<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
15 ธันวาคม 2551

นิ่ม แน่น แข็ง 35,000km กับ Monroe Reflex !!!???

ผมอยากจะตั้งกระทู้เกี่ยวกับโช้ค Monroe Reflex มานานแล้ว
แต่พักนี้ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนสบายๆว่างเหมือนสมัยก่อนก็จึงไม่ได้โพสสักที
มาวันนี้ได้โอกาสและติดค้างจากกระทู้ข้างล่างเอาไว้ เลยต้องขอสักหน่อย

ต้องย้อนความเดิมก่อน
ก่อนหน้านี้ผมได้เปลี่ยนชุดโช้คสปริงใหม่ทั้งหมดหน้าหลัง
ของที่ใช้ก็ยังเป็นของศูนย์ แต่ไม่ได้ใช้ให้มันตรงรุ่น
โดยชุดโช้คสปริงคู่หน้าที่ใช้เป็นของ รุ่นปี 99 เกียร์ at
ส่วนรถผมเป็นรุ่นปี 96 เกียร์ mt
ความแตกต่างระหว่างปี 96 กับ 99 ก็คือ ความสูงของบ่ารับสปริงที่ตัวโช้ค
โดยของตัวปี 99 จะเตี้ยกว่าของปี 96 อยู่ 1cm
ส่วนความแตกต่างระหว่างสปริง at กับ mt ก็คือ ความแข็งที่รองรับน้ำหนักที่ต่างกัน
ตาม spec ของรถ ระหว่าง mt กับ at น้ำหนักรถจะต่างกันแค่ 20kg เท่านั้น
*รหัสโช้คสปริงของ Civic 96-99 ผมจะโพสเอาไว้ข้างล่าง

เนื่องจากโช้คหน้าของเดิมที่ใช้ เกิดมาตายไปกระทันหัน
จึงเป็นที่มาของการลองของใหม่
หลังจากที่ประกอบโช้คเข้ากับสปริงที่ใช้อยู่เดิม ก็กลับได้ผลที่ไม่น่าพอใจสักเท่าไหร่
เรื่องความแน่นของโช้ค ทุกอย่างก็ดีหมด
ตอนที่ขับด้วยความเร็วสูง รถจะวิ่งแน่นเกาะติดไปกับพื้นถนน
ตอนที่โยกเลี้ยวไวๆ ก็มีความฉับไวมากกว่าโช้คเดิมได้อย่างชัดเจน
ตอนที่เจอคอสะพานดุๆ สามารถแก้อาการท้ายกระเด็นของโช้คเดิมได้หมด
เรื่องเบรค ก็ช่วยให้สามารถลงเบรคได้หนักกว่าเดิม โดยที่ล้อยังไม่ล็อค
จากข้อความข้างบนนี้ฟังดูเหมือนไม่มีที่ติ แต่มันก็เรื่องที่รับไม่ได้เหมือนกัน
ซึ่งก็คือเรื่องที่มันออกอาการแข็งๆ ดีดๆ จนทำให้นั่งขับไม่สบาย
ถ้าเจอถนนเรียบๆลาดยางก็ไม่มีปัญหาอะไร
แต่ถ้าเป็นถนนปูนอย่างเช่น วงแหวนตะวันตก ทำให้ถึงกับนั่งขับแล้วจุกท้องเลยทีเดียว

ตอนแรกได้โทรไปถามคนขายว่า อาการแข็งๆแบบนี้เป็นอาการช่วง run in ของโช้คหรือเปล่า
ซึ่งก็ได้ตอบมาว่าไม่ใช่ ก็เลยใช้ไปบ่นไปและหาทางคิดแก้ไป
ผมอยากจะบอกว่า ตอนนั้นผมเคยจะคิดที่จะเซ็งลี้โช้คชุดนี้แล้วไปเอาของศูนย์มาใส่แทนเลย
ไปถามพรรคพวกที่ใช้ Moroe Reflex อยู่ ก็ดันไปใส่กับสปริงโหลด H&R อีก
ซึ่งก็ได้คำตอบมาว่ามันก็แข็งแน่นตามภาษาสปริงโหลดโช้คแต่ง
แต่ความคิดผมยังคงไม่หยุด จึงคิดว่าสปริงเดิมๆมันอาจจะไม่เหมาะกับโช้ครุ่นนี้
มันจึงมีอาการแข็งและดีดอย่างที่เจออยู่
เลยได้ไปขอลองนั่ง Civic96 คันที่เคยมาถ่ายคลิปด้วยกัน
รถคันนี้ได้ใส่สปริง Tein กับ โช้ค Monroe Reflex
ซึ่งตอนที่ถ่ายคลิปกันนั้น ตากอล์ฟเป็นคนไปนั่งถ่ายก็บอกว่านิ่มหนึบดี ไม่เด้งอะไร
จากที่ได้นัดแล้วลองนั่งกันดู ก็พบว่ามันแข็งแน่นดี ไม่เด้งไม่ดีดอะไร
รถเตี้ยๆใส่ยางบางๆ ก็ยังขับรูดหลุมหรือตัวหนอนเล็กๆได้
แล้วก็กลับมานั่งรถผมวิ่งทางเดียวกกันเทียบกันอีกชัดๆ
ก็พบว่า ช่วงยุบรถผมนิ่มกว่าจริง แต่ช่วงที่เด้งกลับมันอาการดีดแล้วกระชากให้เห็น
แต่อย่างไรก็ตาม อาการแบบสปริง Tein ก็ไม่ใช่อาการรถที่ผมต้องการอยู่ดี
เพราะผมอยากได้รถบ้านๆ ที่ขับได้นิ่มๆ แล้วก็ยังขับเร็วๆได้ดีด้วย

