96 :: เด็กวัยสองเดือนถึงสามเดือน: สภาพแวดล้อม: วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก (ดีพีที.)
วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก เป็นวัคซีนผสมเพื่อไม่ให้เด็ก ต้องถูกฉีดยาบ่อย ๆ วัคซีนนี้เริ่มให้ครั้งแรกระหว่างอายุ 2-6 เดือน ต้องฉีด 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 4-8 สัปดาห์ วัคซีนนี้ตอนฉีดค่อนข้างเจ็บ เด็กส่วนใหญ่จะร้องไห้ ดังนั้นควรพอไปฉีดเร็ว ๆ ตั้งแต่เด็กยังไม่รู้ความ ถ้าเด็กอายุเกินขวบไปแล้ว จะจำได้ว่าเจ็บมากตอนฉีดยา และจะดิ้นไม่ยอม ทำให้ฉีดลำบาก การพาลูกไปฉีดวัคซีน ควรพาไปตอนที่เด็กแข็งแรงดี เพราะการฉีดวัคซีนจะช่วย สร้างภูมิต้านทานโรคขึ้นในร่างกาย ถ้าฉีดตอนที่ร่างกายผิดปกติไม่แข็งแรง การสร้างความต้านทานก็ไม่สมบูรณ์ ควรหลีกเลี่ยงช่วงอากาศร้อนจัด (เดือนเมษายน) เพราะถ้าเด็กเป็นไข้ตอนอากาศร้อน จะเดือดร้อนทั้งแม่และลูก การฉีดวัคซีนดีพีที.นี้ จะส่งผลให้เด็กบางคน (ประมาณ 1 คนในหมื่นคน) มีอาการพิการทางประสาท เนื่องจากเกิดช็อกหรือเกร็ง มีบางรายที่ถึงแก่ชีวิต เนื่องจากเด็กที่เสียชีวิตเพราะวัคซีนนี้อายุ 5เดือน หมอบางคนจึงให้เริ่มฉีดเมื่อเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป เด็กคนไหนจะฉีดวัคซีนได้หรือไม่นั้น หมอจะเป็นผู้ตรวจ บางครั้งเด็กที่เป็นโรคลิ้นหัวใจพิการมาตั้งแต่กำเนิด หมอจะสั่งไม่ให้ฉีด แต่เด็กประเภทนี้ถ้าเป็นไปได้ควรฉีดวัคซีนไว้ เพราะถ้าเป็นไอกรนหรือคอตีบ อาการจะหนักกว่าเด็กปกติ หลังจากฉีดวัคซีนครั้งแรก เด็กมักไม่มีอาการตัวร้อน แต่มีน้อยรายที่หลังจากฉีดวัคซีน ประมาณ 6 ชั่วโมงแล้ว มีไข้ประมาณ 38 องศาเซลเซียส เมื่อดูที่รอยฉีดจะเห็นบวมแดง และเมื่อแตะดู เด็กจะแสดงอาการเจ็บ เราจึงรู้ได้ว่าเด็กเป็นไข้เนื่องจากการฉีดยา ควรเช็ดตัวให้ด้วยน้ำเย็น (หมายถึงน้ำธรรมดา ไม่ใช่น้ำเย็นหรือน้ำแช่น้ำแข็ง) และให้ดูดน้ำต้มสุกหรือน้ำผลไม้ตามแต่เด็กต้องการ ถ้าเด็กไม่ยอมกินนมก็ไม่ต้องฝืนบังคับให้กิน เด็กบางคนที่ไม่เป็นไข้ ตรงรอยฉีดยาก็มักจะแดงและเป็นก้อนแข็ง แต่อาการนี้จะหายไปภายในวันเดียว ถึงแม้ว่าตามปกติ หลังจากการฉีดวัคซีนดีพีที.ครั้งแรก เด็กจะไม่มีไข้ แต่สำหรับครั้งที่สองแล้ว เด็กบางคนจะมีไข้หลังจากฉีดประมาณ 6 ชั่วโมง ถ้าเป็นเด็กอายุ 8-9 เดือนขึ้นไป บางคนอาจมีอาการเนื่องจากไข้สูง แต่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม ถ้าเด็กอายุ 3-4 เดือนหรือโตกว่านี้ มีอาการชักตั้งแต่การฉีดดีพีที.