บทสัมภาษณ์ วรรณวรรธน์
เอิ๊ก....ไม่ค่อยเห่อ แต่มีคนมาสัมภาษณ์ ลงหนังสือ ชุมทางอาชีพ ก็เลยขอนำมาลงเป็นเกียรติเป็นศรี เพราะห้าปีที่ทำงานมาเพิ่งจะมีนิตยสารมาสัมภาษณ์ เป็นกิจจะลักษณะครั้งนี้แหระ ตื่นเต้ลลจริงๆค่ะ

วรรณวรรธน์’ ร้อยเรียงงานศิลป์ผ่านภาษา ความหมายที่มากกว่าความเป็นนวนิยาย ฉ.41









neonbookmedia









‘วรรณวรรธน์’ ร้อยเรียงงานศิลป์ผ่านภาษา
ความหมายที่มากกว่าความเป็นนวนิยาย



       “คุณพ่อเคยบอกกับดิฉันว่า หากวันหนึ่งดิฉันอยากจะเขียนนิยาย ขอให้อย่าได้เขียนนิยายเพ้อฝัน แต่ให้เขียนนิยายเชิงข้อมูล เพื่อที่ข้อมูลของเราจะสามารถสรรสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้อ่านได้”
  
        เชื่อแน่ว่า ในจำนวนคนไทยหลายสิบล้านคนที่ชอบดูละครหลังข่าว ชอบดูซีรีส์เกาหลี หรือชอบดูภาพยนตร์ ต้องมีจำนวนไม่น้อยที่ชอบอ่านนวนิยาย และในกลุ่มคนที่ชอบอ่านนวนิยาย ก็ต้องมีไม่น้อยที่อยากเป็นนักเขียนนวนิยาย
                  









neonbookmedia neonbookmedia

       เพราะเหตุนี้เราจึงเลือกที่จะนำเสนออาชีพ ‘นักเขียนนวนิยาย’ เพื่อให้ผู้อ่านได้มองเห็นแง่มุมบางประการที่ท่านอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน แต่เหนือสิ่งอื่นใด เราอยากให้ผู้อ่านที่มีใจอยากเป็นนักเขียนอยู่แล้ว ได้ก่อเกิดแรงบันดาลใจ เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนสายนักเขียนอย่างไม่ท้อถอยมากกว่า

      คุณวรรธนวรรณ จันทรจนา เจ้าของนามปากกา “วรรณวรรธน์” บุคคลที่ฝากผลงานสุดซึ้งผ่านนวนิยาย 7 เรื่อง อันได้แก่ อัสวัดราชันย์แห่งความมืด เส้นทรายสีเงา ฤกษ์สังหาร จันทราอุษาคเนย์ ทรายล้อมตะวัน บัลลังก์สายหมอก และข้าบดินทร์ คือนักเขียนเจ้าของคอลัมน์ในฉบับนี้ สิ่งที่น่าสนใจ ไม่ใช่แค่จินตนาการและความสามารถในการร้อยเรียงถ้อยคำให้ออกมาเป็นเรื่องราว หากแต่เธอย้ำให้เราได้เข้าใจว่า การเป็นนักเขียนที่แท้จริงนั้นเปรียบเสมือน ‘ช่างฝีมือ’ มิใช่ ‘ศิลปิน’
      






neonbookmedia

     “อันที่จริงดิฉันเคยมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียนแต่เด็ก แต่เกิดมาในครอบครัวของนักโบราณคดี จึงคุ้นเคยอยู่กับหลักตรรกศาสตร์ ปรัชญา ชาดก ประวัติศาสตร์ ฯลฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลล้วนๆ ครั้งหนึ่งคุณพ่อเคยบอกกับดิฉันว่า หากวันหนึ่งดิฉันอยากจะเขียนนิยายจริงๆ ขอให้อย่าได้เขียนนิยายเพ้อฝัน แต่ให้เขียนนิยายเชิงข้อมูล เพื่อที่ข้อมูลของเราจะสามารถสรรสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้อ่านได้ ท่านเน้นกับดิฉันอยู่เสมอว่าการจะนำเสนออะไรก็แล้วแต่ เราต้องพึงระลึกอยู่เสมอว่าผู้ที่รับข้อมูลจะได้อะไร มีผลกระทบในทางเสียหายต่อสังคมหรือไม่ แม้ถ้อยคำเหล่านั้นคุณพ่อจะบอกกับดิฉันมาตั้งแต่สมัยยังเด็ก แต่ก็ถือว่านั่นคือแรงบันดาลใจในการเป็นนักเขียนนวนิยาย สไตล์ วรรณวรรธน์