ผมยังไม่ยอมจบ เลยคิดแนวทางได้ใหม่อีก
งานนี้จะยอมเสี่ยงลงทุนอีกหน่อย เบิกสปริง Civic96 mt ใหม่จากห้างเลย
จริงอยู่ที่ สปริง at กับ mt คู่หน้าแบกน้ำหนักต่างกันแค่ 20kg
คิดแยกซ้ายขวา มันก็ต่างกันแค่ข้างละ 10 kg
ซึ่งมันไม่น่าจะมีผลอะไรกับน้ำหนักที่ลงล้อข้างละ 200กว่า kg
แต่ลองดูมันก็ไม่สาย สปริงคู่นึงแค่แปดร้อยกว่าบาท ค่าเปลี่ยนอีกห้าร้อย
ไม่ลองก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลยังไง มันก็คาใจอยู่อย่างนั้น

หลังจากที่เปลี่ยนสปริงคู่หน้าใหม่ เป็นของ Civic96 mt ตรงรุ่น
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือ ทางด้านหน้ามันมีระยะยืดยุบนิ่มๆเกิดขึ้นมา
ขับใช้งานไปพักนึงสปริง run in ได้ที่ (โช้คก็คงได้ที่ด้วยเหมือนกัน)
จากคะแนนเต็ม 100 ผมให้คะแนนความพอใจกับ Moroe Reflex ไป 90 เลย
ถึงมันจะไม่ถูกใจผมไปหมดทุกเรื่อง แต่มันก็ทำให้ผมประทับใจได้
ตอนที่ขับหยอดหลุมหรือข้ามตัวหนอน มันนิ่มกว่าโช้คเดิมแบบชัดเจน
แต่ถ้าวิ่งใส่รูดลุยหลุมหรือตัวหนอน มันก็จะแข็งเอาเรื่องเหมือนกัน
ตอนที่ขับทางโค้ง ถ้าเลี้ยวแบบแน่นๆ โช้คมันก็จะแน่นให้
แต่ถ้าค่อยบรรจงเลี้ยว โช้คมันก็จะนิ่มยวบไปเลย
ตอนที่ยังกะจังหวะโช้คไม่ถูก เลี้ยวโค้งบางทีก็ออกอาการเอียงกะเท่เร่เลย

สรุปอีกที
เรื่องความนิ่มแน่น
ขับเบาๆนิ่ม ขับแรงๆแน่น
อยากนิ่มต้องหยอด อยากแน่นก็ให้ขับเร็วๆ
โดยรวม อาจจะนั่งสบายน้อยกว่าโช้คเดิมๆนิดนึง
ถ้ามองแยก มันจะมีจังหวะที่นั่งสบายกว่า และมีจังหวะที่นั่งสบายน้อยกว่า
แต่สิ่งที่ได้มาแบบไม่ต้องสงสัยคือ ตอนที่วิ่งเร็วๆรถแน่นขึ้น
ทำให้ควบคุมได้ง่ายขึ้น พวงมาลัยไวขึ้นคมขึ้น

เรื่องทางโค้ง
ถ้าขับอัดโค้งแบบแข่งสนาม ทำเวลาได้ดีกว่าโช้คเดิม
ถ้าขับบรรจงเลี้ยวหาความเร็วสูงสุดตอนเข้าโค้ง สู้โช้คเดิมไม่ได้

เรื่องเบรค
ความยืนหยุนของโช้คทำให้ล้อล็อคตอนลงเบรคได้ยากขึ้น
สงผลให้ลงเบรคได้หนักขึ้น ระยะเบรคดีขึ้น

เรื่องโดดสะพาน
สามารถเก็บอาการท้ายดีดโครมๆของ Civic96 ได้หมด

เรื่องที่อยากฝากไว้
Moroe Reflex มันเป็นโช้คที่แปรผันความหนืดตามความเร็วของการยุบยืด
ถ้ายุบเร็วจะหนืด ยุบช้าจะนิ่ม
เรื่องกะจังหวะโช้ค คงไม่ใช่ปัญหา เพราะขับสักพักคงจะจับอาการกันได้
แต่ถนนเมืองไทย มันมีหลุมมีบ่อ มีรอยปะ รอยต่อ ฝาท่อห่วยๆ
Monroe Reflex เจออะไรพวกนี้มันจะมีระยะนิ่มๆนิดเดียวแล้วจะแข็งโป๊กเลย
มันจึงเป็นอาการกระแทกโครมๆ ซึ่งถ้าทาง Monroe หาทางแก้ไขในจุดนี้
จะใส่ Valve เพื่อ Bypass ในช่วง hi speed เพื่อไม่ให้มันหนืดจนแข็งได้
มันจะเป็นโช้ครถบ้าน ที่สมบูรณ์แบบได้คะแนนเต็ม 100 แน่นอน

ทิ้งท้ายไว้อีกหน่อย
ความจริงผมอยากจะพูดเปรียบเทียบ Monroe Reflex กับ Tein
แต่ผมว่ารอให้ตาถังมาพูดจะดีกว่า ผมขอสรุปสั้นๆได้แค่ว่า
รถบ้านๆ Monroe Reflex รถซิ่งๆ Tein

