สำหรับคนกลัวอ้วน และรักสุขภาพ แต่ก็ต้องกิน
เที่ยวหน้าหนาว กับ... 30 สถานที่เที่ยวสุดฮิต
ขำ ขำ ถอยรถกับถอยเมียต่างกันอย่างไร ?
รวมคนพิมพ์ผิด 555 - อันนี้ฮาเพราะ มีไขข้อข้องใจให้ด้วย ?
คนพิเศษ
เคล็ดไม่ลับในการแต้มน้ำหอม
เรื่องเหลือเชื่อที่คนเราอาจยังไม่รู้ !
รวมมิตรโรคฮิตจากคอมพิวเตอร์
ทริคชะลอความแก่ง่าย ๆ
กินอาหารทะเล บำรุงสมอง
องค์ประกอบของความสำเร็จ ในการทำงาน
ถ้าอยากให้สติปัญญาหรือความจำดี ต้องรักษาสุขภาพปากและัฟัน
10 ผลไม้ไทย ช่วยต้านสารมะเร็งและบำรุงสุขภาพ
โอ้! เบต้าแคโรทีนถ้าทานมากไปเป็นโทษมหันต์
ของดีมีมาฝาก โอเมก้า 6 หรือกรดไลโนเลอิก
กินกล้วยหอมไดเอท จริงหรือเปล่า?
คำอวยพรปีใหม่ บอกยังไงให้เก๋ ฮิๆๆ
หนาวนี้ที่เชียงใหม่
กินอาหารทะเล บำรุงสมอง
ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่อุดม สมบรูณ์ไปด้วยอาหารการกินอีกทั้งยังมีพื้นที่ติดกับทะเล ทั้งทางภาคใต้ และทางภาคตะวันออกของประเทศ ทำให้มีอาหารจากท้องทะเลมากกมาย ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ซึ่งอาหารทะเลเหล่านี้มีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายสารพัดและหนึ่งในนั้น ก็คือสารอาหารที่รู้จักกันในชื่อ โอเมก้า 3 (Omega-3)
โอเมก้า 3 คือ กรดไขมันชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ พอมากในปลาทะเล เช่น ปลาแซลม่อน ปลาแม็คเคอเรล (ที่เอามาทำปลากระป๋อง) ซึ่งให้น้ำมันปลาในบริเวณที่สูงมาก (“น้ำมันปลา” เป็นคนละประเภทกับน้ำมันตับปลา) จากการวิจัย โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันตั้งต้นที่จะสร้างเป็นกรดไขมันจำเป็นที่ชื่อว่า EPA (ย่อมาจาก EICOSAPANTAENOIC ACID ) และ DHA (ย่อมาจาก DOCOSAHEXANOIC ACID) ซึ่งล้วนแต่จำเป็นต่อการทำงานที่สมบรูณ์ต่อร่างกาย ช่วยลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ลดการตัวของเกล็ดเลือด ลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น และเป็น ส่วนประกอบสำคัญในการสร้างเซลล์สมอง และทำให้ดวงตาทำงานได้ดี และ DHA ยังมีความสำคัญต่อการพัฒนาสมองและดวงตาของเด็กทารกในครรภ์อีกด้วย เด็กที่ขาด DHA จะทำให้สมาธิสั้น มัปัญหาด้านพฤติกรรม อารมณ์ และการเรียนรู้ และในขณะเดียวกัน เมื่อเราอายุมากขึ้น เนื้อเยื่อสมองก็จะเริ่มเสื่อมถอย โอเมก้า 3 จะมีบทบาทช่วยซ่อมแซมเซลล์ประสาท ลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย จึงถือว่าเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อคนในทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว
ใครอยากสมองดีก็กินอาหารทะเลเน้อ!