      “ดิฉันเริ่มเดินเข้ามาในสายนักเขียนช่วงที่เพิ่งคลอดลูก ตอนนั้นค่อนข้างมีเวลาว่างเยอะ อีกอย่างช่วงนั้นเขาเรียกกันว่า Baby blues  คือ เราจะรู้สึกอึดอัด หงุดหงิด ก็เลยต้องหาทางออกให้กับตัวเอง ด้วยความที่เราประทับใจนวนิยายเรื่อง ฟ้าจรดทรายมาก เราก็อยากจะอ่านแต่นิยายที่เกี่ยวข้องกับทะเลทรายนะ แต่ไม่มีใครเขียนออกมาเลย หันซ้ายหันขวาไม่รู้จะทำยังไงก็เลยลงมือเขียนเองซะเลย (หัวเราะ) ก็ใช้เวลา 3 เดือนที่พักงานนั่งเขียนนวนิยายเรื่องแรกในชีวิต คือเรื่อง อัสวัด ราชันย์แห่งความมืด เรื่องราวจะเกี่ยวข้องกับการเมือง การปกครองของอาหรับ แต่ครั้นเราจะนำเสนอแต่รัฐธรรมนูญอาหรับล้วนๆ คงไม่มีใครอ่านอยู่แล้ว เราก็แทรกจินตนาการเข้าไป มีตัวละครที่เป็นเจ้าชาย เจ้าหญิง มีเรื่องรัก ต่อสู้ ผจญภัย เข้ามาผูกด้วย ซึ่งถ้าใครได้อ่านแล้วจะรู้ว่า เราใส่นัยยะทางการเมือง การปกครองเข้าไปด้วย ดิฉันเชื่อว่านี่คือวิธีที่จะทำให้ผู้อ่านเข้าถึง และเข้าใจได้ว่าเรื่องกฎหมายมันไม่ใช่เรื่องไกลตัว”




      คุณวรรธนวรรณ กล่าวต่อว่า เมื่อประมาณปี 2545 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดนวนิยายไทยค่อนข้างซบเซา เรียกว่าเงียบเสียจนมีนักวิชาการตั้งคำถามว่า ถึงยุคที่นักเขียนนิยายไทยตายแล้วหรือ? เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว ปรากฏชื่อนักเขียนอยู่ไม่ถึง 20 คน อีกทั้งกลุ่มผู้อ่านก็มักจะเป็นวัยผู้ใหญ่ที่นิยมอ่านแต่ผลงานของนักเขียนระดับแถวหน้าเท่านั้น โอกาสเกิดของนักเขียนหน้าใหม่จึงริบหรี่เอาการ เพราะเมื่อใดที่นักเขียนหน้าใหม่เดินถือผลงานเข้าไปนำเสนอสำนักพิมพ์ คำถามที่หาคำตอบไม่ได้ก็คือ “คุณเคยผ่านงานนิตยสารเล่มไหนมาบ้าง” ซึ่งเป็นที่รู้กันดีอยู่ว่า เหล่านิตยสารหัวใหญ่ๆ อย่าง สกุลไทย กุลสตรี ขวัญเรือน ฯลฯ จะมีก็แต่นักเขียนระดับหัวกะทิทั้งนั้น ที่จะเข้าไปฝากผลงานไว้ได้ เมื่อภาวการณ์เป็นเช่นนั้น คุณวรรธนวรรณ จึงไม่ได้คาดหวังมากนักว่า เจ้าชายซาเลม อัสวัด และฬิดา พระเอก นางเอกจากจินตนาการของเธอจะได้รับความสนใจจากสำนักพิมพ์ใดๆ “จังหวะดีที่ช่วงนั้นประเทศไทยมีการแก้กฎหมายเรื่องการจัดตั้งสำนักพิมพ์พอดี จึงทำให้มีสำนักพิมพ์ใหม่ๆ เกิดขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงที่อินเทอร์เน็ตเริ่มได้รับความนิยม ซึ่งเว็บไซต์พันธุ์ทิพย์ถือว่าเป็นแหล่งรวมนักเขียนหน้าใหม่ เพราะใครที่มีผลงานก็มักจะเขียนลงเว็บบอร์ดให้คนอื่นได้อ่านกัน เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะแอบหวังเล็กๆ ว่า ผลงานของเราอาจจะไปเตะตาสำนักพิมพ์ที่เกิดใหม่ขึ้นมาบ้างก็ได้ ปรากฏว่ายังไม่ทันที่จะมีใครติดต่อเข้ามา ก็มีคนที่รู้จักกันเขาแนะนำว่า ผลงานของเราน่าจะนำไปเสนอให้สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ได้ ตอนนั้นเราก็เจียมเนื้อเจียมตัวนะคะ (หัวเราะ) เพราะที่ ณ บ้านวรรณกรรม มีแต่นักเขียนขั้นบรมครู อย่าง ทมยันตี พนมเทียน ฯลฯ เราก็รู้สึกมันเกินเอื้อมเหลือเกิน แต่ตอนนั้นก็คิดว่า เอาน่า...ลองดู ปรากฏว่าพอทางสำนักพิมพ์เห็นผลงานแล้วก็สนใจ จากนั้นดิฉันก็เลยได้เขียนนวนิยายเรื่องต่อๆ มา ภายใต้สังกัดสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม 