จากคุณ : ton99 - [ 23 ส.ค. 51 21:45:51 ]


//////////////////////////////////////////////////////////////////


ความคิดเห็นที่ 1

คู่หน้า
====

สปริงหน้า
51401-S04-911 96 MT
51401-S03-911 96,99 AT
51401-S04-901 99 MT
51401-S03-901 99 AT

โช้คหน้า
51605-S21-W01 96
51605-S21-K01 99

ชุดโช้คสปริงหน้าขวา
51601-S21-K21 99 AT
51601-S21-W11 96 MT
51601-S21-W21 96 AT
51601-S21-K31 99 MT
51601-S21-K01 99 AT

ชุดโช้คสปริงหน้าซ้าย
51602-S21-K21 99 AT
51602-S21-W11 96 MT
51602-S21-W21 96 AT
51602-S21-K31 99 MT
51602-S21-K01 99 AT

================================

คู่หลัง
====

สปริงหลัง
52441-S03-J11 96
52441-S04-J11 99 AT
52441-S04-J21 99 MT

โช้คหลัง
52611-S21-W01 96
52611-S21-K01 99

ชุดโช้คสปริงหลัง
52610-S21-W11 96
52610-S21-K21 99 AT
52610-S21-K41 99 MT,AT

จากคุณ : ton99 - [ 23 ส.ค. 51 21:50:26 ]






ความคิดเห็นที่ 2

Reflex นี่ ผมว่าตรงข้ามกับ Tein superstreet เลย

Reflex - เมื่อโช๊ค วิ่งเร็ว
เช่น รูดผ่าน ตัวหนอน ตกหลุม ฯลฯ
มันจะแน่นมาก แน่น เหมือนโช๊ค+สปริงแต่งเลย

แต่ถ้า โช๊ควิ่งช้า
เช่น หยอดผ่านตัวหนอน ผ่านตัวหนอน ตกหลุม ที่ความเร็วต่ำ
มันก็จะนุ่ม

อีกอย่างที่ผมคิดคือ Reflex จะทำงาน ตามนิสัย สปริงด้วย
ถ้าสปริง แข็ง เท่ากับ บังคับให้มันเจอแรงดีดมากๆ จะไปเข้า ย่านที่มัน ทำงาน firm กำลังดี
ก็ต้องยอมใช้สปริงแข็งๆ ซักหน่อย

ซึ่ง อาจจะสู้ Tein ss ไม่ได้ ในภาพรวม
เพราะ Tein ss ขับในเมือง เจอหลุมเจอบ่อ ไม่ว่าจะหยอด หรือ ไม่หยอด ก็ ยังนุ่มได้
ตอนโยน อัดโค้ง ตอนลงเบรก มันก็ firm ได้ใจ

ผมว่า เล่น Reflex นี่ ยากตรง หาสปริง มาเข้าคู่กับมันนะ
ดูแล้ว พวกสปริงแข็งๆ น่าจะ work กับ Reflex ได้ดี

จากคุณ : ถัง - [ 23 ส.ค. 51 22:06:36 ]






ความคิดเห็นที่ 3

ถึงตาต้น
ประโยคนี้พาดพิงผมแน่ๆเลย "พรรคพวกที่ใช้ Moroe Reflex อยู่ก็ดันไปใส่กับสปริงโหลด H&R อีก"

ถึงตาถัง
ผมว่า Moroe Reflex + H&R ก็โอเคนะ
ด้วยราคาและคุณภาพ

ปล.ระยะของสปริงมีผลมากมายกับความแข็งเลยละ
เหมือนว่าสปริงยิ่งดีดแรงมันก็ยิ่งแข๊งได้ใจเลย
แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 51 22:16:29

จากคุณ : apexthai - [ 23 ส.ค. 51 22:11:51 ]







ความคิดเห็นที่ 4

ขอบคุณทั้งสามท่านสำหรับ review ครับ

จากคุณ : Naicollo - [ 23 ส.ค. 51 22:35:49 ]






ความคิดเห็นที่ 5

เคยลองรูดตัวหนอน เส้นหลังMRTทางที่มาจากข้างตึกKPNมั้ยครับ

ยังกะขี่เกวียน.

reflex+h&r ล้อกะทะ175/70/13

จากคุณ : HMOM - [ 24 ส.ค. 51 00:07:48 ]






ความคิดเห็นที่ 6

ผมใช้อัลติส 2002
ใช้มอนโร รีเฟลก
ทดลองกับสปริง H&R แล้ว ไม่พอใจ
1. เตี้ยไปกว่าเดิม ไม่มั่นใจในท้องถนนเมืองไทย ไม่ต้องการสวย
2. กระด้างกว่าเดิมครับ และไม่ได้วิ่งเกินกว่า 150 อยู่แล้ว

เลยต้องใช้สปริงเดิม ลงตัวกว่าครับ

จากคุณ : พันละที - [ 24 ส.ค. 51 07:38:11 ]






ความคิดเห็นที่ 7

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

จากคุณ : Papiruz - [ 24 ส.ค. 51 07:59:31 ]






ความคิดเห็นที่ 8

ขอบคุณมากครับ รีวิวดีมีประโยชน์

จากคุณ : กาลัง กัตวา - [ 24 ส.ค. 51 10:38:34 ]






ความคิดเห็นที่ 9

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ เล็ง ๆ Monroe Reflex กับ BMW E46 อยู่เหมือนกันครับ