cameraus
Buy Digital Cameras Online
Nikon Coolpix Digital Camera
Nikon Digital Slr Camera
Nikon D40 Digital Camera
Nikon Coolpix Digital Cameras
Nikon Digital Slr Cameras
Canon Powershot S5 Is
Canon Powershot Sx10 Is
Panasonic Lumix Dmc Fz28
Canon Powershot A590 Is
Nikon D60 Digital Camera
Canon Powershot Sx1 Is
Free Printable Birthday Cards
Free Psp Game Downloads
Nikon D80 Digital Cameras
Playstation 2 Video Games
T Mobile Cell Phones
Nikon D60 Digital Slr
Dolce And Gabbana Sunglasses
Download Free Psp Games
Camera Bags And Cases
Canon Powershot A720 Is
Canon Powershot Sx110 Is
Cell Phones For Sale
Nikon D40 Digital Cameras
Panasonic Lumix Dmc Fz18
Canon Nb 5l Battery
Free Online Greeting Cards
Nikon D60 Digital Cameras
Plus Size Women'S Clothing
Used Car For Sale
Air Force 1 Shoes
Amorphous Silicon Solar Cell
Canon Ixus 860 Is
Nikon D90 Digital Cameras
Panasonic Lumix Dmc Tz4
Plus Size Womens Clothing
Sonic The Hedgehog 2
Canon Battery Bp 511
Canon Nb 2lh Battery
Canon Rebel Xt Battery
Nikon Coolpix P80 Camera
Canon Powershot A650 Is
Canon Powershot Sx200 Is
Cheap Laptops For Sale
Golf Carts For Sale
Panasonic Lumix Dmc Fs3
Panasonic Lumix Dmc Fz50
Canon Digital Camera Charger
Create Date : 15 ธันวาคม 2552
Last Update : 5 มกราคม 2553 0:48:30 น.
3 comments
Counter : 556 Pageviews.
Share
Tweet
เย้ๆ เรากินซีฟู้ดแทบทุกวัน เพราะทานเนื้อสัตว์ม่ได้ เหอๆๆ
โดย:
myfahsan
วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:19:13:48 น.
แล้วเรื่อง คอเรสตอรอลล่ะคะ อิอิ
โดย:
misssandy
วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:19:44:46 น.
แนะนำร้านอาหาร พัทยา ชื่อ ร้านอาหาร ป.มีชีวิต (นามสมมุติ)
ชายหาด จอมเทียน
มีคนแนะนำมา ว่าเป็นร้านอาหารชื่อดัง ของหาดจอมเทียน ไหนๆก็มาพัทยาแล้ว เลยขอแวะ ก่อนกลับสักหน่อย
สั่งอาหารไปมากมาย อาหารจานแรกก็ถูกยกมาเสริฟ เมนู พนักงานเสริฟแนะนำ เมี่ยงปลา เป็นอาหารขึ้นชื่อ ของร้าน เขียนในเมนูด้วยว่า อาหารคนรักสุขภาพ
