บล๊อคสารภาพบาป::: อ่านแล้วจริงๆหรือ

ทีแรก ว่าจะเขียนเรื่องวิจารณ์หนังสือที่ตัวเองอ่านในหน้านี้ ทันที แต่บังเอิญวันนี้ได้ไปที่เวบคุณ เฟย์ดอต มา ได้อ่านข่าวของ Museums, Libraries and Archive Council (MLA) ที่บอกว่า หลายคนชอบโกหกว่าอ่านหนังสือเรื่องนั้นเรื่องนี้ ทั้งที่ไม่ได้อ่าน อ่านแล้วขำก๊าก เลย เพราะข่าวนี้ช่างเหมาะเจาะตัวเองอะไรอย่างนี้

จะบอกว่าตัวเองเป็นนัก(ไม่)อ่าน อย่างที่คุณเฟย์ดอท ว่ามาไหม ก็คิดว่าน่าจะใช่ เพราะตัวเองไม่ใช่คนอ่านหนังสือประเภทFiction แต่อยู่ท่ามกลางผู้คนที่อ่านหนังสือแบบนี้ หลายครั้งมีคนมาถามหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้ ให้มีความรู้สึกว่าจำเป็นต้องพูดอย่างลิ้นแข็งๆตอบไป ว่าอ่านแล้ว (แต่คนรู้จักเจ้าโตมิฯ ดี จะหันมาแยกเขี้ยวใส่ลับหลัง ทำนองว่า...หน้าอย่างแกจะไปอ่านเล่มนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ)

เหมือนกรณีหน้าบล๊อคที่แล้วเช่นกัน ที่บอกว่า ตัวเองไม่ค่อยปลื้มเจ้าชายน้อย เล่มนั้นเพราะอ่านจบจริงๆ อ่านเพราะตามกระแส เล่มมันบางด้วย แต่อ่านแล้วก็บอกตัวเองตามนั้น บล๊อคที่แล้วมีหลายคนบอกทำนองว่า หากจะบอกว่า "ไม่ค่อยชอบ" หนังสือเล่มนั้น จำเป็นต้อง "กระซิบคุยกัน" อันนี้เข้าใจเลยค่ะ ถ้าไปอยู่ท่ามกลางกระแสคนที่เขาชื่นชอบกันแล้ว เราไปยืนป่าวร้องว่าไม่ชอบ ได้ถูกมองเป็นแกะดำแหงม
("แล้วนี่หล่อนกำลังเขียนอะไรอยู่....จะทำเป็นบล๊อคแกะดำละสิ"
"คงงั้นมั้ง" ::โหมด เถียงกับตัวเอง)


หลายคนในวงการหนังสือ หรือที่สนทนาเรื่องหนังสือ คงจะใช้คำโกหก ว่า "อ่านแล้ว" หรือ "เคยอ่าน" สำหรับหนังสือเล่มต่างๆที่ทีคนพูดถึงกัน อันนี้ ก็เป็นสิ่งที่กระตุ้นตัวเราเองว่า ต้องพยายามหาทางเอาเรื่องนั้นๆมาอ่านเพื่อจะได้ไม่ตกกระแส และจะได้ โกหกได้แนบเนียนยิ่งขึ้นว่า "อ่านแล้ว" หรือ "เคยอ่าน" จริงๆ

อย่างตัวเองเคยตามกระแส จนหมดตังค์หลายพัน เพื่อซื้อเซต แดน บราวน์ มาอ่าน.....
การกระทำเช่นนั้น เป็นการกระทำที่สุดแสนวิปโยคที่สุดในชีวิต
เพราะตัวเองไม่สามารถทนอ่าน ดาวินชี่โค้ด ได้จนจบ ได้แค่ร้อยยี่สิบหน้า...แล้วต้องวาง จนทุกวันนี้มันก็ยังอยู่แค่ร้อยยี่สิบหน้าตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อนไปไหน เพราะไม่ชอบ ประกอบกับอ่านๆไปแล้ว..ไม่รู้เรื่อง.....สารภาพออกมาตามตรงแบบนี้ใครมาอ่านเข้าก็ชักสีหน้ากันเป็นแถว....แต่มันเรื่องจริงของตัวเอง.....เราอ่านไม่รู้เรื่องนี่นา อ่านแล้วไม่เก็ตตั้งหลายอย่าง ห้ามบอกว่า จขบ.โง่ แต่แดน บราวน์ เขียนอะไรที่ซับซ้อนเกินรอยหยักของดะฮั๊น ก็ให้บรรดาทั่นที่มีรอยหยักเพียงพอตามอ่านกันเองก็แล้วกัน แต่กับเรื่องอื่นๆของแดน บราวน์ เรากลับชอบมากๆๆนะคะ อย่างล่ารหัสลับ นั่น สนุกอย่าบอกใคร อ่านแล้ววางไม่ลงเรียกไปทานข้าวยังอุ้มไปนั่งอ่านไปทานไป แต่ถามว่าเวลาไปคุยเข้าวงสนทนาถึงแดน บราวน์ เราสมควรจะพูดถึงเรื่องอะไรก่อน......แน่นอนค่ะ คง ดาวินชี่ โค้ด นะแหละ ตามมารยาทสังคม แล้วค่อยเอ่ยถึงเรื่องที่ตัวเองชอบจริงๆกระมิดกระเมี้ยนมาทีหลัง


หนังสือไทยก็เหมือนกัน มักจะมีคนถามถึงหนังสือดังๆ ที่ได้ซีไรต์บ้างได้รางวัลบ้าง หรือที่ดังๆ ติดหูขจรขจาย คนก็จะถามว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้อ่านหรือยัง ...ก็อ่านะ

โดยเฉพาะ ซีไรต์...ทำไม้ ทำไม เป็นไม้เบื่อไม้เมา กับอะฮั๊น นักหนาก็ไม่ทราบ อ่านจบจริงๆและหลายๆรอบมีเพียงสองเรื่องเท่านั้น คือ ลูกอีสาน กับคำพิพากษา นอกนั้น...อ่านไม่จบสักเรื่องเลยค่ะ ที่ได้ปีหลังๆนี่ก็ เฮ้อ....ถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก ว่าจะอ่านๆ จะอ่าน พอมีคนถามว่า อ่านงานซีไรต์ปีนี้หรือยัง ถ้าคนไม่คุ้นหน้า ก็จะยิ้มหน้าบานๆพูดประโยคนี้

"สนุกดีนะคะ"
ประโยคนี้ตีความหมายได้ว่า = ช่วยตีความเอาเองเถอะค่ะว่าอะฮั๊น อ่านไม่อ่าน


ยอมรับนะ ว่าการอ่านแล้วหรือยังไม่อ่าน มันเป็นเรื่องของ "สังคม" "กระแส" อย่างหนึ่ง

อย่างหนังสือที่คุณเฟย์ดอต เอามาเป็นตัวอย่างนั่นก็เหมือนกัน มาดูนะ ว่า จขบ อ่านแล้วจริงๆ และจบ มีกี่เล่ม


1. The Lord of the Rings – J.R.R Tolkien = อ่านภาคแรกจบ พร้อมเครียดกับภาษา ภาคสองภาคสามดัดจริตซื้อมาแต่ไม่กล้าอ่าน ขณะนี้ดองเค็มได้ที่อยู่ใต้ชั้นหนังสือ

2. War and Peace – Leo Tolstoy = อันนี้เพิ่งซื้อมา กำลังทำสมองให้โล่งๆ พร้อมจะอ่าน อ่านจบจริงๆเป็นเรื่อง นิทานของตอลสตอย ค่ะ

3. Wuthering Heights – Emily Bronte = ไม่อยากอ่าน กลัวเป็นบ้าเหมือนพระเอก

4. Men are from Mars, Women are from Venus – John Gray = อ่านคร่าวๆ เพราะมีคนซื้อให้อ่าน บังคับให้ตัวเองอ่าน แต่ไม่เข้าใจหนังสือทำนองฮาวทูแบบนี้ว่า....ทำไมคนเราต้องเสียตังค์เพื่อมาอ่าน เรียนรู้ตัวเอง 5555

5. 1984 – George Orwell = อันนี้อ่านจบ ชอบมาก ดูหนังด้วย อะไรแบบมากซิสต์อย่างนี้ละต้องอัธยาศัยที่สุด

6. Harry Potter and the Philosophers Stone – J.K Rowling = กว่าจะตัดสินใจอ่านภาคแรกก็ตอนที่ภาค 5 นกฟีนิกซ์เล่มแปลตีพิมพ์ออกมาแล้ว เพราะดูหนังเรื่องนี้ก่อนแล้วก็ให้สงสัยว่าในหนังสือมันสนุกยังไง แต่พออ่านแล้ว ถึงรู้ว่า....ชอบดูหนังมากกว่า มันส์กว่า...โดยเฉพาะ ภาคถ้วยอัคนี