neonbookmedia 

       “แม้จะเขียนนิยายมาถึง 7 เรื่อง แต่เรื่องที่ดิฉันรักที่สุดคือ จันทราอุษาคเนย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นจากความทรงจำที่เก็บไว้ถึง 23 ปี ก็คือเมื่อครั้งที่คุณพ่อบอกเราว่า เวลาจะเขียนอะไรให้เน้นหนักในเรื่องของข้อมูล ตอนนั้นท่านศึกษาเรื่องของพระเจ้าจิตรเสนอยู่ ท่านก็เลยเอาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้มาให้อ่าน ดังนั้นเรื่องราวในนิยายเรื่อง จันทราอุษาคเนย์ จะเป็นการพูดถึงอาณาจักรโบราณ ที่มีพระเจ้าจิตรเสนมหาราชปกครองอยู่ มีการพูดถึงประเทศไทยเมื่อสมัย 1,200 ปีที่แล้ว เรียกว่าก่อนเขียนเราต้องทุ่มเทศึกษาประวัติศาสตร์หนักมากๆ มิหนำซ้ำยังลงทุนเดินทางไปทางตอนใต้ของประเทศลาว เพราะอยากได้ข้อมูลที่แน่นที่สุด เพื่อให้ออกมาเป็นนิยายที่สนุกที่สุด ส่วนเรื่องที่ภาคภูมิใจที่สุดต้องยกให้เรื่อง ข้าบดินทร์ เพราะได้นำประวัติศาสตร์สมัยรัชกาลที่ 3 มาเขียน มีการศึกษาพงศาวดาร แล้วก็นำเรื่องคชศาสตร์ (วิชาที่ว่าด้วยช้าง) มาผสมผสาน เรื่องนี้ใช้เวลาเก็บข้อมูลนานถึงปีกว่า ไปใช้ชีวิตกับช้าง ไปคุยกับหมอช้าง จนเข้าใจเรื่องราวของช้างอย่างทะลุปรุโปร่ง ซึ่งที่ภาคภูมิใจก็เพราะว่า ยิ่งศึกษาก็ยิ่งทำให้รู้ว่า พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ของไทยมีพระมหากรุณาธิคุณมากเพียงใด และช้างมีความสำคัญกับประเทศชาติเรามากมายแค่ไหน”