จากคุณ : FATsnoringPIG - [ 24 ส.ค. 51 17:48:47 ]






ความคิดเห็นที่ 10

ผมก็คนนึงใช้ Reflex กะ H&R แต่ทำไมหยอดๆ ของผมก็แข็งหว่า(โช้คนะไม่ใช่อย่างอื่น)...แต่โดยรวมก็ชอบนะครับ

จากคุณ : CK5 - [ 25 ส.ค. 51 08:42:16 ]






ความคิดเห็นที่ 11

ขอบคุณครับ
เดี๋ยวจะลองกับสปริงเดิมก่อนครับ

จากคุณ : เป็ดจิ๋ว - [ 25 ส.ค. 51 21:11:02 ]






ความคิดเห็นที่ 12

ผมใช้ ae111+h&r(35mm) เวลาขับมีเสียงกุกๆที่โช๊คหลังเป็นตั้งแต่ใส่จนผ่านมาเกือบ2เดือนแล้วก็ยังเป็นอยู่ไม่รู้ว่าจะแจ้งแคลมได้รึเปล่า

โดยส่วนตัวนอกเหนือจากเรื่องเสียงที่มีปัญหาแล้ว(ให้ช่างที่power maxแถวบ้านดูเค้าฟันธงว่าโช๊คมีปัญหาที่แกน) เวลาวิ่งเร็วๆมีความรู้สึกว่าโยนมากๆมุดแล้วไม่มั่นใจเลยความหนึบสู้โช๊คเดิมอัดน้ำมันยังไม่ได้
ส่วนเรื่องความนุมผมว่านุ่นใช้ได้เลยแต่ถ้าต้องการนุ่มจริงๆผมว่าใช้โช๊คธรรมดาก็ได้แล้วไม่ต้องเสียเงินแพงขนาดนี้

สรุปคือไม่แฮปปี้สุดๆอะครับรู้งี้ไปหาtein หรือ tanabe เก่าญี่ป่นมาใส่ดีกว่าถูกกว่าเยอะ

จากคุณ : ... - [ 30 ส.ค. 51 20:28:33 A:124.120.5.99 X: ]


Create Date : 15 ธันวาคม 2551
Last Update : 15 ธันวาคม 2551 19:27:09 น. 8 comments
Counter : 32213 Pageviews.  

 
Prima Life Time พรีมา ไลฟ์ ไทม์ ท๊อป ออฟ มายด์


โดย: mlmboy วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:4:19:29 น.  

 
คุณต้นครับคือผมไม่ได้ใช้โช๊คยี่ห้อเดียวก่ะคุณต้นนะครับ แต่มีปัญหาเหมือนกันคือ ช่วงยุบนิ่ม ช่วงคืนตัวจะเด้งมาก เลยอยากถามว่า ค่า K ของสปริง กับ ความสูงต่ำของสปริง อันไหนเป็นส่วนสำคัญมากกว่ากันในการแก้ปัญหานี้ครับ แล้วถ้าเกี่ยวกับค่า K ไม่ทราบว่า ควรใช้สปริงที่มีค่า k มากหรือน้อยกว่าของเดิมครับในการแก้ไขครับ


โดย: ^YimmY^ (Y-EVIL ) วันที่: 31 ธันวาคม 2551 เวลา:22:44:46 น.  

 
มันเด้งแบบไหนครับ

ถ้าช่วงยืดมันยืดแล้วหยุดเลย แสดงว่าช่วงยืดของโช้คหนืดไป
มันเลยหน่วงตอนยืดมากไป เลยกระชาก

แต่ถ้ามันยืดแล้วเด้งกลับแล้วยืดอีกที
แสดงว่า ช่วงยืดโช้คหนืดน้อยไปมันเลยรั้งสปริงไว้ไม่อยู่


โดย: ton99 (ton99 ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:26:04 น.  

 
กลับมาเพิ่มเติมต่อ
หลังจากพ้น 35,000km ผมก็ได้เปลี่ยนยางมาเป็น AR10 185/65R14
จากก่อนหน้านี้ผมใช้ยาง Ducaro GA 195/60R14
อาการยางที่นิ่มขึ้น ทำให้ซึมซับแรงกระแทกไปได้พอสมควรเลยทีเดียว
ช่วงที่เปลี่ยนใหม่ๆ ขับวิ่งลุยฝาตะแกลงเหล็กที่ปูดีๆ ก็จะได้ยินแต่เสียงเท่านั้น
ทำให้พอสรุปได้ว่า ถ้าอยากใช้ Monroe Reflex ให้วิ่งนิ่มๆ
ก็ควรคบหากับสปริงและยางที่นิ่มด้วย

ล่าสุดตอนนี้ใช้ Monroe Reflex วิ่งไปเกิน 50,000km แล้ว
สิ่งที่เริ่มจับอาการได้คือ โช้คมันจะหนืดน้อยกว่าช่วงแรกๆ
ข้อดีที่ได้มาก็คือ รถมันจะวิ่งนิ่มขึ้น
และเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ผมได้เปลี่ยนลูกยางปีกนกหน้าตัวล่างทั้งหมด
แกะออกมาดู ลูกยางปีกนกตัวหน้าขาดรอบวง ลูกยางตัวหลังก็หลวม
ลูกยางหูโช้ค อันนี้ก็เริ่มแบนและแข็ง ส่วนปีกนกตัวบนนั้นเพิ่งเปลี่ยนลูกยางไปตอนที่เปลี่ยนโช้ค
หลังจากเปลี่ยนแล้วอาการกระแทกปึงปังตอนเจอหลุมเจอฝาท่อ ก็จะนิ่มและแน่นขึ้น
จากปึงปัง ก็หลายเป็นตึบๆตุบๆ จะไม่เบรคแล้วลุยพวกตัวหนอนตามซอยก็ยังไหว


โดย: ton99 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:52:29 น.  