7. Great Expectations – Charles Dickens = อันนี้ผ่านเลยค่ะ ไม่เคยได้ยินชื่อเหมือนกัน

8. Jane Eyre – Charlotte Bronte= กระโดดผ่านไปเลย นิยายสไตล์นี้......ไม่ชอบง่ะ

9. The Da Vinci Code – Dan Brown = เล่าไปแล้วว่าอ่านได้ร้อยยี่สิบหน้า...เปิดต่อไม่ไหว มือเป็นอัมพาตง่อยเปลี้ยเฉียบพลัน

10. Diary of Anne Frank – Anne Frank = อันนี้อ่านแล้วไม่คิดจะอ่านอีกเลย บังเอิญว่าตัวเองได้อ่าน สี่ปีนรกในเขมร มาก่อนอ่านเล่มนี้ เลยไปชอบเล่มนั้นมากกว่า



คิดว่ามีหนังสือไทยอีกหลายๆเล่ม ที่หลายๆคนต้องเคยพูดโกหกว่า อ่านแล้ว หรือ เคยอ่าน ทั้งที่อาจจะไม่ได้เปิดออกมาเลยสักหน้าเดียว....พูดได้เลยว่า หนังสือที่วางจำหน่ายกันตามท้องตลาดทุกวันนี้...นอกจากหนังสือของตัวเองแล้ว ก็อ่านเล่มอื่นน้อยค่ะ......น้อยมากจริงๆ

แต่หลายๆคนที่แวะเวียนมาบล๊อคนี้ อาจจะบอกอย่างจริงใจว่า นอกจากหนังสือของ จขบ.แล้ว หนังสือเล่มอื่นๆที่วางบนแผง เปิดอ่านหมดทุกเล่มเลย........
จริงใจแบบนั้นไม่ต้องบอกก็ได้นะค้า.... ช้ำหัวจาย

การพูดไม่จริงว่า "อ่านแล้ว" ในบางเวลาก็เป็นสิ่งที่ยังสมควรทำอยู่เช่นกัน


.......จาก มิสซิส ดับเบิ้ลแสตนดาร์ต.........





Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2550 9:24:38 น.
Counter : 868 Pageviews.

41 comments
  
ไม่ชอบเจ้าชายน้อยเหมือนกันเลยค่ะ แต่โทเคไม่เคยกระซิบนะคะ บอกออกไปตรงๆเลย เหอๆ

แวะมามอร์นิ่งค่า
โดย: tokei/tookei วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:59:35 น.
  
เห็นพี่โตฯ เข้ามาอัพแต่เช้า
ขออนุญาตแวะมาทักทายนะคะ

ส่วนตัวไม่เคยพูดแก้เกี้ยวว่าอ่านแล้ว
สาเหตุเพราะ ไม่เคยอ่าน
คือ ปกติเป็นคนที่อ่านหนังสือน้อยอยู่แล้ว
วรรณกรรมระดับโลกยิ่งไม่ต้องพูดถึง
พูดมาเหอะ ชื่อหนังสือน่ะรู้จัก แต่ไม่เคยอ่าน

แห่ะๆ และถ้ามีคนถามว่าอ่านเรื่องนั้นเรื่องนี้หรือยัง
จะตอบอย่างเต็มปากเต็มคำว่า "ไม่เคย" ฮา ฟังดูเหมือนโลกแคบยังไงพิกล
อีกอย่าง เพราะเป็นคนที่ชอบดูหนังมากกว่าอ่านหนังสือด้วยค่ะ
ก็เลยเป็นเหตุให้พลาดวรรณกรรมดีๆ ไปเยอะ
ใครแนะนำเล่มไหนมาก็จำเอาๆ ไว้ ปะเหมาะสบโอกาสดีเมื่อไหร่ ค่อยไปตามมาอ่านทีหลัง


สวัสดีเช้าวันเสาร์ค่ะ
โดย: อัญชา วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:03:27 น.
  
เย้...มีคนมาอ่านบล๊อคคนบาปของเรา ตั้งสองคน

คุณโทเค ค่ะ
คิดว่า คงมีคนไม่ชอบเรื่องนี้มากกว่าที่ตัวเองคิดไว้ค่ะ ^___^

คุณอัญชา
พี่เองก็อยากบอกเหมือนกันว่า ยังไม่ได้อ่าน....แต่บางที เป็นคนรู้จักกันมาถาม...เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ หากบอกว่า ไม่เคยอ่านตัวพี่เองอาจจะทำน้องเขาเสียใจได้ บางทีต้องเลี่ยงๆไปทำนองนั่นละ "สนุกดีนะ" แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องคุย...5555 ผิดศีลก็ถือว่ากระทำไปโดยสุจริตละค่ะ
โดย: โตมิโต กูโชว์ดะ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:20:46 น.
  
จะบอกว่า วรรณกรรมระดับโลก ตัวพี่เองก็อ่านน้อยค่ะ

แต่ระดับไหนที่เราจะบอกว่าอ่าน....อันนี้พี่ก็ไม่มีมาตรฐานของตัวเองเหมือนกัน

เพราะหนังสือที่วางบนแผง ออกใหม่แต่ละวัน ถ้าไม่ซีลปกพลาสติค รับรอง ไม่เคยพลาดขี้มือพี่ เพราะตัวเองจะเป็นคนขลุกตัวอยู่ในร้านหนังสือเป็นประจำ จะเดินเปิดอ่านหนังสือ ที่ออกใหม่ ประเภทนิยายนี่จะเปิดอ่านทุกเล่ม ดูเนื้อหา โครงเรื่อง ดูสำนวน พล๊อต แต่ไม่เคยซื้อถ้าไม่คิดว่าอยากเอามาใช้เวลาอ่านจริงๆจังๆ มักจะกลับไปอยู่กับกองหนังสือของตัวเองตามเดิมมากกว่า จะว่าปิดหูปิดตาไหม ก็คิดว่าปิดค่ะ

พี่คิดเอาเองนะคะ อาจเป็นความคิดที่ไม่ถูกก็ได้.....ว่าในฐานะคนเขียนหนังสือ การอ่านประเภทบันเทิงอย่างจำกัด จะสามารถรักษาสมดุลให้กับตัวเองได้ดีค่ะ เพราะต้องป้องกันสำนวน ป้องกันความคิดตัวเองไม่ให้ไหลเลื่อนไปตามเรืองราวหรือความบันเทิงที่มาจากตัวหนังสือของคนอื่น แต่หนังสือที่อ่านเพื่อเพิ่มเติมข้อมูล การเก็บข้อมูลและกระตุ้นความคิดบางอย่าง จำเป็นสำหรับคนเขียนค่ะ ดังนั้นการอ่านหนังสือของตัวเอง แม้บางทีเป็นหนังสือบันเทิง แต่อ่านคนละวัตถุประสงค์ ก็จะมีลักษณะการอ่านที่ต่างๆกันออกไป

ยิ่งพูดยิ่งวกวนนะคะ....แต่เป็นอย่างที่ว่ามานั่นละค่ะ
โดย: โตมิโต กูโชว์ดะ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:38:51 น.
  
คล้ายๆ พี่โตฯ ค่ะ อัญมีโรคประจำตัวอย่างหนึ่ง คือถ้ากำลังเขียนเรื่องอยู่ จะไม่อ่านงานของใครทั้งสิ้น เพราะบางทีจะเผลอติดสำนวนของเขามา (ไม่ใช่ว่าเขียนเหมือนอ่านที่เป๊ะๆ นะคะ แต่สไตล์จะไปใกล้เคียงกับเรื่องที่เพิ่งอ่าน) จึงตัดปัญหาว่า ไม่องไม่อ่านละ เขียนไปก่อน ว่างเมื่อไหร่ค่อยอ่าน สรุปทั้งปีก็แทบจะไม่ได้อ่านหนังสือของใครเลยค่ะ
โดย: อัญชา วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:14:16 น.
  
หนูมาแอบอ่านของพี่ค่ะ เพราะว่าหนูก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ซื้อมาเก็บไว้ก็หลายเล่มเพราะไม่ตรงกับแนวของตัวเอง แต่กลัวตกกระแสค่ะ...

ขอสวัสดีตอนเช้าอีกคนค่ะ
โดย: gupgib IP: 125.26.33.167 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:08:39 น.
  
โดยส่วนตัว เรื่องปด ว่าอ่านจบเนี่ย ไม่เคยค่ะ...
แต่บ่อยมากที่ปด..ว่า...อืมม น่าอ่านจัง ต้องลองไปหาดู แหะ แหะ...
คือ...บางแนว ก้ไม่ค่อยชอบน่ะค่ะ
แต่ที่ จขบ .พิมพ์มาทั้งหมด เห็นด้วยทุกคำจ้า...
โดย: เสือจ้ะ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:20:01 น.
  
