..Don't find love, let love find you. That's why..it's called..falling in love..because you don't force yourself to fall..you just fall..
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
2 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 
เปิดกว้าง ... โรคทางใจ!



ถ้าวันหนึ่งคนเราสามารถได้ยินเสียง “หัวใจ” สะท้อนความรู้สึกแทนเสียง ที่ผ่านจากกล่องเสียง เป็นถ้อยคำนับร้อยนับพันคำได้

เสียงที่ได้ยินจากคนคนเดียวนั้น อาจมีทั้ง หัวเราะ ร้องไห้ คร่ำครวญ รำพัน จนไม่อาจแยกแยะความหมายได้

และหนึ่งในเสียงที่ไม่เคย มีใครได้ยินมานานแล้ว นั่นก็คือ เสียงของผู้ป่วย “จิตเวช”

จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ประชากรโลกราว 300-400 ล้านคน ได้รับทุกข์ ทรมานจากโรคทางจิต ไม่รวมความทุกข์ที่เกิดจากความสิ้นหวัง การถูกกีดกันจากสังคม อันเป็นผลมาจาก “ความไม่เข้าใจ”

พ.ญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ หรือ “หมอเบิร์ท” จิตแพทย์ รพ.ศรีธัญญา บอกว่า โลกของผู้ป่วยโรคจิต จะมีเส้นบางๆ กั้นแบ่งระหว่างความเป็นจริงกับโลกแห่ง จินตนาการที่ถูกสร้างขึ้น จะโดยกลไกทางจิตอันลึกลับ ที่ช่วยผู้ป่วยให้หลีกหนีจาก ความเป็นจริงอันเจ็บปวดที่พวกเขาไม่สามารถยอมรับได้ หรือจะเป็นด้วยสารเคมีในสมอง เกิดการแปรปรวน โดยไม่ทราบสาเหตุก็ตาม

“แต่ขณะที่ผู้ป่วยจิตเวชกำลังต่อสู้ เพื่อจะแยกแยะว่าอะไรคือความจริง และอะไรคือความไม่จริงนั้น พวกเขายังคงเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีหัวใจอันบริสุทธิ์ เฉกเช่นคนปกติทั่วไป”

คำอธิบายที่สั้น กระชับ ของ “หมอเบิร์ท” สะท้อนภาพชัดเจน และทำให้เราเข้าใจโลก ของผู้ป่วยจิตเวชมากขึ้น

แต่จะมีสักกี่คน ที่เปิดใจ “ยอมรับ” ผู้ป่วยเหล่านี้

ปัญหาความรุนแรง ความเครียด วิตกกังวล การติดสารเสพติด โรคซึมเศร้า บางรายรุนแรงถึง ขนาดมีการฆ่าตัวตาย กลายเป็นข่าวที่ปรากฏทางสื่อมวลชนแทบจะไม่เว้นแต่ละวัน


“จิตรลดา ตันติวาณิชย์สุข” กลายเป็นคนที่ทั่วประเทศรู้จักชั่วข้ามคืน หลังจากคว้ามีดเข้า ไปไล่แทงนักเรียนใน โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ หลังจากนั้นเธอถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล ในฐานะผู้ป่วยจิตเวชที่ก่อคดีอาชญากรรม

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลายเป็นสัญญาณเตือนภัย ปลุกให้ผู้คนในสังคมเริ่มตื่นตัวกับ ผู้ป่วยกลุ่มนี้มากขึ้น

เพราะเบื้องหลังความอกสั่นขวัญหาย ที่มาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ “คน”

และนั่นคือความจริงที่เราต้องค้นหา และยอมรับให้ได้ว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ในสังคมของเรา

คำถามที่ตามมาติดๆ ก็คือ เราควรจะทำอย่างไรต่อไป ?

คุณหมออภิสมัย บอกว่า ผู้ป่วยจิตเวชร้อยทั้งร้อยมักจมอยู่กับอดีต ตั้งคำถามว่า ทำไมๆๆ และทำไม เช่น

“ทำไมเค้าทำกับฉันอย่างนี้”

“ทำไมเค้าไม่กลับมา”

“ทำไมฉันช่างโชคร้ายแบบนี้”

ซึ่งสิ่งที่หมอทำ คือ การแนะนำให้ผู้ป่วยเริ่มต้น ด้วยการหยุดตั้งคำถามว่า “ทำไม” แต่ให้เริ่มถามว่า “ควรจะทำอย่างไร”

หมอเบิร์ท บอกว่า ถ้าผู้ป่วยได้หยุดคิด และอยู่กับปัจจุบัน แม้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ผู้ป่วยจิตเวชเหล่านี้มักจะสบายใจขึ้น ญาติและเพื่อนๆอาจช่วยกันดูแล ให้ผู้ป่วยมีกิจกรรมทำอะไรก็ได้ที่จะช่วยให้พวกเขาหยุดพัก สมอง จากความคิดที่หมกมุ่นอยู่กับตัวเอง แม้เพียงวันละ 5 นาที ก็ยังดี

