230 :: เด็กวัยสิบเอ็ดเดือนถึงหนึ่งขวบ: การเลี้ยงดู: หย่าขวด
นมของเด็กวัยนี้ คุณแม่เริ่มเปลี่ยนจากนมผง มาเป็นนมสดได้แล้ว และไม่จำเป็นต้องต้มเสียก่อน ให้ดื่มจากกล่องหรือถุงด้วยหลอดได้เลย หรือจะเทใส่ถ้วยให้ดื่มก็ได้ คุณแม่ควรเริ่มหัดให้เด็ก “หย่าขวด” ได้แล้ว หัดดูดจากหลอดหรือดื่มจากถ้วย และเมื่อลูกทำได้ คุณแม่ต้องแสดงความดีใจ ชมเชยว่าลูกเก่งมาก เด็กจะรู้สึกภูมิใจและยินดี ที่จะเปลี่ยนจากขวดมาเป็นถ้วย แต่สำหรับนมมื้อก่อนนอนนั้น คุณแม่ต้องใช้ความพยายามมากหน่อย กว่าจะ “หย่าขวด” ได้สำเร็จ อาจกินเวลาหลายเดือน และจะยากมากสำหรับคุณแม่ที่เคยใช้ขวดนม เป็น “ตัวแทน” ของคุณแม่บ่อย ๆ โดยทิ้งให้ลูกนอนดูดนมจนหลับคาขวดไปเอง ในขณะที่คุณแม่ถือโอกาสใช้เวลาช่วงนั้นทำธุระต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม คุณแม่ต้องพยายาม “หย่าขวด” ให้สำเร็จ อย่างน้อยก่อนเด็กเข้าโรงเรียนอนุบาล ซึ่งเรื่องนี้คุณแม่ชาวไทย เราค่อนข้างจะไม่สนใจ เราจึงเห็นภาพคุณแม่หิ้วตะกร้าใส่นมของลูก ฝากครูโรงเรียนอนุบาลเอาไว้เป็นแถว ที่เราจำเป็นต้องให้เด็ก “หย่าขวด” ก็เพราะปัญหาใหญ่คือเรื่องฟัน ฟันของเด็กกำลังงอกโผล่ออกมามากขึ้นทุกวัน เด็กที่นอนหลับไปกับขวดนมนั้น มีปัญหาเรื่องฟันเสียมาก โดยเฉพาะคุณแม่ยอมให้ดูดนมหวาน หรือให้ดูดนมรสช็อกโกแลต หรือรสอื่น ๆ ก่อนนอน เด็กบางคนฟันผุทันทีที่ฟันขึ้น และผุหมดทั้งปาก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะมีผลกระทบไปถึงฟันแท้ และมีผลกระทบต่อการกินอาหาร และโภชนาการของเด็กด้วย เด็กที่ปวดฟันบ่อย ๆ บางคนอาจถึงกับขยาดที่จะกินอาหารเหนียว ๆ จำพวกเนื้อสัตว์ซึ่งต้องใช้ฟันเคี้ยว สิ่งสำคัญที่สุดในการ “หย่าขวด” คือตัวคุณแม่นั่นเอง ถ้าคุณแม่เข้าไปแทนที่ขวดได้สำเร็จ ก็จะทำให้ลูกหย่าจากขวดได้สำเร็จ เมื่อคุณแม่ค่อย ๆ เปลี่ยนให้ลูกดูดนม จากกล่องก่อนนอนแทนการดูดจากขวด ระยะแรกคุณแม่ควรนอนกับลูก เล่านิทานให้ฟังหรือกล่อมจนลูกหลับ ถ้ามีคุณแม่อยู่ด้วยเวลานอน เด็กส่วนใหญ่จะลืมขวดได้ และเมื่อทำได้ติดต่อกันระยะหนึ่ง คุณแม่ก็เก็บขวดไว้ได้เลยอย่าให้ลูกเห็น เป็นอันว่าคุณแม่ “หย่าขวด” ให้ลูกได้สำเร็จ | ที่มาของสาระดีๆ ขอขอบคุณ