         เมื่อถามถึงมุมมองของนิยายไทย รวมไปถึงละครไทย (ซึ่งส่วนใหญ่จะซื้อลิขสิทธิ์บทประพันธ์มาจากนวนิยายชื่อดัง) ที่ปัจจุบันเน้นไปทางแนวตบจูบ ชิงรักหักสวาท จนหลายต่อหลายเรื่องกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ถึงความเหมาะสมและไม่เหมาะสม คุณวรรธนวรรณ ให้ความเห็นว่า “ดิฉันคิดว่าคนไทยก็เบื่อนะกับการดูแต่ละครที่นางร้ายก็ร้ายผิดมนุษย์ แม่ผัวตั้งป้อมรังเกียจลูกสะใภ้ นางเอกร้องไห้ทุก 5 นาที หรือพระเอกที่ข่มขืนคนแล้วไม่มีความผิด ซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นคำตอบได้ดีว่า ทำไมซีรีส์เกาหลี หรือนิยายแปลจึงได้รับความนิยมจากคนไทยนัก เพราะเรื่องราวของซีรีส์เกาหลีและนิยายแปลมีความเป็นดราม่า มีความสะเทือนอารมณ์ในระดับสูง และความนิยมของเขาไม่ได้จบไปพร้อมกับละครนะ อย่างซีรีส์เกาหลีพอจบแล้วก็ยังทำแผ่นออกมาขายได้อีก บางคนดูแล้วก็ดูอีกอยู่อย่างนั้น ต่างจากละครไทยที่จบแล้วจบเลย แต่สิ่งที่รู้คือปัจจุบันช่องต่างๆ ทำละครตามใจสปอนเซอร์ คิดแต่ว่าคนไทยชอบละครแบบนี้ๆ อันที่จริงเราทำแบบอื่นก็ได้ แต่ช่องกลัวสปอนเซอร์ไม่สนับสนุน พอไม่มีละครแนวอื่นออกมาคนไทยก็ดูแต่ละครแนวเดิมๆ จริงๆ แล้วแนวอื่นผู้บริโภคก็ต้องการนะ แต่ไม่มีใครทำให้เขาดู ไม่มีใครทำให้เขาอ่าน วังวนของละครไทยมันก็เลยเป็นแบบนี้” คุณวรรธนวรรณ ให้ความเห็นอย่างออกรส

       สุดท้ายเมื่อถามถึงข้อแนะนำในการเป็นนักเขียนนวนิยาย คุณวรรธนวรรณ ออกตัวว่าตัวเธอเองไม่ได้เป็นนักเขียนที่มีหลักการมากนัก ด้วยว่าเธอเองก็ไม่ได้ร่ำเรียนมาทางด้านนี้โดยตรง แต่เราเชื่อเหลือเกินว่า ข้อแนะนำทั้ง 2 ข้อของเธอ คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้นักเขียนหน้าใหม่ๆ ได้เดินทางเข้าสู่ถนนสายวรรณศิลป์ได้อย่างเต็มภาคภูมิ “ที่อยากฝากไว้คือ ข้อแรก การเป็นนักเขียนจำเป็นต้องมีวินัย ต้องทำงานให้ต่อเนื่อง ทำงานให้ได้ในปริมาณและเวลาที่กำหนด เพราะอย่าลืมว่าอาชีพนี้จะได้เงินมาก็ต่อเมื่อคุณทำงานเสร็จแล้วนำไปเสนอสำนักพิมพ์ อย่ามองว่านักเขียนคือ ‘ติสต์’ จะทำทั้งทีต้องรอให้มีอารมณ์ ดิฉันคิดว่านักเขียนคือช่างฝีมือมากกว่า ช่างฝีมือก็คือบุคคลที่รู้เทคนิคและสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง จนกระทั่งสำเร็จ

       “ข้อที่สอง คือ ความรับผิดชอบต่อสังคม อยากให้ถามตัวเองเสมอว่าสิ่งที่เราเขียนไปนั้น คนอ่านเขาจะได้อะไร ไม่ใช่อยากเขียนเลิฟซีนก็บรรยายทุกซอกทุกมุม อย่าลืมว่าหนังสือของคุณไม่ได้วางไว้เพื่อคนวัยเดียวกับคุณเท่านั้น เด็ก 7-8 ขวบก็มีสิทธิ์มายืนอ่านหนังสือของคุณได้ ดังนั้นอยากให้กลั่นกรองก่อนว่าถ้ามีคนมาอ่านของคุณ เขาจะคิดอะไร เขาจะได้อะไร เพราะหากคุณเป็นนักเขียนที่หวังความดังเพียงชั่วข้ามคืน แต่ไม่ได้นึกถึงผลกระทบที่จะตามมา ดิฉันก็เชื่อว่าคุณคงไม่สามารถทำงานในสายนี้ได้อย่างยั่งยืน”

       ชัดเจนทุกคำตอบ เอาเป็นว่าท่านใดอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ คุณวรรธนวรรณ หรือต้องการข้อแนะนำอื่นใดนอกเหนือจากนี้ สามารถเข้าไปได้ที่ www.watcafe.com แล้วคุณจะพบว่าการเป็นนักเขียนนวนิยายดีๆ สักเรื่อง ไม่ได้ยากเย็นอย่างที่คิด






Free TextEditor



Create Date : 15 มิถุนายน 2551
Last Update : 15 มิถุนายน 2551 16:00:37 น.
Counter : 1253 Pageviews.