ส่วนตัว อ่านก็บอกอ่าน ไม่อ่านก็บอกว่ายัง

จะมีก็แต่เล่มที่บอกว่า น่าสนใจ....อันนี้เป็นกรณี อาจหาหรือไม่หามาอ่านก็ได้ แล้วแต่ว่าจะสนใจขนาดไหน หรือบางทีสนใจขณะคุย แต่หลังจากนั้นถ้าไม่เจอในระยะที่อยากก็อาจจะลืมไปเลย แต่หากภายหลังเจอแล้วจำได้ก็จะอ่านค่ะ

และจนทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้อ่าน แฮร์รี่ พอตเตอร์ จบสักเล่ม แต่ของแดนบราวน์อ่านแล้ว 2 เล่มค่ะ
โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:22:37 น.
  
คิคิคิ เห็นด้วยตามความเห็นของจขบ.อ่ะครับ บางครั้งโกหกไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกครับ แต่ระวังติดนิสัยนะครับ

โดย: sak (psak28 ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:32:48 น.
  
ไม่ ((คิดว่า)) เคยปดนะคะ ฮา

แต่อ่านแล้วไม่ชอบ อ่านแล้วไม่จบ เยอะค่ะ เวลารีวิวหนังสือในบล็อก ถ้าอ่านไม่จบก็จะบอกว่า อ่านไม่จบนะคะ รีวิวแค่นี้แหละ ทนอ่านต่อไม่ไหวแว้ว เอิ๊กส์

ไอซ์เป็นคนไม่ค่อยตามกระแสนะ อ่านเพราะอยากอ่าน

บางเล่มที่รู้สึกว่า อ่านแล้วไม่ชอบตอนนี้ เวลาผ่านไปอาจจะชอบก็ได้นะคะ

อย่างเจ้าชายน้อยเนี่ย อ่านรอบแรกตอนเด็กมากๆ ไม่รู้เรื่องง่ะ ไม่ชอบเลย มาอ่านอีกทีตอนโตกลับชอบค่ะ

ส่วนวรรณกรรมระดับโลก ดองเอาไว้เพียบค่ะ ฮา กะว่าจะอ่านในสักวัน

^^
โดย: Clear Ice วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:13:28 น.
  
คิดว่า ไม่เคยปดเหมือนค่ะ ว่า เคยอ่านแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่เคยอ่าน

เคยแต่อยากอ่านเต็มไปหมด เวลาเห็นเค้ารีวิวกัน แล้วบอกว่าจะหามาอ่านดูบ้าง
แต่มีบางเล่ม ( จริงๆ หลายอยู่เหมือนกัน ^^' ) ที่บัดนี้ก็ยังไม่ได้อ่านสักที เพราะยังหาไม่เจอ
บ้างก็ลืมๆ ( แต่ถ้าเจอคงนึกออกมั้งคะ ) ไป

ส่วน พวกซีไรต์ นี่ไม่ค่อยถูกกับคอเล่าเหมือนกัน ไม่ค่อยกล้าอ่าน
เพราะรู้ว่าต้องอ่านไม่รู้เรื่อง ยอมรับเลยค่ะ ว่า ... หนูโง่ ไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้เขียนจะสื่ออะ

จำได้ว่าอาจารย์เคยให้อ่านเรื่องๆ หนึ่ง เป็นซีไรต์เหมือนกัน ( อันนี้ถูกบังคับนะคะ ไม่เคยคิดจะอ่านเลยจริงๆ แต่ขอไม่บอกชื่อหนังสือละกันนะคะ )
อ่านจบ แบบว่า ต้อง จบ เพราะต้องสอบน่ะค่ะ ถามตัวเองว่าได้อะไรจากหนังสือบ้าง
ปรากฏว่า กลวง ค่ะ ไม่เข้าใจสิ่งที่คนเขียนพยายามจะบอกเราสักกะนิด หลังจากนั้น เลยไม่ค่อยกล้าอ่านซัไรต์ เพราะกลัวค่ะ กลัวความโง่ของตัวเอง
โดย: คอเล่า IP: 202.44.135.35 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:00:31 น.
  
เหอเหอ กะลังจะเข้ามาบอกว่า นอกจากหนังสือของ จขบ. แล้ว

หนังสืออื่นบนแผงนี่ผมอ่านเกือบหมดเลยครับ แต่ช้าก่อน...

อย่าเพิ่งโกรธนะครับ เพราะผมไม่ค่อยได้อ่านนิยายไทยสักเท่าไหร่ครับไม่ค่อยถูกกัน


เรื่องล่าสุดที่อ่านก็ เพชรพระอุมา

แต่คิดว่างานหนังสือที่จะถึงจะลองหันไปอ่านนิยายไทยมั่งแล้ว ถึงตอนนั้นจะให้หนังสือ

ของ จขบ. เป็นตัวเลือกแรกเรยนะขอรับ
โดย: poser (poser ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:58:50 น.
  
จริงๆ อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง บางเล่มอ่านไปก็ยังไม่จบ ยอมรับค่ะว่า บางครั้งกระแสก็มีส่วนที่ทำให้ซื้อหนังสือ Great Expectation, Jane Eyre and The Diary of Ann Frank เป็นหนังสือที่โดนบังคับให้อ่าน เพราะเป้นหนังสือนอกเวลาวิชาภาษาอังกฤษ

เล่มแรก หนา ปาหัวหมาแตกเลย และศัพท์เป็นศัพท์อังกฤษโบราณ ซึ่งบางคำไม่มีในดิกชันนารี่ สรุป...ดูหนังดีกว่า แหะ แหะ

เรื่องที่ 2 กับเรื่องที่ 3 อ่านพอรู้เรื่องไม่ได้จับรายละเอียดลึกๆมากนัก เพราะ ดูเป็นภาพยนต์ค่ะ

ปล. ชอบนรกในเขมรเหมือนกัน
โดย: ดาว..กลางวัน (ดาว..กลางวัน ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:15:18 น.
  
ตามมาอ่านบล็อคค่ะ เพิ่งรู้ว่า 1984 มีหนังด้วย หนังนี่น่ากลัวเหมือนในหนังสือไหมคะ ตอนที่ได้อ่านหนังสือครั้งแรก รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดจริง ๆ แถมฉากจับพระเอกกับนางเอก (?) ได้ ยังเชือดนิ่ม ๆ จนสะดุ้งเลย - -''

แต่ที่ตกใจมากกว่าคือฉากที่ฝ่ายตัวร้ายพูดถึงจักรวาล ( หรืออะไรทำนองนั้นน่ะค่ะ ) ที่บอกว่าถ้าบิ๊กบราเธอร์บอกว่าไม่มี มันก็มีไปไม่ได้หรอก มันไม่มีหรอก เพราะทุกอย่างปรากฏและมีความหมายอยู่แค่ในความคิดของคนเท่านั้นเอง อ่านตอนนี้แล้วหลอนไปหลายวัน รู้สึกแปลก ๆ กึ่งแย่ ๆ กึ่งดี ๆ ยังไงก็ไม่รู้

ไม่ได้อ่านหลายเรื่องในลิสต์ บางเรื่องก็แอบอยากรู้แต่ไม่อยากอ่าน เลยให้เพื่อนเล่าให้ฟังแทน ^^'' หนังสือของดิกเคนส์อ่านเรื่องอื่นไม่ได้อ่านเรื่องนี้น่ะค่ะ ชอบ a Christmas Carol

พวก "เรื่องรันทด" ( โฮโลคอสต์, เขมรแดง ) พวกนี้ ที่ตัวเองอ่านแล้วจี๊ดมาก ๆ ก็มี หงส์ป่า แน่ ๆ เรื่องนึง เรื่องอื่น ๆ ก็มีจี๊ดเหมือนกัน แต่จำชื่อไม่ได้ซะอย่างนั้นน่ะค่ะ - -''
โดย: ลวิตร์ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:29:12 น.
  
เป็นคนใจกล้า หน้าด้าน พอที่จะบอกว่า
"ไม่เคยอ่าน" ค่ะ
สำหรับเล่มที่ไม่เคยอ่านจริงๆ

ถ้าอ่านแล้วไม่มีอะไรติดในหัวเลย มันก็อีกเรื่อง
แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ชอบแล้ว จะอ่านซ้ำอ่านซากได้ไม่มีเบื่อ

หนังสือปีนกะไดทั้งหลายก็พอมีอยู่ ส่วนใหญ่สามีอ่าน
ได้อาศัยใบบุญเขารีวิว และกระตุ้นให้อ่าน จะได้มาคุยกัน
บางทีเรารีบอ่านก่อน เพื่อจะมาแกล้งเล่าให้เขางอนซะมั่ง

ดังนั้นถ้าคุยเรื่องหนังสือ ถึงเรายังไม่อ่าน สามีก็อ่านค่ะ
คงพอแทนกันได้ อิอิ
โดย: ป้าหนอน วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:33:54 น.
  