 
กลับมาเพิ่มต่ออีกรอบ
ตอนนี้ใช้งานมาได้ 2 ปี กับระยะทาง 70,000 km
สิ่งที่พบคือ ยิ่งใช้โช้คมันยิ่งนิ่มขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากที่เปลี่ยนยางจาก AR10 มาเป็น Assurance
พบว่า Monroe Reflex เหมือนจะเข้าขากับ AR10 ได้ดีกว่า
ตอนที่มาจับคู่กับ Assurance ช่วงที่วิ่งทางเรียบๆ มันเรียบนุ่มกว่า AR10
ส่วนช่วงที่เจอการกระแทก AR10 จะกระแทกรุนแรงน้อยกว่า

มาตอนนี้ผมใช้ยาง Assurace มาได้ 17,000 km แล้ว
ถึง Assucance จะไม่กระแทกได้นิ่มเท่า AR10 แต่ด้วยโช้คที่นิ่มขึ้น
ตอนนี้ก็สามารถขับลุยตัวหนอนตามซอยได้ไม่แพ้กับ AR10 เลย

ส่วนเรื่องความหนืดของโช้ค ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอยู่
และเมื่อเอาไปเทียบอาการกับโช้คเดิมๆ ของรถรุ่นที่ว่าเซ็ทช่วงล่างมาดี
อาการของโช้คก็ยังดีกว่าแบบเห็นได้ชัด
ลองคิดกันดูว่า รถที่โดดสะพานได้แย่ โดดแล้วท้ายปลิวอย่าง Civic96
สามารถเอาไปโดดสะพานสู้พวกรถยุโรปขนาดเล็กที่เป็นรถขับหลังได้
และแถมท้ายยังมีอาการโยนขึ้นน้อยกว่าอีกด้วย
โช้คที่เอามาใส่ มันต้องหนืดและเก็บอาการได้ดีขนาดไหน
สำหรับรถบ้านใช้วิ่งถนนทั่วไป โช้คที่ทำได้แบบนี้ ด้วยราคาแบบนี้
น่าจะถือว่าไร้คู่เปรียบเลยก็ว่าได้


เรื่องเทียบกับรถต่างค่ายผมขอพูดแค่นี้พอ พูดมากกว่านี้พวกอริผมจะมาพาลเอาได้
ผมจะเทียบกับรถในค่ายให้ฟังจะพูดได้เต็มที่กว่า
เมื่อเทียบ Civic 96 กับ Civic 06 1.8S ที่ใส่ยาง GR80
สิ่งที่พบคือ FD กระด้างกว่า แข็งกว่า และแถมโยนมากกว่า
แล้วพอมาเทียบกับ Accord 98 งูเห่า ที่เซ็ทช่วงล่างมายวบๆหน่อย แล้วยังมากับยาง GR80 ด้วย
ช่วงที่วิ่งหยอดนิ่มๆ ก็ยังนิ่มกิน Accord ได้
ถ้าลุยตัวหนอนเร็วๆอาจจะมีสะเทือนกว่า แต่รถก็จะอาการกระเด้งกระดอนน้อยกว่า
ส่วนเรื่องโยนคงไม่ต้องพูดถึง Accord โยนกว่าอยู่แล้ว


โดย: ton99 วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:0:27:39 น.  

 
กลับมาเพิ่มเติมอีกที หลักจากที่ใช้ Moroe Reflex ชุดที่ 2 มาได้ 15,000 km

หลังจาก Monroe Reflex ชุดเก่าใช้มาได้ 90,000 km
ผมก็ได้หาเรื่องเปลี่ยนใหม่พร้อมสปริงใหม่ตรงรุ่นทั้งคู่หน้าและหลังพร้อมยางหัวโช้ค
สาเหตุที่เปลี่ยนเพราะช่วงล่างด้านหลัง มันมีเสียงดัง กึก ประหลาดๆเกิดขึ้น
เสียงมันจะดังเมื่อขับช้าๆที่ล้อมีการยุบตัวช้าๆเริ่มมาก่อนแล้วมีการยุบตัวเร็วๆตามมาอีกที
และที่มันประหลาดก็คือ มันไม่ได้ดังทุกครั้งที่ล้อมีอาการขยับแบบนี้

ก่อนหน้านั้น พวกบุชยางต่างๆของช่วงล่างหลังผมก็ไล่เปลี่ยนจนครบไปได้ไม่นาน
และอาการแบบนี้ผมเคยเจอกับโช้คติดรถที่เคยใช้มาก่อน
จึงด่วนสรุปไปว่าเสียงน่าจะเกิดมาจากโช้ค เพราะว่าก็ใช้มาใกล้จะครบ 100,000 km แล้ว