แต่กินไปสามสี่คำ กลายเป็นเมี่ยงแมลงวัน เพราะ แมลงวันเยอะมากๆ ต้องคอยใช้มือโบกไล่แมลงวันตลอดเวลา ถามพนักงาน ว่าทำไมแมลงวันเยอะขนาดนี้ เค้าบอกว่า นี่เป็นหน้าแมลงวัน นะคะ ให้ทำใจ
ทำใจ กินไปมือปัดเป็นพัลวัน ปัดไปได้สักพัก อาหารที่สั่งทยอยมาวาง กองทัพแมลงวันก็เริ่มมาก ขึ้นเรื่อยๆจนน่ากลัว เริ่มรู้สึกว่ามือเดียวปัดไม่พอ ปัดทางซ้าย ทางขวาก็มา ปัดไม่ทัน สู้กับมันไม่ไหว ปัดกันจนเหนื่อย ก็ไร้ประโยชน์
ต้องใช้ใบผักกาดขาวที่ให้มาเป็นกาบๆมาโบกไล่ พอหยุดปัด จะหันมากินบ้าง แมลงวันก็พร้อมใจกัน เข้าไปตอม ในอาหารอยู่ดี นึกถึงหนอนแมลงวัน เลยต้องปลง รับประทานไม่ลง เดินไปคุยกับเจ้าของร้าน ว่าเรากินไม่ได้เลยแมลงวันร้านคุณเยอะมากๆๆ
เจ้าของร้านบอกว่า คุณต้องทำใจ คนไทยกับแมลงวันเป็นของคู่กันไม่มีใครเอาชนะธรรมชาติได้ ???? ตกใจมากที่ได้ยินคำตอบแบบนี้
แล้วร้านเรามันเป็นแบบ open นะถ้าไม่อยากให้มีเลย คุณต้องไปกินในห้าง
(ประเด็น คือ มันเยอะเกินเหตุ ค่ะ )
คุณดู ทำไมโต๊ะอื่นเค้ายังกินกันได้ ไม่เห็นมีปัญหาเลย ผมเปิดร้านมา สามสิบกว่าปีแล้ว
เออจริง ด้วย เราเริ่มสงสัย ว่าเราผิดปกติหรือป่าว
หันไป มองโต๊ะอื่นเขา กินกันอย่างเอร็ดอร่อย เอ๊ะ! ทำไมมันบุกมา
ตอมแต่โต๊ะเรา เราลอง เดินเข้าไปดูใกล้ๆ
พระเจ้าช่วย !!! เห็นชัดๆว่า เค้านั่งกินกัน ท่ามกลางหมู่แมลงวันที่ตอมอาหาร เราลืมตัว เอามือไปโบกที่อาหารเค้า ฝูงแมลงวันก็บินฮือ ออกมาจากอาหารที่เค้ากำลังกินกันอยู่
บางตัวก็ ไต่ตอมอยู่ที่ปากหลอดดูดน้ำ บางกลุ่มก็ไต่ตอม อาหารในจานของโต๊ะนั้น เห็นเขานั่งกินไปปัดไป
ตกลงนี่ เราบ้า หรือ พวกเขา เมา กันแน่ เนี่ย
คงเป็นเพราะตอนนั้นมีกันอยู่แค่ สอง สาม โต๊ะ แมลงวันเลยรุมกันเป็นพิเศษ ถ้าเราโชคดี มาในวันที่มี ลูกค้าหลายๆโต๊ะ คงจะช่วยแชร์ๆ แมลงวัน กันไป คนละ สิบ ยี่สิบตัว
แต่ที่แน่ๆ เราไม่กล้ากินอาหารที่มีแมลงวันตอมมากมายขนาดนั้น ถ้าคุณ คิดว่าสี่ห้าตัว คุณกำลังคิดผิด เพราะมันมีเป็นร้อย แล้วในครัวจะขนาดไหนเนี่ย
เจ้าของร้านบอกว่า
คุณช่วยบอกวิธีกำจัดแมลงวันให้ผมหน่อย ถ้าตอบได้ ผมให้แสนนึง
แหม อย่างกับเล่นเกมโชว์ .