จากตัวอย่างที่ยกมา ไม่เคยอ่านค่ะ
ยกเว้น Wuthering Heights ที่อ่านจบตอนไปเที่ยวอังกฤษ
(อ่านตอนกลางคืน สรรพคุณใช้แทนยานอนหลับได้ 555
และเผื่อจะฝันหวาน มีหนุ่มเรดคลิฟฟ์มากู่เรียกในฝัน)

ส่วนนิยายของจขบ. ..... อ่า มีเปิดอ่านไปบ้างค่ะ
(พูดจริงนะ)

โดย: ยาคูลท์ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:1:28:48 น.
  
รู้สึกเหมือนเขียนงง ๆ - -'' "เรื่องรันทด" ของเรา หมายถึงเรื่องโทนมนุษย์ทำร้ายมนุษย์ด้วยกันเองน่ะค่ะ อย่างเช่น โฮโลคอสต์ หรือเขมรแดง ( บันทึกแอนน์ แฟรงค์ กะสี่ปีฯ )

จัดหงส์ป่าเป็นชุดเดียวกันด้วยดีกรีความรันทด แต่จริง ๆ หงส์ป่ามันอยู่ในเมืองจีนตอนปฏิวัติวัฒนธรรมน่ะค่ะ
โดย: ลวิตร์ IP: 124.120.144.167 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:1:43:37 น.
  
สวัสดีค่ะ น้องgupgib
พี่ว่าคงเป็นอย่างนี้หลายคนเหมือนกันค่ะที่ตัดสินใจซื้อหนังสือสักเล่มเพราะตามกระแส....สารภาพตรงๆว่าตัวพี่ยังเป็นเลยค่ะ ซื้อเพราะอยากรู้ว่าหนังสือเหล่านั้นเป็นอย่างไร โดยเฉพาะนิยายแปลโรแมนซ์ ซื้อมาทีไร น้ำตานองหน้าทุกที ระยะหลังเลยตามหาแต่หนังสือมือสองค่ะ เวลาเซ็งจะได้เซ็งแค่ 50%

คุณเสือจ้ะ
ทีแรกคิดว่าจะไม่มีใครเป็นอย่างเราเสียแล้ว แต่พออ่านคุณเสือจ้ะแล้ว ค่อยอุ่นใจขึ้นค่ะ

คุณ ~:พุดน้ำบุศย์:~
เรื่องที่เราสนใจจะสนใจมากขนาดไหน และนานขนาดไหน ข้อความนี้น่าคิดค่ะ เพราะหนังสือเป็นเรื่องของรสนิยมเฉพาะตัว คิดว่าเพราะ คำๆนี้ละค่ะ ที่ทำให้เกิดภาวะ "อ่านไม่จริง" ขึ้นมา แต่ประเด็นที่ตัวเองพูดมานี้คงใช้ไม่ได้กับคนที่เป็นหนอนหนังสือจริงๆกระมังคะ ทำให้บางทีคนที่ติดตามอยู่ห่างๆไม่มีความเข้าใจ อย่าง จขบ. ที่ไม่ค่อยมีเวลาติดตามเรืองหนังสือมากนัก พาลคิดไปว่าหนังสือเล่มนั้น เล่มนี้ดี เพราะมีกระแสการพูดถึง........ทำให้หนังสือเล่มนั้นเหมือนจะ "ดี" ในสายตาตน แต่พออ่านจริงๆ มันอาจจะ "ไม่ดี" อย่างที่คิด หรือกลายเป็นระดับ "อ่านไม่ได้" เพราะไม่ถูกกับรสนิยมตัวเองอย่างที่ จขบ.เจอมา แต่พออยู่ต่อหน้าคนใกล้ชิดกัน กลับพูดไม่ได้เต็มปากว่า "ยังไม่ได้อ่าน" ข่าวฉบับนี้เลยสะท้อนอะไรบางอย่าง ทำเอาตัวเองหัวเราะร่าน้ำตาริน พาลเจ็บจี๊ดๆอย่างไรก้ไม่รู้

คุณsak (psak28)
ขอบพระคุณสำหรับคำเตือนนะคะ.... อยากฝากไปบอกพี่แม้วบ้างจัง

คุณ Clear Ice
พี่คิดว่า (คิดเอาเองนะคะ) คนเราจะเลือกอ่านอะไรบางครั้งไม่ใช่เพราะรสนิยมอย่างเดียว วัย และ ความต้องการ ขณะนั้นๆเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ในการช่วยเราตัดสินใจหาหยิบหนังสือสักเล่มมาอ่านเหมือนกัน ของพี่มีอยู่ช่วงหนึ่งจะตะกุยหาแต่วรรณกรรมระดับโลกมาอ่าน อ่านทั้งวันจนรู้สึกหัวโต พอผ่านช่วงนั้นมาก็แทบไม่ได้จับพวกงานระดับนั้นอีกเลย ตอนนี้ ดอน กีโฆเต้ ก็ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะเพราะยังไม่รู้สึกว่าอยากอ่าน แตะหน้าปกยังไม่แตะเลยนะนี่ เหอ เหอ บางอารมณ์พี่ก็จะตะกุยตะกายหาวรรณกรรมแปลโนเบลมาอ่าน ไม่ได้อ่านจะเป็นจะตายอ่านลืมกินลืมนอนกันเลยทีเดียว แต่บางทีเซ็งๆเดินเข้าร้านหนังสือ ซื้อเรื่องย่อละครหนังเกาหลีมาอ่านเฉยเลย....อย่างนี้ก็เป็นค่ะ

คุณคอเล่า
ได้แนวร่วมซีไรต์อีกคนหนึ่งละ...5555 ไม่เป็นไรหรอกกระมังคะ เพราะอย่างตัวเองก็ไม่ค่อยถูกกับซีไรต์อย่างที่บอกแต่แรกนะค่ะ อย่างตัวเองจริงๆแล้วปลื้มคุณ วินทร์ เลียววารินทร์ มาก แต่ถามว่าอ่านงานอะไรของคุณวินทร์จบไหม....อ่านจบแต่ พุ่มรัก พานสิงห์ ค่ะ นอกนั้น อ่านได้ครึ่งๆกลางๆ อย่างประชาธิปไตยบนเส้นขนาน มึนมากต้องอ่านข้ามๆ อ่านจบละเอียดเฉพาะบรรณานุกรม(เพราะต้องเอามาทำงาน) เคยสารภาพพี่เขาไปตรงๆเหมือนกัน พี่ท่านน่ารักมาก บอกว่า หนังสือบางเล่มไม่ต้องอ่านจนจบก็ได้ เพราะใช่ว่านักเขียนหนึ่งคนจะเขียนหนังสือเพื่อให้ถูกรสนิยมของคนทุกคนไปเสียทุกเล่ม ชอบอ่านอันไหนก็เลือกอ่านอันนั้นเอาเถิด......บรรลุ เลยค่ะ

คุณposer
มาบอกกันแบบนี้ไม่เสียใจหรอกค่ะ แต่มัน ช้ำใจน่อ ทีแรกก็อยากเชื่อหรอกว่าจะหยิบงานเรามาอ่านเป็นเล่มแรก แต่ไอ้ตัวไอค่อนท้ายประโยค ==> "" นั่สิ
คำหวานนี้จะเชื่อได้แค่ไหน


คุณดาว..กลางวัน
เรืองกระแส ก็โอเคค่ะ ที่ทำให้เราต้องซื้อหนังสือ แต่ซื้อเพื่อการเรียนก็ซื้อเถอะค่ะ ไม่ใช่กระแสหรอก ไม่ซื่อก็ไม่มีอ่านพาลจะเรียนไม่รู้เรื่องเอา ว่าแต่อย่าเอา Great Expectation ไปไล่ปาหัวมา เลยนะ สงสาร ไม่แตกธรรมดา อาจพาลคอหักเอาได้

คุณลวิตร์
เขียนไม่งงหรอกค่ะ อ่านแล้วเข้าใจว่าเรื่องทำนองนั้นละ 1984 เป็นหนังเก่าค่ะ(ดูมาหลายสิบปีแล้ว 555) ถ้าจำไม่ผิดดารานำคือ จอห์น เฮิร์ท แต่คนเล่นเป็นพี่ใหญ่ บิ๊กบราเธอร์ จะปรากฏตัวอยู่บนจอ แล้วก็มีเสียงพูดๆเช้าสายบ่ายเย็น ตัวเองนั่งดูไปก็เครียดไป แล้วก็เครียดจนน่าอึดอัด แต่เป็นหนังลักษณะคลายๆกึ่งทดลองค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะหาดูได้อีกหรือเปล่า แต่ถ้าสั่งจากต่างประเทศน่าจะมีอยู่บ้างนะคะ อิทธิพลของหนังสือเรื่องนี้ ทำเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งคือ Iceland ที่ อีวาน แมคเกรเกอร์ เล่นเป็นมนุษย์โคลน เขาเอาแนวความคิดแบบพี่ใหญ่มาใช้ในเมืองสมมติ แนวคิดเขาดีทีเดียวค่ะ