หลังจากเปลี่ยนโช้คไป ขับใช้งานวันแรกเสียงดังกล่าวก็หายไป
แต่ใช้งานวันที่สอง เสียงเดิมได้กลับมาอีกแล้ว แต่จังหวะที่เกิดเสียงจะเป็นยากกว่าแต่ก่อน
ก็ขับใช้งานไปแบบนั้นไปได้เดือนกว่าๆ ก็รื้อมาหาสาเหตุกันใหม่
สิ่งที่พบคือ บุชยางปีนกบนด้านนอกของล้อหลังขวามันขาดในทำให้มันขยับตัวได้
แต่บุชยางตัวนี้ผมเพิ่งเปลี่ยนมาได้ไม่นาน มันก็ไม่น่าขาดเร็วแบบนี้
พอมาลองไล่ลำดับเหตุการณ์ดู ทำให้นึกได้ว่าปีกนกบนตัวนี้
ได้ถูกถอดไปเปลี่ยนบุชปีนกด้านในที่ร้านยาง ซึ่งตอนที่ประกอบใส่
ทางร้านยางก็ใส่แบบชุ่ยไปหน่อยคือ ได้ขัดยึดน็อตแน่นตอนที่ยังยกล้อลอยเอาไว้
ผลทำให้เวลาปล่อยรถลงมาแล้ว ปีกนกก็จะยกขึ้น
ยางที่ยึดแน่นไปตอนที่ปีกนกมันห้อยลง ก็จะถูกบิดคาไว้ตลอดจนขาด

ซึ่งที่ถูกต้องคือ การประกอบบุชยางพวกนี้
จะต้องปรับปีนกให้อยู่ในตำแหน่งปกติก่อน แล้วถึงค่อยขันแน่นได้


กลับมาเข้าเรื่องโช้คสักที
โช้คชุดนี้ได้เปลี่ยนพร้อมกับสปริงใหม่หน้าหลังทั้งหมด
อาการตอนขับขี่รถจะวิ่งแน่นกว่าชุดเดิม แต่ก็ไม่ได้แข็งจนกระด้าง
เวลากระแทกหลุมจะกระแทกแบบแน่นๆ ไม่นิ่มๆแล้วกระเทือนเหมือนชุดเดิม
สรุปคือ ทั้งทางเรียบ และไม่เรียบ ได้ผลงานที่ดีกว่าของเก่า
ถือว่าเสียเงินเที่ยวนี้ ก็ไม่ได้เสียเที่ยวอะไร
ส่วนโช้คชุดเก่าที่ผมถอดออก ก็ไม่ได้รั่วหรือเสียอะไร
เพียงแต่ความหนืดตอนที่ลองกด ก็จะหนืดน้อยกว่าของใหม่แบบเห็นได้ชัด
และตอนปล่อยให้ยืด ก็ยืดได้ช้ากว่าของใหม่แบบชัดเจนเหมือนกัน


โดย: ton99 วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:15:22:46 น.  

 
กลับมาเล่าประสบการณ์กับ Monroe Reflex กันต่อ

เมื่อสักสองเดือนก่อน ผมก็ไปก้มดูใต้ท้องรถด้านหลังเพื่อตรวจเช็คด้วยสายตา
ตาก็ดันมองไปเป็นว่า โช้คล้อหลังซ้ายมีรอยเหมือนมีน้ำมันซึมๆ
ผมก็ใจคอไม่ดี รีบไปลากไอ้เข้กับสามขามายกรถขึ้นดูทันทีเลย
พอถอดล้อออกมา ก็เห็นชัดเจนเลยว่า โช้ครั่วมีน้ำมันซึมออกมา
โดยน้ำมันที่ซึมออกมานั้นได้รั่วออกมาจากซีลกันฝุ่นด้านบนของโช้ค
ผมเลยจัดการถ่ายรูปเอาไว้ แล้วก็รีบไปหาใบรับประกันมาดู
ในใบรับประกันระบุเอาไว้ว่า รับประกัน 2 ปี หรือ 20,000 km
ซึ่งโช้คผมก็ใส่มาเกือบครบปีพอดี แต่ระยะทางมันก็เลยไปแล้วอักโขเหมือนกัน
ผมก็ไม่รู้ว่าจะเครมได้หรือเปล่า ถ้าเครมไม่ได้คงได้เสียเงินอีกครึ่งหมื่น
เลยโทรไปถามที่ร้านว่าแบบนี้จะเครมได้ไหม ทางร้านก็บอกว่าให้เอามาดูก่อน
หลังจากนั้นอีกหลายวันผมก็ขับไปร้านแล้วเอารูปไปให้ร้านดู
ร้านก็ขอใบรับประกันไปดู แล้วก็บอกว่าเครมได้ แต่ต้องถอดโช้คเอาไปเครม
ถ้ารั่วหรือแตก จากตัวโช้คเองก็จะเครมได้
ผมก็นึกในใจว่า ถอดโช้คแล้วรถผมจะวิ่งได้ยังไง
แล้วก็คิดได้และถามกับทางร้านว่า ถ้าผมจะซื้อโช้คใหม่คู่หลังไปใส่ก่อน
หลังจากนั้นค่อยถอดเอาเครมจะได้ไหม ทางร้านก็บอกว่าได้เพราะโช้คเครมเป็นคู่อยู่แล้ว

สรุปวันนั้นผมเลยได้ซื้อโช้คใหม่มาคู่นึง ตอนขับกลับบ้านก็มาคิดในใจว่า
ตกลงที่ว่าเครมได้นั้นมันเป็นยังไง เพราะผมก็ดันไม่ได้ถามในรายละเอียด
โช้คที่เอาไปส่งเครม ต้องรออีกกี่วันถึงจะได้
แล้วเครมได้แล้วเป็นโช้คกลับมา โช้คอีกคู่ผมคงต้องไปประกาศขายเอาเองละสิ