เราตอบได้โดยไม่ต้องขอใช้ตัวช่วย ว่า คุณต้องรักษาความสะอาด ให้มากที่สุด ปิดถังขยะให้มิดชิด พยามกำจัดทุกวิถีทาง ให้มันเหลือน้อยที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้ มันอาละวาด จนน่าเกลียด แบบนี้
เค้ากลับไม่ฟังและบอกว่า ทำไม่ได้ เป็นไปไม่ได้มันต้องมี มันมาของมันเอง ผม ห้ามไม่ได้ ไม่ได้สั่งให้มันมาตอมอาหารคุณ มันมาเอง มันเป็นธรรมชาติ เหมือนคุณห้ามไม่ให้เมืองไทยมียุงคุณทำได้ไหม
เราบอก นี่มันอาหารนะ ลูกค้าต้องอดทนเหรอ เค้าบอกว่า คุณเข้าใจมั้ยผมไม่ได้แกล้ง (ตอบไม่ตรงคำถามเลย แล้วที่สำคัญเราแกล้งคุณเหรอ ที่กินไม่ได้) ผมไม่สามารถ สั่งห้ามแมลงวันไม่ให้มาตอมอาหารคุณได้
(แต่เราก็ไม่สามารถกินอาหารที่มีแมลงวันตอมได้เหมือนกัน คุณครูสอนมาตั้งแต่อนุบาล) เจ้าของร้านบอกว่า คุณจะให้ผมทำยังไง ไหนคุณลองบอกผมสิ เราพูดว่า ถ้างั้นคุณบอกลูกค้าสิว่าแมลงวันร้านคุณเยอะมากๆๆนะครับ รับกันได้มั้ย
( แต่จริงๆในใจเราอยากพูดว่า ให้ ติดป้าย บอกลูกค้าไปเลย
ว่า ร้านนี้แมลงวันเยอะมากๆ อยู่คู่กับครัวเรามานาน
บอกก่อนเข้าร้าน ลูกค้าจะได้ทำใจล่วงหน้า หรือ เตรียมตัวรับมือกับแมลงวันร้านคุณ
เช่น หัดกินข้าวเคล้ากับแมลงวัน มาล่วงหน้า ให้ชิน หรือเตรียม ซื้อมุ้งมาคลุมโต๊ะ ซื้อไม้เทนนิส ช๊อตแมลงวัน อะไร ก็ว่าไป)
เจ้าของร้านบอกว่า แล้วถ้าคุณเป็นผมหล่ะ คุณจะบอกลูกค้ามั้ย
(เราได้แต่เถียงในใจว่า อ้าว แล้วนี่คุณหลอกให้เราสั่งอาหารมากมาย แนะนำ ให้เราสั่งอาหารมาหลายเมนู วางเต็มโต๊ะให้แมลงวันร้านคุณ มารุมแย่งกิน หรอเนี่ย เวรกรรม)
เราเชื่อว่าถ้าคุณบริหารจัดการให้ดีกว่านี้ แมลงวันจะต้องน้อยลง จนเราพอกินอาหารได้บ้าง อย่างแน่นอน เราลองหา ในgoogle มีวิธีกำจัดแมลงวันมากมาย ถ้าคุณพยายามมันต้องลดลงบ้าง เพราะเท่าที่เคยทานร้านอาหารทะเลมาก็ยังไม่เคยเจออะไรแบบนี้
แต่นี่ดูเหมือนคุณชินและทำใจรับสภาพ ว่าแมลงวันมันคู่กันกับอาหารทะเล ทั้งๆที่ความสะอาด สำคัญกว่ารสชาติของอาหาร คุณกลับไม่ยอมให้ความสำคัญ ไม่ยอมจัดการอะไรเลย
ลูกค้าต้องทนรับสภาพอย่างเดียว ถ้าคุณทำใจให้เป็นธรรม เห็นใจลูกค้าบ้าง คุณจะเข้าใจสิ่งที่เราต้องการสื่อคืออะไร
เจ้าของร้านบอก คุณโกรธอะไรมาใช่ไหม แล้วมาลงที่ผมใช่ไหม
จะบ้าตายนี่เราหยุดงาน มาเที่ยวพักร้อน เพิ่งตื่นนอนมาหาไรกิน อารมณ์ดีๆอยู่แท้ๆ เพิ่งจะมาอารมณ์บูดกัน ตอนรัวมือปัดแมลงวันจน จะเป็นเชียร์หลีดเดอร์ ที่ร้านคุณ เนี่ยล่ะ
แสดงว่าคุณเจ้าของร้านไม่ได้ รู้สึกเลยสินะว่ามันสกปรกมาก กลายเป็นเราที่เป็นคนแปลก ประหลาด ในสายตาคุณ
สุดท้ายเราทนเถียงกับคนแบบนี้ไม่ไหว ต้องยอมจ่ายเงินทั้งๆที่ไม่ได้กินอาหารเลย เจ้าของร้านดูบิลแล้วบอกว่า เงินแค่นี้คุณมีปัญหาทำไม พร้อมเอามือชี้ที่หัว พลางพูดว่า คิดให้ดีก่อนมีปัญหานะ คิดให้ดีๆ ..