นั่นเหมือนเป็นคำตอบที่ชัดเจนว่า “คนป่วยโรคจิต” ไม่ได้ “ป่วย” อยู่ตลอดเวลา

กรมสุขภาพจิตจึงเริ่มที่จะดำเนินโครงการที่เรียกว่า Destigma หรือ การเปิดใจกว้างยอมรับคนที่ป่วยด้วยโรคทางจิตใจให้มากขึ้น

น.พ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า “ความพยายาม ในการบำบัดรักษาผู้เจ็บป่วยทางจิต จะประสบความสำเร็จไม่ได้ ตราบใดที่สังคมยังไม่สามารถ “เอาชนะความกลัว” ผู้ป่วยทางจิต และทำความเข้าใจว่า “สุขภาพจิต” เป็นเรื่องใกล้ตัวและเป็นสิ่งที่ทุกคนเกี่ยวข้อง”

ทุกวันนี้ มีผู้ป่วยจิตเวชจำนวนไม่น้อย มาโรงพยาบาลด้วยอาการหูแว่ว หวาด ระแวง นอนไม่หลับ พอได้กินยา ได้รักษา อาการก็ดีขึ้น แต่พอจะกลับบ้าน กลายเป็นไม่มี “บ้าน” ให้กลับ

ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งถูกทิ้งไว้ในโรงพยาบาลจิตเวช

และอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่เคยมาโรงพยาบาล ต้องร่อนเร่อยู่ตามท้องถนน กลับบ้านไม่ถูก ไม่มีบ้าน หรือมีบ้าน แต่คนที่บ้านไม่เคยเปิดรับ วนเวียนอยู่อย่างนี้

คนไข้คนหนึ่งรักษาจนอาการดีขึ้น หมอ บอกให้กลับบ้าน หายไป 2 ชั่วโมงวิ่งกลับมา โรงพยาบาลอีกครั้ง พร้อมด้วยเสียงวิงวอน

“หมอครับ ผมอยู่ที่นี่กับหมอได้มั้ย ผมอยู่ที่นี่ ผมเป็นคนป่วย แต่พอกลับบ้าน เมียผม แม่ผม พ่อผม แม้แต่ลูกตัวเล็กๆมันบอกว่า ผมเป็นคนบ้า”


ปีนี้ งานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ ประจำปี 2548 ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 พ.ย. ที่เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์งามวงศ์วาน จะเป็นจุดเริ่มต้นของการ Destigma โรคทางใจในสังคม ซึ่งทีมข่าวสาธารณสุขมองว่า เป็นการ ถอดชนวนระเบิดเวลาของ “โรคทางใจ”

ถึงเวลาแล้วที่สังคมจะตระหนักรู้ถึงสภาวะที่แท้จริงและยอมรับผู้ป่วยเหล่านี้ ให้ได้กลับ “บ้าน” กลับสู่สังคมที่มีความรัก และความเข้าใจ

“ปลดโซ่ตรวน” แห่งความหวาดกลัว ผู้ป่วยจิตเวชกันเสียที!

"ทีมข่าวสาธารณสุข"





Create Date : 02 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2548 12:07:37 น. 0 comments
Counter : 781 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

VSr.
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]














There are
so many stars
in the sky..
only some get noticed.
Among those....
you choose to ignore
is the one
which was
willing to shine
for you
forever
even if..
your glance
remained
elsewhere...



my comment : I'm so sorry..
I'm not good as above.










.....GuestBook.....












S w a y : Bic Runca



Don't stray, don't ever go away
I should be much too smart for this
You know it gets the better of me
Sometimes, when you and I collide
I fall into an ocean of you, pull me out in time
Don't let me drown, let me down
I say it's all because of you

● ● ●

And here I go, losing my control
I'm practising your name so I can say it to your face
It doesn't seem right, to look you in the eye
Let all the things you mean to me
Come tumbling out my mouth
Indeed it's time to tell you why
I say it's infintely true

● ● ●

Say you'll stay,
don't come and go like you do
Sway my way,
yeah I need to know all about you

● ● ●

And there's no cure,
and no way to be sure
Why everything's turned inside out
Instilling so much doubt
It makes me so tired.
I feel so uninspired
My head is battling with my heart
My logic has been torn apart
And now it all turns sour
Come sweeten every afternoon

● ● ●

Say you'll stay,
don't come and go like you do
Sway my way,
yeah I need to know all about you
Say you'll stay,
don't come and go like you do
Sway my way,
yeah I need to know all about you
It's all because of you,
it's all because of you

● ● ●

Now it all turns sour, come sweeten every afternoon
It's time to tell you why
I say it's infinitely true

● ● ●

It's all because of you,
it's all because of you
It's all because of you



Friends' blogs
[Add VSr.'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.