อีกหลายวันต่อมา ผมก็จัดการเปลี่ยนโช้คเสร็จสรรพ
แล้วก็เอาโช้คอันที่รั่วไปให้กับร้าน ทางร้านก็ดูๆแล้วก็เงียบหายไป ผมก็งงๆ
มาอีกทีก็ถือเงินค่าโช้คมาให้ผมเลย อันนี้ก็งงดีเหมือนกัน
แต่อย่างไรก็ประทับใจ จนทำให้ผมต้องกลับมาซื้อโช้คจากเขาอีกชุดนึง

สำหรับอาการโช้คตอนที่น้ำมันมันซึมออกมา
ผมลองกดดูถึงจะพบว่ามันยุบหนืดต่างกันอยู่เล็กน้อย
แต่ตอนขับก็จับอาการความต่างไม่ได้เลย ซึ่งคงเป็นเพราะโช้คมันปรับตัวเองช่วย
อันนี้ผมบอกเลยว่าก่อนที่ผมจะมาเห็นมัน ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าโช้คมันเสียอะไร
แต่มันก็มีอยู่ครั้งนึง ที่ผมขับรถบนทางด่วนขั้นที่สองจากบางโคล่มุ่งหน้าไปพยาไท
แล้วผมรู้สึกว่า รถมันวิ่งผ่านรอยต่อได้ไม่นิ่มเหมือนเดิม
ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังคิดว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่า
และแถมในช่วงนั้นก็มีอยู่คืนนึง ผมดันไปเจอ E90 320i กวนประสาทอยู่คันนึง
ตอนแรกผมไม่ได้สนใจ E90 คันนี้เลยสักนิด
คันที่ผมสนใจคือ AE111 ที่แซง E90 คันนี้ไปลิบๆแล้วต่างหาก
ผมก็พยายามจะขับไปดูเชิงกับ AE111 สักหน่อย
แต่ผมดันมาติด E90 ที่ขับช้าแช่ขวาขวางผมมาได้เป็นกิโล
พอถึงทางโค้งที่ดุสักหน่อย รถเลนซ้ายก็เบรคเปิดช่องให้
ผมก็ออกซ้ายแล้วเร่งเพื่อจะแซง ส่วน E90 ก็ชลอความเร็วลง
แต่พอรถผมแซง E90 ไปได้หน่อย เสียงเร่งเครื่องแบบเต็มที่
จากการที่กระทืบคันเร่งแบบจมพื้นก็ดังขึ้นมาทันที แล้ว E90 ก็แซงผมขึ้นมา
แต่เรื่องมันตลกตรงที่ว่า เลนขวานั้นมันก็มีรถช้าขับขวางอยู่
E90 คันนี้ก็เลยต้องเบรคหัวทิ่มไปเองโดยปริยาย
ส่วนผมรู้ว่าไอ้นี่มันเอาแน่ ผมก็เลยปิดแอร์ เปลี่ยนจากเกียร์ 5 ลงมาเกียร์ 2 ลากรอบรอ
พอช่องทางขวาเปิด ผมก็กดแซงออกขวาทันที
ส่วน E90 ก็เร่งตามหลังมาเต็มที่ โดยมีระยะอยู่ห่างสักหน่อย
พอถึงอีกโค้งนึง ที่เป็นโค้ง S ที่ดุและยาวหน่อย
ผมก็พอรู้ว่า ถ้าผมเข้าไม่เต็มที่ งานนี้โดนสวนในโค้งแน่ๆ
เพราะคู่ต่อสู้ ไม่ใช่แค่รถราคาคุย
พอถึงโค้งซ้ายผมจึงยกให้ช้าที่สุดเท่าที่จะประคองรถได้
พอผมจิกผ่านกลางโค้งมา ก็ได้ยินเสียงยางร้องจากข้างหลัง
ส่วนผมยังไม่ได้เหลือบไปมอง เพราะผมต้องหักเข้าโค้งขวายาวต่ออีกที
แต่ก็พอเห็นแสงไฟหน้ามันส่ายๆมาจากข้างหลัง
พอผมตั้งลำจิกโค้งขวาได้ ก็เหลือบไปมองกระจกหลัง
ถึงเห็นว่า E90 นั้นเป๋ผิดไลน์ออกไป และความเร็วก็หายไปเยอะจากระบบช่วยทรงตัว
สำหรับโค้งนี้ผมก็เลี้ยงคันเร่งให้ปริม limit ของยางไปเลย
ยางทั้งหน้าหลังเลี้ยวด้วย slip angle มหาศาล แต่ผมยังไม่ถือว่าหลุด
พอออกโค้งมาก็กดเต็มไม่เลี้ยง มองกระจกหลังเห็น E90 ตามมาแบบเริ่มขาด
ผมก็หวดไปได้แค่ 180 มองกระจกหลัง E90 ก็ไล่เข้ามาใกล้ขึ้น
หลังจากนั้นก็ติดรถช้า E90 ก็มาติดท้ายเหมือนเดิม
ตอนนั้นก็นึกในใจ ถ้าออกโค้งมาคู่คี่ก็คงโดนกินทางตรงแน่
มาอีกโค้งส่งท้ายวัดกันอีกที พอรถคันหน้าหลบเข้าซ้ายตอนเริ่มเข้าโค้ง
ผมก็กดหนีอีกรอบ ออกโค้งมาระยะที่เคยติดท้ายตอนเข้าโค้ง ก็ยืดห่างสัก 3 คันรถ
เห็นแบบนี้ผมก็ยิ้มแล้ว เพราะข้างหน้าเป็นทางแยก
ถ้าตามทางผมมาอีก คราวนี้ก็ไม่มีที่ให้ทำอะไรผมได้อีกแล้ว
ผมก็ไม่รู้ว่าคนขับ E90 นั่นจะรู้สึกยังไง แต่ถ้าผมเป็นคนขับคันนั้นคงจะเสียเส้นไปไม่น้อย
อาการคงเหมือนตอนผมที่โดนรถกระบะเจ้าถิ่นสอนมวยบนทางเขา
แต่ที่แน่ๆคือเขาคงไม่รู้ว่า รถผมมีโช้ครั่วอยู่ข้างนึง!