อืม..ก็นั่นน่ะสิ เงินแค่นี้ จะมีปัญหาทำไม แต่เราคิดว่าคำพูดนี้น่าจะเป็นคำพูดของเรา ที่ใช้พูดกับคุณมากกว่า อีกอย่าง เงินไม่ใช่ปัญหาหลัก เพราะบ้านเราไม่ได้ยากจน เรามีงานทำ เราหยุดงานมาเที่ยว มีเงินมาจ่าย เราไม่ใช่คนเร่ร่อน มา หลอกกินอาหารฟรี ( เราเพิ่งกิน เมี่ยงปลา อาหารจานแรก ไป สองสามคำเองด้วยซ้ำ หลังจากนั้น ก็ ปัดแมลงวัน จนไม่ได้กินอีกเลย)
และ เราก็ไม่ได้อยากหาเรื่องขอส่วนลดใดๆทั้งสิ้น
แต่เราแค่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมต่างหากที่ถูกคุณเอาเปรียบกันแบบนี้ เจ้าของร้านบอกว่า คุณเข้าใจมั้ยของผมทำออกมาแล้ว ผมลงทุนไปแล้ว เราพยักหน้าบอก ค่ะเราเข้าใจ
เจ้าของร้าน กลับพูดว่า
คุณไม่เข้าใจหรอก คุณคิดถึงแต่ตัวเอง ( อ้าว แล้วทีคุณหล่ะจะให้เรากินอาหารที่มีแมลงวันบ้าเลือด ตั้งหน้าตั้งตากินอาหารแข่งกับเราหล่ะ ถ้าเราท้องเสีย ท้องร่วง เข้า โรงพยาบาล หล่ะ ใครๆก็รู้เข้า นอนโรงพยาบาล ที ไม่ต่ำกว่าหมื่น )
คุณก็ไม่เข้าใจเราเหมือนกัน เพราะคุณคิดถึงแต่ตัวเอง รู้แต่ว่าของคุณทำออกมาแล้ว เป็นตายยังไง ลูกค้าไม่พอใจ ยังไง คุณก็ไม่แคร์ ไม่สนใจความรู้สึกของลูกค้า เพราะ คุณคิดแค่ว่า จะไม่ยอมขาดทุนเด็ดขาด แม้เรื่องเล็กน้อย
ถ้าเป็นเมืองนอก ร้านคุณโดนสั่งปิดแน่
แต่จนใจ นี่เป็นประเทศไทย Thailand only T_T
อยากถามว่า ถ้าคุณซื้อแอร์มาใช้ที่บ้าน เกิดมันไม่เย็นขึ้นมา พอคุณถามคนขาย คนขายบอกว่า คุณต้องทำใจ เมืองไทยมันเป็นเมืองร้อน เปิดไปก็ไม่เย็นหรอก ผมไม่สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิโลกได้ คุณจะรู้สึกยังไง คุณจะถามเค้ามั้ย ก็ในเมื่อคุณรู้ว่าแอร์เปิดแล้วมันไม่เย็น แล้วทำไมไม่บอกกันก่อน เราเสียเงินซื้อไปแล้วก็ใช้ประโยชน์ไม่ได้ คุณจะมาแนะนำ จะหลอกขายมาทำไม ให้เสียความรู้สึกกัน ให้บาดหมางกัน เปล่าๆ
อาหารที่ทำออกมาแล้ว มีแมลงวันมาตอมอาหารมากมาย จนลูกค้ากินไม่ได้ก็ไม่ต่างกัน
เข้าใจว่าคุณลงทุนทำอาหารออกมาแล้ว แต่แมลงวันร้านคุณมันตอม จนสกปรกไปหมด กินก็กินไม่ได้ คุณยังจะกล้าขายให้เราอีกหรอ ทางร้านอ้างว่าเป็นความผิดเรา ที่เราเข้ามาสั่งอาหารเอง ถ้าเราไม่สั่งเขาก็ไม่ทำออกมาวาง และแมลงวันก็จะไม่มาตอม อาหารเรา