23 comments
  
ไม่ทราบว่างานออกบูธที่ เดอะมอลล์ บางกะปิ ช่วงปลายเดือน คุณวรรณวรรธน์จะไปหรือเปล่าค่ะ อยากได้ลายเซ็นต์ค่ะ จะแวะไปซื้อหนังสือเล่มอื่น ๆ ด้วย อยากได้ข้าบดินทร์ กับบัลลังก์สายหมอก (ตอนนี้มีแค่ ฤกษ์สังหาร ชอบมากเลย)
โดย: latics1 วันที่: 15 มิถุนายน 2551 เวลา:16:49:31 น.
  
คงไม่มีโอกาสได้ไปค่ะ เพราะช่วงนี้กำลังดูแลสองเรื่องใหม่อยู่
อาจจะได้พบกันช่วงงานสัปดาห์หนังสือเลยค่ะ

ขอบพระคุณมากๆๆนะคะ คุณ lactics1 ที่ติดตาม
โดย: โตมิโต กูโชว์ดะ วันที่: 15 มิถุนายน 2551 เวลา:17:14:22 น.
  
เพิ่งได้อ่าน ฤกษ์สังหาร ของคุณโตมิฯ ค่ะ สนุกมากๆๆ
โดย: กุลธิดา IP: 71.30.71.99 วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:3:14:53 น.
  
อ่านผลงานเล่มแรกของพี่วรรณ์วรรธน์เล่มแรกก็เรื่องจันทราอุษาคเนย์ สนุกมากๆจนอดใจไม่ไหวอยากจะรู้ว่าเรื่องอื่นแต่งสนุกเหมือนเรื่องนี้รึป่าว เลยไปสอยเรื่องฤกษ์สังหารมาอ่าน ในที่สุดก็ได้บทสรุปว่าไม่เสียดายกะตังค์เลยที่ซื้อนิยายของพี่ (ชมจิงๆนะคะป่าวยอนะ) อิอิ เด๋วรอผลิตกะตังค์อีกสักพักแล้วจะทยอยซื้อเล่มอื่นมาอ่านนะคะ ขอบคุณอีกเรื่องนะคะที่ตอนจบของเรื่องฤกษ์สังหารไม่เป็นอย่างที่พี่ลงในเว็บ หนูเพิ่งเข้าไปอ่านมาเมื่อกี๊ นี่ก็ยังคิดอยู่เลยว่าไม่น่าเข้าไปอ่าน เกือบจะคิดติดลบกับมหากระทิงหน้านวลซะแล้ว แต่คิดไปคิดมายังไงบทนั้นก็ไม่ได้มีในหนังสือ เลยยังหลงรักมหากระทิงต่อไป หุหุ (ข้อความยาวหน่อยคงไม่ว่ากันนะคะ)
โดย: ขี้ไก่ IP: 58.8.170.65 วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:14:52:41 น.
  
คุณกุลธิดา
ขอบพระคุณมากค่ะ ทั้งปลื้มใจและขอบพระคุณในความกรุณาของนักเขียนด้วยกัน ที่ได้มาทักงานของโตมิฯ แบบนี้ เพราะคุณกุลธิดาก็เป็นคนหนึ่งที่ตัวเองปลื้มผลงานเช่นกัน งานของคุณกุลธิดาก็มีคุณภาพมากเลยค่ะ ทั้งดาวเหนือ และเรื่องบันทึกคุณหญิงไอริณ (ชื่อผิดพลาดต้องขออภัยค่ะ ) และโดยส่วนตัวแอบปลื้มมาตลอดกับนักเขียนที่พยายามทำงานคุณภาพดีๆออกมา และตรงนี้ต้องขอขอบพระคุณในความกรุณาที่ให้โอกาสอ่านงานของ วรรณวรรธน์ และยังทิ้งข้อความไว้ให้ในบล๊อคนี้นะคะ ต้องขอขอบพระคุณมากจริงๆค่ะ

คุณขี้ไก่ ขา
ขอโทษด้วยนะคะที่ตอนพิเศษในเวบที่เก็บไว้ อาจทำร้ายจิตใจคนอ่าน แต่อุตส่าห์แอบไว้แล้วนะนั่น....ได้อ่านแล้วก็...ค่ะ คุณมหาไม่ได้ทำหรอก คนเขียนต่างหากที่ทำ 5555
โดย: โตมิโต กูโชว์ดะ วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:18:50:47 น.
  