ครั้งแรก หลังจากการฉีดวัคซีนประมาณ 30 นาที ให้คิดว่าอาการชัก เกิดจากวัคซีนส่งผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ต่อระบบประสาทของทารก ถ้าลูกคุณมีอาการเช่นนี้ ควรยกเลิกการฉีดวัคซีนดีพีที.ครั้งที่ 2 และ 3 จะปลอดภัยกว่า อาจให้ฉีดวัคซีนดีทีแทน อาการเป็นไข้หลังการฉีดวัคซีนมีต่างๆ กัน ถึงแม้ว่าหลังการฉีดครั้งที่สองเด็กจะเป็นไข้ ก็ไม่แน่ว่าครั้งที่สามจะเป็นไข้หรือไม่ ถ้าเด็กเพียงแต่เป็นไข้ ไม่ควรยกเลิกการฉีดวัคซีนครั้งต่อไป ถ้าเด็กมีอาการชักเนื่องจากไข้ เมื่อฉีดครั้งต่อไป ควรให้กินยาลดไข้หลังจากฉีดวัคซีน 6 ชั่วโมง หรือจะให้กินยากันชักซึ่งมีตัวยาลดไข้อยู่ด้วยก็ได้ หรืออาจใช้วิธีลดประมาณวัคซีน ที่ฉีดแต่ละครั้งลงแล้วฉีดมากครั้งขึ้นก็ได้ แต่เด็กบางคน ไม่ว่าจะฉีดน้อยหรือฉีดมาก ก็เป็นไข้ทุกครั้งไป ถ้าเด็กเป็นไข้เนื่องจากวัคซีน ไข้จะสูงสุดหลังจากฉีดแล้ว12 ชั่วโมง และไข้จะหายไปในเวลา 24 ชั่วโมง ถ้าเด็กมีไข้สูงติดต่อกันนานถึง 48 ชั่วโมง ให้คิดว่ามีโรคอื่นด้วย ถ้าเด็กอายุประมาณ 7-8 เดือนขึ้นไป อาจมีโรคส่าไข้ หรือ “หัดเทียม” (Roseola infantum) เข้ามาแทรก คุณแม่มักจะมีปัญหาว่า ถ้าเกิดพาลูกไปฉีดวัคซีนครั้งที่ 2 ตามเวลานัดไม่ได้ เพราะเกิดย้ายบ้าน หรือเด็กเกิดเป็นหวัดในช่วงนั้น จนเลยเวลานัดไปหลายอาทิตย์ ควรจะทำอย่างไร ช่วงห่างระหว่างการฉีดวัคซีนครั้งแรกกับครั้งที่ 2 ห่างได้นานที่สุดถึง 8 อาทิตย์ และช่วงห่างระหว่างครั้งที่ 2 กับครั้งที่ 3 ห่างได้นานที่สุดถึง 6 เดือน (จากผลการทดลองที่ประเทศอังกฤษ) ดังนั้น ถึงแม้คุณแม่จะพาลูก ไปตามวันที่หมอนัดไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นฉีดครั้งที่ 1 ใหม่เสมอไป ผลข้างเคียงของวัคซีนดีพีที.นั้น นอกจากอาการไข้ อาการบวมแดงตรงรอยฉีด อาการเบื่ออาหารแล้ว อาจมีบางรายที่ส่งผลกระทบ ถึงระบบประสาทด้วย ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากวัคซีนไอกรน แต่ผลข้างเคียงของดีพีที.นี้ ถ้าเปรียบเทียบกับผลข้างเคียง ของวัคซีนฝีดาษและไข้หวัดใหญ่แล้ว ยังน้อยกว่ามาก ที่มาของสาระดีๆ ขอขอบคุณ
Create Date : 04 เมษายน 2553 |
Last Update : 4 เมษายน 2553 5:23:09 น. |
|
0 comments
|
Counter : 563 Pageviews. |
|
|