สรุป คือ เรา อยากมาสั่งเอง ทำมาวางให้แล้ว กินกันไม่ได้เอง ก็ช่วยไม่ได้
เฮอะ!! . ป่วยการจะเถียงกับคนแบบนี้
ถ้าเจ้าของร้าน อยากจะขายอาหาร อย่างเดียว คิดว่าสภาพแวดล้อมบรรยากาศ ความสะอาด ในระหว่างการทานอาหารในร้าน ไม่สำคัญ หรือ ไม่มีปัญญาจัดการกับแมลงวัน พาหะนำโรค แล้วล่ะก็ อย่าเปิดร้าน ให้คนนั่งทานจะดีกว่า ควรจะให้ลูกค้าซื้อกลับบ้านอย่างเดียว ไม่ใช่ปล่อยให้นั่งกินท่ามกลางฝูงแมลงวันแบบนั้น น่าจะมีจรรยาบรรณ สงสารสุขภาพลูกค้าบ้าง
ตอนแรกเราโกรธจนไม่อยากจ่ายเงินอยากแจ้งความมากกว่า แต่ คิดดูอีกทีคุณคงจะขาดทุนมากมาย อย่างที่คุณว่า เลยยอมจ่ายเงินไป อาหารเรา ก็ต้องทิ้งไปทั้งหมดแบบนั้น เพราะไม่รู้จะเอาไปทำอะไร หรือ ห่อกลับไปฝากใครได้ แมลงวันมันรุมตอมอย่างบ้าคลั่ง ขนาดตัวเรา ยังไม่กล้ากิน
ก่อนกลับเราถ่ายรูปป้ายร้าน เจ้าของร้านมีการขู่เรา ว่าถ้าเอาเรื่องนี้ไปโพสลง Internet เขาจะฟ้องเราแน่ ( เขาจบทนาย มา -_-!)
เราเลยย้อนไปว่า
ไหน คุณ บอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไง?!?
คุณเจ้าของร้าน คุณบอกเราเอง ว่า ร้านคุณต้องมีแมลงวัน และ เป็นธรรมดาที่ลูกค้าต้องทนนั่งกินอาหารท่ามกลางฝูงแมลงวัน แมลงวันกับคนไทยเป็นของคู่กัน แล้วคุณจะกลัวอะไร คุณ บอก ว่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องเสียหายไม่ใช่หรอ จะกลัวความจริงไปทำไม ในเมื่อคุณคิดว่า เรางี่เง่าเองที่กินข้าวท่ามกลางแมลงวันตอมเหมือนโต๊ะอื่นเขาไม่ได้
ถ้าคุณ คิดว่า ไม่ใช่ความผิดของร้านคุณ ถึงเราโพสไปคนอื่นก็ต้องเข้าใจร้านคุณ ถูกไหมคะ
จะมากลัว มาห้ามไม่ให้เราโพส ทำไม
( หรือ ที่ห้ามเรา ไม่ให้โพส แปลว่า ลึกๆแล้ว ในใจคุณเจ้าของร้าน คุณรู้ดี ว่าอะไรถูก อะไร ผิด ใช่ไหม )
เฮ้อ คนเรา พูดมาแต่ละอย่าง เห็นแก่ตัว จนเราล่ะอึ้งจริงๆ
เข็ดจนตายจริงๆ เสียความรู้สึก มากๆ ต่อไปนี้ ก่อนไปทานอาหาร คงต้องระวังอย่างมาก หาข้อมูลให้ดีๆ ว่าร้านสะอาดไหม ใส่ใจความรู้สึกของลูกค้าแค่ไหน ไม่ใช่ใช้มารยาทแย่ๆ คำพูดแย่ๆ แบบนี้