ไม่ซีเรียสหรอกค่ะพี่วรรณวรรธน์ ตอนนี้อะไรที่เป็นหัวข้อเกี่ยวกับคุณมหาหน้านวลไก่ก็เข้าไปอ่านทั้งนั้นแหล่ะ กำลังอยู่ในช่วงฟีเวอร์ อิอิ หลังจากที่หลงรักองค์จิตรเสนไปแล้ว หุหุ แลดูเป็นผู้หญิงหลายใจเน๊อะ พี่วรรณวรรธน์ไปงานสัปดาห์หนังสือทุกครั้งรึป่าวคะ อยากเจอตัวจริงเสียงจริงของพี่อ่ะค่ะ อยากได้ลายเซ็นต์นักเขียนคนโปรดมั่งอ่ะ^-^ ขอสมัครเป็นแฟนคลับด้วยคนนะคะ
โดย: ขี้ไก่ IP: 124.120.93.237 วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:22:48:43 น.
  
สั่งซื้อ จันทราอุษาคเนย์ แล้วค่ะ กำลังคอยหนังสืออย่างใจจดใจจ่อค่ะ กว่าหนังสือมาถึงที่นี่จากเมืองไทยประมาณ 2 เดือนแน่ะค่ะ
โดย: กุลธิดา IP: 206.74.241.31 วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:5:29:05 น.
  
สองเรื่อง!!!
เจ้าป้าทำได้ไงเนี่ย ???
โดย: คีตาญชลี วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:22:26:52 น.
  
แอบติดตามผลงานอยู่เงียบๆ นะคะ ชอบทุกเรื่องเลยค่ะ โดยเฉพาะ จันทราอุษาคเนย์ อยากสารภาพว่า ครั้งหนึ่งเคยเมิน เพราะเรื่องคำศัพท์ค่ะ แต่พอมาเจอตอนพิมพ์ครั้งที่ 2 ลองเปิดอ่านละเอียดกว่าเดิม ติดใจ ขนาดอ่านซ้ำไปซ้ำมาก็ยังไม่เบื่อเลยค่ะ อีกเรื่องที่ชอบคือ บัลลังค์สายหมอก อยากให้มีคนมาให้เชคแบบนั้นบ้างจัง อิอิ

จะติดตามผลงานต่อไปนะคะ ขอให้ผลิตผลงานคุณภาพออกมาเยอะๆ นะคะ
โดย: pukpik IP: 58.9.153.42 วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:22:38:14 น.
  
ป้าลงหนังสือแล้วเหรอคะ ยินดีด้วยค่า ทีแรกอ่านเป็นหนังสือชุมทางเสียงทอง(อย่างรายการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งน่ะค่ะ) ตกใจหมด กลัวพี่เบี่ยงเบนไปออกเทปแทน อิอิ

คห.ตรงช่วงมุมมองนิยาย/ละครไทย โดนใจมั่กๆ เลยค่ะ อยากให้ผู้จัดละครอ่านกันเยอะๆ เลย ละครไทยจะได้พัฒนาสู้กับต่างชาติได้ แต่จนกว่าจะถึงวันนั้น ขอรักละครเกาหลีเป็นที่หนึ่งต่อไปก่อนแล้วกันค่ะ ไม่รู้ว่าพี่วรรธน์ดูเรื่อง Thank You รึยัง ถ้ายังจะบอกว่าอย่าดูนะคะ ละครดีมากๆ บทละครได้รับรางวัลมาเยอะเลย แต่สะเทือนใจคนเป็นแม่มากเช่นกันค่ะ เกรงพี่วรรธน์จะอินจัด
โดย: Kitsunegari วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:49:12 น.
  
น้องสาวจิ๊บไปสะกิดให้มาอ่านค่ะอ่าน...จะตามไปเก็บหนังสือง่ะ...คิดถึงพี่วรรธ...น้อยกว่าผลงานพี่จิ๊ดหนึ่งค่ะ หุๆ

ตกลงหนังสือชุมทางอาชีพนะคะ...ไม่ใช่เสียงทอง
555...คิดได้งัยเจ้าจิ๊บ
โดย: ...กิ๊ก... IP: 125.25.199.127 วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:50:19 น.
  