หงส์ป่ายังไม่ได้อ่านค่ะ มีอีกเรื่องในมือ ยังไม่ได้เริ่มต้นอ่านสักทีคือ Man's search for meaning เพราะอ่านคำนำของคนผู้แต่งแล้วชอบอยากอ่านแต่วางแผนว่าอ่านแน่นอนภายในปีนี้ค่ะ เพราะตั้งใจว่าจะเขียนนิยายสงครามให้ได้อีกสักเรื่อง

คุณป้าหนอน
นั่นสิคะ .....ตัวเองก็มีเรื่องซ้ำซากเอามาอ่านบ่อยๆเหมือนกัน เพราะบางทีอ่านครั้งเดียวเก็บไม่หมดหรืออยากทบทวนอารมณ์ความรู้สึกดีๆแบบที่อ่านเรื่องนี้ให้กลับมาอีก อะไรทำนองนั้น เห็นวิธีอ่านของคุณป้าหนอนแล้วน่าสนใจจังเลยค่ะ อยากสร้างเด็กปั้นของเราแบบนั้นบ้างจัง ทุกวันนี้มีแต่อ่านคำวินิจฉัยแล้วมานั่งถกฎีกากันทั้งวันไม่มีเรื่องอื่นเลย.....5555

คุณยาคูลท์
เรียนตามมตรงว่า อยากเอารายชื่อหนังสือภาษาไทยมาเขียนเหมือนกัน ว่ามีเล่มไหนอ่านจบอ่านไม่จบบ้าง แต่กลัวเข้าตัวค่ะ หากเอารายชื่อหนังสือไทยมาวาง คงเป็นกรณีอื้อฉาวแหงๆ มานั่งคิดๆๆว่า ทุกวันนี้ก็หาคนอ่านงานตัวเองยากอยู่แล้ว อย่าหาเรื่องใส่ตัวเลยดีกว่า
แค่มีคนอ่านคนเขียนก็ปลื้มแล้วค่ะ อ่านจบไม่จบก็อีกเรื่องหนึ่ง ยิ่งเรื่องอ่านแล้วชอบไม่ชอบแทบไม่ต้องพูดถึง ยิ่งตอนนี้เห็นมีกรณีคนพูดวิจารณ์ถึงนิยายทะเลทรายเยอะๆอยู่ด้วย.....เหะ เหะ สยิวกี๊วจริงๆค่ะ เวลาจะเดินเข้าบล๊อคของใครละแวกนี้สองสามท่าน ต้องหรี่ตาก่อนเข้าเสมอ เพราะกลัวเดินหัวขาดออกมา
โดย: โตมิโต กูโชว์ดะ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:13:58 น.
  
อยากจะบอกว่าหนูอ่าน LOTR จบค่ะ จากที่ก่อนหน้านี้จะได้ยินหลายๆคนบอกว่าไม่สนุก น่าเบื่อ

แต่หนูกลับยิ่งอ่านยิ่งสนุกกับหนังสือ สนุกกับ Arda ที่ท่านโทลคีนสมมติขึ้นมา แบบถอนตัวไม่ขึ้นเลยค่ะ

เรื่องอื่นๆจากเก้าเรื่องที่เหลือ เคยอ่านแค่ The Da Vinci Code เองค่ะ และเป็นเรื่องเดียวของ Dan Brown ที่หนูอ่านไม่จบ

ส่วน Wuthering Heights เห็นคุณผาดเคยเม้นท์ไว้ว่า เครียด... แล้วก็ไม่มันด้วย พอมาเจอพี่วรรธอีกคน เครียดตามเลยแฮะ
โดย: Kitsunegari วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:05:58 น.
  
สารภาพว่ายังไม่เคยอ่านหนังสือของ จขบ. เลยค่ะ คงไม่ช้ำใจนะคะ
LOTR อ่านรอบเดียว ชอบนะคะ แต่ยังไม่ว่างพอที่จะอ่านซ้ำได้
แฮรี่ นั้น สารภาพว่าเล่มหลัง ๆ 5-6 นี่เปิดข้าม ๆ ยิ่งเล่ม 6 นี่ข้ามถึงตอนจบเลย (เปิดภาษาอังกฤษก่อน เลยทำให้ตอนอ่านเล่มแปลแล้วไม่อยากอ่าน)

ส่วนหนังสือที่อ่านไม่ได้ อ่านไม่จบนั้น สารภาพบางเล่มไว้ในบล็อกแล้วค่ะ จขบ.คงจำได้
โดย: ผู้สาวเมืองยศ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:29:22 น.
  
ถ้ายังไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนั้น ก็บอกตรงๆว่ายังไม่เคยอ่านอยู่แล้ว
พร้อมวิ่งหนีอย่างด่วน
..กลัวฉะปอยล์
โดย: ลูกหนอน. วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:29:50 น.
  
น้องจิ๊บจ๋า...
Wuthering Heights นั้น พี่เองยังไม่ได้อ่านเหมือนกันค่ะ ก็ฟังเอาจากที่เขาเล่าๆมาประกอบกับตัวหนังเรื่องนี้ที่เคยผ่านๆตาเรื่องย่อในฉบับท่านเซอร์ ลอเรนซ์ โอลิเวียร์ (โดยเฉลี่ยแล้วพี่ดูหนังมากกว่าอ่านหนังสือ 555)

ส่วน Lotrหรือ ล๊อตเต้ ที่ว่า คุณพี่ไปไม่รอดเพราะสำนวนแปลค่ะ ฉบับที่ชอบจริงๆ น่าเอามาเทียบได้ในความคิดพี่เองก็ว่าน่าจะเป็น หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว พี่จำไม่ได้ว่าคนแปลชื่ออะไร แต่วาดภาพเหนือจินตนาการให้เราตามอ่านได้ง่ายกว่าเรื่องราวที่เป็นแฟนตาซีอย่างเรื่องนี้เสียอีกหง่ะ ว่าไปแล้ว ....สังคมนักแปล บ้านเรา ที่มีปริมาณหนังสือแปลออกมาเยอะ แต่เราไม่ค่อยให้ความสำคัญกันเท่าไหร่เลยนะคะ ทำให้ ทุกวันนี้บ้านเรามี หนังสือต่างประเทศแย่งแปลกันออกสู่ตลาดกันมากก็จริง....แต่เรื่องสำนวนกับความเป็นมาตรฐานภาษาเพื่อรักษาคุณภาพต้นฉบับนี่....ถูกมองข้ามกันมานาน ไม่ค่อยมีคนให้ความสำคัญเท่าไหร่ ทั้งที่นักแปลเป็นคนทำงานหนักเพื่อถ่ายทอดภาษาต่างประเทศให้กับคนไทยได้อ่านกัน .........น่าจะถึงเวลาแล้วที่เราจะมีคนมาดูแลและให้ความสำคัญคนทำงานด้านนี้กันเยอะๆ จะได้ทำให้นักอ่านบ้านเราได้อ่านงานที่ดีรและคุณภาพใกล้เคียงต้นฉบับ ทั้งด้านความหมาย.สำนวน ลีลา ตลอดจน อรรถรสของหนังสือยิ่งขึ้นไปนะคะ

คุณผู้สาวเมืองยศขา....
คำตอบของคุณผู้สาวฯ ถ้าเป็นคนอื่นมาตอบ คงช้ำใจชัวร์ ....แต่นี่ เป็นคุณผู้สาวฯ.... ทำลืมๆไปก่อนก็ได้ค่ะ ว่า จขบ. มีผลงานเขียนกับเขาเหมือนกัน 555555555


คุณลูกหนอน
ตัวเองเป็นตรงกันข้ามค่ะ ถ้าเป็นภาพยนตร์จะไม่ยอมอ่านคำวิจารณ์เพระกลัวสปอยล์ อย่างว่าค่ะ แต่ถ้าเป็นหนังสือ อันนี้มักจะอ่านวิจารณ์ก่อนค่ะ รวมทั้งอ่านโครงเรื่องก่อนถ้าเขามีแล้วจะไปตามเก็บอ่านทีหลัง เพราะบางทีจะสนุกแล้วตามเรื่องได้มันส์กว่าที่เราจะเข้าไปอ่านเอง อย่างที่เกิดกับตัวเองจริงๆก็มี เรื่อง ความตายของวิษณุ อันนี้ อ่านบทวิจารณ์และเรื่องย่อจาก สารคดีก่อน แล้วค่อยไปเอาหนังสือมาอ่าน ทำให้เข้าใจเรื่องราวได้เร็วค่ะ แต่บางที บทวิจารณ์มันไม่เข้ากับเรื่องก็มี อย่าง The reader เมื่อไปอ่านจริงๆแล้วกลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่อีโรติคอย่างที่เขาวิจารณ์เล้ยยย.... เสียจริตหงุดหงิดชิมัด 555555
โดย: โตมิโต กูโชว์ดะ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:34:11 น.
  