งานร้านอาหาร เป็นงานบริการ วันหยุดพักผ่อน มาเจอเรื่องแบบนี้ เรารู้สึกแย่กันอยู่แล้ว ยิ่งมาพูดจาไม่ดี ไม่มีมารยาท ไร้เหตุผล ข่มขู่เราอย่างไม่ให้เกียรติ ไม่แคร์ความรู้สึกลูกค้า สนแต่เรื่องเงินทอง เรื่องกำไร ขาดทุน อย่างเดียว เราจึงไม่หลงเหลือ ความรู้สึกที่ดี กับร้าน ป.มีชีวิต และ เจ้าของร้านนี้เลย แม้แต่นิดเดียว ทั้งๆที่คนรู้จักแนะนำมาให้มากินแท้ๆ (เดี๋ยวเราจะกลับไปด่ามัน)
ขอเลือกร้าน ที่สะอาด นิสัยดี เป็นหลัก อร่อยน้อยหน่อย ไม่เป็นไร ดีกว่า จะได้กินแบบสบายใจ ไม่ต้องคอยไล่แมลงวัน
ปล ชื่อร้านอาหารเป็นนามสมมุติ นะคะ กรุณาอย่ามาเดาให้ถูก นะค่ะ เจ้าของร้านเขากลัวคนอื่นรู้ ค่ะ เขาขู่ ไว้ เดี๋ยว ดิฉันจะเดือดร้อน
แต่ดิฉัน อยาก เสี่ยงตาย พลีชีพ มาเตือนพวกคุณ ไว้ก่อนค่ะ ส่วนจะคิดเห็นกันประการใด ก็แล้วแต่ วิจารณญาณ ของแต่ละบุคคลนะคะ
ส่วนคุณเจ้าของร้านคุณต้องรู้ตัวแน่ว่าเป็นคุณ คุณควรใช้วิกฤตินี้ให้เป็นโอกาส ปรับปรุง พัฒนาร้าน ให้สะอาดนะคะ แมลงวันจะได้น้อยลง
ไม่ใช่นั่งเอ้อระเหย ไปวันๆ นั่งนิ่งดู แมลงวันบุกร้าน ปล่อยให้ลูกค้า เผชิญกับฝูงแมลงวันนับร้อย ระหว่างนั่งทานอาหาร ภายในร้านของคุณเอง แบบนี้
เผื่อเจอลูกค้า รักสะอาด งี่เง่า กินอาหารที่มีฝูงแมลงวันตอมไม่ได้ แบบเรา คุณจะได้ ไม่ต้อง มีปัญหาอีก
(หรือถ้าหมดปัญญาจริงๆ เราแนะนำ ให้คุณเจ้าของร้าน มายืนปัดแมลงวัน จนกว่าจะลูกค้าจะกินเสร็จ มือเราจะได้ว่าง ทานอาหารได้บ้าง รับรอง คุณจะเข็ด จนไม่ยอมปล่อย ให้ฝูงแมลงวันบุกร้าน อีกเลย^^)
**เราขอสาบาน ว่า เรื่องที่กล่าวมานี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงทุกประการ
ที่นำเรื่องมาเสนอ มีจุดประสงค์ ให้เจ้าของร้าน ได้รับทราบความคิดเห็น ของลูกค้า ทุกท่านที่เข้ามาคอมเม้นท์ต่อ ไม่ใช่คิดถึงแต่ตัวเองแบบนี้ **
นำเสนอเรื่องจริงโดย คุณ วอนนอนคุก
โดย: วอน นอน คุก IP: 10.0.1.12, 58.9.4.36 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:42:00 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
RohanCMI
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add RohanCMI's blog to your web]
Links
ชุดราตรี
ชุดทำงาน
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.