เป็นบทความที่ประทับใจค่ะ พูดเรื่องละครบ้านเราได้ถูกใจที่สุดเลยค๊า สมเป็นนักเขียนมือคุณภาพจริง ๆ
โดย: มนตรา IP: 202.57.174.56 วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:11:18 น.
  
ติดตามงานของคุณวรรณวรรธน์(ที่ตอนแรกเห็นนามปากกานึกว่าผู้ชาย) ได้ไม่นานแต่รู้สึกติดใจในงานเขียน
เพราะงานของคุณวรรธน์(เรียกงี้ละกันนะคะ)อิงจากข้อมูลจริง รวมถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของไทยและใกล้ๆไทย
ซึ่งส่วนตัวเป็นคนชอบแนวนี้อยู่แล้ว กะว่าจะสอยอัสวัดมาอ่านซะหน่อย แต่คงรองานสัปดาห์รอบที่จะถึงค่ะ -*- งบหนังสือตอนนี้หมดเกลี้ยง หุๆ หวังว่าจะได้เห็นเรื่องใหม่ตอนงานสัปดาห์รอบนี้นะคะ
โดย: ชานมผสมโกโก้ (พายุสีเงิน ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:09:09 น.
  
ชอบผลงานของพี่มากเลยค่ะ
ตอนนี้พยายามไล่อ่านอยู่ค่ะ

ขอบคุณสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานดีๆ นะคะ
โดย: ปณาลี วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:38:53 น.
  
แวะมาทักทายค่ะ
รองานเขียน ทรายนี้นังมีรักอยู่ค่ะ
พยายามข่มใจ คิดว่าหายใจ 2 ครั้งก็คงถึงงานหนังสือ
แล้วแหละ
เอาใจช่วยเจ้าป้าและแอบเป็นแฟนคลับเงียบๆ อยู่ค่ะ
โดย: uza! IP: 125.24.185.70 วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:30:49 น.
  
สวัสดีค่ะ ลูกหลับแล้ว งานบ้านก็เสร็จเรียบร้อย เลยแวะมาเยี่ยม เป็นแฟนพันธ์แท้ค่ะ สมัยที่ อัสวัด ราชันย์แห่งความมืด ออกใหม่ ๆ อ่านไปแล้ว ฝันถึง เจ้าชายซาเร็ม อัสวัดทุกคืนเลย จนแฟนบ่น 555 มีหนังสือของพี่ทุกเรื่องเลย อ่านตั้งแต่ยังไม่มีลูก ไปยืนรอคอยลายเซ็นต์ที่บูธ ณ บ้านวรรณกรรมก็เคย อ่านเรื่องละ 2-3 รอบ ชอบมากค่ะ ตอนนี้กำลังรอ ทรายนี้ ยังมีรัก ไม่ได้อ่านของนักเขียนท่านอื่นเลย (อ่านเฉพาะของพี่ กับนิตยสารรักลูก) เพราะว่าไม่มีเวลาไปเดินร้านหนังสือ หรืองานหนังสือ ต้องเลี้ยงลูกหนะค่ะ รอให้โตอีกหน่อย จะจูงไปสวัสดีพี่... อีกอย่างมั่นใจในผลงานเขียนของพี่ว่าต้องสนุกไม่แพ้เล่มก่อน ๆ เป็นแน่ จะรอนะค่ะ
โดย: แม่น้องเอิง IP: 58.64.66.142 วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:56:51 น.
  
ขอบคุณคุณคีฯ ค่า จะพยายามให้ได้อย่างนั้นจริงๆนะคะ

Pukpik ขอบคุณที่ติดตามค่ะ บัลลังก์สายหมอก ทำให้ใครต่อใครอยากไปภูฏานมากขึ้น จริงๆนะคะ...ดีใจที่คุณpukpikชอบเรื่องนี้ค่ะ

Kitsunegari แฮ่ม ถ้าเป็นชุมทางเสียงทองจริงๆ ...ไม่ได้สัมภาษณ์เจ้าป้าแค่นี้แน่...แถม วีซีดี พร้อมเอ็มวี เป็นกรณีพิเศษ ตามมาด้วยแน่นอนค่ะ อิอิ