ไปอ่านเวปของคุณเฟย์กับคุณโอมาเมื่อสองสามวันก่อนเหมือนกันค่ะ ขำกับรายชื่อหนังสือเล่มที่สี่ด้วย เหมือนกับว่าถ้าไม่อ่านแล้วจะไม่เข้าใจเพศตรงข้ามยังไงไม่รู้

ของพัทก็ไม่เคยบอกว่าอ่านแล้วถ้ายังไม่ได้อ่านเหมือนไอซ์นะคะ แต่ถ้าอ่านไม่จบก็จะบอกตรงๆเลยว่าอ่านไม่จบ อ่านค้าง เข้าไม่ถึงหนังสือ วันหลังค่อยหาเวลาอ่านใหม่ ทำนองนี้ แต่ถ้าไม่จบจริงๆแบบหลายๆเล่มที่เจอมาก็จะบอกไปเลยค่ะว่าไม่สู้ ฮ่า

อ่านที่จขบ.บอกเรื่องการแปลที่บ้านเราแล้วเข้าใจเลยค่ะ หลายสนพ.พัทว่าเขามีระดับมาตรฐานงานแปลที่ดีนะคะ แต่บางที่ก็ไม่ไหวเลยจริงๆ อย่างที่คุณแมวยิ้ม (กรินนิ่ง เชสไชร์ แคท)ว่าไว้น่ะค่ะว่าตั้งใจจะทำให้ผิด ยังผิดไม่ได้เท่าบางสนพทำเลย
โดย: พัท (Il Maze ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:08:59 น.
  
บางเล่มที่ฮิตๆ กันก็อ่านไม่จบอ่ะค่ะ ^ ^" บางเล่มอ่านฉบับ simplified ก่อนตัดสินใจอ่านฉบับเต็ม อย่าง Wuthering Heights ไม่ค่อยชอบก็เลยไม่คิดจะอ่านฉบับเต็ม (อาจกลัวบ้าเหมือนตัวละครในเรื่องนั่นล่ะ ฮา) ส่วน Great Expectations นั้น ตอนแรกว่าจะไม่อ่าน เพราะอ่านของคุณ Dickens มาสองสามเรื่องแล้วรู้สึกไม่ปิ๊งเท่าไหร่ แต่กับเรื่องนี้อ่านแล้วกลับชอบแฮะ ก็เลยคิดจะตามอ่านฉบับเต็มๆ อ่ะค่ะ

ปล สารภาพตามตรงว่ายังไม่ได้อ่านงานของ จขบ แต่สนใจจะติดตามอยู่ค่ะ ^ ^
โดย: bookmark วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:37:40 น.
  
อืม มันก็พูดยากแฮะ เพราะ ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ค่อนข้างตรงไป ตรงมา ถ้าอ่านแล้วก็บอกว่าอ่าน ถ้ายังก็บอกว่ายัง และมันก็จะมีเหตุผลในตัวอยู่แล้ว

อย่างเรื่อง "เจ้าชายน้อย" นี่พอใครถามก็บอกเลยว่า "อ่านจบแต่ไม่รู้เรื่อง" เพราะตอนที่อ่านนี่ยังเด็กมากเลย อ่านตามกระแส แต่อ่านแล้วไม่ชอบ ไม่ชอบเรื่องแนวปรัชญา อ่านแล้วคิด อยู่แล้ว

หรืออย่างเรื่องเศร้า นี่ประกาศเลยว่า ไม่อ่าน เพราะอ่านทีไรแล้วร้องไห้
เรื่องหดหู่ อย่างฮันนิบาล นี่ก็อ่านแล้วค่ะ แต่เล่มอื่น ๆ ในชุดก็คิดว่าคงไม่อ่านเพราะไม่ใช่แนวที่ชอบ อ่านแล้วไม่มีความสุข

แน่นอนที่บางครั้งคนที่คุยด้วยเขาก็จะมองหน้า แต่เราว่าเราก็มีจุดยืนของเรา และการอ่านมันก็เป็นทัศนะส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องชอบเหมือนใครค่ะ

แต่ถ้าใครแนะนำให้อ่านเล่มไหนก็ต้องดูอีกทีว่ามันมีเหตุผลไหมว่าทำไมถึงอยากให้อ่าน



เขียนซะยาวเชียว สรุปได้ว่า อ่านหนังสือที่เราชอบและมีความสุขเถอะค่ะ
โดย: กระปุกกลิ้ง วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:50:23 น.
  
สวัสดีค่าพี่วรรธ

<<ทุกวันนี้บ้านเรามี หนังสือต่างประเทศแย่งแปลกันออกสู่ตลาดกันมากก็จริง....แต่เรื่องสำนวนกับความเป็นมาตรฐานภาษาเพื่อรักษาคุณภาพต้นฉบับนี่....ถูกมองข้ามกันมานาน>>

เรื่องสำนวนแปลนี่เห็นด้วยเลยค่ะว่าถูกมองข้ามความสำคัญไปจริงๆ บางเรื่องนี่แปลเอามัน โดยละเลยความหมายที่แท้จริงของผู้แต่งอย่างน่าโมโหสุดๆเลย ซึ่งตามความคิดของคนอ่านอย่างหนู หนูคิดว่าอย่างน้อยๆ ผู้แปลควรจะทำการบ้านเรื่องที่ต้องแปลก่อนทำการแปลให้ดีซะก่อน หาข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อเรื่องให้เรียบร้อย แล้วจึงลงมือแปล แต่เห็นบางสนพ. แปลออกมาได้ห่วยมากๆเลยค่ะ แถม approve ก็แย่ จนทำให้เรื่องนั้นๆไม่น่าอ่านไปเลยอ่ะ ว่าแต่ พี่วรรธไม่สนใจเป็นนักแปลควบกับเป็นนักเขียนบ้างเหรอฮับ
โดย: Kitsunegari วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:59:19 น.
  
สวัสดีคะพี่สาว.................... (นาน นานทีโผล่มาที่นี่ก็เขินเหมือนกันแหะ)

ไอ้เรื่องการอ่านหนังสือเนี้ย... พูดลำบากนะคะ

นู๋เนี้ยส่วนตัวแล้ว...
เป็นคนชอบอ่านหนังสือ แต่ก็จะอ่านเฉพาะที่ชอบ
อ่านได้ไม่เลือก แต่ก็เลือกอ่านเป็นบางเรื่อง

555+ งงมะ นู๋พูดเองนู๋ยังเบลอ ๆ เลย

คืออย่างนี้...นู๋นะ ขอเห็นเป็นตัวหนังสือ ละถ้าเป็นเรื่องที่นู๋คิดว่าน่าสนใจละก้อ ต่อให้อยู่บนถุงกล้วยแขก นู๋ก็สามารถนั่งอ่านได้อย่างสนุกสนาน และซาบซึ้ง อีกทั้งพับเก็บไว้อีกต่างหาก 555+

แต่ว่าต่อให้ตัวหนังสือไปอยู่ในรูปเล่มที่สวยงาม แต่เรื่องมันไม่น่าสนใจในความคิดนู๋ ไม่ว่าจะเป็นเพราะนู๋โง่อ่านไม่รู้เรื่องเอง หรือเพราะอะไรก็ตาม อ่านแล้วก็แล้วกัน หรือไม่ก็ไม่คิดจะหยิบขึ้นมาอ่านเลย 555+

ว่าแต่...หนังสือภาษาฝา-หรั่งเนี้ย ยังไม่มีปัญญาและความสามารถพอที่จะอ่านให้เข้าใจทั้งหมดได้ (คอยดูนะวันหนึ่งฉันจะอ่านให้ออก และซาบซึ้งไปกับโลกกว้างอีกใบให้ได้)

ปล. นู๋กับซีไรท์ยังหากันไม่เจอคะ 555+
โดย: นู๋อิน (intimacy ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:23:13 น.
  
อ่า..

แหะๆ

ไม่รู้จะบอกไงค่ะ เพราะตัวเองมักชอบอะไรที่คนอื่นเค้าชอบๆ กันน่ะ อย่างเจ้าชายน้อย อย่างรหัสลับฯ

แต่มักชอบตอนช่วงต้นๆ ที่ยังไม่เป็นกระแสน่ะค่ะ (เป็นข้อแก้ตัวว่าไม่ได้เอาแต่ตามๆ เค้าไปกันนะจ๊ะ เหอๆ)

บางเล่มพอดัง มีคนพูดถึงเยอะ บางทีก็เลยพาลเบื่อซะงั้น หมั่นไส้..ว่างั้น กร๊ากกกก



รหัสลับดาวินชี่ เราชอบพอๆ กับเทวากับซาตานค่ะ

จขบ.ได้อ่านเล่มหลังหรือเปล่า?

เผื่อว่าจะชอบมากกว่าค่ะ (หลายคนชอบเล่มหลังมากกว่าดาวินชี่นะคะ)
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:59:54 น.
  
คุณพัท ขา
ช่วงนี้อาจจะเป็นยุคเฟื่องฟูของศิลปวรรณกรรมก็ได้กระมังค่ะ ทุกอย่างรีบเร่งผลิตกันออกมา...โดยมองข้ามความสำคัญของภาษากันขนานใหญ่ แต่กระนั้นละค่ะ พูดมากเรื่องนี้ไม่ได้ เข้าตัว เข้าตัว 5555

คุณ bookmark
ไปไปมามา จะกลายเป็นบล๊อคสารภาพว่า...ไม่มีคนอ่านงาน จขบ. ทั้งน๊านนนนน ....เง้ออ

คุณกระปุกกลิ้ง
ท้ายสุดบทสรุปเรื่องนี้ ก็คงเป็นเช่นนั้นค่ะ ใครมีความสุขจะอ่านอะไรก็สุดแท้แต่ละท่านจะเลือกสรร บางครั้งการอ่านว่าคนนั้นสนุกแล้วเราสนุกตามเขาไปด้วย ก็เอาเป็นเกณฑ์ไม่ได้ ดังนั้น ใครแนะนำหนังสืออะไรมา คำเตือนอันแรกเลย ไปอ่านก่อนค่ะ แล้วค่อยดูว่า บทวิจารณืกับความรู้สึกของเราขณะอ่าน มันไปด้วยกันได้ไหม อย่าถือบทวิจารณ์เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจอ่าน
ปล. แต่กระนั้น ตัวเองก็ไม่อ่านนิยายประเภทเจนแอร์อยู่ดีอ่ะ......ปริศนา ยังอ่านไม่จบเลยค่า.....จ๊ากกกกก ของ ท่าน วณ.ประมวลมารค อ่านจบแต่นิคกับพิม (เพราะเป็นหนังสือนอกเวลา ตอน ม.2)

น้อง Kitsunegari จ๋า
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ของคุณพี่ ภาษาไทยต้นฉบับยังเขียนไม่ดีเท่าที่คิดเลย (คือประมาณผลงานตัวเองไว้ระดับ โนเบล อ่ะนะ.....หวังสูงนิดนึง....5555) พี่เลยไม่คิดว่าจะทำงานแปล มาตีพิมพ์ อีกอย่างคือภาษาที่พี่เชี่ยวชาญก็ไม่ค่อยจะมีต้นฉบับหลากหลาย พระไตรปิฎกเขาก็ถอดความกันมาเยอะแล้ว ต้นฉบับอย่างอื่นไม่ค่อยจะเห็น........เอ่อ พี่ เอก บาลี-สันสกฤตค่ะ ^___^

คุณนู๋อิน
ไม่เป็นไรค่ะ หาหนังสือไม่เจอ หาคนเขียนก้ได้....... พี่เองหาซีไรต์เจอบ่อยๆ เพราะคราวก่อน บูท ณ บ้านวรรณกรรมอยู่ตรงข้ามกับคุณวินทร์ เลียววารินทร์เลย พี่งี้ปลื้ม วิ่งไปขอลายเซ็นต์ ........ พุ่มรัก พานสิงห์ เท่านั้น ที่เราต้องการ 555555

คุณสาวไกด์ใจซื่อ ขา
เทวาซาตานก็เคยอ่านค่ะ เปิดไปผ่านๆ แล้วก็ไม่ได้อ่านแบบตั้งใจ พอยิ่งมีคนมาบอกว่า มีนิยายอยู่เรื่องที่ตัวเองทำ แนวคล้ายๆ เทวซาตานเขาอีก ก็ถึงกับอึ้งกิมกี่....จนถึงวันนี้ยังไม่รู้เลย ว่าตัวเองไปเขียนเหมือนเขาตรงไหน เพราะยังไม่ได้อ่าน เทวาซาตาน จนจบนั่นเองค่ะ แต่ว่า เรื่องนี้ถ้าว่างๆ จะเอามาอ่านนะคะ รอคิวอยู่ค่ะ ขอจบทะเลทรายนี่ก่อน...เฮ้อ
โดย: โตมิโต กูโชว์ดะ วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:50:22 น.
  
พี่วรรธ ถามจริง พี่เอกบาลี-สันสกฤตจริงรึเปล่าคะ หนูคิดว่าพี่แตกฉานภาษาอาหรับซะอีก ฮิฮิ

เข้าเรื่องดีกว่า เดี๋ยวลากยาววว หนูว่างานของพี่สำนวนดีนะคะ แต่ถ้าเป็นพี่คงบอกว่าดีแต่ยังไม่ถึงที่สุดที่พี่น่าจะทำได้ใช่ป่ะ นอกจากงานของป้าอิ๊ดที่หนูคุ้นเคยที่สุดแล้ว ก็มีงานของพี่นี่แหละค่ะ ที่สำนวนอ่านคล่อง และรื่นหู แบบไม่เว่อร์เกินน่ะค่ะ ชมจริงๆนะพี่ ไม่ได้ยอ เพราะงั้น ไม่ต้องให้อมยิ้มหนูนะ อิอิ

ขอแจมเรื่องเจนแอร์ด้วยคนนะคะ หนูก็ไม่คิดอยากอ่านเลยค่ะเรื่องนี้ ยังสงสัยว่าเอามาทำเป็นหนังได้ไงหว่า ไม่เห็นสนุกเลยอ่ะ

ส่วนเทวาฯ คุ้นๆว่าหนูป่าวง่ะที่บอกพี่ไป ขนาดพี่ไม่ได้อ่านยังคิดพล็อตอินเตอร์ได้เลยนะเนี่ย สุดยอดเลยฮับ แต่จริงๆแล้ว พล็อตคล้ายแต่รายละเอียดต่างนะคะพี่ ^_^
โดย: Kitsunegari วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:34:02 น.
  
ซูฮก พี่วรรธน์จอมขุดค้นข้อมูลค่ะ ยิ่งอ่านยิ่งมันยิ่งได้อะไรแปลกเข้าสมอง

อ่าน "อัสวัด"จบครั้งแรก ยังนั่งเถียงกับเพื่อนอยู่เลยว่า คนเขียนต้องบุกไปนั่งเขียนอยู่แถบทะเลทรายแน่ๆ ไม่ได้มานั่งเทียนเขียนหรอก รับรอง เถียงขาดใจ เพราะอ่านไปๆ เหมือนตัวเองไปยืนอยู่กลางจัตุรัส แล้วตามหลังฬิดาไปติดๆ เข้าไปในตรอกจนเจอกับ ใครคนนั้น....(คุณก็รู้ว่าใคร)

พอเช่าร้านมาอ่านรวดเดียวจบ(เป็นครั้งแรกที่อ่านนิยายแล้วอ่านทุกตัวอักษร) วันหยุดดั๊นก็นั่งรถเมล์ไปจตุจักร กวาดสายตาหานิยายปกดำเล่มนี้ แล้วก็ได้มาพร้อมเส้นทรายสีเงา ตื่นเต้นใหญ่ โทรไปหาเพื่อนที่ตอนนั้นทำงานอยู่ ณ บ้านวรรณฯ
"เนี่ยๆตูอยากได้ลายเซ็นคนเขียนเรื่อง อั๊สวั๊ด(กรุณาออกเอกเซ่นตาม) เคยเจอตัวจริงมั๊ย"

"อ๋อ เห็นเค้าเข้ามาอยู่ พี่เค้าตลกดี แต่ไม่ต้อง อั๊สวั๊ด ก็ได้ อัสวัส เฉยๆก็พอ" ไม่รู้นิ เห็นไม่ใช่ภาษาไทย ตูก็ดัดสิ

แล้วสุดท้ายก็ได้มายื่นหนังสือให้คนเขียนได้เซ็นเองกับมือ พร้อมเส้นทรายสีเงาและฤกษ์สังหาร ในงานวันสัปดาห์ฯ
พูดเหมือนง่าย ความจริง กว่าจะกล้าเดินเข้าไป ยืนกระบิดกระบวยขวยเขิน เกาะเสาอยู่บู๊ทข้างๆอยู่นั่นแหละ จะซื้อหนังสือเขาก็หาไม่ คนขายคงนึกเคือง

"คนนึงคือคุณทมฯ อีกคนก็ต้องเป็น...ล่ะวะ คริ คริ ว่าแล้วก็เดินเซแถดๆมาทางพี่ดารา(จริงๆ) ที่กำลังโปรโมทเรื่อง ฤกษ์สังหารที่เพิ่งวางแผง
"เอ่อ พี่คะๆ พี่คนนั้นใช่คุณวรรณวรรธน์รึเปล่าคะ"กันไว้ก่อน กลัว(เขิน)ผิดคน
"ใช่ค่ะ" เอร้ยยยย อมยิ้มแก้มจะฉีกไปถึงใบหู ฟังพี่ดาราเล่าเรื่องย่อ ฤกษ์ฯอย่างเมามัน(หมายถึงคนเล่านะ คนฟังมัวแต่จ้องพี่วรรธน์อยู่)

"เอ่อ พี่คะ คือหนังสือถือมาเองไม่ได้ซื้อจากบู๊ทให้เซ็นได้มั๊ยคะ" อ้อมแอ้มถามอายๆ แต่สี่เล่มในมือยื่นให้พี่เค้าไปแล้ว จะรับไม่รับ
"ได้ซิคะน้อง" แหม พี่ดาราใจดี๊ดี ว่าแล้วก็กระมิดกระม้อยตามหนังสือไปหาคนเขียน คนดำๆ หน้ายิ่งแดง มันก็ยิ่งดูดำ หวังว่าคนเขียนคงเอ็นดูหนูน้อยหน้าดำๆ
"โห ซื้อหมดทุกเล่มขนาดนี้ เอาตัวพี่ไปเลยดีกว่าน้อง" จากเขินกลายเป็นขำ นึกถึงคำพูดของเพื่อนทันที เออ พี่เค้าตลกจริงๆด้วยว่ะ

ปล.ระลึกชาติมาเล่า
ป้าคนขายหนังสือจตุจักร "หนูๆ เนี่ยเล่มนี้ป้าอ่านแล้วสนุกมากๆ" สีหน้าจริงจังเชียว คนซื้อยิ้มกรุ้มกริ่ม จะบอกว่าหนูก็อ่านแล้วเหมือนป้านั่นแหละ แค่จะมาซื้อเก็บไว้
ป้า "นี่เขาออกมาอีกเรื่องนะ เป็นภาคต่อ" หยิบเส้นทรายฯออกมา
คนซื้อตาโต "จริงเหรอคะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรคะ" ป้าอึ้งๆ
ป้า "เป็นเรื่องสมัยพ่อกับแม่เจ้าชาย..." สีหน้าไม่ค่อยน่าเชื่อถือ แต่ก็เต็มใจซื้อ และก็ได้รู้คำตอบ ขอบคุณค่ะป้า...

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า (ป้า)อ่านแล้วจริงๆหรือ...

โดย: FL (เปรี้ยวปากอยากเล่า อีกและ) IP: 66.177.199.216 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:04:41 น.
  
โดย: Boyne Byron วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:15:29:46 น.
  
ขออภัย กลับมาอ่านเพิ่งเจอ มีเผลอหลุดคำไม่ค่อยสุภาพไป เพิ่งมาสังเกตุเห็น ขออภัยด้วยนะคะ
โดย: FL IP: 66.177.199.216 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:36:25 น.
  
อ่านรายชื่อแล้ว
บอกได้เต็มปากเต็มคำว่าไม่อ่านสักเล่มค่ะ

กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

หนังสือที่ดีสำหรับเราคือหนังสือที่สนุก
หากอ่านแล้วไม่สนุก ก็ขอให้วางอยู่ตรงนั้นแหละ

ไม่อ่านหนังสือแนวๆ หนังสือดีที่ควรอยู่บนหิ้ง
และไม่อ่านหนังสือโปะโหมะ (post modern) ด้วยค่ะ

เพราะว่าอ่านแล้วขมขื่นตื้นตัน ทำไมฉันอ่านไม่รู้เรื่อง

โดย: pookpui IP: 203.154.148.50 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:29:36 น.
  
โอ๊ะ อ่านไม่หมด

จริงๆ อ่านไปตั้งหลายเล่ม

Davinci Code กะไดอารี่ของแอน แฟรงค์ค่า อยู่ท้ายรายชื่อเลย
แล้วก็ Great Expectations ครือ ชอบมาร์ค ทเวน

สี่ปี นรกในเขมรเราก็ชอบนะคะ
แต่แอนแฟรงค์ก็ชอบ

ดาวินชีโค้ดเนี่ย เค้าว่าอยู่ใน unputdownable series
เราอ่านไป วางไป ทิ้งไว้ แล้วค่อยอ่านต่อ 555

เล่มแรกสนุกนะคะ พออ่านเทวากับซาตานเริ่มเฝือ มุข แนว เริ่มซ้ำ แหะแหะ
สำหรับเรา เราว่าถ้าอ่านเล่มไหนก่อน เราว่าเล่มนั้นก็สนุกกว่าค่ะ
ทางของเรื่องมันซ้ำอ่ะ
โดย: pookpui IP: 203.154.148.50 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:32:58 น.
  
ปล. ตั้งใจว่าก่อนตาย จะอ่านพี่น้องคารามาซอฟ ของ ดอสโตเยฟสกี้ให้จบค่ะ
ซื้อปกแข็งฉบับแปลมา หนาราวพจนานุกรมฉบับมหึมา

ไม่เคยอ่านผ่านเกินห้าสิบหน้าเลย T_T
โดย: pookpui IP: 203.154.148.50 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:40:36 น.
  
^
^
เพิ่งรู้ ว่า บก. ยอมแพ้ พี่น้องคารามาซอฟนะคะเนี่ย ตัวเองเคยอ่าน อาชญากรรมกับการลงทัณฑ์มาก่อนค่ะ เล่มนั้นก็ไม่ไหวเหมือนกัน....กว่าจะจบก็แทบแย่....แต่ก็เป็นประสบการณ์ในการอ่านหนังสือที่ดี กับการที่เราได้เอาหนังสือยากๆมาอ่านสักเล่ม.....

คนเรา การอ่านมันเปลี่ยนไปค่ะ ช่วงสมัยหนึ่งเราอาจจะอยากอ่านงานอะไรที่ง่ายๆเสพสะดวก แต่ไปจุดๆหนึ่งเราจะขวนขวายหาการอ่านที่ยากขึ้น ตามลำดับ เพื่อสนองตอบบางอย่า งอาจเป็นอารมณ์ หรือความคิด หรือการรับรู้ทางระดับสารเคมีในตัวเรา......

วันนี้ตัวเองอาจจะเขียนหนังสืออ่านยากในรัดับหนึ่ง ของคนอ่านหนังสือกลุ่มหนึ่ง แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งเขาก็มองงานของ จขบ. ว่าเป็นงาน "ตลาดๆ" ไม่ใช่ งานวิเศษอะไร ตัวเองก็รับหมด ไม่ว่าเสียงจะกู้ร้องมาจากทางไหน มาจากคนอ่าน หรือคนไม่อ่าน

บอกตามตรงค่ะ การทำงานแต่ละชิ้นสำหรับตัวเองนะ ว่ายากแล้ว....แต่การวางตัวในสังคม ในฐานะคนทำงาน...มันมักจะยากกว่าเสมอ..... เหอ เหอ เหอ


โดย: โตมิโต กูโชว์ดะ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:21:09 น.
  
โดยส่วนตัว บอกว่าอ่านแล้วทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อ่านนี้ ไม่เคยค่ะ แฮะๆ เป็นมนุษย์ขวานผ่าซากเล็กๆ ไม่อ่านก็บอกไม่อ่าน ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ อ่านไม่รู้เรื่องก็บอกไม่รู้เรื่อง จนบางทีคนที่คุยด้วยมองหน้าเหมือน 'อีไดโนเสาร์ นี้มันหลุดมาจากไหนของมันเนี่ย'

แต่ของพี่วรรธน์ หนูอ่านแล้วนะคะ สี่เรื่อง เดียวจะถยอยตามอ่านให้หมด จดชื่อพี่วรรธน์ลงหมวดนักเขียนในดวงจิตน้อยๆ เรียบร้อยแล้วค่ะ

รักพี่วรรธน์ จุ๊บๆค่ะ
โดย: Ama IP: 124.121.143.145 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:46:37 น.
  
มารับรักค่ะ
โดย: โตมิโต กูโชว์ดะ วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:19:37:20 น.
  
คิดจะขายหนังสือที่อ่านแล้วบ้างมั้ยคะ เช่น ล่ารหัสมรณะ
แบบว่าหนังสือมือสองน่ะค่ะ
ติดต่อมานะคะ beethoven-kan@hotmail.com
โดย: Kan IP: 117.47.153.198 วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:16:12:44 น.
  
คิดตลอดเลยค่ะ เรื่องขายหนังสือที่ไม่ชอบทิ้ง...

แต่พอหยิบๆจับๆเขาขึ้นมา....ก็ให้อาวรณ์ แหม อุตส่าห์เดินแบกกลับมาจากร้าน จะขายทิ้ง ก็กระไร
คิดถึงหัวอกคนเขียนคนแปล เ หมือนๆกัน ถ้าเขารู้ว่าเราขายงานเขาทิ้งจะรู้สึกอย่างไร มันขายไม่ลงนะค่ะ ถึงไม่ชอบ ก็มีตัวอักษรฝังไว้....มีความตั้งใจของคนทำงานอยู่ในนั้น ก็เลยตัดใจขายไม่ได้สักทีค่ะ

ขอเก็บเป็นสมบัติส่วนตัวต่อไปเถิดนะคะ
โดย: โตมิโต กูโชว์ดะ วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:7:27:26 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

โตมิโต กูโชว์ดะ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ร่างทรงของ "วรรณวรรธน์" โปรดอย่าถามว่าเป็นใครในอดีต รู้แต่ว่าตอนนี้ยังมีลมหายใจอยู่ เท่านั้นก็มากเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งได้รู้จักกันแล้ว
New Comments
กุมภาพันธ์ 2550

 
 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28