โดย: ton99 วันที่: 14 เมษายน 2554 เวลา:0:12:30 น.  

 
อันนี้ขอรวมเอาเรื่องราวของโช้ค Monroe Sensatrac สำหรับ Civic ES เอาไว้ด้วยกันเลย

/////////////////////////////////////////////////////////////

ความคิดเห็นที่ 4
Civic ES ของ Monroe มีแต่รุ่น Sensatrac
ของรถน้องผม โช้คยังกองไว้อยู่ยังไม่ได้ใส่
ถ้าใส่แล้วผลเป็นไงจะมาเล่าให้ฟัง
ราคาที่ได้มานั้นก็ถูกแล้วครับ ของผมทั้งชุดหน้าหลังรวมแล้ว 10800 บาท

จากคุณ : ton99
เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 54 17:55:20




ความคิดเห็นที่ 8
วันนี้ใส่แล้วครับ Monroe Sensatrac กับ Civic ES
นอกจากโช้คที่เปลี่ยนใหม่แล้ว
ผมก็มีรายการเปลี่ยนเบ้าโช้คหน้าของแท้ ยางกันกระแทกโช้คหน้าของแท้
ยางหัวโช้คหลังของแท้ ยางกันกระแทกโช้คหลังของแท้
ส่วนสปริงนั้นไม่ได้เปลี่ยน เพราะอยากดูอาการของโช้คเพียวๆ
ถ้าสปริงไม่เข้าท่า ค่อยมารื้อเปลี่ยนทีหลัง
ตอนแรกผมกลัวๆว่าจะแข็งจนรับไม่ได้ และดีดแบบที่มีคนมาเล่า
ถ้าเป็นอย่างนั้น น้องผมด่าตายเลย หาว่าผมจับเป็นหนูลองยาอีก

ผลออกมาคือช่วงยุบก็แข็งพอๆกับโช้คเดิม แต่ที่ต่างคือมันยุบแบบแน่นๆ
ช่วงยืดก็ไม่กระโดกกระเดก และอาการดีดดึ๋งดั๋งก็หายไป
น้องผมลองนั่งหน้านั่งเบาะหลัง ท้ายไม่ดีด แล้วชอบใจมาก
เวลาลุยตัวหนอน หรือคอสะพาน ตัวรถจะขยับน้อยลงเยอะ


ส่วนเรื่องปัญหากับร้านแถวเทพารักษ์อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ล่าสุดที่ผมเจอคือ ผมเปลี่ยน Monroe Reflex ใส่ Civic EK รถผมไปปีนึง
แล้วผมมาเจอว่ามันมีน้ำมันซึมที่ตัวหลังซ้าย
ผมวิ่งไปเครมร้านก็ไม่เห็นร้านจะทำท่าอิดออดอะไร
สรุปสุดท้ายก็เครมให้ผมใหม่ทั้งคู่ แล้วเริ่มนับประกันใหม่เลย
ตอนแรกผมเข้าใจว่าจะเครมได้แค่ข้างเดียวเสียอีก
ผมก็เตรียมเงินที่จะซื้อใหม่อีกข้างเพื่อที่จะมันจะได้อาการเท่ากันทั้งคู่
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมกลับมาซื้อของเขาอีกชุด เป็นชุดที่ 3
สำหรับโช้คที่ซึม อันนี้ก็คงเป็นความบกพร่องจากการผลิตที่พบเจอได้ตามปกติ
ก่อนหน้านี้ผมก็ใช้ Monroe Reflex มาแล้วชุดนึง วิ่งไปจนแสนโล มันก็ไม่ได้เสียอะไร
โช้คที่ผมถอดออก สามารถเอาไปปล่อยมือสองได้เลย
เพราะผมใช้ไม่ถึงสามปี โช้คยังดันอยู่ ไม่มีรั่วซึม แต่ผมก็ยกให้ฟรีไป
โช้คชุดนี้สำหรับผม ถึงมันไม่เสียแต่มันก็เสื่อมสภาพไปเยอะแล้วเหมือนกัน
ผมเปลี่ยนชุดใหม่รุ่นเดิม แล้วเปลี่ยนสปริงใหม่ ยางหัวโช้คใหม่ ตามสูตรของผม
เปลี่ยนเสร็จอาการของรถดีขึ้นแบบคนละคัน

จากคุณ : ton99
เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 54 23:45:17


/////////////////////////////////////////////////////////


โดย: ton99 วันที่: 14 เมษายน 2554 เวลา:0:14:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ton99
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




[Add ton99's blog to your web]