น้องกิ๊กขา หวัง ว่างานสัปดาห์นี้เราจะได้เจอกันอีกนะ เจ้าป้า ช่วงนี้สงสัยจะไม่ค่อยได้ไปบ่อยๆค่ะ เพราะย้ายที่ทำงานมาไกลมากเลย

มนตรา ....วี๊ว ตัวลอยค่ะ ขอบคุณค่า คุณมนตรา จริงๆแล้วคิดว่าคนดูละครไทยทุกคนก็อยากพูดอย่างที่เจ้าป้าพูดเองนี่แล จริงไหม

ชานมผสมโกโก้ (พายุสีเงิน) ขอบพระคุณค่ะ อันที่จริง โตมิฯ กด็เข้าไปบล็อกคุณพายุสีเงินบ่อยๆค่ะ เพราชอบเรื่องที่เขียนคอมเม้นท์ ข้าบดินทร์ จริงๆ...เวลาเหนื่อยๆหมดแรง เข้าไปอ่านทีไร...ชุ่มชื่นหัวใจ มีแรงทำงานอีกเยอะเลยค่ะ ต้องขอขอบพระคุณ มากๆๆๆ นะคะ ที่มำให้คนเขียนคนหนึ่งมีกำลังใจได้ ขอบพระคุณจริงๆค่ะ

ปณาลี ขอบพระคุณนะคะ จะพยายามทำงานออกมาให้ดีให้ได้ค่ะ ถึงไม่สามารถมีอะไรการันตีความดีได้ ก็หวังแต่คนอ่านจะถูกใจกับงานบ้างไม่มากก็น้อย กับทุกๆชิ้นที่พยายามเขียนออกมาก็อยากให้ถูกใจคนอ่านทุกคนค่ะ ขอขอบพระคุณมากค่ะคุณ ปณาลี

uza! แค่มาตอบความเห็นก็เป็นพลังยิ่งใหญ่ของคนเขียนแล้วค่ะ....ขอบพระคุณสำหรับการติดตามค่ะ

แม่น้องเอิง โอ้โห...ติดตามมากันยาวนานขนาดนี้ ไม่รู้จะขอบพระคุณเท่าไหร่จึงจะพอเชียวนะเนี่ย ตอนนี้ก็หวังว่าเรืองหใม่จะออกมาดีให้ได้ค่ะคุณแม่น้องเอิง อย่างไรห็ขอฝากติดตามด้วยนะคะ มีอะไรแวะเวียนทักทายแนะนำกันได้ค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ



โดย: โตมิโต กูโชว์ดะ วันที่: 1 สิงหาคม 2551 เวลา:20:03:34 น.
  
เรื่องต่อไปเรื่องอะไรเอ่ย พลอยรอซื้ออยุ่ค่ะ
โดย: pem_kesang (ployzeus ) วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:15:51:34 น.
  
^
^
....เร็วๆนี้จะออก "ทรายนี้..ยังมีรัก" ค่ะ

คาดว่าวางแผงเดือนตุลาคมนี้ค่า
โดย: โตมิ วรรณวรรธน์ IP: 58.9.196.23 วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:18:33:56 น.
  
ดีคะ ขอเป็น สมัครที่นี่ด้วยคนนะคะ

ชอบอ่านนิยายพี่เหมือนกันคะ

แล้วจะไปซื้อมาอ่านคะ ออกตุลานี้ชัวร์ใช่ไหมคะ

"ทรายนี้ยังมีรัก"
โดย: LoveBlackMoon วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:10:22:57 น.
  
อีกนิดหนึ่ง ขอแอดเป็นเพื่อนด้วยคนนะคะ
โดย: LoveBlackMoon วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:10:26:32 น.
  
ขอบคุณค่า
โดย: โตมิโต กูโชว์ดะ วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:9:45:49 น.
  

ชอบจังค่ะ ^___^
คุณพี่โต ทำให้กิ๊กทราบว่า แท้จริงแล้วกิ๊กชอบอ่านนิยายแนวไหน

ขอบคุณจากใจค่ะ
กิ๊ก
โดย: ชีวิตชีวา วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:18:23:34 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

โตมิโต กูโชว์ดะ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ร่างทรงของ "วรรณวรรธน์" โปรดอย่าถามว่าเป็นใครในอดีต รู้แต่ว่าตอนนี้ยังมีลมหายใจอยู่ เท่านั้นก็มากเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งได้รู้จักกันแล้ว
New Comments
มิถุนายน 2551

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog